ขอเล่าตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะค่ะ
เราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาก็ไม่เท่าไหร่ ตอนนั้นเขามาขอเบอร์โทรเรา ด้วยความเป็นโสด ใครมาขอเราก็ให้ๆไปคุยกันไม่เสียหาย ทีแรกเราคิดจะแค่คุยเท่านั้น แต่เวลาคุยกันเขาดูเป็นผู้ใหญ่ ใจเย็น สุขุม อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรารักเค้าไปตอนไหน จนเวลาผ่านไป ประมาณ 6 เดือน รู้ตัวอีกทีหลงรักเค้าไปแล้ว แล้วความจริงบางอย่างก็ปรากฎคือ "เขาเจ้าชู้มาก"
ครั้งแรกที่เจอคือ แฟนเราเค้าเป็นนักดนตรี มีวันหนึ่งเค้าต้องไปเล่นดนตรีให้กับหมอลำซิ่งคณะหนึ่ง ไปเล่นตอนกลางวัน ตอนเช้าขณะที่เค้ากำลังอาบน้ำอยู่ มีโทรสับเข้ามา เราก็เลยรับสาย แต่ตอนกดรับเราไม่ได้พูดอะไร เสียงปลายทางดังขึ้นเป็นเสียงผู้หญิง "พี่เสร็จหรือยัง นู๋รออยู่ที่บ้านนะ"แล้วเค้าก็วาง พอได้ยินแบบนั้น เราก็สืบทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ก็เรื่องบังเอิญอีกที่เพื่อนของเราคนหนึ่ง รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ วันนั้นเพื่อนเราก็พาไปดูว่าผู้หญิงคนนั้นพักอยู่ที่ไหน เรากลับมาที่ห้องพัก เราก็อยู่ไม่เป็นสุข มันคิดฟุ้งซ่าน พอถึง 4 โมงเย็นเราก็คิดว่าแฟนเราคงเล่นดนตรีเสร็จแล้วหล่ะ เราเลยโทรไปหา พอเค้ากดรับเค้าก็พูดว่า "กำลังเก็บของอยู่ แค่นี้นะ!!" (น้ำเสียงกระแทกแบบว่ารำคาญ) ประมาณ 4 โมงครึ่งใจเรายิ่งเริ่มเต้นแรงขึ้น เหมือนมันต้องมีอะไรบางอย่าง เราตัดสินใจขับรถไปดูที่หอพักผู้หญิงคนนั้นเลย ยิ่งใกล้จะถึง ใจยิ่งเต้นแรง ภาวนาว่าขออย่าได้เจอรถกระบะของเค้าอยู่ที่นั้นเลย พอไปถึงปุ๊ป ถึงกับอึ้ง!!!เราเจอรถเค้าจอดอยู่ที่นั้นจริงๆ เรารีบลงจากรถ แล้วไปเคาะประตูทันที แล้วผู้หญิงก็เป็นฝ่ายมาเปิด เรารีบผลักเข้าไป สิ่งที่เราเห็นคือ ผู้หญิงอาบน้ำเพิ่งเสด ส่วนผู้ชายก็นอนอยู่บนที่นอน พอเค้าเห็นเราเค้าก็บอกเราว่า "กลับห้อง!!มีอะไรไปคุยกันที่ห้อง"เราก็เลยกลับ แล้วเค้าก็ขับรถตามเรามา พอมาถึงห้องแทนที่เราจะเป็นฝ่ายโกรธเค้านะ แต่เค้าโกรธเรา หาว่าเราไปบุกรุกห้องคนอื่น สุดท้ายเราก็ยอมอยู่ดี
ครั้งที่ สอง เราแอบดูโทรสับเขา เราเลยเห็นเค้าชอบส่งข้อความหาคนหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใคร เรารีบจดเบอร์ไว้ แล้วตัดสินใจโทรถาม ปรากฎว่า เบอร์นั้นคือแฟนเก่าของเค้า เราก็กำลังคุยกะผู้หญิงคนนั้นอยู่ เราถามเค้าว่าพี่สองคนจะกลับมาคืนดีกันหรือป่าว ถ้าใช่เราจะได้เดินออกชีวิตพวงคุณ แต่การสนทนายังไม่จบ ผู้หญิงคนนั้นก็พูดว่า เนี๊ย!!แฟนเธอกำลังโทรหาเรา อยากฟังด้วยมั๊ยหล่ะ แล้วเค้าก็ประชุมสายให้เราฟัง ระหว่างที่เค้าสองคนสนทนากันเราก็จับใจความได้ว่า แฟนเราต้องการง้อแฟนเก่า เราทนฟังไม่ได้ เราเลยพูดแทรกขึ้นไปเลยว่า ถ้าต้องการแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก ก็น่าจะบอกกันดีๆนะไม่เห็นต้องหลอกกันเลย เค้าสองคนก็เงียบ สักพักผู้ชายก็พูดขึ้นว่า จะให้พี่พูดร้อยครั้ง พันครั้ง หรือล้านครั้งพี่ก็เลือกแฟนเก่าของพี่ พี่รักเค้ามาก (เราก็ได้แต่คิดว่าแล้วระยะเวลา 1 ปี ของเราคืออะไร) แต่เราก็วางสายไป จนกระทั่งประมาณเที่ยงคืนของวันนั้น เค้าก็โทรมาหาเรา เรากดรับสายแต่เค้าก็ไม่พูดอะไร มีแต่ร้องไห้ เราเลยถามว่าร้องไห้ทำไม เค้าบอกว่า"ก็เธอไม่เคยทำอะไรให้เราเลยนะ มีแต่เราทำร้ายเธอตลอด " เราเลยตอบไปว่า ไม่เป๋นไร เรายังเป็นพี่น้องกันได้ มีอะไรก็โทรหากันได้ตลอดแค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้น ไม่ต้องคิดมากนะ เราก็วางสายทั้งๆในใจมันแทบสลาย แต่มันยังไม่จบนะ เค้าโทรหาเราตลอด มาปรึกษา ถามไถ่กันตลอด จนวันหนึ่งเค้าบอกว่าเลิกกับแฟนเก่าแล้วนะ เพราะการกลับมาคบกันอีกครั้งมันก็ไม่สามารถลบเรื่องราวในอดีตได้เหมือนเดิมที่มันทำให้เค้าเราเลิกกัน แล้วเค้าก็กลับมาทำตัวดีๆกับเรา ดูแลเอาใจใส่เรา จนเรากลับมาคบเค้าอีกครั้งหนึ่ง
ครั้งที่ สามตามมา ตอนนั้นเราเรียนมหาลัย ปี 2 กำลังนั่งเรียนบัญชีอยู่ อาจารย์ก็เลยบอกให้เอาหนังสือตอนเรียนปี1 มาด้วยเพราะมาเชื่อมโยงกัน เราก็คิดได้ว่าหนังสือเล่มนั้นมันอยู่หอพักแฟนเรา ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน อืมมมตอนอาจารย์พักเบรคค่อยกลับไปเอา พอคิดจบ อยู่เฉยๆตัวเราก็ร้อนวูบวาบเลยนะเหมือนต้องมีอะไรแน่ๆ พอถึงเวลาเรารีบไปเลย ระหว่างขับรถเราก็คิดไปว่าอย่าบอกนะ ว่าจะเจอร้องเท้าผู้หญิงอยู่หน้าห้อง ยิ่งคิดหัวใจยิ่งเต้นแรง ยิ่งใกล้ถึงเหมือนใจมันจะระเบิด พอไปถึง โอ้แม่เจ้า เจอรองเท้าผู้หญิงอยู่หน้าห้องจริงๆ เราเลยไปเคาะประตู เค้าเลยถามว่าใคร เราเลยบอกว่าเรามาเอาหนังสือ เค้าตะโกนออกมาว่าให้กลับไปก่อนเดี๋ยวเอาไปให้ แต่เราไม่ยอมเคาะประตูอยู่นั่นแหละ จนมือเราเริ่มบวมแล้วไม่นาน กอนประตูเค้าก็หลุด เราจึงเข้าไปถามผู้ชายว่า ชอบเค้าหรอ....ผู้ชายก็ตอบว่าอืม แค่นั้นหล่ะเรามองไปทางผู้หญิงคนนั้น เค้าก็นั่งก้มหน้า เราก็ขับรถกลับเลย ไม่มีน้ำตาซักหยด (เราเจ็บใจตรงที่ว่า เราทั้งเรียนทั้งทำงาน เลิกเรียนเราก็ไปทำงาน เค้าอยากได้อะไรเราก็หาให้แต่สิงที่เค้าตอบแทนเราคือ..แบบนี้หรอ) เหมือนมันจะจบที่ตรงนี้นะไม่เลย เค้ามาง้อเรา เคาะประตูเราก็ไม่เปิดให้ เค้าก็นั่งเฝ้าอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่ 1 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน เราเริ่มสงสารแล้ว ใจอ่อนเลยเปิดประตูให้เค้าเข้ามาคุยกัน เค้าก็นั่งหน้าเศร้าขอโทษ บอกจะไม่ทำอีก แล้วเขาก็แสดงความจริงใจโดยมาขนของเราไปพักอยู่กับเค้าเลย แล้วไม่นานพ่อแม่เราจับได้ ว่าเราอยู่ด้วยกัน แม่ก็เลยให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเค้ามาสู้ขอเรา ช่วงเวลานี้แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากที่สุดในชีวิตเลย ครอบครัวเค้า พ่อ แม่ น้องสาว เค้าเกลียดเรา หาว่าเราเป็นคนย้ายมาอยู่กับพี่ชายเค้าเอง แล้วยังจะมาทำให้ครอบครัวเขาเสียเงินค่าสินสอดอีก เค้าทำประชดเราสารพัด น้องเค้าก็หาผู้หญิงคนใหม่มาให้เค้า ส่วนตัวของแฟนเราเอง ก็ไม่ค่อยอยู่ห้อง โทรหาก็ไม่ค่อยรับ กลับห้องที ตี 1 ตี 2 เราร้องไห้ทุกคืนจบแบกรับไม่ไหว เราเลยเล่าให้แม่เราฟัง แม่เราเลยไปบอกญาติฝั่งเค้า ให้จ่ายค่าเสียหายผู้ข้อไม้ข้อมือ แล้วก็ให้จบกัน ไม่ต้องมีแล้วงานแต่ง แต่ญาติฝั่งเค้าไม่ยอม บอกถ้าทำแบบนี้จะมองหน้ากันไม่ติด(บ้านเค้ากับบ้านเราอยู่หมู่บ้านติดกัน) ผู้ใหญ่จึงเรียกแฟนเรากับเรา ไปอบรมให้อยู่ด้วยกันให้ได้ จากนั้นมาก็เหมือนจะค่อยๆดีขึ้น จนเค้าเรียนจบ (ส่วนเราก็เรียนปี 3 ) ผู้ใหญ่ก็ให้แต่งงานกัน วันแต่งงานยังมีเซอร์ไพร์อีกนะ ในจำนวนของค่าสินสอดจะมีทองคำหนัก 1 บาท หลังจากทำพิธีเสด เราก็ไปถอดชุดเจ้าสาวออกปรากฎว่าสร้อยคอมันขาด เราก็เลยบอกแฟนเราว่า สร้อยขาด แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาไปเปลี่ยนเองจะได้ซื้อลายที่ถูกใจด้วย สักพักหนึ่งเค้าก็เดินมาบอกเราว่า โทรเล่าให้แม่ฟังว่าสร้อยขาด แม่บอกไม่สบายใจเลย เพิ่งซื้อมา เดี๋ยวแม่เอาไปเปลี่ยนให้ เราก็ยืนยันคำเดิมว่าจะไปเปลี่ยนเอง พอถึงร้านทองเท่านั้นหล่ะ กระจ่างเลยทองไม่ได้หนัก 1 บาทค่ะ แต่เป็น 50 สตางค์ (ตอนนั้นก็เสียความรู้สึกนะ แต่มันเพิ่งแต่งงานเราก็ไม่อยากมีปัญหามาก ลืมบอกน้องสาวเค้าไม่มางานแต่งเราเลยนะ) หลังจากนั้นแฟนเราก็หางานทำ เราก็เรียน ปี 4 ปีสุดท้ายแล้ว แต่เราก็ทั้งทำงานทั้งเรียนนะ พอแฟนเราทำงาน เงินเดือนออกทีไร แม่เค้าก็จะชอบโทรมาถามว่าเงินออกเท่าไหร่ เอามาเก็บไว้กับแม่ก็ได้นะ เวลาอยากออกรถ ขาดเหลือเท่าไหร่แม่ก็จะได้ออกช่วยไง แฟนเราก็ส่งเงินให้แม่เค้าตลอด ส่งสองส่วน ส่วนแรกให้ใช้ ส่วนที่สองให้เก็บไว้ให้ เราก็ไม่พูดอะไรตอนนั้นเพราะเราเรียนอยู่เค้าหาเงินคนเดียวก็ให้สิทธิ์แก่เค้า พอเราเก็บเงินได้สักพัก เค้าก็อยากออกรถ บอกจะเอากะบะคันเก่าไปให้แม่ใช้ ตอนนั้นเราไม่เห็นด้วยนะ เพราะเราเรียนอยู่ เราขอให้เราเรียนจบก่อน มีรายได้คงที่ก่อนมั๊ยค่อยออก แต่เค้าก็ไม่ฟัง จะออกให้ได้ จนถึงวันที่ต้องวางเงินดาวน์ เงินมันขาดอยู่หมื่นหนึ่ง เค้าก็โทรบอกแม่เค้า สิ่งที่แม่เค้าตอบกลับมาคือ จะออกก็ออกเลย แต่แม่ไม่มีเงินออช่วยนะ สุดท้ายคนที่ออกช่วยคือแม่เราอยู่ดี พอเราเรียนจบ เราก็หางานทำ จนกระทั่งมีลูกด้วยกัน 1 คน ภาระยิ่งเยอะ เงินพอใช้บ้างไม่พอใช้บ้าง แต่สิงที่เรารับรู้คือเวลามีปัญหาเรื่องเงินเค้าไม่เคยคิดจะแชร์ จะแก้ไขปัญหาช่วยเราเลย ไม่เคยแม้จะเอ่ยปากให้ทางบ้านเค้าช่วยเรื่องเงินเลยย เวลาทางบ้านเค้าโทรมาขอให้เค้าส่งเงินหรือซื้ออะไรไปให้เค้าจะเอาเงินให้ หรือซื้อให้ตลอด โดยไม่คิดเลยนะว่าเงินจะพอใช้หรือป่าว เค้าคงรู้อยู่แล้วว่าเราคงไปเอากับทางบ้านเราเหมือนเดิม จะกี่ครั้งๆก็เป็นแบบนี้ตลอด จนเราดิ้นรนหางานใหม่อีกครั้ง ตัดสินใจมาทำงานที่กรุงเทพ ห่างลูกสักพัก คิดถึงแค่ไหนก็จะอดทน เรามาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เราก็เลยได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เค้าเป็นฝ่ายเข้ามาหาเราก่อน เค้ารับรู้เรื่องของเราทุกอย่าง แล้วเค้าเองก็เป็นคนช่วยเราในบางเรื่องด้วย จนเราเริ่มคิดแล้วว่าทำไมมันต่างกันแบบนี้ เราเริ่มรู้สึกดี เราเลยอยากถามว่าผิดหรือป่าวที่เราปันใจให้คนอื่น เราควรเลิกกับแฟนเราหรือป่าว ช่วยแนะนำ จขกท ด้วย ขอบคุณค่ะ
ผิดหรือไม่....ที่ฉันปันใจ
เราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาก็ไม่เท่าไหร่ ตอนนั้นเขามาขอเบอร์โทรเรา ด้วยความเป็นโสด ใครมาขอเราก็ให้ๆไปคุยกันไม่เสียหาย ทีแรกเราคิดจะแค่คุยเท่านั้น แต่เวลาคุยกันเขาดูเป็นผู้ใหญ่ ใจเย็น สุขุม อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรารักเค้าไปตอนไหน จนเวลาผ่านไป ประมาณ 6 เดือน รู้ตัวอีกทีหลงรักเค้าไปแล้ว แล้วความจริงบางอย่างก็ปรากฎคือ "เขาเจ้าชู้มาก"
ครั้งแรกที่เจอคือ แฟนเราเค้าเป็นนักดนตรี มีวันหนึ่งเค้าต้องไปเล่นดนตรีให้กับหมอลำซิ่งคณะหนึ่ง ไปเล่นตอนกลางวัน ตอนเช้าขณะที่เค้ากำลังอาบน้ำอยู่ มีโทรสับเข้ามา เราก็เลยรับสาย แต่ตอนกดรับเราไม่ได้พูดอะไร เสียงปลายทางดังขึ้นเป็นเสียงผู้หญิง "พี่เสร็จหรือยัง นู๋รออยู่ที่บ้านนะ"แล้วเค้าก็วาง พอได้ยินแบบนั้น เราก็สืบทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ก็เรื่องบังเอิญอีกที่เพื่อนของเราคนหนึ่ง รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ วันนั้นเพื่อนเราก็พาไปดูว่าผู้หญิงคนนั้นพักอยู่ที่ไหน เรากลับมาที่ห้องพัก เราก็อยู่ไม่เป็นสุข มันคิดฟุ้งซ่าน พอถึง 4 โมงเย็นเราก็คิดว่าแฟนเราคงเล่นดนตรีเสร็จแล้วหล่ะ เราเลยโทรไปหา พอเค้ากดรับเค้าก็พูดว่า "กำลังเก็บของอยู่ แค่นี้นะ!!" (น้ำเสียงกระแทกแบบว่ารำคาญ) ประมาณ 4 โมงครึ่งใจเรายิ่งเริ่มเต้นแรงขึ้น เหมือนมันต้องมีอะไรบางอย่าง เราตัดสินใจขับรถไปดูที่หอพักผู้หญิงคนนั้นเลย ยิ่งใกล้จะถึง ใจยิ่งเต้นแรง ภาวนาว่าขออย่าได้เจอรถกระบะของเค้าอยู่ที่นั้นเลย พอไปถึงปุ๊ป ถึงกับอึ้ง!!!เราเจอรถเค้าจอดอยู่ที่นั้นจริงๆ เรารีบลงจากรถ แล้วไปเคาะประตูทันที แล้วผู้หญิงก็เป็นฝ่ายมาเปิด เรารีบผลักเข้าไป สิ่งที่เราเห็นคือ ผู้หญิงอาบน้ำเพิ่งเสด ส่วนผู้ชายก็นอนอยู่บนที่นอน พอเค้าเห็นเราเค้าก็บอกเราว่า "กลับห้อง!!มีอะไรไปคุยกันที่ห้อง"เราก็เลยกลับ แล้วเค้าก็ขับรถตามเรามา พอมาถึงห้องแทนที่เราจะเป็นฝ่ายโกรธเค้านะ แต่เค้าโกรธเรา หาว่าเราไปบุกรุกห้องคนอื่น สุดท้ายเราก็ยอมอยู่ดี
ครั้งที่ สอง เราแอบดูโทรสับเขา เราเลยเห็นเค้าชอบส่งข้อความหาคนหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใคร เรารีบจดเบอร์ไว้ แล้วตัดสินใจโทรถาม ปรากฎว่า เบอร์นั้นคือแฟนเก่าของเค้า เราก็กำลังคุยกะผู้หญิงคนนั้นอยู่ เราถามเค้าว่าพี่สองคนจะกลับมาคืนดีกันหรือป่าว ถ้าใช่เราจะได้เดินออกชีวิตพวงคุณ แต่การสนทนายังไม่จบ ผู้หญิงคนนั้นก็พูดว่า เนี๊ย!!แฟนเธอกำลังโทรหาเรา อยากฟังด้วยมั๊ยหล่ะ แล้วเค้าก็ประชุมสายให้เราฟัง ระหว่างที่เค้าสองคนสนทนากันเราก็จับใจความได้ว่า แฟนเราต้องการง้อแฟนเก่า เราทนฟังไม่ได้ เราเลยพูดแทรกขึ้นไปเลยว่า ถ้าต้องการแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก ก็น่าจะบอกกันดีๆนะไม่เห็นต้องหลอกกันเลย เค้าสองคนก็เงียบ สักพักผู้ชายก็พูดขึ้นว่า จะให้พี่พูดร้อยครั้ง พันครั้ง หรือล้านครั้งพี่ก็เลือกแฟนเก่าของพี่ พี่รักเค้ามาก (เราก็ได้แต่คิดว่าแล้วระยะเวลา 1 ปี ของเราคืออะไร) แต่เราก็วางสายไป จนกระทั่งประมาณเที่ยงคืนของวันนั้น เค้าก็โทรมาหาเรา เรากดรับสายแต่เค้าก็ไม่พูดอะไร มีแต่ร้องไห้ เราเลยถามว่าร้องไห้ทำไม เค้าบอกว่า"ก็เธอไม่เคยทำอะไรให้เราเลยนะ มีแต่เราทำร้ายเธอตลอด " เราเลยตอบไปว่า ไม่เป๋นไร เรายังเป็นพี่น้องกันได้ มีอะไรก็โทรหากันได้ตลอดแค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้น ไม่ต้องคิดมากนะ เราก็วางสายทั้งๆในใจมันแทบสลาย แต่มันยังไม่จบนะ เค้าโทรหาเราตลอด มาปรึกษา ถามไถ่กันตลอด จนวันหนึ่งเค้าบอกว่าเลิกกับแฟนเก่าแล้วนะ เพราะการกลับมาคบกันอีกครั้งมันก็ไม่สามารถลบเรื่องราวในอดีตได้เหมือนเดิมที่มันทำให้เค้าเราเลิกกัน แล้วเค้าก็กลับมาทำตัวดีๆกับเรา ดูแลเอาใจใส่เรา จนเรากลับมาคบเค้าอีกครั้งหนึ่ง
ครั้งที่ สามตามมา ตอนนั้นเราเรียนมหาลัย ปี 2 กำลังนั่งเรียนบัญชีอยู่ อาจารย์ก็เลยบอกให้เอาหนังสือตอนเรียนปี1 มาด้วยเพราะมาเชื่อมโยงกัน เราก็คิดได้ว่าหนังสือเล่มนั้นมันอยู่หอพักแฟนเรา ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน อืมมมตอนอาจารย์พักเบรคค่อยกลับไปเอา พอคิดจบ อยู่เฉยๆตัวเราก็ร้อนวูบวาบเลยนะเหมือนต้องมีอะไรแน่ๆ พอถึงเวลาเรารีบไปเลย ระหว่างขับรถเราก็คิดไปว่าอย่าบอกนะ ว่าจะเจอร้องเท้าผู้หญิงอยู่หน้าห้อง ยิ่งคิดหัวใจยิ่งเต้นแรง ยิ่งใกล้ถึงเหมือนใจมันจะระเบิด พอไปถึง โอ้แม่เจ้า เจอรองเท้าผู้หญิงอยู่หน้าห้องจริงๆ เราเลยไปเคาะประตู เค้าเลยถามว่าใคร เราเลยบอกว่าเรามาเอาหนังสือ เค้าตะโกนออกมาว่าให้กลับไปก่อนเดี๋ยวเอาไปให้ แต่เราไม่ยอมเคาะประตูอยู่นั่นแหละ จนมือเราเริ่มบวมแล้วไม่นาน กอนประตูเค้าก็หลุด เราจึงเข้าไปถามผู้ชายว่า ชอบเค้าหรอ....ผู้ชายก็ตอบว่าอืม แค่นั้นหล่ะเรามองไปทางผู้หญิงคนนั้น เค้าก็นั่งก้มหน้า เราก็ขับรถกลับเลย ไม่มีน้ำตาซักหยด (เราเจ็บใจตรงที่ว่า เราทั้งเรียนทั้งทำงาน เลิกเรียนเราก็ไปทำงาน เค้าอยากได้อะไรเราก็หาให้แต่สิงที่เค้าตอบแทนเราคือ..แบบนี้หรอ) เหมือนมันจะจบที่ตรงนี้นะไม่เลย เค้ามาง้อเรา เคาะประตูเราก็ไม่เปิดให้ เค้าก็นั่งเฝ้าอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่ 1 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน เราเริ่มสงสารแล้ว ใจอ่อนเลยเปิดประตูให้เค้าเข้ามาคุยกัน เค้าก็นั่งหน้าเศร้าขอโทษ บอกจะไม่ทำอีก แล้วเขาก็แสดงความจริงใจโดยมาขนของเราไปพักอยู่กับเค้าเลย แล้วไม่นานพ่อแม่เราจับได้ ว่าเราอยู่ด้วยกัน แม่ก็เลยให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเค้ามาสู้ขอเรา ช่วงเวลานี้แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากที่สุดในชีวิตเลย ครอบครัวเค้า พ่อ แม่ น้องสาว เค้าเกลียดเรา หาว่าเราเป็นคนย้ายมาอยู่กับพี่ชายเค้าเอง แล้วยังจะมาทำให้ครอบครัวเขาเสียเงินค่าสินสอดอีก เค้าทำประชดเราสารพัด น้องเค้าก็หาผู้หญิงคนใหม่มาให้เค้า ส่วนตัวของแฟนเราเอง ก็ไม่ค่อยอยู่ห้อง โทรหาก็ไม่ค่อยรับ กลับห้องที ตี 1 ตี 2 เราร้องไห้ทุกคืนจบแบกรับไม่ไหว เราเลยเล่าให้แม่เราฟัง แม่เราเลยไปบอกญาติฝั่งเค้า ให้จ่ายค่าเสียหายผู้ข้อไม้ข้อมือ แล้วก็ให้จบกัน ไม่ต้องมีแล้วงานแต่ง แต่ญาติฝั่งเค้าไม่ยอม บอกถ้าทำแบบนี้จะมองหน้ากันไม่ติด(บ้านเค้ากับบ้านเราอยู่หมู่บ้านติดกัน) ผู้ใหญ่จึงเรียกแฟนเรากับเรา ไปอบรมให้อยู่ด้วยกันให้ได้ จากนั้นมาก็เหมือนจะค่อยๆดีขึ้น จนเค้าเรียนจบ (ส่วนเราก็เรียนปี 3 ) ผู้ใหญ่ก็ให้แต่งงานกัน วันแต่งงานยังมีเซอร์ไพร์อีกนะ ในจำนวนของค่าสินสอดจะมีทองคำหนัก 1 บาท หลังจากทำพิธีเสด เราก็ไปถอดชุดเจ้าสาวออกปรากฎว่าสร้อยคอมันขาด เราก็เลยบอกแฟนเราว่า สร้อยขาด แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาไปเปลี่ยนเองจะได้ซื้อลายที่ถูกใจด้วย สักพักหนึ่งเค้าก็เดินมาบอกเราว่า โทรเล่าให้แม่ฟังว่าสร้อยขาด แม่บอกไม่สบายใจเลย เพิ่งซื้อมา เดี๋ยวแม่เอาไปเปลี่ยนให้ เราก็ยืนยันคำเดิมว่าจะไปเปลี่ยนเอง พอถึงร้านทองเท่านั้นหล่ะ กระจ่างเลยทองไม่ได้หนัก 1 บาทค่ะ แต่เป็น 50 สตางค์ (ตอนนั้นก็เสียความรู้สึกนะ แต่มันเพิ่งแต่งงานเราก็ไม่อยากมีปัญหามาก ลืมบอกน้องสาวเค้าไม่มางานแต่งเราเลยนะ) หลังจากนั้นแฟนเราก็หางานทำ เราก็เรียน ปี 4 ปีสุดท้ายแล้ว แต่เราก็ทั้งทำงานทั้งเรียนนะ พอแฟนเราทำงาน เงินเดือนออกทีไร แม่เค้าก็จะชอบโทรมาถามว่าเงินออกเท่าไหร่ เอามาเก็บไว้กับแม่ก็ได้นะ เวลาอยากออกรถ ขาดเหลือเท่าไหร่แม่ก็จะได้ออกช่วยไง แฟนเราก็ส่งเงินให้แม่เค้าตลอด ส่งสองส่วน ส่วนแรกให้ใช้ ส่วนที่สองให้เก็บไว้ให้ เราก็ไม่พูดอะไรตอนนั้นเพราะเราเรียนอยู่เค้าหาเงินคนเดียวก็ให้สิทธิ์แก่เค้า พอเราเก็บเงินได้สักพัก เค้าก็อยากออกรถ บอกจะเอากะบะคันเก่าไปให้แม่ใช้ ตอนนั้นเราไม่เห็นด้วยนะ เพราะเราเรียนอยู่ เราขอให้เราเรียนจบก่อน มีรายได้คงที่ก่อนมั๊ยค่อยออก แต่เค้าก็ไม่ฟัง จะออกให้ได้ จนถึงวันที่ต้องวางเงินดาวน์ เงินมันขาดอยู่หมื่นหนึ่ง เค้าก็โทรบอกแม่เค้า สิ่งที่แม่เค้าตอบกลับมาคือ จะออกก็ออกเลย แต่แม่ไม่มีเงินออช่วยนะ สุดท้ายคนที่ออกช่วยคือแม่เราอยู่ดี พอเราเรียนจบ เราก็หางานทำ จนกระทั่งมีลูกด้วยกัน 1 คน ภาระยิ่งเยอะ เงินพอใช้บ้างไม่พอใช้บ้าง แต่สิงที่เรารับรู้คือเวลามีปัญหาเรื่องเงินเค้าไม่เคยคิดจะแชร์ จะแก้ไขปัญหาช่วยเราเลย ไม่เคยแม้จะเอ่ยปากให้ทางบ้านเค้าช่วยเรื่องเงินเลยย เวลาทางบ้านเค้าโทรมาขอให้เค้าส่งเงินหรือซื้ออะไรไปให้เค้าจะเอาเงินให้ หรือซื้อให้ตลอด โดยไม่คิดเลยนะว่าเงินจะพอใช้หรือป่าว เค้าคงรู้อยู่แล้วว่าเราคงไปเอากับทางบ้านเราเหมือนเดิม จะกี่ครั้งๆก็เป็นแบบนี้ตลอด จนเราดิ้นรนหางานใหม่อีกครั้ง ตัดสินใจมาทำงานที่กรุงเทพ ห่างลูกสักพัก คิดถึงแค่ไหนก็จะอดทน เรามาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เราก็เลยได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เค้าเป็นฝ่ายเข้ามาหาเราก่อน เค้ารับรู้เรื่องของเราทุกอย่าง แล้วเค้าเองก็เป็นคนช่วยเราในบางเรื่องด้วย จนเราเริ่มคิดแล้วว่าทำไมมันต่างกันแบบนี้ เราเริ่มรู้สึกดี เราเลยอยากถามว่าผิดหรือป่าวที่เราปันใจให้คนอื่น เราควรเลิกกับแฟนเราหรือป่าว ช่วยแนะนำ จขกท ด้วย ขอบคุณค่ะ