[CR] ยุโรป "ครั้งแรก" และ "ครั้งเดียว"..คงไม่พอ [Netherland, Koln, Antwerpen]

ที่เขาว่ากันว่า..อะไรที่เป็นครั้งแรก มักจะสำคัญและติดตรึงในความทรงจำเสมอ..คงจะจริง
ยุโรปครั้งแรกของเราก็เช่นกัน.."ครั้งแรก" และ "ครั้งเดียว" คงไม่พอจริงๆ นะ เราจะกลับไปอีกแน่นอน ^^
ตอนนี้กายพร้อม..ใจพร้อม..แต่เงินยังไม่พร้อม 55+


ทริปนี้เราไปแบบสั้นๆ 14 วัน เพราะว่าลางานได้แค่นั้น หลักๆ จะอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ มีไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ อีก 2 ที่ คือ โคโลญจน์-เยอรมัน และ แอ้นเวิร์ป-เบลเยี่ยม อาจจะไม่ได้เขียนละเอียดมาก เพราะเราไม่ค่อยได้จดอะไรมาเท่าไหร่ มั่วๆ เอา เน้นถ่ายรูปมากกว่า..

ก่อนไปก็ต้องมีตั๋วก่อนใช่ป่าว..เที่ยวยุโรปไม่ใช่อะไรที่ไกลเกินฝัน ถ้าเรารู้จักวางแผนดีๆ ตั๋วโปรโมชั่นก็มีออกมาอยู่เรื่อยๆ ต้องเข้าไปส่องดูบ่อยๆ เราได้ของ EVAair ตั๋วไปกลับกรุงเทพ-อัมสเตอดัม ราคา 25,460 บาท นน.กระเป๋า 20 กิโล บินตรง 12 ชม.
ไปช่วงปลายเดือนมีนาคม
หลังจากได้ตั๋วแล้ว ก่อนเดินทางประมาณ 2 เดือน ก็ทำเรื่องขอวีซ่า รายละเอียดตาม link >> http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/
ของเราโชคดีหน่อย มีญาติอยู่ที่เนเธอแลนด์ เค้าออกเอกสารรับรองให้ เราขอจึงเป็นวีซ่าเยี่ยมครอบครัว ค่าธรรมเนียมประมาณ 3 พัน รอไม่เกิน 2 อาทิตย์ ก็ได้พาสปอร์ตมานอนกอดไว้ให้อุ่นใจ ^^

นับถอยหลัง...ถึงวันเดินทาง ลุยย !!

บนเครื่องมีเสิร์ฟอาหาร 2 รอบ มี 2 เมนูให้เลือกตามใจชอบ รสชาติก็ใช้ได้ หิวด้วย..เอาอะไรมาก็กินหมด กินอิ่มแล้วก็นอนไปยาวๆ

12 ชั่วโมงผ่านไป..
ลงเครื่องปุ๊บ..ก็ต้องไปผ่านตม.ของที่นั่น เป็นอะไรที่ระทึกใจมากสำหรับเรา เพราะภาษาอังกฤษไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แถมมาครั้งแรก ก็โดนเรียกเข้าห้องเลย 55+ (มีปัญหาเรื่องเอกสารนิดหน่อย ชื่อพิมพ์ตัวอักษรผิดไป 1 ตัว) ใครที่กำลังจะไปก็เตรียมเอกสาร ตรวจสอบให้ดีๆ ก่อนนะ

ถ้าพูดถึงเนเธอแลนด์..เพื่อนๆ คิดถึงอะไร ?? ที่เราแพลนไว้ก็มี..กังหันลม ตึกริมคลองสวยๆ จักรยาน ดอกทิวลิป ช็อกโกแลตกับเบียร์ !?

การเดินทางใน NL เราใช้รถไฟ intercity เป็นหลัก ขบวนสีเหลือง-น้ำเงิน เติมเงินเข้าไปในบัตร ov-chipkaart ใช้ได้ทั้งรถไฟ รถราง รถบัส กับบัตร one day ใช้ได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์ เวลาขึ้นลงก็แตะบัตรเข้า-ออก รถไฟจะมี class 1 กับ 2 ถ้านั่งผิด มีคนมาตรวจก็โดนปรับไปตามระเบียน ถ้าตู้ที่มีตัว S คืองดใช้เสียง บนรถไฟมี wi-fi ให้ใช้ฟรีด้วย สามารถโหลด App "Reisplanner" มาไว้ใช้ เลือกจุดเริ่มต้นกับปลายทาง มันก็จะบอกรอบเวลารถไฟ ออกกี่โมง ถึงกี่โมง ขึ้นที่รางไหน ดีงามมาก..โหลดเลย^^



กังหันลม (Wildmill) – ถ้าอยากดูแบบสวยๆ ก็ต้องไปดูที่หมู่บ้านกังหันลมโบราณ Zaanse Schans เราไปลงที่สถานี Zaandam ก่อน ตรงนี้จะมีตึกหน้าตาสวยๆ เป็น Landmark ของที่นี่

ตอนสายๆ คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ มีถนนให้ shopping เยอะพอสมควร



จาก Zaandam ไป Zannse Schans นั่งรถไฟต่อไปอีก 2 สถานี ลงที่สถานี Koog-Zaandijk ข้ามฝั่งแล้วเดินต่อกิโลกว่าๆ มีป้ายบอกเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง



ถึงแล้วววว.






Amsterdam – เมืองจักรยาน..ซื้อตั๋วล่องเรือ กับเดินชมเมืองนิดหน่อย..ล่องเรือใช้เวลาชม.กว่าๆ ได้ส่วนลดค่าตั๋วเหลือ 8 euro บนเรือมีช่องเสียบหูฟัง ซึ่งแจกให้ฟรี มีเสียงบรรยายเป็นภาษาไทยด้วยแหละ สงสัยคนไทยมาเยอะ ^^






Dam square และ ป้าย I amsterdam



พิพิธภัณฑ์ EYE




มีร้านเค้กอร่อย.."De Drie Graefjes"


ร้านเบียร์อร่อย.."Brouwerij 't IJ" เมนูยอดฮิต ต้องสั่งตัวที่มี 5 แก้ว เห็นสั่งกันทุกโต๊ะเลย


อีกเมืองที่ไม่ควรพลาด ก็คือ..Utrecht (อูเทรคต์)


แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ หาอะไรกินตรงร้านที่อยู่ริมคลองด้านล่าง ได้บรรยากาศดี ^^




ร้านอาหารเยอะมาก..ใครชอบสไตล์ไหนก็เลือกเอานะ เราชอบสีดำ เลยเลือกร้านนี้ เป็นร้านเดียวที่มีร่มสีดำกางอยู่
ไม่ผิดหวังนะ อาหารอร่อย และร้านก็ชิคมากด้วย เราเลือกนั่งข้างนอก แต่จริงๆ ข้างในอ่ะสวยมาก เป็นอุโมงค์โค้งๆ มีเพลงเพราะๆ ให้ฟัง คนเยอะมากก..



ทุ่งดอกไม้ - เยอะๆ ก็ต้องไปสวน Keukenhof แต่เราไม่ได้ไป 55+ เพราะใกล้ๆ บ้านญาติที่เราไปพักด้วย ที่ Den helder มีแปลงปลูกดอกไม้เพียบเลย แต่ดอกยังไม่โตเต็มที่เท่าไหร่ เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือสุด ติดทะเล นั่งรถไฟจากอัมสเตอดัมประมาณชม.กว่าๆ


ท่าเรือและร้านแพนเค้กอร่อย ที่ Den Hender


จบทริปที่เนเธอแลนด์เท่านี้..ที่เราไปนี่เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ของที่นี่ ยังมีอีกหลายที่ๆ ที่ยังไม่ได้ไป ที่เราพลาดไปอย่างนึงก็คือ ปั่นจักรยาน เรดไลท์ก็ยังไม่เห็น..เก็บไว้มาใหม่รอบหน้าแล้วกัน ^^

ต่อไปจะพาไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ นั่งรถไฟจากอัมสเตอดัมไปประมาณ 3 ชม.

Köln - Germany (เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี)
เลือกไปที่นี่..เพราะคุณแฟนอยากไปดูงานสถาปัตยกรรม Cologne Cathedral มหาวิหารโคโลญจน์ กับ Kolumba museum





Kolumba museum - เมืองนี่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่รอดพ้นจากการทำลายล้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวอาคารถูกออกแบบโดยสถาปนิกคุณ Peter Zumthor เราว่าเป็นงานออกแบบที่ผสมผสานระหว่างซากตึกเก่าที่ถูกทำลายกับความทันสมัยของปัจจุบันได้อย่างลงตัว เสียค่าเข้าชม 5 euro ข้างในมีผลงานศิลปะอายุเป็นพันๆ ปี มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเพียบเลย



เสร็จแล้วก็ไปช้อปปิ้งต่อ..สาวๆ น่าจะชอบเมืองนี้ ^^ มีร้านให้ช้อปเยอะดี

ที่พัก เราเลือกใกล้ๆ กับแม่น้ำไรน์ ติดกับโบสถ์ Groß St. Martin กลางคืนเปิดไฟสวย เมนูอาหาร ถ้าคิดไรไม่ออกก็ไส้กรอกเยอรมัน..อร่อยดี




Antwerpen - Belgium (เมืองแอ้นเวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม)
เบลเยี่ยม..เราไปแค่เมืองเดียว ผิดแผนนิดหน่อย ตั้งใจจะไปให้ครบทั้ง brussels, bruges, ghent แต่ช่วงที่ไปเพิ่งมีระเบิดที่บรัสเซล เลยอด ซื้อตั๋ว antwerpen ไว้แล้ว เสียดาย เลยไปนอนที่นั่น 1 คืน ไปดูสถานีรถไฟกับไปกินหอยแมลงภู่ ^^




town hall วันที่ไปคือเงียบมากก..ฝนตกเกือบตลอดวัน




หอยแมลงภู่...ต้องกินกับเบียร์ใช่ม่ะ เราเลือกร้านนี้อร่อยดี "Bier Central" ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ



ปิดทริปด้วย..ของฝาก ปล.เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เอาเข้าได้คนละไม่เกิน 1 L นะ

" ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนะคะ เป็นรีวิวที่หาสาระอะไรไม่ได้เลย 55+
เราไม่ได้เขียนละเอียด เพราะเราคิดว่าความสนุกของการเดินทาง มันอยู่ที่ระหว่างทางนี่แหละ ต้องมีหลงบ้าง..มีเรื่องไม่คาดฝันบ้าง..
ให้เพื่อนๆ ออกไปค้นหาด้วยตัวเองดีกว่า "
เราเองก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึง..ทำงาน..เก็บเงิน..แล้วออกไปท่องโลกกัน ^^
ชื่อสินค้า:   ยุโรป , Europe
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่