JJNY : เศรษฐกิจดี๊ดี...เบื้องลึกจากวอร์รูม"ทำเนียบ" จับ 5 สัญญาณเสี่ยง ฉุดเศรษฐกิจ

กระทู้คำถาม
รายงาน

เศรษฐกิจไทยท่ามกลาง "คมหอกคมดาบ" ช่วงประลองกำลังก่อนถึงวันออกเสียงประชามติ "พิพากษา" ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ยังคงต้องออกแรงปั้น "เมกะโปรเจ็กต์"- กระตุ้นนโยบายอัดฉีดเศรษฐกิจระยะสั้น - กลาง3.5 เปอร์เซ็นต์ คือ ประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของ "ทีมเศรษฐกิจ" ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่ "ปักธง" ไว้เป็นหลักหมุดใน "ครึ่งปี′59"

"วอร์รูม" ของ "ทีมสมคิด" ประจำการใต้ "ตึกบัญชาการเศรษฐกิจ" ทำเนียบรัฐบาล วิเคราะห์ "ปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง"



ในช่วง "หน้าสิ่วหน้าขวาน" ใน "แง่ดี" ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญ "ผ่าน" ประชามติ จะทำให้สถานการณ์การเมืองเดินไปตาม "ไทม์ไลน์" ที่มีชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสามารถเดินไปข้างหน้าได้ตลอดรอดฝั่ง

ทว่าหากแม้นร่างรัฐธรรมนูญ "ไม่ผ่าน" ประชามติ รัฐบาล-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ยังมี "แผนสำรอง" เป็น "ไพ่ใบสุดท้าย" โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวฯ ปี"57 เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ให้การเมืองถึงทางตัน

หลาย "ออปชั่น" สามารถหยิบมาคัดสรร อาทิ นำรัฐธรรมนูญ "ฉบับใดฉบับหนึ่ง" มาปรับใช้ หรือ "ยำ" รัฐธรรมนูญฉบับปี"40, ปี"50 ฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และฉบับนายมีชัย เป็นฉบับเดียว เพื่อให้มีการเลือกตั้งในปี"60 ตามโรดแมป

"เชื่อว่ารัฐบาลและ คสช.จะสามารถบริหารจัดการได้ และไม่กังวลว่าจะกระทบเศรษฐกิจ แต่ "แวดวงนักธุรกิจ" กังวลอย่างเดียวว่า อย่าตีกัน เพราะธุรกิจมันเดินต่อไปไม่ได้" หนึ่งในทีมเศรษฐกิจกล่าวและออกอาการไม่กล้าฟันธงว่า

"ขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องเผื่อใจไว้บ้าง เพราะไม่รู้ว่าประชาชนคิดอย่างไร มีคนต้านและไม่ต้าน ขณะนี้เพิ่งเริ่มต้น ยังต้องประลอง วัดกำลัง และต้องดูใจประชาชนว่า พอใจร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากน้อยแค่ไหน แม้แต่พรรคการเมืองก็ต้องดูใจด้วยว่า เขาอยากเลือกตั้งแล้วหรือยัง ไม่มีใครรู้"

การประมาณการเศรษฐกิจ 3.5 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะมีปัจจัยทางการเมืองเป็นตัว "ฉุดรั้ง" ให้เศรษฐกิจต่ำกว่าที่ทีมเศรษฐกิจหมายมั่นปั้นมือไว้

ทว่าเป้าหมายของ "ทีมงานสมคิด" คือ การปรับโครงสร้าง-วางรากฐานเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อให้อีก 1 ปี 6 เดือนให้หลัง ทิ้งไว้เป็น "มรดก"

นอกจากนี้เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ อาทิ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้าทางคู่ สนามบิน ท่าเรือน้ำลึก การพัฒนานวัตกรรม การต่อยอดอุตสาหกรรม S-Curve เป็น New S-Curve

หากแต่ยังมี "สัญญาณเตือน" ที่ทีมสมคิดกำลังเฝ้ามองด้วยใจระทึก มีอยู่ 5 สัญญาณ ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1. การทำประมงผิดกฎหมาย จนได้รับ "ใบเหลือง" เพราะไม่ผ่านกฎระเบียบว่าด้วยการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU (Illegal, Unreported and Unregulated Finishing)

การถูกปัก "ธงแดง" เนื่องจากมาตรฐานการบินบกพร่อง ไม่เป็นไปตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO (International Civil Aviation Organization) กำหนด

การจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking In Persons (TIP) Report) ประจำปี 2558 ให้ประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำสุด หรือเทียร์ 3 (Tier 3)

กลุ่มที่ 2. การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เนื่องจากประเทศไทยเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ปัจจุบันจึงมีสถาบันชั้นนำ 2 แห่ง ที่มาทำหน้าที่ประเมิน-จัดอันดับ "ความสามารถทางการแข่งขัน" ของประเทศ ได้แก่ เวิลด์อีโคโนมิก ฟอรัม (WEF) และสถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) นอกจากนี้ยังต้องรับการประเมินเพื่อจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) ของธนาคารโลกอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจนัก

กลุ่มที่ 3. ตัวเลขการส่งออกของอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น ข้าว ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ซึ่งเป็น "ตัวเลขจริง" ทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ยอดการส่งออกของประเทศไทยตกต่ำลง-ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศแถบอาเซียน เช่น ประเทศเวียดนามได้

กลุ่มที่ 4. นวัตกรรม เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลจัดสรรงบประมาณเป็นเม็ดเงินที่ใส่ลงไปเรื่องการวิจัยและพัฒนา หรือ R&D (The Research and Development) จำนวนน้อยมาก

และกลุ่มที่ 5. โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือน้ำลึก สนามบิน ระบบคมนาคมขนส่ง ที่ยังมีหลายโครงการต้องทำให้สำเร็จเป็นรูปธรรมในปี 2559 หากไม่เป็นเช่นนั้นอาจตามคู่แข่งเพื่อนบ้านไม่ทัน

5 สัญญาณ จึงเปรียบเสมือน "ระฆัง" ยิ่งกว่าปัจจัยเสี่ยงการเมือง อย่างร่างรัฐธรรมนูญ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่