บ้านเราอยู่ชานเมืองค่ะ ป้ายรถเมล์หรือวินมอเตอร์ไซค์ที่ใกล้ที่สุดห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร
คนแถวบ้านก็จะเดินทางโดยการเดินเผื่อเจอพี่วินหรือแท็กซี่ขาจร ไม่ก็ให้คนที่บ้านไปส่งขึ้นรถเมล์
เมื่อก่อนเวลาเราไปไหนก็เดินทางลำบาก จนกระทั่งมีรถเป็นของตัวเอง
เราติดนิสัยรับคนขึ้นรถมาจากพ่อค่ะ เมื่อก่อนก็ไม่มีปัญหาเพราะมีแต่คนคุ้นหน้ากัน
แต่เดี๋ยวนี้มีคนหน้าใหม่ๆมา พอเราจอดรับบางคนก็จะดูคิดหนัก ดูระแวง (ตอนเช้าเวลาไปทำงาน)
ซึ่งเราเข้าใจสภาพสังคมสมัยนี้ค่ะ ตัวเราที่เป็นคนรับขึ้นรถก็มีความเสี่ยง
บางทีเราอยากจอดรับขากลับบ้างค่ะ เพราะสงสารว่ารถหายาก เดินทางลำบาก
(คือถ้ามารอรถตรงนี้ยังไงก็เป็นทางผ่านของเราค่ะ เพราะบ้านเราลึกสุด)
แต่เราก็กลัวจะไม่มีใครกล้าขึ้นรถมา กลัวจะดูเป็นมิจฉาชีพค่ะ
แฟนเราก็บอกว่าลำบากกายเค้าฝ่ายเดียว แต่สบายใจกันทั้ง2ฝ่าย ไม่ต้องมาระแวงกัน
คิดยังไงกับการติดรถกันไปแบบนี้คะ? แล้วยังกล้าติดรถคนอื่นกันบ้างมั้ยคะ?
คิดยังไงกับการติดรถคนอื่นคะ ยังกล้าติดรถใครหรือให้คนอื่นติดรถไปด้วยมั้ยคะ
คนแถวบ้านก็จะเดินทางโดยการเดินเผื่อเจอพี่วินหรือแท็กซี่ขาจร ไม่ก็ให้คนที่บ้านไปส่งขึ้นรถเมล์
เมื่อก่อนเวลาเราไปไหนก็เดินทางลำบาก จนกระทั่งมีรถเป็นของตัวเอง
เราติดนิสัยรับคนขึ้นรถมาจากพ่อค่ะ เมื่อก่อนก็ไม่มีปัญหาเพราะมีแต่คนคุ้นหน้ากัน
แต่เดี๋ยวนี้มีคนหน้าใหม่ๆมา พอเราจอดรับบางคนก็จะดูคิดหนัก ดูระแวง (ตอนเช้าเวลาไปทำงาน)
ซึ่งเราเข้าใจสภาพสังคมสมัยนี้ค่ะ ตัวเราที่เป็นคนรับขึ้นรถก็มีความเสี่ยง
บางทีเราอยากจอดรับขากลับบ้างค่ะ เพราะสงสารว่ารถหายาก เดินทางลำบาก
(คือถ้ามารอรถตรงนี้ยังไงก็เป็นทางผ่านของเราค่ะ เพราะบ้านเราลึกสุด)
แต่เราก็กลัวจะไม่มีใครกล้าขึ้นรถมา กลัวจะดูเป็นมิจฉาชีพค่ะ
แฟนเราก็บอกว่าลำบากกายเค้าฝ่ายเดียว แต่สบายใจกันทั้ง2ฝ่าย ไม่ต้องมาระแวงกัน
คิดยังไงกับการติดรถกันไปแบบนี้คะ? แล้วยังกล้าติดรถคนอื่นกันบ้างมั้ยคะ?