แชร์ประสบการณ์เพื่อนชอบแฟนเรา บอกว่าแคร์เรา? แต่เราเกือบเป็นนางร้าย!?

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะคะที่เขียนเป็นเรื่องราว ผิดพลาดยังไงขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ และเรื่องนี้ผ่านมาไม่นานนี้เองค่ะ อาจมีการเรียงลำดับเหตุการณ์ผิดพลาดบ้าง แต่ใจความสำคัญไม่ตกหล่นแน่นอนค่ะ ช่วงแรกอาจดูน่าเบื่อไปบ้าง แต่อยากเล่ารายละเอียดเป็นไงมาไงให้ทราบกันก่อนพื่ออรรถรสในการปะติดปะต่อเรื่องราวค่ะ

เราขอแทนชื่อตัวเราว่า “เนม”
แฟนเรา “ทิม
เพื่อนที่มาชอบแฟนเรา “หมิว”
เพื่อนของหมิว “มิ้น”
เพื่อนผช.ในกลุ่มเรา “ปอ”

เรื่องของเรื่องคือว่าเรามีกลุ่มที่สนิทอยู่ 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกกลุ่มเพื่อนที่เรียนในสาขาด้วยกัน และกลุ่มที่ไปไหนมาไหนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลาซึ่งกลุ่มนี้ก็จะมีเรา ทิม ปอ (เรากับทิมคบกันมาตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนด้วยกันแล้ว) ช่วงประมาณปลายเดือนธันวาคมมีเพื่อนในสาขาชื่อหมิว มาขอทิมให้ไปรับเพื่อนชื่อมิ้นจากสนามบินเพราะว่าทิมมีรถยนต์ มิ้นไม่ได้เรียนที่เดียวกับพวกเราและเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลายของหมิว มิ้นนัดหมิวว่าจะเที่ยวหาที่จ.ที่พวกเรียนระยะนึงแล้วค่อยกลับไปเรียนต่อ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หมิวเป็นสมาชิกของกลุ่มเรา ปกติเรามีอะไรเราก็จะเล่าให้พ่อแม่ฟังเสมอ ตอนที่เราได้เจอหมิวกับมิ้นเราก็เล่าให้แม่ฟังว่าเราชอบ2คนนี้ รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่เจอครั้งแรก แม่กับพ่อเราก็ยินดีกับเราที่ได้เพื่อนดี เรา4คนก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน พอเรารู้จักกันมากขึ้นก็เริ่มรู้ว่าหมิวชอบอะไรที่ไม่เหมือนเรา3คนเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นกิน งานอดิเรก หนัง แนวเพลง แล้วก็ที่สำคัญค่ะเรา3คนไม่ดื่มไม่เที่ยวตอนกลางคืน แต่เรา3คนก็เปิดใจนะคะให้หมิวนะคะก็หากิจกรรมอย่างอื่นทำกันเพื่อไม่ให้หมิวเบื่อ ระหว่างนั้นทิมก็คอยเตือนให้หมิวเลิกดื่มเรากับปอก็ช่วยกันอีกแรงจนหมิวเลิกดื่มได้

ต่อมาหลังจากที่มิ้นกลับไปได้ประมาณเดือนกว่าๆ มิ้นก็ขึ้นมาที่เราเรียนอีกแต่จุดประสงค์คือมาหาผช.คนนึงซึ่งเป็นเพื่อนแก๊งดื่มของหมิวเลยมีโอกาสได้เที่ยวกันต่ออีกสักพัก แล้วช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาทางบ้านเราก็โทรมาบอกว่าพ่อเราเสียเราจึงไปร่วมพิธีศพของพ่อที่บ้าน ทิม หมิว ปอก็ตัดสินใจจะมาร่วมพิธีด้วย บ้านเรากับทิมไม่ไกลกัน จึงตกลงกันว่าให้หมิวกับปอไปนอนบ้านทิม เพราะบ้านเรามีญาติมานอนด้วยเลยไม่สะดวกให้มานอนพักกัน
เราเคยคุยกับเพื่อนๆ ว่าอยากทำงานพาร์ทไทม์หมิวเลยเสนอให้ไปทำงานร้านเดียวกับหมิว ซึ่งที่ร้านต้องฝึกงานติดต่อกันเป็นเวลา 7 วันก่อน (ตั้งแต่4โมงเย็นถึงสี่ทุ่ม) เจ้าของร้านถึงจะจัดตารางทำงานให้อีกที ปอกับทิมเห็นว่าเราจะทำเลยคุยกันว่าจะทำด้วย ตอนนี้เองปอกับหมิวตามมาร่วมพิธีช้าไป2วัน ติดทำงานพาร์ทไทม์ที่มหาวิทยาลัยลางานไม่ได้ ปอก็ติดอยู่ในช่วงฝึกงานเพราะเจ้าของร้านบอกให้ปอทำไปก่อนเราล่วงหน้านิดหน่อย ในวันกลับเรากลับเป็นคนสุดท้ายเพราะติดทำเรื่องเงินประกันของพ่อต่อ พอมาถึงเราก็เห็นว่าทิมทำเซอร์ไพสต์วันวาเลนไทน์ให้โดยมีปอกับหมิวเป็นคนช่วย

ในวันที่เราเริ่มฝึกงานพาร์ทไทม์นี่แหละ (เสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์) ปอฝึกงานครบกำหนด 7 วันแล้ว เจ้าของร้านลงตารางให้ปอมาทำงานทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เราจึงมีโอกาสได้ทำงานพร้อมปอ ทำให้ช่วง 2 วันนี้เท่านั้นที่ทิมกับหมิวอยู่ด้วยกันแค่ 2 คน.....
วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์หลังจากเราเลิกงาน ทิมก็ถามเราเล่นๆ ว่า
"ถ้าปอมาบอกชอบเนม เนมจะทำยังไงเราก็ตอบไปว่าไม่มีทางเกิดขึ้น ปอมันไม่มีทางชอบ ทิมก็บอกนี่ถามแบบจริงจัง สมมติว่าปอมาบอกชอบจะทำยังไง ตอนนั้นเราก็คิดละว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างแน่หรือว่าหมิวมาบอกชอบปอ
เรา: ตกลงมีอะไรกันแน่ บอกเราตรงๆ เลยได้มั้ย
ทิม: หมิวมาบอกชอบเค้า เธอเชื่อเค้ามั้ย
เรา: เชื่อ แล้วทิมทำยังไงล่ะ อยากเล่าให้เค้าฟังมั้ย
ทิม: ตอนเนมกับปอไปทำงาน เราเลยชวนหมิวดู Dark shadows รอพวกเธอ จู่ๆ หมิวก็ร้องไห้เราก็ถามว่าเป็นอะไรหมิวก็ไม่ตอบ ได้แต่เอนหัวมาซบไหล่ทิม จนในที่สุดหมิวก็ยอมพูดหมิวบอกว่าชอบทิม เนี่ยที่เลิกดื่มเหล้าเพราะทิมเลยนะ ทิมเลยถามว่าชอบกูเนี่ยถึงรักเลยหรอหมิวก็ตอบว่าไม่ แล้วระหว่างทิมกับเนม หมิวรักใครมากกว่า หมิวบอกว่ารักเนมแคร์เนมมากกว่า ทิมบอกว่าทิมไม่ได้รักหมิวแต่รักเนมมาก สัญญากันได้มั้ยว่าจะไม่หักหลงเนม หมิวก็สัญญา
ทิมบอกว่าที่เลือกบอกเราเพราะว่าไม่อยากทำร้ายความรู้สึกเราถ้าเรามารู้ทีหลัง อยากฟังอยากรู้ว่าเราจะคิดยังไง ถ้าเรามารู้ทีหลังเราอาจจะโกรธหรือไม่ชอบใจ เราก็เลยบอกทิมไปว่าเราไม่โกรธแล้วก็ดีใจที่มาบอกเรา และเราก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับหมิว
ในใจเรารู้สึกเราโชคดีที่เกิดมามีแฟนที่มีอะไรกล้าบอกกล้าเปิดเผยไม่ปิดบังเรา ส่วนความรู้สึกที่เรามีให้หมิวคือก็ไม่ได้ตะขิดตะขวงใจกับหมิวนะ เพราะตอนนั้นเราก็รู้สึกสงสารหมิวและเชื่อใจหมิว ทิมบอกหนักแน่นไปขนาดนั้นแล้วหมิวคงไม่ทำอะไรมากไปกว่าคำว่า 'เพื่อน' ได้อีก เราจึงเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ซะเขาเคลียร์กันแล้วทิมเองก็ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับหมิวให้รู้สึกว่าเราทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเกินไป ไม่อยากให้ทิมมีปัญหากับหมิวว่าทำไมเอาเรื่องนี้มาบอกกับเราแล้วหมิวจะโกรธเอา

และความเชื่อใจของเรามันก็ค่อยๆ จะถูกทำลายเพราะเหตุการณ์ต่อไปนี้......
เรากลับบ้านไปอีกรอบเพราะยังทำเรื่องประกันของพ่อไม่เสร็จ พอเรากลับขึ้นมาที่มหาลัยทิมก็เล่าว่าวันนึงระหว่างที่ไปเรียนทิมไปส่งหมิวที่ตึกเรียนหมิวขยับตัวมาชิดกับหลังทิมแล้วเอาคางมาเกยไหล่ทิมแล้วบอก "ตัวหอมจัง" วันถัดมาเราไปเรียนเพื่อนสนิทอีกกลุ่มของเราก็ถามเราว่า "ทิมกับหมิวสนิทกันมากหรอ ปกติเห็นมีแค่เนม ทิม ปอ" เราก็บอกก็คงระดับนึงแหละก็อยู่ในกลุ่มด้วยกันนะทำไมหรอ เพื่อนเราคนนั้นเลยบอกว่าขับรถสวนทางทิมเห็นหมิวซ้อนมอไซต์ทิมแล้วกอดทิมจากด้านหลังเอาหน้ามุดซอกคอทิม มันเกินกว่าเพื่อนสนิทกันรึเปล่า? แล้วก็เตือนๆ เรากับทิมห่างจากหมิว
เราเลยไปคุยกับทิมว่าเราไม่ค่อยโอเคกับเรื่องนี้ ประกอบกับช่วงนั้นที่เรากลับมาหมิวคงรู้สึกตัวเองว่าตัวเองเริ่มยืนผิดจุดพอตกเย็นวันหนึ่งหมิวบอกพวกเรา 3 คนว่าคืนนี้จะไปดื่มกับเพื่อน เรา ทิม ปอ ก็เป็นห่วงเพราะเห็นว่าไปกับเพื่อนผู้ชายหลายคนจึงเตือนให้ระวังตัวแล้วถ้ากลับไม่ไหวยังไงก็โทรหาพวกเราให้ไปรับได้นะ ก่อนนอนด้วยความเป็นห่วงเราก็บอกทิมกับปอว่าถ้าเลยเที่ยงคืนให้โทรไปหาหมิวแล้วถ้าจะไปรับให้ปลุกเราไปด้วย จนเวลาล่วงเลยถึงตี 3 ตอนนั้นเราหลับไปแล้ว (ทิมกับปอมาเล่าให้เราฟังทีหลัง) ทิมเลยโทรไปหาหมิวถามว่าถึงหอรึยัง หมิวบอกว่ายังตอนนี้อยู่บ้านเพื่อนทุกคนเมาจนขับรถกันไม่ไหว ทิมจึงบอกว่าจะพวกเราจะเป็นรับแล้วหมิวก็ปฏิเสธกลับมา ทิมเลยโทรไปหาอีกรอบบอกว่าทิมไปรับเองหมิวถึงยอมให้ไปรับแต่ทิมก็แอบพาปอมาด้วย ปอเองก็พึ่งจะมารู้เรื่องทั้งหมดตอนนี้ ทิมมาส่งหมิวที่หอพร้อมกับจะคุยกับหมิวให้เคลียร์บทสนทนาก็ประมาณนี้
ทิม: กินเหล้าเพราะกูหรอ
หมิว: อืมใช่ จะให้ทำยังไงวะ กูเครียดอ่ะ (หมิวเริ่มร้องไห้)
ทิม: ไม่จำเป็นต้องเลิกเพราะกูก็ได้ ทำเพื่อตัวเอง แล้วต้องการอะไรอยากคบกับกูหรอ กูรักเนมรักมากด้วยและจะไม่มีวันนอกใจเนม
หมิว: ไม่ (เริ่มสะอื้นร้องมากขึ้น) กูก็แคร์เนม
หมิว: กูจะนอนละ (หมิวเข้าไปในห้องแล้วคลุมโปงสะอื้นไห้อยู่บนเตียง)
ทิม: กูขอโทษนะที่ทำให้เสียใจ
แล้วทิมก็เลือกที่จะปิดประตูให้แล้วเดินออกมาจากห้องหมิวและในตอนนั้นหมิวก็ยิ่งสะอื้นร้องไห้หนักกว่าเดิมทิมบอกว่าดังออกมานอกห้องเลย เหมือนจะสำนึกได้ค่ะ แต่ไม่เลยที่บอกว่าแคร์เราไรนั่นเหมือนพูดให้ดูดีไปแค่นั้นเอง

เรากับปอก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้กันต่อ เราสี่คนไปไหนมาไหนกันตามปกติ มาดูหนังนอนที่หอเราแทบตลอด จนถึงวันหนึ่งวันนั้นเป็นวันศุกร์เรามีเรียนตอน 9 โมงเช้า หมิวมีทำงานพาร์ทไทม์ตอน 11 โมง เราก็ตื่นไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนก่อน ปล่อยให้เพื่อนๆ 3 คนนอนหลับกัน แล้วทิมก็มาเล่าให้เราฟังหลังจากนั้นอีกทีว่า ตอนเราออกห้องไปเรียน หมิวก็ลุก (ทิมตื่นตั้งแต่เราตื่นละ แต่นอนกลิ้งไปๆมาๆ ไม่ลืมตาเฉยๆ ) แล้วหมิวก็มาหอมหน้าผากทิม แต่ทิมก็แกล้งทำเป็นหลับต่อจากนั้นหมิวถึงออกห้องเตรียมตัวไปทำงาน เราเลยตัดสินใจโทรไปปรึกษาแม่เราค่ะว่าควรทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ แม่เราบอกว่าให้เลิกคบ ส่วนทิมก็ปรึกษาแม่ของทิมเองตอนแรกทิมบอกให้เราโทรไปปรึกษาเองเลย แต่เราไม่กล้าค่ เรากลัวผู้ใหญ่เขามองว่ามันดูละครไป เราเลยบอกว่าถ้าทิมคุยเองดีกว่า แม่ทิมก็เลยพอรู้เรื่องราวบ้าง แต่ทิมไม่กล้าเล่าส่วนที่หมิวหอมหน้าผากกับดมซอกคอให้แม่ของทิมฟัง สรุปแล้วผู้ใหญ่จากทางฝั่งแม่เราแล้วก็ทิมก็บอกเหมือนกันว่า อย่าถึงกับเลิกเป็นเพื่อนกัน  แต่เวลาจะทำอะไรต้องระวังๆ ตัวกันไว้ ทิมก็อย่าให้เราต้องหนักใจ เราก็ต้องไว้ใจทิม

เราก็ทำตามที่ผู้ใหญ่เขาบอกมาค่ะ แต่ท้ายที่สุดก็มีจุดแตกหักเรื่องนี้ ความใจดีและเห็นใจเรามันใช้กับเขาไม่ได้แล้วจริงๆ ค่ะ เดี๋ยวมาต่อนะคะ

**** อ่านแล้วรู้สึกติดๆ ยังไง ขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ  ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่