สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมตั้งกระทู้นี้ เพราะผมเคยสัญญากับตัวเองว่า หากวันนึงรู้ว่ารองเท้าใดใช้ดีจะมาบอกต่อไว้ในพันทิพย์ เพราะเชื่อว่าคนที่กำลังเดินขาลากอยู่ในต่างประเทศตอนนี้ อาจจะมีสักคนที่เจออาการแบบเดียวกับผม แล้วก็มาหาใน Pantip ว่าควรจะใส่รองเท้าอะไรดี เพื่อให้หายทรมาน เหมือนที่ผมเคยเป็นเหมือนกัน
แนะนำก่อนว่าผมเป็นคนที่ต้องเดินทางไปงาน Fair ในต่างประเทศประจำเพื่อไปดูงาน ไปแต่ละรอบก็เดินกันขาลากครับ เช้าจรดเย็นเป็นหมื่นๆก้าว ยืนในรถไฟฟ้าอีกเป็นชั่วโมง
ปีก่อน ผมไปงานแฟร์ที่ฮ่องกง เดินทั้งวันตลอด 3 วัน ตอนนั้นใส่รองเท้าวิ่งยี่ห้อดังครับ เพราะเชื่อว่า รองเท้าวิ่ง จะทำให้เดินได้ดีด้วย
ปรากฏว่า เดินไปวันที่ 2 เริ่มมีอาการดังนี้
1.ปวดหลัง - อาการนี้ คนยืนนาน , เดินนาน ทุกคนคงเคยเจอ เมื่ออายุมากขึ้น จะปวดกลางหลัง ปวดจี๊ดๆ ตำแหน่งที่ปวด ลองเท้าสะเอวดู ตำแหน่งหลังที่ปวดจะอยู่ตรงกับมือเราที่เท้าสะเอวนั่นแหละครับ ผมเป็น เพื่อนๆผมก็เป็นกันหลายคน หากเป็นแล้ว การก้มตัวเอามือแต่นิ้วเท้าจะช่วยให้รู้สึกดี หากไปถึงจุดนี้เมื่อไหร่ บอกเลยครับอาการเดียวกัน และจุดนั้นจะเบื่อการยืน / เดิน มาก
2.เจ็บส้นเท้า - อาการเจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ก้าวเดิน หากนั่งเฉยๆ จะไม่เจ็บ แต่ถ้าเดินจะเจ็บทันที และจะเจ็บจี๊ดๆจนไม่อยากเดินต่อ
3.หากรองเท้าหัวแคบเกิน จะทำให้ปวดปลายเท้า และเล็บอาจจะฉีกเนื้อเราได้ (เล็บนิ้วก้อย ฉีกเนื้อนิ้วนาง)
4.หนักสุด คือ บวมเป็นน้ำใสๆตามนิ้วและฝ่าเท้า
อาการเหล่านี้ผมมีครบ ตอนนั้นทรมานมากมากมาย ก็เข้ามาอ่านในพันทิพย์นี่แหละครับ หารองเท้าที่เดินดีๆ ไม่ปวดหลัง
มีคนแนะนำให้ซื้อไนกี้แอร์ใส่ ผมไปซื้อทันที ปรากฏว่าไม่ช่วยเลยครับ มันก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ไม่ได้ทำมาเพื่อการเดินอันทรหด อาการยังคงเดิม
สุดท้าย ไปหาอ่านจากหลายๆที่ เค้าบอกว่า การวิ่ง กับ การเดิน ไม่เหมือนกันครับ กล่าวคือ การกระจายน้ำหนัก ส่วนที่ต้องรับน้ำหนักนั้นต่างกันไป เราจะเอารองเท้าวิ่งมาใส่เดิน ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ 100% ควรใส่รองเท้าที่ทำมา "เพื่อเดิน" ไปเลย
ผมก็เฝ้าหารองเท้าเดิน ปรากฏว่าไปเจอของ Sketcher รุ่นชื่อว่า "Go Walk" ผมก็สงสัย เอ้ย นี่ตั้งชื่อรุ่นว่า "ไปเดิน" แปลว่าเอ็งทำมาเพื่อเดินใช่มั้ยเนี่ย
เลยตัดสินใจ ควักเงินซื้อครับ ตั้งใจว่า หากพิสูจน์แล้วว่าดีจริง ก็จะมาบอกต่อคนที่เจอปัญหาเดียวกัน
งานล่าสุด คือ Canton Fair ที่กว่างโจว วันที่ 1-5 May 2016 นี่แหละ ตอนที่กำลังพิมพ์อยู่นี่ผมอยู่ที่จีนครับ
เริ่มจากสถิติก่อน บันทึกโดย iphone6s
วันที่ 1 เดิน 9,786 ก้าว
วันที่ 2 เดิน 19,437 ก้าว
วันที่ 3 เดิน 16,018 ก้าว
วันที่ 4 เดิน 16,293 ก้าว
(ใส่รูปประกอบยังไงอะ)
ผลการทดลอง
1.ไม่มีอาการปวดหลัง - เฮ้ย ไม่มีจริงๆ มีความสุขมากกกก รู้สึกการเดินงานแฟร์มีอะไรให้ทำมากกว่าการมองหาที่นั่ง และก้มตัวมากขึ้นเยอะเลย เดินได้นาน และทนขึ้น
2.ไม่มีอาการปวดส้นเท้า - ไม่มีครับ ยืนยัน แม้จะเดินบนพื้นคอนกรีตและพื้นกระเบื้องทั้งวัน
3.อาการเมื่อยล้า - มีครับ ก็เดินกันขนาดนี้ มันมีอาการที่ขารู้สึกว่าล้าแล้ว แต่นั่งพักจะฟื้นฟูกลับมาได้ครับ
ข้อเสียที่เห็นชัด
1.รูปทรง - ใส่กับสูทแสล็คแล้วตลกมากครับ หากคิดจะใส่กับชุดทำงาน ก็เลือกคู่ดำ อย่าเอาคู่สีๆแปลกๆนะครับ แล้วก็ เลือกถุงเท้าดำมาด้วยก็ดี
2.การกันน้ำ - แหม่ อย่าไปเดินลุยน้ำนะครับมันกันน้ำออก เพราะมันอมน้ำสุดๆอะ 555
3.เหม็นครับ - ด้วยวัสดุ และภายในที่เก็บกลิ่น บอกเลย เหม็นอย่างมีนัยสำคัญครับ ใครใส่แล้วตีนไม่เหม็นแปลว่ามีพรสวรรค์ พยายามใส่ถุงเท้าหนาๆละกัน ช่วยได้อยู่
ครับ สำหรับคนที่เน้น "เดิน" ผมก็แนะนำว่า ผมลองมาหลายยี่ห้อ ที่แพงๆ และดังๆ และมีฟังก์ชั่นดูดี บอกเลยว่าสุดท้ายจบที่คู่นี้ คือถ้ามันพังก็จะซื้ออีกครับ เพราะตอบโจทย์คนเดินแบบผม หากใครที่กำลังประสบปัญหาแบบผมนี้ ก็ขอแนะนำนะครับ หากใครได้ผลเป็นยังไง แม้จะไม่ตรงกัน มาเขียนเพิ่มเติมไว้ เป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังหาของเหมาะกับการใช้งานกันครับ
สุดท้าย ข้อแนะนำ สำหรับคนที่เตรียมตัวไปงานเดิน , ทริปเดิน นะครับ
1.ก่อนไป ตัดเล็บเท้าให้สั้นทุกครั้ง ลดอาการบาดเจ็บ และกลิ่นเท้า
2.เอาถุงเท้าหนา (หนาแต่ส้นก็มีขาย) ไปด้วย ลดอาการบวมน้ำได้มากอยู่
3.เลือกรองเท้าที่เหมาะ ขนาดเหมาะ เวลาเลือกรองเท้าเนี่ย พกถุงเท้าหนาไปด้วย เวลาลองให้ใส่ถุงเท้าหนาลอง เพราะการเดิน เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับถุงเท้าหนาและรองเท้าทั้งวัน หลวมไปก็ไม่ดี คับไปทรมานแน่ครับ (แต่Sketcher นี่ดีอย่างตรงที่วัสดุมันขยายได้นิดหน่อย ใส่ถุงเท้าบางหรือหนาก็ได้อยู่)
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี่ สำหรับผม เครื่องแต่งกายที่มีผลกับชิวิตและสุขภาพที่สุดคือรองเท้าเนี่ยแหละครับ เลือกที่ใส่ดี ใส่สบาย การเดินทางก็จะดีไปด้วยครับ
[CR] ตามคำสัญญาที่ให้กับตัวเอง รองเท้าสำหรับนักเดิน!
แนะนำก่อนว่าผมเป็นคนที่ต้องเดินทางไปงาน Fair ในต่างประเทศประจำเพื่อไปดูงาน ไปแต่ละรอบก็เดินกันขาลากครับ เช้าจรดเย็นเป็นหมื่นๆก้าว ยืนในรถไฟฟ้าอีกเป็นชั่วโมง
ปีก่อน ผมไปงานแฟร์ที่ฮ่องกง เดินทั้งวันตลอด 3 วัน ตอนนั้นใส่รองเท้าวิ่งยี่ห้อดังครับ เพราะเชื่อว่า รองเท้าวิ่ง จะทำให้เดินได้ดีด้วย
ปรากฏว่า เดินไปวันที่ 2 เริ่มมีอาการดังนี้
1.ปวดหลัง - อาการนี้ คนยืนนาน , เดินนาน ทุกคนคงเคยเจอ เมื่ออายุมากขึ้น จะปวดกลางหลัง ปวดจี๊ดๆ ตำแหน่งที่ปวด ลองเท้าสะเอวดู ตำแหน่งหลังที่ปวดจะอยู่ตรงกับมือเราที่เท้าสะเอวนั่นแหละครับ ผมเป็น เพื่อนๆผมก็เป็นกันหลายคน หากเป็นแล้ว การก้มตัวเอามือแต่นิ้วเท้าจะช่วยให้รู้สึกดี หากไปถึงจุดนี้เมื่อไหร่ บอกเลยครับอาการเดียวกัน และจุดนั้นจะเบื่อการยืน / เดิน มาก
2.เจ็บส้นเท้า - อาการเจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ก้าวเดิน หากนั่งเฉยๆ จะไม่เจ็บ แต่ถ้าเดินจะเจ็บทันที และจะเจ็บจี๊ดๆจนไม่อยากเดินต่อ
3.หากรองเท้าหัวแคบเกิน จะทำให้ปวดปลายเท้า และเล็บอาจจะฉีกเนื้อเราได้ (เล็บนิ้วก้อย ฉีกเนื้อนิ้วนาง)
4.หนักสุด คือ บวมเป็นน้ำใสๆตามนิ้วและฝ่าเท้า
อาการเหล่านี้ผมมีครบ ตอนนั้นทรมานมากมากมาย ก็เข้ามาอ่านในพันทิพย์นี่แหละครับ หารองเท้าที่เดินดีๆ ไม่ปวดหลัง
มีคนแนะนำให้ซื้อไนกี้แอร์ใส่ ผมไปซื้อทันที ปรากฏว่าไม่ช่วยเลยครับ มันก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ไม่ได้ทำมาเพื่อการเดินอันทรหด อาการยังคงเดิม
สุดท้าย ไปหาอ่านจากหลายๆที่ เค้าบอกว่า การวิ่ง กับ การเดิน ไม่เหมือนกันครับ กล่าวคือ การกระจายน้ำหนัก ส่วนที่ต้องรับน้ำหนักนั้นต่างกันไป เราจะเอารองเท้าวิ่งมาใส่เดิน ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ 100% ควรใส่รองเท้าที่ทำมา "เพื่อเดิน" ไปเลย
ผมก็เฝ้าหารองเท้าเดิน ปรากฏว่าไปเจอของ Sketcher รุ่นชื่อว่า "Go Walk" ผมก็สงสัย เอ้ย นี่ตั้งชื่อรุ่นว่า "ไปเดิน" แปลว่าเอ็งทำมาเพื่อเดินใช่มั้ยเนี่ย
เลยตัดสินใจ ควักเงินซื้อครับ ตั้งใจว่า หากพิสูจน์แล้วว่าดีจริง ก็จะมาบอกต่อคนที่เจอปัญหาเดียวกัน
งานล่าสุด คือ Canton Fair ที่กว่างโจว วันที่ 1-5 May 2016 นี่แหละ ตอนที่กำลังพิมพ์อยู่นี่ผมอยู่ที่จีนครับ
เริ่มจากสถิติก่อน บันทึกโดย iphone6s
วันที่ 1 เดิน 9,786 ก้าว
วันที่ 2 เดิน 19,437 ก้าว
วันที่ 3 เดิน 16,018 ก้าว
วันที่ 4 เดิน 16,293 ก้าว
(ใส่รูปประกอบยังไงอะ)
ผลการทดลอง
1.ไม่มีอาการปวดหลัง - เฮ้ย ไม่มีจริงๆ มีความสุขมากกกก รู้สึกการเดินงานแฟร์มีอะไรให้ทำมากกว่าการมองหาที่นั่ง และก้มตัวมากขึ้นเยอะเลย เดินได้นาน และทนขึ้น
2.ไม่มีอาการปวดส้นเท้า - ไม่มีครับ ยืนยัน แม้จะเดินบนพื้นคอนกรีตและพื้นกระเบื้องทั้งวัน
3.อาการเมื่อยล้า - มีครับ ก็เดินกันขนาดนี้ มันมีอาการที่ขารู้สึกว่าล้าแล้ว แต่นั่งพักจะฟื้นฟูกลับมาได้ครับ
ข้อเสียที่เห็นชัด
1.รูปทรง - ใส่กับสูทแสล็คแล้วตลกมากครับ หากคิดจะใส่กับชุดทำงาน ก็เลือกคู่ดำ อย่าเอาคู่สีๆแปลกๆนะครับ แล้วก็ เลือกถุงเท้าดำมาด้วยก็ดี
2.การกันน้ำ - แหม่ อย่าไปเดินลุยน้ำนะครับมันกันน้ำออก เพราะมันอมน้ำสุดๆอะ 555
3.เหม็นครับ - ด้วยวัสดุ และภายในที่เก็บกลิ่น บอกเลย เหม็นอย่างมีนัยสำคัญครับ ใครใส่แล้วตีนไม่เหม็นแปลว่ามีพรสวรรค์ พยายามใส่ถุงเท้าหนาๆละกัน ช่วยได้อยู่
ครับ สำหรับคนที่เน้น "เดิน" ผมก็แนะนำว่า ผมลองมาหลายยี่ห้อ ที่แพงๆ และดังๆ และมีฟังก์ชั่นดูดี บอกเลยว่าสุดท้ายจบที่คู่นี้ คือถ้ามันพังก็จะซื้ออีกครับ เพราะตอบโจทย์คนเดินแบบผม หากใครที่กำลังประสบปัญหาแบบผมนี้ ก็ขอแนะนำนะครับ หากใครได้ผลเป็นยังไง แม้จะไม่ตรงกัน มาเขียนเพิ่มเติมไว้ เป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังหาของเหมาะกับการใช้งานกันครับ
สุดท้าย ข้อแนะนำ สำหรับคนที่เตรียมตัวไปงานเดิน , ทริปเดิน นะครับ
1.ก่อนไป ตัดเล็บเท้าให้สั้นทุกครั้ง ลดอาการบาดเจ็บ และกลิ่นเท้า
2.เอาถุงเท้าหนา (หนาแต่ส้นก็มีขาย) ไปด้วย ลดอาการบวมน้ำได้มากอยู่
3.เลือกรองเท้าที่เหมาะ ขนาดเหมาะ เวลาเลือกรองเท้าเนี่ย พกถุงเท้าหนาไปด้วย เวลาลองให้ใส่ถุงเท้าหนาลอง เพราะการเดิน เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับถุงเท้าหนาและรองเท้าทั้งวัน หลวมไปก็ไม่ดี คับไปทรมานแน่ครับ (แต่Sketcher นี่ดีอย่างตรงที่วัสดุมันขยายได้นิดหน่อย ใส่ถุงเท้าบางหรือหนาก็ได้อยู่)
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี่ สำหรับผม เครื่องแต่งกายที่มีผลกับชิวิตและสุขภาพที่สุดคือรองเท้าเนี่ยแหละครับ เลือกที่ใส่ดี ใส่สบาย การเดินทางก็จะดีไปด้วยครับ