เมื่อเราได้เจอครอบครัวแฟนครั้งแรก O_O!

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกถ้าผิดพลาดยังไง ขออภัยด้วยนะคะ จะมาเล่าประสบการณ์ของเรากับแฟนค่ะ เราอยู่ไทย ส่วนแฟนอยู่อเมริกาค่ะ

               จะเล่าถึงตอนที่พอดีมีโอกาสไปอเมริกาแล้วได้มีเจอกับครอบครัวของแฟนค่ะ เรากับแฟนคบกันมา 5 ปี เจอกันครั้งแรก เค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนเราค่ะ พอดีได้รู้จักกันก็คุยกันเรื่อยมาจนเป็นแฟนกันได้ไง??? ไม่รู้เหมือนกัน 55+ เอาเป็นว่าหลังจากคบกันมา 5 ปี ก็ได้ไปเจอพ่อแม่ของแฟนสักที คือจริงๆแล้วที่ไม่เคยได้เจอก่อนหน้านี้ไม่ใช่อะไรนะคะ คือ เค้าเรียนอยู่คนละรัฐกับที่บ้านเกิดเค้า เราก็เลยเคยไปแต่รัฐที่เค้าเรียน แล้วตัวเค้าเองก็กลับบ้านน้อยมาก ทางบ้านเค้าก็รับรู้ว่า โอเคลูกเค้าคบกับคนนึงอยู่ ... รู้ได้ยังไง คือ

                เป็นครั้งแรกที่เราไปเยี่ยมเค้าที่อเมริกาหลังจากที่เริ่มคบกัน...วันนึงเรากำลังจะกลับไทยค่ะ แฟนก็มาส่งที่สนามบิน เราถามเค้าว่า โอเคเมื่อไหร่จะมาเยี่ยมเรา (อันนี้คือถามขำๆ)

แฟน : เดี๋ยวดูก่อนนะ เค้าจะกลับเกาหลีเหมือนกัน อาจจะได้แวะไป
เราก็ไม่อะไร เฉยๆนั่งรอเวลาจะเข้า Gate สักพักนางก็โทรหาพ่อ
แฟน : ป๊า พอดีว่า ตอนที่ไปเกาหลีถ้าจะขอแวะไปเที่ยวที่อื่นก่อนกลับอเมริกาได้มั้ย (เรานี่อึ้งค่ะ ... ดีใจมากแต่น้อยกว่าถูกLottery) =\\\=
เค้าคุยกับพ่อสักพัก แล้วเหมือนก็วางไป ... แล้วพ่อเค้าก็ส่งข้อความกลับมาว่า "You want to visit just a friend or more than that?" เพื่อนหรือ??
แฟนเราก็เอาให้เราดูแล้ว
แฟน : แล้วทีนี้เราจะตอบพ่อเรายังไง ... (เราก็แบบ ... เป็นผู้หญิงเนอะ ... I don't know  5555+)
เค้าก็น่ารักบอกว่า Special someone แล้วก็ส่งไปหาพ่อ แต่เราจำหลังจากนั้นไม่ได้แล้ว 555+

                กลับเข้าเรื่อง คือเค้าเป็นแฟนคนแรกของเราค่ะ เราไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย =\\\= (ยังจะกล้าหาญมีรักทางไกลเนอะ) ก็เลยยังไม่เคยเจอพ่อแม่ของใครเลยสักคน แล้วนี่ยิ่งเป็นเกาหลี ... นี่ทำไงดีตอนนั้นแอบเครียด คือ บ้านเค้าอยู่กันครบพ่อ แม่ พี่น้อง 3 คน ตอนแรกเรากะว่า เราจะไปเที่ยวแล้วพักโรงแรมเอาแล้วค่อยไปเยี่ยมแฟนกะที่บ้านเค้า แต่พ่อแม่แฟนบอกว่า มานอนที่บ้านเค้าแหละ เค้ามีห้องให้ งือออ... พีค คือ น้องชาย น้องสาวเค้าก็จะกลับบ้านอาทิตย์ที่เราไปพอดี คือ Full house .___.

เราก็ถามแฟนเราว่า "นี่เราจะคุยอะไร แล้วเราจะต้องทำยังไง นี่นั่น เราต้องแต่งตัว ยังไงหรอ แล้วต้องพูดเกาหลีหรอ พูดไม่ได้นะ"... แต่แฟนเราก็บอกว่า "ไม่เป็นไรหรอกก็ตามที่เธอเป็นแหละ ตามนั้น"

เราไม่แต่งตัวค่ะ คือแต่งตัวบ้านๆ ออกแนว Sport =.= ก็ไม่หวานมากเท่าไหร่ ออกเค็มๆ ไม่สิ... ยังไงก็แล้วแต่วันที่เท้าแตะสนามบินก็มาถึง ...เราถึงก่อนเวลาที่เครื่องควรจะลง 1 ชั่วโมงกว่า เราก็ msg บอกแฟนเราว่า

เรา : "นี่ถึงแล้ว แต่ยังไม่ต้องมาก็ได้มาตามเวลาเดิม"
แฟน : " เดี๋ยวเค้าเลิกงานแล้ว พ่อเค้าอยากจะไปรับด้วย "
เรา : " ไม่ต้องก็ได้ มันดึกให้พ่อนอนเหอะ"
แฟน : " ไม่เป็นไรแล้วเจอกัน "

               ขอเม้าท์เจ้เอเชียในสนามบิน #เรียกเจ้เอเชียคือหน้า บอกว่าเป็น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น หรือสักอย่างแถบเราแน่ๆ นางคุยโทรศัพท์ข้างๆเรา เราก็เฉยๆไม่ได้อะไร เราเดินไปรับกระเป๋าก็จะหาที่นั่งรอ นางก็เอารถเข็นบังที่นั่งไว้ที่นึง เราพยายามจะของนั่ง นางก็ไม่สนใจ ... เราก็แบบ Flower ... ยืนก็ได้วะก็ยืนไปสักพัก 30 นาที นางก็ยังคุยไปเรื่อยๆ จนคิดว่านางเริ่มปวดฉี่ นางก็ลุกไปพร้อมกระเป๋าตั้งรกรากของนาง เราก็ "เสียม้านะเธอ" และก็มีอีก 2 คนเป็น African - American มานั่งคือที่นั่งเต็มขณะนั้น พอเจ้เอเชียกลับมา นางก็ทำหน้าเหวี่ยงๆ แล้วคุยโทรศัพท์ต่อ ... คือเรานั่งจนรู้ว่า นางจะไปเที่ยวที่ไหน กี่วัน ทำอะไรบ้าง กินอะไรบ้าง เจอกับใคร มารับกี่โมง ... ไม่ได้แอบฟังนะ คือนางพูดดังจริงๆ แล้วแบบ AA 2 คนที่นั่งข้างเราเค้าก็เริ่มดังแข่ง คุยกันแบบเหมือนอยู่ใน Chinatown T__T รู้สึกผิดที่แย่งที่นั่งนาง #แต่ฟังๆทริปนางก็น่าไปดี...ไม่ใช่ละ


              ในที่สุด แฟนเราก็มากะพ่อเค้าอ่ะเค โดดขึ้นรถนี่นั่น กระเป๋าเราใหญ่มากอ่ะ เพราะจากเยี่ยมแฟนแล้วเราต้องไปที่อื่นต่อก็โอเค ระหว่างอยู่ในรถปัญหาที่ใหญ่มากคือ คนไทยเวลาเจอคนที่แก่กว่า ไม่แก่มากก็พี่ / แก่หน่อยก็น้า-อา / แก่ขึ้นก็ลุงป่ะ ... คือเราก็กะจะเรียกเค้าว่า Uncle แต่เราก็ไม่แน่ใจว่า เกาหลีมันจะเหมือนกันไหม หรือเราต้องเรียกอย่างอื่นหรอ?

เรา : *กระซิบ* เราจะเรียกพ่อเธอว่าอะไรดี
แฟน : ไม่รู้เหมือนกัน Mr... มั้ง
เรา : แน่ใจหรอ? เรียกลุงได้ไหม?
แฟน : เอ้ย ไม่ได้ ... ช่างเหอะ เดี๋ยวถามให้

*อยู่ท่ามกลางความเงียบต่อไป* 1 ชั่วโมงก็ถึงบ้านแฟนเรา

                แม่แฟนเราก็ออกมาต้อนรับที่หน้าประตู T__T นั่นคือ อีก 10 นาทีเที่ยงคืน เท้อออออ ชั้นรู้สึกผิดมากเลยทีเดียว นี่เค้าตื่นกันทั้งบ้านเลย งืออเราได้อยู่ห้องรับแขกข้างล่าง คือห้องจัดไว้ดีมากมาก ก็อ่ะย้ายของนี่นั่นวันแรกถึงก็หลับค่ะ เหนื่อยมากจริง

                เช้าวันรุ่งขึ้นคือ เราตื่นเช้ามายัง Jet lag อยู่ก็อ่ะตื่นมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า เดินออกมาข้างนอกห้อง มีกลิ่นกาแฟแต่ไม่มีคน เราก็แบบทำไงดีจะกลับเข้าห้องนอนดี หรือว่ายังไงพอดีเห็นประตูที่เปิดไปสวนมันเปิดอยู่ ก็เลยอ่ะ อาจจะมีคนอยู่ข้างนอกเดินไปดู ปรากฏว่า พ่อแฟนเดินอยู่ข้างนอก เราก็เอ่อ... จะหันกลับไม่ทันแล้วเธอ ก็ไปสวัสดีเค้า เค้าก็ยิ้มๆ เราเลยถามเค้าว่า

เรา : เอ่อ ขอโทษนะคะ หนูจะต้องเรียกคุณว่าอะไรคะ คือหนูไม่รู้จริงค่ะ (สุภาพเว่อร์)
พ่อแฟน : อ่อ เรียก Mr... ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ ผมค่อนข้างชิวๆนะ
เรา : (ก็ยังกลัวอยู่) ค่ะ
พ่อแฟน : เรานี่ตื่นเช้าเนอะ
เรา : (แน่สิ...มาบ้านคนอื่นตื่นสาย ไม่ใช่แค่เค้ามองไม่ดี แม่ที่บ้านอาจจะด่าด้วย) อ๋อพอดีว่า นอนมาในเครื่องเยอะน่ะค่ะ

หลังจากนั้นก็ถามเราเรื่องเรียน เรื่องที่บ้าน เรื่องต่างๆนานา ถึงหัวข้อนึงที่พีค คือ Interracial relationship ไม่แน่ใจใช้คำนี้ถูกมั้ย แต่พ่อเค้าใช้คำนี้อ่ะ คือแฟนเราเป็นเกาหลี อเมริกัน (คือเกาหลีแท้ๆนี่แหละ แต่เกิดที่อเมริกาโตที่นู่นเลย) พ่อแฟนก็บอกว่า เค้าโอเคนะ ไม่ได้อะไร ถ้าเข้ากันได้ก็ดี แต่อาจจะมีหลายๆอย่างที่ต้องปรับเข้าหากัน #ถามตรงมาก คือทำไมเป็นคนตรงอย่างงี้ เราก็อึ้งๆแล้วก็ยิ้มๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร ในที่สุดก็มีคนมาช่วยยยยแฟนเราตื่นแล้ว T___T พอนางเดิมมาพ่อเค้าก็ทัก แล้วเราก็คุยเรื่องอื่นกัน


                อาหารเช้า ... แม่เค้าตื่นมาทำอาหารเช้าให้ทุกคนในบ้าน คือเป็นมื้อที่อลังการมาก เราว่าแฟนเราคงไปบอกว่าเราชอบ Strawberry ก็เลยได้ fruit salad กับแพนเค้กแล้วก็ต๊อกบ๊อกกี้ย่าง ส่วนตัวไม่ได้ปลื้มอาหารเกาหลี หรือดูซีรี่ย์ (เรื่องล่าสุดที่เคยดูคือ แดจังกึม) ต๊อกบ๊อกกี้ก็เหนียวๆอร่อยดีเหมือนกัน คือแม่แฟนจะไม่ค่อยพูดอังกฤษจะพูดแต่เกาหลี ส่วนพ่อแฟนพูดอังกฤษ แต่เวลาเค้าอยู่ในบ้านเค้าก็จะพูดเกาหลีกัน (นี่ฟังอะไรไม่ออกเลย) พอดีแฟนเราต้องออกไปอยู่เวรแทนเพื่อนประมาณ 5 ชั่วโมง เราก็เริ่มหน้าเสีย แบบ T___T งืออ ให้อยู่กะพ่อแม่เธอ เฉยๆแล้วชั้นจะทำอะไรเหรอ (อย่าเพิ่งเข้าใจเราผิดนะคะ คือเราไม่เคยอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติหรือพ่อแม่มาก่อน แล้วยิ่งเค้าเป็นพ่อแม่ของแฟน เราก็ยิ่งเกร็งมากๆ) เราก็อ่ะโอเคกินเสร็จพยายามจะช่วยเค้าเก็บจาน แต่แม่เค้าก็บอกว่า ไม่ต้องๆ เราก็แบบอ่าา โอเค

                หลังจากนั้นแฟนเราก็ไปทำงานค่ะ เราก็อยู่บ้านแล้วพอเที่ยงแม่เค้าก็เรียกทานข้าวอีก ... นี่คือไม่ชินมากๆ ปกติกินมื้อเดียวหรือสองมื้อก็อะ บ้านคนอื่นก็กินไป จะช่วยเก็บจานเค้าก็ห้ามอีก แล้วพอดีบ่ายๆแม่เค้าซักผ้า เราเห็นเค้าเอาผ้าออกมากองจะพับ เราก็เลยบอกว่า เราเบื่อเราช่วยพับนะ ตอนแรกเค้าก็บอกว่า ไม่ต้อง สักพักเค้าก็ยอมให้เราทำอะไรบ้าง  555+ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก (คือเราไม่ได้เป็นคนดีนะ แต่เราเกรงใจที่เรามานอนเฉยๆกินข้าวบ้านเค้า แล้วไม่ทำอะไรเลย) หลังจากนั้นคือแม่เค้าก็ให้เราทำนู่นทำนี่มากขึ้น ให้เราช่วยจัดโต๊ะกินข้าวนี่นั่น เราก็สบายใจขึ้นหน่อยไม่เกร็งมาก

                ปัญหาต่อไป ... กิมจิ ... เราชอบกินซุปกิมจินะ แต่กิมจิเย็นนี่ไม่ไหวจริงๆ T____T เธอคงจะอยากรู้ว่า มีแฟนเกาหลี ไม่กินกิมจิ? คือแฟนเรากินกิมจินะ แต่ไม่ Hardcore คือเค้ากินนิดๆ แต่ไม่ได้จำเป็นว่าต้องมีทุกมื้อ ส่วนใหญ่มันก็จะมาในจานน้อยๆ แฟนเรากินคนเดียวก็หมด เราก็ไม่ต้องกินแต่ทีนี้แม่แฟนเราทำเอง เธอออออออ มีตู้เย็น 5 ตู้สำหรับใส่กิมจิ เหมือนจะเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน

                บนโต๊ะอาหารเย็น : แม่เค้าทำกับข้าวประมาณ​3 อย่าง มีหมูผัดสักอย่าง (ทำไมหมูใช่ไหม ... เราไม่กินเนื้อจ้า ... บ้าไปแล้ว อยู่กะเกาหลีไม่กินเนื้อ) ท้าวความนิดนึง คือจริงๆเราเคยแอบกังวลเพราะเราไม่กินเนื้อ แต่เกาหลีกะเนื้อ และยิ่งอเมริกันกับเนื้อนี่ยิ่งขาดกันไม่ได้แต่จะทำยังไงง่ะ เจ้าแม่กวนอิมยังห้อยอยู่ที่คอ... วันนั้นอาหารเย็นไม่มีเนื้อวัวเลย ก็มีหมูกับปลา และ ... กิมจิ

แม่แฟน : ลองกินนี่ดู (คีบกิมจิไชเท้าให้เรา)
เรา : ขอบคุณค่ะ (น้ำตาตกใน T___T ตายล้าวววว ก็ฝืนกินไปนะเคี้ยวแบบช้าๆ กลัวเค้าตักให้อีก 555+)
พ่อแฟน : ปกติเรากินกิมจิที่ทำได้ไม่กี่เดือน ส่วนกิมจิที่เก็บเป็นปีนั่นเอาไว้ทำอาหาร แต่เดี๋ยวจะเอามาให้ลอง
เรา : อ๋อ คือไว้วันหลังก็ได้ค่ะ ตอนนี้อาหารเยอะแล้วเหมือนกัน (1 เดือนชั้นยังแย่เลย 2 ปีชั้นไม่ตายไปเลยอ่อ T___T)

               เราเป็นคนกินยากมากกก คือเลือกกินโคตรๆ กินอะไรก็จะกินซ้ำๆ แต่ก็มาเจอแบบนี้ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน แต่เราว่ากับกิมจิ เราคงมาเจอกันได้แค่ครึ่งทาง ไม่ควรไปต่อ ควรทิ้งเราไว้กลางทางเถอะนะกิมจิ T__T ดีนะที่แฟนเราไม่ได้คลั่งไคล้กิมจิมาก ไม่งั้นเราอาจจะต้องคิดหนักหน่อย เรื่องกินใครว่าเรื่องเล็ก ไม่เล็กนะก๊ะ แล้วอีกอย่างคือ เราชอบกินนั่นนิด นี่หน่อย คือกินไม่ค่อยหมดเราก็ต้องฝืนกินให้หมดเพราะว่า มันคงจะดูไม่ดีเนอะถ้ากินอาหารที่เค้าทำให้ไม่หมด แต่อาหารอร่อยนะ เราแค่เป็นเรา 555+

               มีวันนึง ... พ่อเค้าพูดเรื่องอาหารไทย คือเธอเอาจริงๆ ที่บ้านนี่ไม่เคยเข้าครัวเลยค่า คืออบขนมบ้างแต่ทำข้าวเป็นชิ้นเป้นอันนี่ยังไม่เคยทำเลยเราก็แบบอ่อลองทำได้ค่ะ แต่หนูคิดว่ากินได้นะคะ ... เมนูที่ทำคือ ไข่พะโล้!! เธอคงจะคิดว่าเราจะเลือกทำไข่เจียวใช่ป่าว ไม่สิ เราต้อง advance กว่านั้นจริงๆไม่เคยทำเลยในชีวิต ... อ่ะลงมือไปซื้อของ ความพีคคือเปิดเน็ตคืนก่อนหน้าวันรุ่งขึ้นไปซื้อแล้วทำเลย เราก็ถามแม่เราว่าทำยังไง

แม่เรา : "ยังไงก็ได้อย่าไปพังครัวเค้านะลูก" (หนูรักแม่ค่ะ)

               ความที่ไม่เคยทำไข่พะโล้ อะไรคือ สามเกลอ??? รากผักชี พริกไทย กระเทียม อ่ะสับๆเอาไปคั่วในกระทะใส่ น้ำตาลปึก น้ำตาลปี๊บกะน้ำตาลมะพร้าวต่างกันยังไง ?? ไม่รู้เอาเป็นเวลาเอาอันนี้แหละใส่ไปอ่ะ คั่วนานแค่ไหนไม่รู้เหมือนกัน เครื่องพะโล้มันดันเป้นภาษาจีนอ่านไม่ออกอีก ก็หยิบแค่ ซินนามอนกับดาวใส่ลงไป (จำได้แค่นี้ว่าเคยเห็นในพะโล้) สุดท้ายเธออออ พะโล้ชั้นสีน้ำตาลเขียวๆ T___T คือไม่ได้คั่วให้ดีมาก แล้วแบบผักชีลอยกระจาย พะโล้สีเขียว... คือคงไม่ได้เห็นอีกแล้วชาตินี้ เพราะจะไม่ทำอีกแล้ว แต่พอกิน... เอ่อมันอร่อยดีนะ ไม่ได้ชมตัวเอง (คือมื้อถัดไปแม่เค้าให้ทำอีก) พะโล้สีเขียวของเราถือว่าผ่านค่ะ

***ไปทำงานก่อนเดี๋ยวมาต่อนะคะ ยิ้ม***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่