ตอนที่ 1-3 ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33191382
4_
“เอิ้น ฉะ...ฉัน...ฉันว่าแกรีบๆ ออกมาเถอะนะ ขอร้องล่ะ” หมิวบอกเสียงสั่นเหมือนคนจะร้องไห้ ฉันที่เห็นว่าบรรยากาศมันชักจะยังไงๆ แล้วจึงได้ตัดสินใจหมุนตัวกลับทันที พอหมิวเห็นดังนั้นก็รีบกลับเข้าไปในรถเพื่อสตาร์ทรถเตรียมรอ
“เราไม่ให้เอิ้นไป!!!”
หากยังไม่ทันที่ฉันจะเอื้อมมือไปจับบานประตู เสียงทุ้มดุดันก็ดังขึ้นพร้อมกับที่ประตูเหล็กทั้งสองบานประกบปิดเข้าหากันอย่างแรง! ฉันเบิกตากว้าง ถลาตัวเข้าไปเอามือเขย่าๆ ประตูเหล็กให้มันเปิดออก แต่ทว่ามันกลับปิดสนิทแน่นทั้งที่ไม่มีอะไรมาล็อก!
หมิวที่ยังนั่งอยู่ในรถ พอเห็นว่าฉันติดอยู่ในนี้ก็รีบเปิดประตูออกมาหน้าตาตื่น เราทั้งสองคนช่วยกันเขย่าประตูแรงๆ จนเล่นเอาเหนื่อยทั้งคู่
“เอิ้น รอเดี๋ยวนะ แกอย่าเพิ่งไปไหนนะ รออยู่ตรงนี้นะ” หมิวย้ำให้ฉันยืนอยู่ที่เดิม ส่วนเธอก็รีบวิ่งกลับไปที่รถ แม้กระจกรถของหมิวจะเป็นสีดำ แต่เพราะแสงที่ส่องลอดเข้ามาทำให้ฉันพอจะมองเห็นว่าเธอดึงโทรศัพท์ฉันออกมาจากที่ชาร์ตสำรอง แล้วเอามาโทร. ตรงหน้าฉัน หมิวเลื่อนรายชื่อลงมาจนเห็นเบอร์ของพ่อฉัน เธอจึงได้กดโทร. ออก แต่ทว่า...
“โอ้ยยย พ่อเอิ้นนน ขอร้องเถอะค่ะ รับสายทีเถอะนะคะ...รับเถอะ...รับเถอะ...”
หมิวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่ไม่มีคนรับ ฉันจึงได้บอกให้เธอโทร. หาพี่ชายฉัน หมิวก็รีบกดตัดสายแล้วเปลี่ยนมาโทร. หาพี่ชายฉันแทน หากสีหน้าคล้ายกับคนจะร้องไห้ของเธอก็ทำให้ฉันเดาออกว่าคงไม่มีคนรับสายอีกเช่นกัน
“เราไม่ให้เอิ้นไป!!!”
ฉันจะดุ้งเฮือก
เสียงนั้น...เสียงนั้นอีกแล้ว คราวนี้ฉันแน่ใจแล้วว่ามันไม่ใช่เสียงของหมิว แต่มันเป็นเสียงของผู้ชาย! และถึงฉันจะไม่รู้ว่าเขารู้ชื่อฉันได้ยังไง แต่นั่นมันก็ไม่สำคัญเท่ากับที่เขาไม่ยอมให้ฉันไป!
“อ๊ะ รับแล้ว พี่อั้นคะ”
“กรี๊ดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!! หมิว!!! หมิวช่วยฉันด้วย! พี่อั้น!!! พี่อั้นช่วยเอิ้นด้วย!!!! พี่อั้นนนนน!!!!!”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ดีใจที่พี่อั้นรับสาย ความรู้สึกที่เหมือนถูกใครกระชากคอเสื้อแรงๆ ก็ทำให้ร่างฉันหล่นก้นกระแทกไปด้านหลังอย่างแรง หมิวหันมาเบิกตากว้างใส่ฉัน ตะโกนโหวกเหวกจะเข้ามาช่วยแต่ก็ทำได้เพียงแค่เขย่าประตูและร้องเรียกเสียงดัง ส่วนฉันที่ถูกมือลึกลับเอาแต่กระชากคอเสื้อแรงๆ ก็เลื่อนตัวครืดๆ ไปกับพื้นคอนกรีตหนานั่น นี่มันก็โชคดีแค่ไหนแล้วที่วันนี้ฉันสวมกางเกงยีนส์ขายาวมา ไม่งั้นฉันว่าพื้นคอนกรีตในตอนนี้คงต้องอาบไปด้วยเลือดของฉันแน่! แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผ้ายีนส์หรือจะสู้ความขรุขระของพื้นคอนกรีตเก่าๆ ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่ากางเกงมันขาดไปหรือยัง เพราะยิ่งไอ้มือลึกลับนั่นมันกระชากคอเสื้อฉันไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ฉันก็ยิ่งรู้สึกเจ็บสะโพก เจ็บขา เจ็บข้อเท้า และมันก็จุกที่คอจนหายใจไม่ออก
ไม่นะ ฉันต้องไม่มาตายที่นี่ ไม่...ไม่!!!
“เอิ้นนนน!!!!! เอิ้นนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!”
ฉันพยายามเพ่งมองใบหน้าของหมิวที่ค่อยๆ เบลอเลือนและห่างออกไปทุกที และเสียงเรียกนั้นก็คงเป็นเสียงสุดท้ายของหมิวที่ฉันได้ยิน เสียงเรียกแทบจะเป็นกรีดร้องของเพื่อนรัก...
“เอิ้นเคยหนีเราไปครั้งหนึ่ง...ต่อไปนี้...เราจะไม่ให้เอิ้นหนีเราไปไหนอีกแล้ว”
เสียงทุ้มกังวานพูดอย่างเย็นชาอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะกระชากคอเสื้อฉันอย่างสุดแรง! แม้ฉันจะเจ็บและจุกที่คอ หากนั่นมันเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที เพราะหลังจากนั้นสติของฉันก็ดับวูบลงพร้อมกับที่ทุกสิ่งทุกอย่างในหัวสมองก็หายวับไป...
คำสัญญา ตอนที่ 4 [ตอนที่1-3 อยู่ในกระทู้แรกนะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ]
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4_
“เอิ้น ฉะ...ฉัน...ฉันว่าแกรีบๆ ออกมาเถอะนะ ขอร้องล่ะ” หมิวบอกเสียงสั่นเหมือนคนจะร้องไห้ ฉันที่เห็นว่าบรรยากาศมันชักจะยังไงๆ แล้วจึงได้ตัดสินใจหมุนตัวกลับทันที พอหมิวเห็นดังนั้นก็รีบกลับเข้าไปในรถเพื่อสตาร์ทรถเตรียมรอ
“เราไม่ให้เอิ้นไป!!!”
หากยังไม่ทันที่ฉันจะเอื้อมมือไปจับบานประตู เสียงทุ้มดุดันก็ดังขึ้นพร้อมกับที่ประตูเหล็กทั้งสองบานประกบปิดเข้าหากันอย่างแรง! ฉันเบิกตากว้าง ถลาตัวเข้าไปเอามือเขย่าๆ ประตูเหล็กให้มันเปิดออก แต่ทว่ามันกลับปิดสนิทแน่นทั้งที่ไม่มีอะไรมาล็อก!
หมิวที่ยังนั่งอยู่ในรถ พอเห็นว่าฉันติดอยู่ในนี้ก็รีบเปิดประตูออกมาหน้าตาตื่น เราทั้งสองคนช่วยกันเขย่าประตูแรงๆ จนเล่นเอาเหนื่อยทั้งคู่
“เอิ้น รอเดี๋ยวนะ แกอย่าเพิ่งไปไหนนะ รออยู่ตรงนี้นะ” หมิวย้ำให้ฉันยืนอยู่ที่เดิม ส่วนเธอก็รีบวิ่งกลับไปที่รถ แม้กระจกรถของหมิวจะเป็นสีดำ แต่เพราะแสงที่ส่องลอดเข้ามาทำให้ฉันพอจะมองเห็นว่าเธอดึงโทรศัพท์ฉันออกมาจากที่ชาร์ตสำรอง แล้วเอามาโทร. ตรงหน้าฉัน หมิวเลื่อนรายชื่อลงมาจนเห็นเบอร์ของพ่อฉัน เธอจึงได้กดโทร. ออก แต่ทว่า...
“โอ้ยยย พ่อเอิ้นนน ขอร้องเถอะค่ะ รับสายทีเถอะนะคะ...รับเถอะ...รับเถอะ...”
หมิวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่ไม่มีคนรับ ฉันจึงได้บอกให้เธอโทร. หาพี่ชายฉัน หมิวก็รีบกดตัดสายแล้วเปลี่ยนมาโทร. หาพี่ชายฉันแทน หากสีหน้าคล้ายกับคนจะร้องไห้ของเธอก็ทำให้ฉันเดาออกว่าคงไม่มีคนรับสายอีกเช่นกัน
“เราไม่ให้เอิ้นไป!!!”
ฉันจะดุ้งเฮือก
เสียงนั้น...เสียงนั้นอีกแล้ว คราวนี้ฉันแน่ใจแล้วว่ามันไม่ใช่เสียงของหมิว แต่มันเป็นเสียงของผู้ชาย! และถึงฉันจะไม่รู้ว่าเขารู้ชื่อฉันได้ยังไง แต่นั่นมันก็ไม่สำคัญเท่ากับที่เขาไม่ยอมให้ฉันไป!
“อ๊ะ รับแล้ว พี่อั้นคะ”
“กรี๊ดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!! หมิว!!! หมิวช่วยฉันด้วย! พี่อั้น!!! พี่อั้นช่วยเอิ้นด้วย!!!! พี่อั้นนนนน!!!!!”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ดีใจที่พี่อั้นรับสาย ความรู้สึกที่เหมือนถูกใครกระชากคอเสื้อแรงๆ ก็ทำให้ร่างฉันหล่นก้นกระแทกไปด้านหลังอย่างแรง หมิวหันมาเบิกตากว้างใส่ฉัน ตะโกนโหวกเหวกจะเข้ามาช่วยแต่ก็ทำได้เพียงแค่เขย่าประตูและร้องเรียกเสียงดัง ส่วนฉันที่ถูกมือลึกลับเอาแต่กระชากคอเสื้อแรงๆ ก็เลื่อนตัวครืดๆ ไปกับพื้นคอนกรีตหนานั่น นี่มันก็โชคดีแค่ไหนแล้วที่วันนี้ฉันสวมกางเกงยีนส์ขายาวมา ไม่งั้นฉันว่าพื้นคอนกรีตในตอนนี้คงต้องอาบไปด้วยเลือดของฉันแน่! แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผ้ายีนส์หรือจะสู้ความขรุขระของพื้นคอนกรีตเก่าๆ ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่ากางเกงมันขาดไปหรือยัง เพราะยิ่งไอ้มือลึกลับนั่นมันกระชากคอเสื้อฉันไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ฉันก็ยิ่งรู้สึกเจ็บสะโพก เจ็บขา เจ็บข้อเท้า และมันก็จุกที่คอจนหายใจไม่ออก
ไม่นะ ฉันต้องไม่มาตายที่นี่ ไม่...ไม่!!!
“เอิ้นนนน!!!!! เอิ้นนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!”
ฉันพยายามเพ่งมองใบหน้าของหมิวที่ค่อยๆ เบลอเลือนและห่างออกไปทุกที และเสียงเรียกนั้นก็คงเป็นเสียงสุดท้ายของหมิวที่ฉันได้ยิน เสียงเรียกแทบจะเป็นกรีดร้องของเพื่อนรัก...
“เอิ้นเคยหนีเราไปครั้งหนึ่ง...ต่อไปนี้...เราจะไม่ให้เอิ้นหนีเราไปไหนอีกแล้ว”
เสียงทุ้มกังวานพูดอย่างเย็นชาอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะกระชากคอเสื้อฉันอย่างสุดแรง! แม้ฉันจะเจ็บและจุกที่คอ หากนั่นมันเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที เพราะหลังจากนั้นสติของฉันก็ดับวูบลงพร้อมกับที่ทุกสิ่งทุกอย่างในหัวสมองก็หายวับไป...