สวัสดีคะ นี้เป็นการตั้งกระทู้แรกของเรา อาจจะมีการเขียนผิดบ้าง ใช้ภาษาผิดบ้าง หรือเว้นวรรคคำไม่ถูกต้องบ้าง ยังไงก็ขอขอโทษด้วยนะคะ
เริ่มเรื่องเลยนะคะ เราเองก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึงคะ อายุก็ 28 หน้าตาไม่แย่ การศึกษาก็ไม่สูงเท่าไหร่ มีกิจการเป็นของตัวเองคะ ที่ต้องบอกว่ามีกิจการก็เพราะ มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราเจอมาคะ เมื่อปีที่แล้วเราได้เจอผู้ชายคนนึงคะ เจอกันทาง Line เพราะงานเรามันเป็นกลุ่มสาย เฉพาะทาง คนธรรมดาๆ ไม่สามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ต้องใช้ความชำนาญในด้านทนี้ค่อนข้างสูงคะ แล้ววันนึง ก็มีผู้ชายคนนึง ได้มาติดต่อสอบถามข้อมูลในงานของเราเข้ามา ขอเรียกชื่อย่อว่า คุณเอ เราเองก็ไม่รอช้าคะ รีบให้ข้อมูลในสิ่งที่คุณเอ อยากทราบทันที ขอบอกก่อนนะคะ เราไม่ใช้คนที่ชอบ ใครๆตาม Social อยู่แล้วคะ และเราก็ติดต่อกับคุณเอ มาเรื่อยๆ ตลอดๆ แต่สุดท้ายเค้าเองก็มาทำงานกับเราไม่ได้คะ ด้วยเหตุผลที่ว่า เค้าไม่สามารถ มาได้เพราะสถานที่ทำงานของเราอยู่ไกล และเค้าก็ไม่สามารถออกจากที่ทำงานที่นั้นได้คะ ในใจเราเองก็ยัง งงๆ ว่า ตอนที่เรารับสมัครหาคนทำงาน เราเองก็ระบุชัดเจนนะ ว่า สถานที่อยู่ไหน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคะ ไหนๆก็มารู้จักกันแล้ว ก็เกือบเค้าไว้ปรึกษาเรื่องอื่นๆ แล้วกัน หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกัน แต่ไม่ได้คุยกันทุกวันนะคะ มีเรื่องจำเป็นค่อยคุย ค่อยถาม ค่อยปรึกษากันคะ ก็ใช้เวลาคุยก็เกือบ 5-6 เดือนโดยประมาณคะ มีวันนึงคุณเอ บอกเราว่า จะมาทำธุระแถวนี้พอดี เราเองว่างไหมนัดเจอกัน ทานข้าวกัน เราเองก็ไม่ได้ปฏิเสธคะ ว่างๆ ทานข้าวเย็น สถานที่ก็ไม่ได้ล่อแหลมอะไร ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะต่างคนต่างไปเจอกันที่ร้านอาหารเลย เราเองก็ไม่ได้เป็นคนดื่มอยู่แล้ว ในใจก็ตลกตัวเองคะ ว่านี้ครั้งแรกที่เรานัดเจอคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน (การเจอคนที่ไม่รู้จักทางSocial ไม่ดีนะคะ อ่านแล้วก็อย่าเอาเป็นแบบอย่างนะคะ เพราะอาจจะโชคไม่ดีเหมือนเราคะ) พอนัดใกล้เวลานัดเจอกันเวลานั้น รู้สึกตื่นเต้นคะ แต่ก็หาจุดไม่เจอว่า ตื่นเต้นเรื่องอะไร พอเห็นหน้ากันครั้งแรกปุ๊บ อุทานในใจ แม่เจ้า!! นางเป็นผู้ชายแบบ เกือบสเป็คเลย เป็นคนดูเงียบๆ ดูมีการศึกษา สุภาพมาก เราเองก็เขินสิคะ รอไร..^^ หุหุ นั่งกินข้าวไป บิดไป หน้าแดงไป ก็ว่ากันไป เก็บอาการคะ เก็บหน่อย พอทานข้าวเสร็จก็แยกกันคะ เค้าก็กลับบ้านเค้า เราก็กลับบ้านเรา ในใจลุ้นๆ ว่าเค้าชอบเรารึเปล่า แต่ก็เตือนตัวเองคะ ว่าเราติดต่อกัน เรื่องงานเท่านั้น เพราะเรื่องส่วนตัวเราไม่เคยถามค่ะ เราก็ไม่ได้เล่าเรื่องส่วนตัวเราให้เค้าฟัง พอหลังจากวันนั้น เค้าก็เริ่มติดต่อเราหนักขึ้นคะ เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอน 14 ^^ โลกแบบว่า ชมพูมากมาย กลายเป็นว่า เค้าก็มาหาเราเรื่อยๆ บ่อยขึ้นๆ จนคนที่ทำงานรู้จักคุณเอ ในนาม แฟนเราคะ เราคบกันตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลย รู้อีกที คบกันละ เราเองก็ไม่ได้มีใครนิน๊าาาาาา 555 ใครๆที่เห็นเรากับคุณเอ ก็บอกว่า ดีนะ ดูเหมาะสมกันเลย เราทำงานแบบนี้ คุณเอก็ทำงานแบบนี้ เข้ากันสุดๆ ถึงไม่ได้ทำงานด้วยกันก็ตาม แต่ก็หนุนกันเป็นอย่างดี จากนั้นเราก็มีเค้าเป็นทั้งแฟน และที่ปรึกษาเรื่องกิจการของเรา เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราก็ได้ฤกษ์เปิดกิจการแล้ว เราก็ทำงานอย่างหนัก เตรียมงาน เตรียมความพร้อมทุกอย่าง แฟนเราก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีคะ จนถึงวันเปิด เค้าก็มางานเปิดกิจการเรา ตอนรับแขกที่มาในงานเรา เราก็แนะนำในแขกเรารู้จักคุณเอ ในนามแฟนเราเช่นกัน เราคบกันไปเรื่อยๆค่ะ ไม่มีปัญหากัน ไม่ทะเลาะกัน เค้าใจกันและกัน ไม่งี้เง่า เพราะงานของเค้าเหนื่อยมากค่ะ บางวันก็ไม่ได้นอน สุดสัปดาห์เราก็จะมาเจอกันทุกสัปดาห์ค่ะ พอมีเวลา เราก็ไปต่างจังหวัดกัน ไปต่างประเทศกัน เราคบกันทางบ้านทั้ง 2 ฝ่ายก็รับรู้ค่ะ แต่สิ่งที่ไม่ขาดฝันมักจะมาตอนที่เราไม่ได้เตรียมใจ เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาไม่นานค่ะ เราได้มีโอกาสหยิบมือถือเค้าขึ้นมาดู เรียกง่ายๆ เช็คมือถืออะค่ะ เราไม่ได้นิสัยไม่ดีนะ เพราะเวลาเจอกัน เค้าเช็คของเรามากกว่าอีก นี่ก็เป็นครั้งแรกที่อยากรู้ ก็เลยแอบดู ดูไปดูมา รูปก่อนเลยคะ ^^ ไม่เห็นมีไรเลยฮะ มีแต่งาน ในใจแอบคิด ส่งสัยเอาลงคอมไปหมดแล้วหละ app ที่2 ที่เราจะเช็ค 555 เด๋าไม่ยากเลยคะ นั้นคือ....... Line เปิดไป เปิดมา ก็ไปเจอ Line ผู้หญิงคนนึงที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าเค้าคือแฟนเก่า แต่ทำไงได้อะคะ มันอยากดูนิน๊าาา ด้วยความที่อยากรู้มาก เปิดเลยจร้า เอะๆ เดียวๆ ไม่เห็นมีข้อความไรเลย งั้นไม่มีข้อความก็ต้องมีรูปแน่ๆ ที่อยู่ใน Line ทันทีที่เปิดเข้าไปนั้น ความรู้สึกเหมือนโดน รถบรรทุกชน มันชั่งหนักหน่วงอะไรเช่นนี้ มือไม้สั่นไปหมด นางพึ่งไปเจอกันมาไม่นาน แล้วไม่ใช่นานๆเจอกัน เจอกันบ่อยด้วย โอโห้ โลกแทบแตก คิดในใจ เอาไงดีหว่าาาา เลิกเลยไหม ติดต๊อกๆๆๆๆๆ ตอนนั้นที่เจอยังไม่ร้องไห้นะคะ ร้องไม่ออก หรือลองถามดูก่อนว่ามันยังไง เพราะเราอาจจะเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว แต่เวลาที่เราคบกัน ก็ไม่ใช่เดือน 2เดือน มันก็เกือบจะปีแล้ว เพราะฉะนั้น เราขอฟังสิ่งที่เค้าพูดก่อน เราก็ถามเค้าด้วยวาจาที่สุภาพ ว่า
เรา : เอคะ นี้คืออะไรคะ มันหมายความว่าอะไร
เอ : อ่อ....รูปนานมาแล้ว (ในใจคิด มันนานหราาาาา เวลามันก็บอกอยู่)
เรา : งั้นเอาแบบนี้ไหม ถ้ายังรักเค้าอยู่ เราจะเป็นขอเดินออกมาเอง เพราะเราก็ไม่ใช่คนที่จะต้องมานั่งคบใครซ้อนไป ซ้อนมาแบบนี้
เอ : ไม่เอาอะ เรารักเธอนะ แต่คนนั้นเราพยายามเลิกนานแล้ว แต่เลิกไม่ได้เพราะว่า คบกันมา 9 ปีแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือความเป็นเพื่อนเท่านั้น แล้วรูปที่เห็นเค้าก็ไปเจอกันแค่แปปเดียว ไม่ได้ไปเจอกันนาน เป็นสิ่งที่ฝ่าย ญ คนนั้นเรียกร้องมานาน
เรา : อืมม จะให้เชื่อได้ไงอะ เดียวนะๆ ๆ เรากินข้าวนะ เอางี้นะ ถ้าเธอรักเราจริงอยากที่เธอพูด เธอต้องชัดเจนมากกว่า ไม่ใช่มาเป็นแบบนี้ และหลังจากนั้นเราก็ร้องไห้หนักมาก คิดอยู่ในใจ ทำไมไม่ดูโทรศัพท์เค้านานแล้ว ทำไมไม่รู่ตั้งนานแล้ว ทำไมเราโง่ขนาดนี้
เอ : เราสัญญานะ เราจะเลิกให้ได้
เรา : ก็ขอตัวกลับบ้านโดยทันที
ระหว่างขับรถ เราก็ได้แต่ขับไปคิดไป เสียใจไปเค้าก็พยายามโทรหาเราตลอดทาง เพราะระยะทางกว่าจะถึงบ้านเราก็ไกล ใช้เวลาประมาณ 2.30 นาที กว่าจะถึง เราก็คุยโทรศัพท์กันมาตลอด สิ่งที่เค้าอธิบาย มันฟังแล้วดูแย่ มันฟังแล้วทำให้เราเป็นมือที่ 3 โดยไม่รู้ตัว เราก็อธิบายไปว่า รักมันมีได้แค่ 2 คนนะ ถ้าไม่เลือกเรา ก็ต้องเลือกเค้า คำตอบเดิมๆ คือ เค้าเลือกเรา เราก็ถามกลับ แล้วเมื่อไหร่ จะเลิกหละ แล้วจะไปบอกฝั่งนู้นเค้ายังไง ฝั่งนั้นเองก็คงไม่ได้รู้เรื่องอะไรของเราเลยด้วยซ้ำ แล้วถ้าเค้าไม่บอกแหละ มันก็ต้องเป็นแบบนี้ต่อไป อีกนานแค่ไหน เราเองก็ได้แต่เชื่อใจเค้าคะ ว่าเค้าจะต้องไปฝั่งนู้นและเลิกกับฝั่งนู้นเอง ให้เค้าพูดเอง ตัดสินใจเอง แล้วเวลาก็ทำให้เราใจเย็นขึ้น เพราะสิ่งที่เค้าพยายามพูดกับเราคือ ให้เวลาเค้านะ เพราะเค้าสองคน ทำงานที่เดียวกัน เพื่อนๆ ก็รู้จักกันหมด งานบางอย่าง ก็ต้องอาศัยเค้า และ เพื่อนๆ ของเค้า ถ้าเลิกกันไม่ดี มันจะมีปัญหาทั้งเรื่องงาน และ เรื่องส่วนตัว เยอะแยะตามมา เราก็โอเค ไม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ในใจก็นั้นแหละคะ ร้อนรนจนบอกไม่ถูก และแล้ว มันก็มีเรื่องอีกจนได้ เวลาผ่านมาแค่ไม่ถึง 3 วัน ในวันที่เค้าต้องไปต่างประเทศ ไปทำหน้าที่ ภาระกิจลูกที่ดีของ พ่อแม่น้อง โดยการพาไปเที่ยวต่างประเทศคะ ใช่เวลาบิน 5 ชั่วโมงนิดๆ หลังจากที่เค้าลงเครื่อง และเราก็ดูนาฬิกา ว่าเวลานี้เค้าต้องลงเครื่องแล้วแหละ อีกพักใหญ่ๆ ก็มีข้อความของคุณเอ ทาง mail เด้งเข้ามาว่า ตอนนี้ Line เป็นอะไรไม่รู้ไม่สามารถเล่นได้เลย เราได้ไป ทำอะไรกับ Line เค้ารึเปล่า เพราะว่า Password ที่เรามี คือ Password ของทุกๆ อย่างที่เค้าใช้ ไม่ว่าจะเป็น mail บลา บลา บลา รหัสเดียวกันหมด เราก็ตอบเค้าไปว่า เราไม่รู้เรื่องนะ แล้วเราจะติดต่อทางไหนดี ที่มันง่ายกว่าการส่ง mail จากนั้นเราก็ติดต่อทาง messenger facebook ตามปกติ วันนั้นก็ผ่านไปด้วยดี ด้วยความเหนื่อยล้า เค้าก็ขอตัวไปนอน เพื่อตื่นเช้ามาเค้าจะไป Take care คนที่บ้านเค้าได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เรารับรู้มาใหม่คือ password ทุกอันใช่เหมือนกันหมด เสร็จสิคะ จบสิคะ ความอยากรู้เกิดก่อตัวขึ้นมาเลยคะ 5555 วิญญานนักสืบเข้าสิงห์ เข้าไปดู E-mail ที่เข้าใช้ประจำเลยสิคะ รออะไร โอโห้........... ความรู้สึกครั้งนี้ เหมือนไปยืน ตากแดดอยู่ ที่ 45องศา ตอนเที่ยง เลยคะ ทั้งร้อน ทั้งสั่น ทั้งโกรธ คือ เราเห็นข้อความที่เค้าสองคนคุยกันแบบ หวานมากกกก หวานหนักมาก เช่น เราถึงแล้วนะ Line ใช่ไม่ได้เลย ไว้ติดต่อกันทางนี้นะ คิดถึงๆๆ อย่าลืมหาไรกินนะ ที่นี้ฝกตก อย่าลืมหาเสื้อกันฝนนะ เดียวไม่สบาย นี่ๆ อยากได้ไรไหม อย่าลืมถามพ่อแม่น้องด้วยนะ อยากได้ไร ส่ง mail มานะ รักๆๆ คิดๆๆ อย่านอนดึกนะ เห้ยแก...มันเป็นข้อความเดียวกับที่ส่งให้เราเลยนะ เว้ย เวลาเดียวกัน ส่งหา 2 คน นี้ถ้าไม่เก่งจริงนี้ทำไม่ได้ หลังจากนั้นที่อ่านเสร็จ เราก็ CC ส่งไปให้คุณเอ อ่านเลยคร๊าาา คำตอบที่ได้คือ คุยรักษาน้ำใจอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น เห้ยๆๆๆ ไม่ใช่ละปะ นี้คือการคุยรักาาน้ำใจเพื่อ จะเลิกกันในอนาคตหรอ เธอเอาตรรกะไหนมาใช่คะ เราก็เลยเปิดประเด็น บอกเลิกก่อนเลยคะ ทำเราแบบนี้ เราก็ทนคบต่อไปไม่ได้นะ นี้มันไม่ใช่การห่าง นี้มันไม่ใช่การจะบอกเลิก แต่นี้ เราควรไปจากตรงนี้สะ จะได้จบๆ เรื่อง เราจะได้ไปหาคนที่ดีกว่า หลังจากนั้นแหละคะ ท่านผู้ชม การเที่ยวต่างประเทศครั้งนี้ของคุณเอ ก็เต็มไปด้วย บรรยากาศที่คนในครอบครัวเค้า รู้สึกได้ว่า ไม่โอเคเลย เพราะคุณเอ พยายามติดต่อเราตลอด แล้วเราไม่ได้อยากคุยนิคะ ไม่รับสายบ้าง ไม่อ่านข้อความบาง บอกตรงๆ พยายามทำใจคะ ในใจคิดว่า ควรบอกผู้หญิงคนนั้นให้รับรู้เลยดีไหม เพราะถ้าเราไป เค้าก็วินสิคะ เพราะฝั้งนู้นเค้าก็ไม่ได้รู้อะไร ในตัวคุณเอเลย หรือจะเป็นแม่พระ เดินจากมาดีๆ แล้วปล่อยในเค้า 2 คนคบกับไปเหมือนเดิม แต่ใจก็ได้คำตอบว่า ควรที่จะบอกให้ทางนั้นรับรู้ด้วยดีกว่า หลังจากนั้นคะ เราอดทน อีกอยู่ 4 วัน เพื่อให้เค้าอยู่บนเครื่องบินเดินทางกลับก่อน เพราะถ้าเราส่ง Mail หาผู้หญิงคนนั้น ตอนที่คุณเอสามารถรับรู้มีสัญญานอยู่ ก็ไม่มันสิคะ เราก็จะไม่รับรู้เรื่องทั้งหมดทุกอย่าง พอคุณเอ ขึ้นเครื่อง เท่านั้นแหละคะ เราก็ทำทีปลอมตัวเป็นคุณเอ คุยกับผู้หญิงคนนั้น แกล้งถามนั้นนี้ ว่าเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หรือ อะไรต่างๆ นานา ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบมาคะ พอตอบเสร็จ นางมารร้ายก็เข้าสิงห์ เราก็แสดงตัวทันที ว่าเราไม่ใช่คุณเอนะ เราเป็นผู้หญิงอีกคนของคุณเอ และ เธอควรรู้อะไร ในตัวคุณเอบ้าง ที่พูดให้ฟัง ไม่ได้จะแย่งหรืออะไร แต่มันเป็นสิ่งที่คุณควรรู้ กับผู้ชายที่คบคุณ มา 9 ปี จากนั้นเราก็อธิบายยาวเลยคะ ว่าเราเจอกันได้ไง คบกันยังไง คบกันนานเท่าไหร่ คบกันถึงไหน แต่คำตอบที่ได้ก็คือ ให้เราเลิกยุ่งกับคุณเอซะ และ ออกไปจากชีวิตเค้าทั้งสองคน เราก็ทำตามนั้น ไม่ส่งอะไรกลับไปอีก ในใจคิด ว่า ถ้าคุณเอ ลงเครื่องมา ต้องด่าเราแน่ๆ เราต้องยอมรับกับการกระทำที่เราทำขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง พอคุณเอ ลงเครื่องได้ปุ๊บ ก็โทรมาหาเราทันที และนางก็ยังไม่รู้ถึงเรื่องที่เราสร้างขี้น ที่ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เราก็บอกสิคะ รอไร ว่า เราได้คุยกับผู้หญิงอีกคนนึงของนางแล้วนะ เราทำแบบนี้ ไม่ได้หวังนะที่เราจะได้คุรเอ มาครอบครอง เรารู้สึกถึงว่าเราเป็นคนไม่ดี เราเลือกวิธีที่ดีที่สุดให้นางคะ เราบอกให้เค้าสองคนกลับไปคบกัน ขอร้องให้กลับไป เพราะถึงเค้าเลือกเรา คบเรา เราเองก็ไม่รู้จะมีความระแวงแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน มันก็เหมือนมีแผลในใจ เราจะคิดอยู่ตลอดเวลา มันจิตตก คุณเอก็พูดขึ้นมาว่า เอางี้นะ วันนี้ เค้าจะโทรไปบอกเลิกผู้หญิงอีกคนนึงแทน เพราะ เค้าเสียเราไปไม่ได้ เค้าไม่โกรธเราเลยแม้แต่น้อย ที่เราปลอมตัวเป็นคุณเอ เพื่อคุยกับผู้หญิงอีกคน แต่ครั้งนี้เค้าขอเป็นคนบอกเองนะ แล้วจะไม่โกหกอะไรอีก ในใจคิดอีกละ ใครจะไปเชื่ออะ ว่าสิ่งที่เค้าพูดมันคือความจริงรึเปล่า แล้วเวลานั้นก็มาถึง เค้าได้โทรไปเคลียกลับผู้หญิงคนนั้น ว่า เดียวมาเขียนใหม่ ครบ 10000 ตัวอักษรละค่ะ
ระหว่างเรา ที่คบกันมาแค่ 1 ปี
เริ่มเรื่องเลยนะคะ เราเองก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึงคะ อายุก็ 28 หน้าตาไม่แย่ การศึกษาก็ไม่สูงเท่าไหร่ มีกิจการเป็นของตัวเองคะ ที่ต้องบอกว่ามีกิจการก็เพราะ มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราเจอมาคะ เมื่อปีที่แล้วเราได้เจอผู้ชายคนนึงคะ เจอกันทาง Line เพราะงานเรามันเป็นกลุ่มสาย เฉพาะทาง คนธรรมดาๆ ไม่สามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ต้องใช้ความชำนาญในด้านทนี้ค่อนข้างสูงคะ แล้ววันนึง ก็มีผู้ชายคนนึง ได้มาติดต่อสอบถามข้อมูลในงานของเราเข้ามา ขอเรียกชื่อย่อว่า คุณเอ เราเองก็ไม่รอช้าคะ รีบให้ข้อมูลในสิ่งที่คุณเอ อยากทราบทันที ขอบอกก่อนนะคะ เราไม่ใช้คนที่ชอบ ใครๆตาม Social อยู่แล้วคะ และเราก็ติดต่อกับคุณเอ มาเรื่อยๆ ตลอดๆ แต่สุดท้ายเค้าเองก็มาทำงานกับเราไม่ได้คะ ด้วยเหตุผลที่ว่า เค้าไม่สามารถ มาได้เพราะสถานที่ทำงานของเราอยู่ไกล และเค้าก็ไม่สามารถออกจากที่ทำงานที่นั้นได้คะ ในใจเราเองก็ยัง งงๆ ว่า ตอนที่เรารับสมัครหาคนทำงาน เราเองก็ระบุชัดเจนนะ ว่า สถานที่อยู่ไหน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคะ ไหนๆก็มารู้จักกันแล้ว ก็เกือบเค้าไว้ปรึกษาเรื่องอื่นๆ แล้วกัน หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกัน แต่ไม่ได้คุยกันทุกวันนะคะ มีเรื่องจำเป็นค่อยคุย ค่อยถาม ค่อยปรึกษากันคะ ก็ใช้เวลาคุยก็เกือบ 5-6 เดือนโดยประมาณคะ มีวันนึงคุณเอ บอกเราว่า จะมาทำธุระแถวนี้พอดี เราเองว่างไหมนัดเจอกัน ทานข้าวกัน เราเองก็ไม่ได้ปฏิเสธคะ ว่างๆ ทานข้าวเย็น สถานที่ก็ไม่ได้ล่อแหลมอะไร ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะต่างคนต่างไปเจอกันที่ร้านอาหารเลย เราเองก็ไม่ได้เป็นคนดื่มอยู่แล้ว ในใจก็ตลกตัวเองคะ ว่านี้ครั้งแรกที่เรานัดเจอคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน (การเจอคนที่ไม่รู้จักทางSocial ไม่ดีนะคะ อ่านแล้วก็อย่าเอาเป็นแบบอย่างนะคะ เพราะอาจจะโชคไม่ดีเหมือนเราคะ) พอนัดใกล้เวลานัดเจอกันเวลานั้น รู้สึกตื่นเต้นคะ แต่ก็หาจุดไม่เจอว่า ตื่นเต้นเรื่องอะไร พอเห็นหน้ากันครั้งแรกปุ๊บ อุทานในใจ แม่เจ้า!! นางเป็นผู้ชายแบบ เกือบสเป็คเลย เป็นคนดูเงียบๆ ดูมีการศึกษา สุภาพมาก เราเองก็เขินสิคะ รอไร..^^ หุหุ นั่งกินข้าวไป บิดไป หน้าแดงไป ก็ว่ากันไป เก็บอาการคะ เก็บหน่อย พอทานข้าวเสร็จก็แยกกันคะ เค้าก็กลับบ้านเค้า เราก็กลับบ้านเรา ในใจลุ้นๆ ว่าเค้าชอบเรารึเปล่า แต่ก็เตือนตัวเองคะ ว่าเราติดต่อกัน เรื่องงานเท่านั้น เพราะเรื่องส่วนตัวเราไม่เคยถามค่ะ เราก็ไม่ได้เล่าเรื่องส่วนตัวเราให้เค้าฟัง พอหลังจากวันนั้น เค้าก็เริ่มติดต่อเราหนักขึ้นคะ เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอน 14 ^^ โลกแบบว่า ชมพูมากมาย กลายเป็นว่า เค้าก็มาหาเราเรื่อยๆ บ่อยขึ้นๆ จนคนที่ทำงานรู้จักคุณเอ ในนาม แฟนเราคะ เราคบกันตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลย รู้อีกที คบกันละ เราเองก็ไม่ได้มีใครนิน๊าาาาาา 555 ใครๆที่เห็นเรากับคุณเอ ก็บอกว่า ดีนะ ดูเหมาะสมกันเลย เราทำงานแบบนี้ คุณเอก็ทำงานแบบนี้ เข้ากันสุดๆ ถึงไม่ได้ทำงานด้วยกันก็ตาม แต่ก็หนุนกันเป็นอย่างดี จากนั้นเราก็มีเค้าเป็นทั้งแฟน และที่ปรึกษาเรื่องกิจการของเรา เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราก็ได้ฤกษ์เปิดกิจการแล้ว เราก็ทำงานอย่างหนัก เตรียมงาน เตรียมความพร้อมทุกอย่าง แฟนเราก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีคะ จนถึงวันเปิด เค้าก็มางานเปิดกิจการเรา ตอนรับแขกที่มาในงานเรา เราก็แนะนำในแขกเรารู้จักคุณเอ ในนามแฟนเราเช่นกัน เราคบกันไปเรื่อยๆค่ะ ไม่มีปัญหากัน ไม่ทะเลาะกัน เค้าใจกันและกัน ไม่งี้เง่า เพราะงานของเค้าเหนื่อยมากค่ะ บางวันก็ไม่ได้นอน สุดสัปดาห์เราก็จะมาเจอกันทุกสัปดาห์ค่ะ พอมีเวลา เราก็ไปต่างจังหวัดกัน ไปต่างประเทศกัน เราคบกันทางบ้านทั้ง 2 ฝ่ายก็รับรู้ค่ะ แต่สิ่งที่ไม่ขาดฝันมักจะมาตอนที่เราไม่ได้เตรียมใจ เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาไม่นานค่ะ เราได้มีโอกาสหยิบมือถือเค้าขึ้นมาดู เรียกง่ายๆ เช็คมือถืออะค่ะ เราไม่ได้นิสัยไม่ดีนะ เพราะเวลาเจอกัน เค้าเช็คของเรามากกว่าอีก นี่ก็เป็นครั้งแรกที่อยากรู้ ก็เลยแอบดู ดูไปดูมา รูปก่อนเลยคะ ^^ ไม่เห็นมีไรเลยฮะ มีแต่งาน ในใจแอบคิด ส่งสัยเอาลงคอมไปหมดแล้วหละ app ที่2 ที่เราจะเช็ค 555 เด๋าไม่ยากเลยคะ นั้นคือ....... Line เปิดไป เปิดมา ก็ไปเจอ Line ผู้หญิงคนนึงที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าเค้าคือแฟนเก่า แต่ทำไงได้อะคะ มันอยากดูนิน๊าาา ด้วยความที่อยากรู้มาก เปิดเลยจร้า เอะๆ เดียวๆ ไม่เห็นมีข้อความไรเลย งั้นไม่มีข้อความก็ต้องมีรูปแน่ๆ ที่อยู่ใน Line ทันทีที่เปิดเข้าไปนั้น ความรู้สึกเหมือนโดน รถบรรทุกชน มันชั่งหนักหน่วงอะไรเช่นนี้ มือไม้สั่นไปหมด นางพึ่งไปเจอกันมาไม่นาน แล้วไม่ใช่นานๆเจอกัน เจอกันบ่อยด้วย โอโห้ โลกแทบแตก คิดในใจ เอาไงดีหว่าาาา เลิกเลยไหม ติดต๊อกๆๆๆๆๆ ตอนนั้นที่เจอยังไม่ร้องไห้นะคะ ร้องไม่ออก หรือลองถามดูก่อนว่ามันยังไง เพราะเราอาจจะเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว แต่เวลาที่เราคบกัน ก็ไม่ใช่เดือน 2เดือน มันก็เกือบจะปีแล้ว เพราะฉะนั้น เราขอฟังสิ่งที่เค้าพูดก่อน เราก็ถามเค้าด้วยวาจาที่สุภาพ ว่า
เรา : เอคะ นี้คืออะไรคะ มันหมายความว่าอะไร
เอ : อ่อ....รูปนานมาแล้ว (ในใจคิด มันนานหราาาาา เวลามันก็บอกอยู่)
เรา : งั้นเอาแบบนี้ไหม ถ้ายังรักเค้าอยู่ เราจะเป็นขอเดินออกมาเอง เพราะเราก็ไม่ใช่คนที่จะต้องมานั่งคบใครซ้อนไป ซ้อนมาแบบนี้
เอ : ไม่เอาอะ เรารักเธอนะ แต่คนนั้นเราพยายามเลิกนานแล้ว แต่เลิกไม่ได้เพราะว่า คบกันมา 9 ปีแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือความเป็นเพื่อนเท่านั้น แล้วรูปที่เห็นเค้าก็ไปเจอกันแค่แปปเดียว ไม่ได้ไปเจอกันนาน เป็นสิ่งที่ฝ่าย ญ คนนั้นเรียกร้องมานาน
เรา : อืมม จะให้เชื่อได้ไงอะ เดียวนะๆ ๆ เรากินข้าวนะ เอางี้นะ ถ้าเธอรักเราจริงอยากที่เธอพูด เธอต้องชัดเจนมากกว่า ไม่ใช่มาเป็นแบบนี้ และหลังจากนั้นเราก็ร้องไห้หนักมาก คิดอยู่ในใจ ทำไมไม่ดูโทรศัพท์เค้านานแล้ว ทำไมไม่รู่ตั้งนานแล้ว ทำไมเราโง่ขนาดนี้
เอ : เราสัญญานะ เราจะเลิกให้ได้
เรา : ก็ขอตัวกลับบ้านโดยทันที
ระหว่างขับรถ เราก็ได้แต่ขับไปคิดไป เสียใจไปเค้าก็พยายามโทรหาเราตลอดทาง เพราะระยะทางกว่าจะถึงบ้านเราก็ไกล ใช้เวลาประมาณ 2.30 นาที กว่าจะถึง เราก็คุยโทรศัพท์กันมาตลอด สิ่งที่เค้าอธิบาย มันฟังแล้วดูแย่ มันฟังแล้วทำให้เราเป็นมือที่ 3 โดยไม่รู้ตัว เราก็อธิบายไปว่า รักมันมีได้แค่ 2 คนนะ ถ้าไม่เลือกเรา ก็ต้องเลือกเค้า คำตอบเดิมๆ คือ เค้าเลือกเรา เราก็ถามกลับ แล้วเมื่อไหร่ จะเลิกหละ แล้วจะไปบอกฝั่งนู้นเค้ายังไง ฝั่งนั้นเองก็คงไม่ได้รู้เรื่องอะไรของเราเลยด้วยซ้ำ แล้วถ้าเค้าไม่บอกแหละ มันก็ต้องเป็นแบบนี้ต่อไป อีกนานแค่ไหน เราเองก็ได้แต่เชื่อใจเค้าคะ ว่าเค้าจะต้องไปฝั่งนู้นและเลิกกับฝั่งนู้นเอง ให้เค้าพูดเอง ตัดสินใจเอง แล้วเวลาก็ทำให้เราใจเย็นขึ้น เพราะสิ่งที่เค้าพยายามพูดกับเราคือ ให้เวลาเค้านะ เพราะเค้าสองคน ทำงานที่เดียวกัน เพื่อนๆ ก็รู้จักกันหมด งานบางอย่าง ก็ต้องอาศัยเค้า และ เพื่อนๆ ของเค้า ถ้าเลิกกันไม่ดี มันจะมีปัญหาทั้งเรื่องงาน และ เรื่องส่วนตัว เยอะแยะตามมา เราก็โอเค ไม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ในใจก็นั้นแหละคะ ร้อนรนจนบอกไม่ถูก และแล้ว มันก็มีเรื่องอีกจนได้ เวลาผ่านมาแค่ไม่ถึง 3 วัน ในวันที่เค้าต้องไปต่างประเทศ ไปทำหน้าที่ ภาระกิจลูกที่ดีของ พ่อแม่น้อง โดยการพาไปเที่ยวต่างประเทศคะ ใช่เวลาบิน 5 ชั่วโมงนิดๆ หลังจากที่เค้าลงเครื่อง และเราก็ดูนาฬิกา ว่าเวลานี้เค้าต้องลงเครื่องแล้วแหละ อีกพักใหญ่ๆ ก็มีข้อความของคุณเอ ทาง mail เด้งเข้ามาว่า ตอนนี้ Line เป็นอะไรไม่รู้ไม่สามารถเล่นได้เลย เราได้ไป ทำอะไรกับ Line เค้ารึเปล่า เพราะว่า Password ที่เรามี คือ Password ของทุกๆ อย่างที่เค้าใช้ ไม่ว่าจะเป็น mail บลา บลา บลา รหัสเดียวกันหมด เราก็ตอบเค้าไปว่า เราไม่รู้เรื่องนะ แล้วเราจะติดต่อทางไหนดี ที่มันง่ายกว่าการส่ง mail จากนั้นเราก็ติดต่อทาง messenger facebook ตามปกติ วันนั้นก็ผ่านไปด้วยดี ด้วยความเหนื่อยล้า เค้าก็ขอตัวไปนอน เพื่อตื่นเช้ามาเค้าจะไป Take care คนที่บ้านเค้าได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เรารับรู้มาใหม่คือ password ทุกอันใช่เหมือนกันหมด เสร็จสิคะ จบสิคะ ความอยากรู้เกิดก่อตัวขึ้นมาเลยคะ 5555 วิญญานนักสืบเข้าสิงห์ เข้าไปดู E-mail ที่เข้าใช้ประจำเลยสิคะ รออะไร โอโห้........... ความรู้สึกครั้งนี้ เหมือนไปยืน ตากแดดอยู่ ที่ 45องศา ตอนเที่ยง เลยคะ ทั้งร้อน ทั้งสั่น ทั้งโกรธ คือ เราเห็นข้อความที่เค้าสองคนคุยกันแบบ หวานมากกกก หวานหนักมาก เช่น เราถึงแล้วนะ Line ใช่ไม่ได้เลย ไว้ติดต่อกันทางนี้นะ คิดถึงๆๆ อย่าลืมหาไรกินนะ ที่นี้ฝกตก อย่าลืมหาเสื้อกันฝนนะ เดียวไม่สบาย นี่ๆ อยากได้ไรไหม อย่าลืมถามพ่อแม่น้องด้วยนะ อยากได้ไร ส่ง mail มานะ รักๆๆ คิดๆๆ อย่านอนดึกนะ เห้ยแก...มันเป็นข้อความเดียวกับที่ส่งให้เราเลยนะ เว้ย เวลาเดียวกัน ส่งหา 2 คน นี้ถ้าไม่เก่งจริงนี้ทำไม่ได้ หลังจากนั้นที่อ่านเสร็จ เราก็ CC ส่งไปให้คุณเอ อ่านเลยคร๊าาา คำตอบที่ได้คือ คุยรักษาน้ำใจอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น เห้ยๆๆๆ ไม่ใช่ละปะ นี้คือการคุยรักาาน้ำใจเพื่อ จะเลิกกันในอนาคตหรอ เธอเอาตรรกะไหนมาใช่คะ เราก็เลยเปิดประเด็น บอกเลิกก่อนเลยคะ ทำเราแบบนี้ เราก็ทนคบต่อไปไม่ได้นะ นี้มันไม่ใช่การห่าง นี้มันไม่ใช่การจะบอกเลิก แต่นี้ เราควรไปจากตรงนี้สะ จะได้จบๆ เรื่อง เราจะได้ไปหาคนที่ดีกว่า หลังจากนั้นแหละคะ ท่านผู้ชม การเที่ยวต่างประเทศครั้งนี้ของคุณเอ ก็เต็มไปด้วย บรรยากาศที่คนในครอบครัวเค้า รู้สึกได้ว่า ไม่โอเคเลย เพราะคุณเอ พยายามติดต่อเราตลอด แล้วเราไม่ได้อยากคุยนิคะ ไม่รับสายบ้าง ไม่อ่านข้อความบาง บอกตรงๆ พยายามทำใจคะ ในใจคิดว่า ควรบอกผู้หญิงคนนั้นให้รับรู้เลยดีไหม เพราะถ้าเราไป เค้าก็วินสิคะ เพราะฝั้งนู้นเค้าก็ไม่ได้รู้อะไร ในตัวคุณเอเลย หรือจะเป็นแม่พระ เดินจากมาดีๆ แล้วปล่อยในเค้า 2 คนคบกับไปเหมือนเดิม แต่ใจก็ได้คำตอบว่า ควรที่จะบอกให้ทางนั้นรับรู้ด้วยดีกว่า หลังจากนั้นคะ เราอดทน อีกอยู่ 4 วัน เพื่อให้เค้าอยู่บนเครื่องบินเดินทางกลับก่อน เพราะถ้าเราส่ง Mail หาผู้หญิงคนนั้น ตอนที่คุณเอสามารถรับรู้มีสัญญานอยู่ ก็ไม่มันสิคะ เราก็จะไม่รับรู้เรื่องทั้งหมดทุกอย่าง พอคุณเอ ขึ้นเครื่อง เท่านั้นแหละคะ เราก็ทำทีปลอมตัวเป็นคุณเอ คุยกับผู้หญิงคนนั้น แกล้งถามนั้นนี้ ว่าเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หรือ อะไรต่างๆ นานา ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบมาคะ พอตอบเสร็จ นางมารร้ายก็เข้าสิงห์ เราก็แสดงตัวทันที ว่าเราไม่ใช่คุณเอนะ เราเป็นผู้หญิงอีกคนของคุณเอ และ เธอควรรู้อะไร ในตัวคุณเอบ้าง ที่พูดให้ฟัง ไม่ได้จะแย่งหรืออะไร แต่มันเป็นสิ่งที่คุณควรรู้ กับผู้ชายที่คบคุณ มา 9 ปี จากนั้นเราก็อธิบายยาวเลยคะ ว่าเราเจอกันได้ไง คบกันยังไง คบกันนานเท่าไหร่ คบกันถึงไหน แต่คำตอบที่ได้ก็คือ ให้เราเลิกยุ่งกับคุณเอซะ และ ออกไปจากชีวิตเค้าทั้งสองคน เราก็ทำตามนั้น ไม่ส่งอะไรกลับไปอีก ในใจคิด ว่า ถ้าคุณเอ ลงเครื่องมา ต้องด่าเราแน่ๆ เราต้องยอมรับกับการกระทำที่เราทำขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง พอคุณเอ ลงเครื่องได้ปุ๊บ ก็โทรมาหาเราทันที และนางก็ยังไม่รู้ถึงเรื่องที่เราสร้างขี้น ที่ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เราก็บอกสิคะ รอไร ว่า เราได้คุยกับผู้หญิงอีกคนนึงของนางแล้วนะ เราทำแบบนี้ ไม่ได้หวังนะที่เราจะได้คุรเอ มาครอบครอง เรารู้สึกถึงว่าเราเป็นคนไม่ดี เราเลือกวิธีที่ดีที่สุดให้นางคะ เราบอกให้เค้าสองคนกลับไปคบกัน ขอร้องให้กลับไป เพราะถึงเค้าเลือกเรา คบเรา เราเองก็ไม่รู้จะมีความระแวงแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน มันก็เหมือนมีแผลในใจ เราจะคิดอยู่ตลอดเวลา มันจิตตก คุณเอก็พูดขึ้นมาว่า เอางี้นะ วันนี้ เค้าจะโทรไปบอกเลิกผู้หญิงอีกคนนึงแทน เพราะ เค้าเสียเราไปไม่ได้ เค้าไม่โกรธเราเลยแม้แต่น้อย ที่เราปลอมตัวเป็นคุณเอ เพื่อคุยกับผู้หญิงอีกคน แต่ครั้งนี้เค้าขอเป็นคนบอกเองนะ แล้วจะไม่โกหกอะไรอีก ในใจคิดอีกละ ใครจะไปเชื่ออะ ว่าสิ่งที่เค้าพูดมันคือความจริงรึเปล่า แล้วเวลานั้นก็มาถึง เค้าได้โทรไปเคลียกลับผู้หญิงคนนั้น ว่า เดียวมาเขียนใหม่ ครบ 10000 ตัวอักษรละค่ะ