อ้างอิง
https://www.facebook.com/nongahe.nishapa
--------
ความหมายของผ้าที่ผูกกับไม้ไผ่เหนือจิตกาธาน
งานประชุมเพลิง “อุปกรณ์สอนธรรม” ท่าน อ.กำพล ทองบุญนุ่ม
แต่เดิมที่เผาศพชาวภาคใต้ นิยมทำขึ้นเป็นการชั่วคราว ยังไม่มีเชิงตะกอนถาวร จึงจัดทำโดยเตรียมสถานที่ ด้วยการทำบ่อขึ้นชั่วคราวโดยใช้วัสดุทนไฟจำพวกอิฐวางเรียงกันขึ้นสูงไม่มากชั้นพอให้มั่นคง เพื่อกำหนดอาณาบริเวณ สำหรับนำศพขึ้นวางตรงกลางบ่อบนท่อนไม้หรือปรัมพิธีเชิงตะกอนที่สร้างขึ้นด้วยการนำไม้เนื้ออ่อนจำพวกสนมาตัดเป็นท่อนยาวๆ วางขัดกันให้มั่นคงสูงราว 1 เมตร ตรงกลางบ่อ ที่เห็นกรอบสี่เหลี่ยมจะปักเสาขึ้น 4 ต้น มีเพดานด้านบนเรียกว่า “สามสร้าง” หรือ”สามส้าง” การที่เรียก “สามส้าง” มีบางท่านอธิบายว่าเป็นปริศนาธรรม คือ เสาทั้ง 3 เสา แทน “การสร้าง” ภพและชาติ ส่วนเสาที่ 4 เป็นเสาพิเศษที่ให้หลุดพ้นจากการสร้าง กล่าวคือ เสาที่ 1 หมายถึง กิเลสตัณหา อุปาทาน เสาที่ 2 ได้แก่ กรรมหรือการกระทำ เสาที่ 3 ได้แก่ วิบาก (ผลของกรรม) ส่วนเสาที่ 4 หมายถึงพระนิพพาน คือผู้ที่หมดกิเลสตัณหา ลอยบุญลอยบาปได้แล้ว เป็น “อัพพยากตากรรม” หมายถึง เป็นการสิ้นภพสิ้นชาติ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
สีผ้าเพดานบนเชิงตะกอน มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ จะใช้ในพิธีประชุมเพลิงของผู้มีศีลมีธรรม ความหมายในทางธรรม คือ บุคคลนั้นในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ตราบจนละสังขาร ท่านดำรงอยู่ในปาริสุทธิศีล ๔ หมายถึง ความประพฤติบริสุทธิ์ ที่จัดเป็นศีล หรือศีลเป็นเครื่องทำให้บริสุทธิ์ มี ๔ ประเภท
๔ ประเภท คือ
๑.ปาฎิโมกขสังวรศีล หมายถึงการสำรวมในปาฏิโมกข์
๒.อินทรียสังวรศีล หมายถึงการสำรวมในตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ
๓.อาชีวปาริสุทธิศีล หมายถึงการเลี้ยงชีพในทางที่ชอบธรรม
๔.ปัจจัยสันนิสิตศีล หมายถึง การพิจารณาก่อนบริโภทปัจจัย๔
ข้างบนนั้นเป็นความหมายในทางธรรม
ส่วนอีกความเชื่อหนึ่ง ที่คนโบราณเชื่อและเล่าสืบต่อกันมา คือ ความเชื่อที่ว่า เมื่อมีการประชุมเพลิง ผู้มีบุญหรือมีศีลบริสุทธิ์นั้น เหล่าเทวดานางฟ้าที่อยู่เบื้องบน ท่านจะมาชุมนุมร่วมอนุโมทนาส่งสังขารด้วย ผ้าเพดานจะช่วยกันความร้อนไม่ให้ร้อนไปถึงสวรรค์ชั้นที่เทวดานางฟ้าเหล่านั้นมาชุมนุมกัน ถ้าเป็นภิกษุสงฆ์ ผ้าเพดานจะเป็นสีกลักหรือสีจีวร แต่กรณีเป็นฆราวาสจะใช้สีขาว แทนความบริสุทธิ์
อ.กำพล ทองบุญนุ่ม ก่อนสิ้นลม ท่านได้กล่าวขอบคุณผู้ดูแลใกล้ชิดท่าน โดยท่านบอกว่า ชาตินี้ไม่เคยทำบาปทำกรรมเลย พร้อมมอบปัจฉิมโอวาทด้วยว่า “บรรลุธรรมเป็นแค่เพียงคำพูด ความไม่ทุกข์ เป็นของจริง” การจากไปอย่างหมดจดงดงามนี้ คือเครื่องยืนยันความบริสุทธิ์ และคุณงามความดีของท่าน ที่จะเป็นอนุสติเตือนใจเหล่าญาติธรรมทั้งหลาย ที่ยังครองชีวิตอยู่ว่าจะน้อมนำคำครูไปประพฤติปฏิบัติ ได้ดังเฉกเช่นอุปกรณ์ธรรม ที่ท่านกำลังแสดงธรรมแม้ในยามสุดท้ายนี้หรือไม่
ความงดงามประการหนึ่งของการสร้างจิตกาธานท่านอุปกรณ์สอนธรรม อ.กำพล ทองบุญนุ่มครั้งนี้ คือ คณะพระคุณเจ้าและแม่ชีจากวัดป่าสุคะโต วัดภูเขาทอง ฯลฯ และญาติธรรม ต่างช่วยกันลงแรงลงใจลำดับการสร้างอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยท่ามกลางความร้อนระอุของแสงแดดในช่วงปลายเดือนเมษายน ภายในเวลาไม่เกิน 5 วันก็แล้วเสร็จสมบูรณ์ เรียบง่ายและงดงามตามความประสงค์ของท่านอุปกรณ์สอนธรรม จึงขอกราบอนุโทนาสาธุ มา ณ ที่นี้
กราบอนุโมทนาสาธุ ท่านอุปกรณ์สอนธรรม อ.กำพล ทองบุญนุ่ม คณะพระคุณเจ้า แม่ชี ญาติธรรมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ชาวชมรมเพื่อนคุณธรรม ทีมผู้อยู่เบื้องหลังพิธีการทุกท่าน ตลอดจนผู้มีส่วนเผยแพร่ธรรมทุกท่าน
ขอบพระคุณผู้ให้ข้อมูล คุณ Neng Tieo คุณลุงนกฮูก ศิวิลัย, คุณ Jira Bunprasop และทุกท่านที่เอื้อเฟื้อข้อมูล สาธุ
---
*** ....ความหมายของผ้าที่ผูกกับไม้ไผ่เหนือจิตกาธาน..*** (ภาพจากงานประชุมเพลิง อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม)
https://www.facebook.com/nongahe.nishapa
--------
ความหมายของผ้าที่ผูกกับไม้ไผ่เหนือจิตกาธาน
งานประชุมเพลิง “อุปกรณ์สอนธรรม” ท่าน อ.กำพล ทองบุญนุ่ม
แต่เดิมที่เผาศพชาวภาคใต้ นิยมทำขึ้นเป็นการชั่วคราว ยังไม่มีเชิงตะกอนถาวร จึงจัดทำโดยเตรียมสถานที่ ด้วยการทำบ่อขึ้นชั่วคราวโดยใช้วัสดุทนไฟจำพวกอิฐวางเรียงกันขึ้นสูงไม่มากชั้นพอให้มั่นคง เพื่อกำหนดอาณาบริเวณ สำหรับนำศพขึ้นวางตรงกลางบ่อบนท่อนไม้หรือปรัมพิธีเชิงตะกอนที่สร้างขึ้นด้วยการนำไม้เนื้ออ่อนจำพวกสนมาตัดเป็นท่อนยาวๆ วางขัดกันให้มั่นคงสูงราว 1 เมตร ตรงกลางบ่อ ที่เห็นกรอบสี่เหลี่ยมจะปักเสาขึ้น 4 ต้น มีเพดานด้านบนเรียกว่า “สามสร้าง” หรือ”สามส้าง” การที่เรียก “สามส้าง” มีบางท่านอธิบายว่าเป็นปริศนาธรรม คือ เสาทั้ง 3 เสา แทน “การสร้าง” ภพและชาติ ส่วนเสาที่ 4 เป็นเสาพิเศษที่ให้หลุดพ้นจากการสร้าง กล่าวคือ เสาที่ 1 หมายถึง กิเลสตัณหา อุปาทาน เสาที่ 2 ได้แก่ กรรมหรือการกระทำ เสาที่ 3 ได้แก่ วิบาก (ผลของกรรม) ส่วนเสาที่ 4 หมายถึงพระนิพพาน คือผู้ที่หมดกิเลสตัณหา ลอยบุญลอยบาปได้แล้ว เป็น “อัพพยากตากรรม” หมายถึง เป็นการสิ้นภพสิ้นชาติ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
สีผ้าเพดานบนเชิงตะกอน มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ จะใช้ในพิธีประชุมเพลิงของผู้มีศีลมีธรรม ความหมายในทางธรรม คือ บุคคลนั้นในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ตราบจนละสังขาร ท่านดำรงอยู่ในปาริสุทธิศีล ๔ หมายถึง ความประพฤติบริสุทธิ์ ที่จัดเป็นศีล หรือศีลเป็นเครื่องทำให้บริสุทธิ์ มี ๔ ประเภท
๔ ประเภท คือ
๑.ปาฎิโมกขสังวรศีล หมายถึงการสำรวมในปาฏิโมกข์
๒.อินทรียสังวรศีล หมายถึงการสำรวมในตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ
๓.อาชีวปาริสุทธิศีล หมายถึงการเลี้ยงชีพในทางที่ชอบธรรม
๔.ปัจจัยสันนิสิตศีล หมายถึง การพิจารณาก่อนบริโภทปัจจัย๔
ข้างบนนั้นเป็นความหมายในทางธรรม
ส่วนอีกความเชื่อหนึ่ง ที่คนโบราณเชื่อและเล่าสืบต่อกันมา คือ ความเชื่อที่ว่า เมื่อมีการประชุมเพลิง ผู้มีบุญหรือมีศีลบริสุทธิ์นั้น เหล่าเทวดานางฟ้าที่อยู่เบื้องบน ท่านจะมาชุมนุมร่วมอนุโมทนาส่งสังขารด้วย ผ้าเพดานจะช่วยกันความร้อนไม่ให้ร้อนไปถึงสวรรค์ชั้นที่เทวดานางฟ้าเหล่านั้นมาชุมนุมกัน ถ้าเป็นภิกษุสงฆ์ ผ้าเพดานจะเป็นสีกลักหรือสีจีวร แต่กรณีเป็นฆราวาสจะใช้สีขาว แทนความบริสุทธิ์
อ.กำพล ทองบุญนุ่ม ก่อนสิ้นลม ท่านได้กล่าวขอบคุณผู้ดูแลใกล้ชิดท่าน โดยท่านบอกว่า ชาตินี้ไม่เคยทำบาปทำกรรมเลย พร้อมมอบปัจฉิมโอวาทด้วยว่า “บรรลุธรรมเป็นแค่เพียงคำพูด ความไม่ทุกข์ เป็นของจริง” การจากไปอย่างหมดจดงดงามนี้ คือเครื่องยืนยันความบริสุทธิ์ และคุณงามความดีของท่าน ที่จะเป็นอนุสติเตือนใจเหล่าญาติธรรมทั้งหลาย ที่ยังครองชีวิตอยู่ว่าจะน้อมนำคำครูไปประพฤติปฏิบัติ ได้ดังเฉกเช่นอุปกรณ์ธรรม ที่ท่านกำลังแสดงธรรมแม้ในยามสุดท้ายนี้หรือไม่
ความงดงามประการหนึ่งของการสร้างจิตกาธานท่านอุปกรณ์สอนธรรม อ.กำพล ทองบุญนุ่มครั้งนี้ คือ คณะพระคุณเจ้าและแม่ชีจากวัดป่าสุคะโต วัดภูเขาทอง ฯลฯ และญาติธรรม ต่างช่วยกันลงแรงลงใจลำดับการสร้างอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยท่ามกลางความร้อนระอุของแสงแดดในช่วงปลายเดือนเมษายน ภายในเวลาไม่เกิน 5 วันก็แล้วเสร็จสมบูรณ์ เรียบง่ายและงดงามตามความประสงค์ของท่านอุปกรณ์สอนธรรม จึงขอกราบอนุโทนาสาธุ มา ณ ที่นี้
กราบอนุโมทนาสาธุ ท่านอุปกรณ์สอนธรรม อ.กำพล ทองบุญนุ่ม คณะพระคุณเจ้า แม่ชี ญาติธรรมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ชาวชมรมเพื่อนคุณธรรม ทีมผู้อยู่เบื้องหลังพิธีการทุกท่าน ตลอดจนผู้มีส่วนเผยแพร่ธรรมทุกท่าน
ขอบพระคุณผู้ให้ข้อมูล คุณ Neng Tieo คุณลุงนกฮูก ศิวิลัย, คุณ Jira Bunprasop และทุกท่านที่เอื้อเฟื้อข้อมูล สาธุ
---