เรามีแพลนจะซื้อบ้านค่ะ ตั้งใจหาบ้านเดี่ยว แต่ด้วยระแวกที่เราอยู่แทบไม่มีบ้านเดี่ยวเลย หรือไม่ก็ไกลก็ไปแถวชานเมือง เราจึงลองเปิดใจเข้าไปดูทาวน์โฮม และหลายๆอย่างตอบโจทย์ทั้งการเดินทางหรือปัจจัยอื่นๆ ก็ไม่ได้แย่ เราจึงตัดสินใจจอง วันแรกที่ไปชมโครงการ เงียบดีค่ะ สงบ และสะอาด
เราจึงตกลงกับเซลดำเนินการ ระหว่างรอธนาคาร เราขอเซลเข้าชมโครงการตอนกลางคืนค่ะ เจอบ้านข้างๆ จอดรถไว้ริมรั้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนวันที่เซลนัดไปเซ็นต์สัญญา เราถามว่านิติมีกฎเรื่องการจอดรถไหม เซลก็ตอบว่าไม่มีค่ะ ใครอยากจอดตรงไหนก็ได้ เราก็เอ๊ะแล้วหนึ่ง และเซลก็พูดขึ้นมาว่าอ่อ บ้านหลังข้างๆใช่ไหม ที่เค้ามาจอดไว้ริมรั้ว จริงๆเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ เขาไม่ได้จอดขวางหน้าบ้าน ริมรั้วเป็นที่สาธารณะ และพอถึงวันนัดตรวจบ้าน เราก็เจอรถคันเดิม จอดอยู่ที่เดิม ข้างบ้านที่เราจอง เรารู้สึกไม่สบายใจเลย แต่เราไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่เซลเห็นเรายืนมองไปที่รถคันนั้น เซลก็บอกว่า เขาจอดชั่วคราวค่ะ แต่เดี๋ยวถ้าตัวเองย้ายเข้ามาอยุ่แล้ว เขาก็คงไม่กล้ามาจอดแล้ว ซึ่ง!! เราก็รู้สึก 50/50 กลัวจะเสียสุขภาพจิตระยะยาวจังเลยค่ะ เราควรไปต่อดีไหมคะ 😣
ทำยังไงกับเพื่อนบ้านทาวน์โฮมที่มักเอารถมาจอดข้างบ้านหลังริมดี ?
เราจึงตกลงกับเซลดำเนินการ ระหว่างรอธนาคาร เราขอเซลเข้าชมโครงการตอนกลางคืนค่ะ เจอบ้านข้างๆ จอดรถไว้ริมรั้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนวันที่เซลนัดไปเซ็นต์สัญญา เราถามว่านิติมีกฎเรื่องการจอดรถไหม เซลก็ตอบว่าไม่มีค่ะ ใครอยากจอดตรงไหนก็ได้ เราก็เอ๊ะแล้วหนึ่ง และเซลก็พูดขึ้นมาว่าอ่อ บ้านหลังข้างๆใช่ไหม ที่เค้ามาจอดไว้ริมรั้ว จริงๆเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ เขาไม่ได้จอดขวางหน้าบ้าน ริมรั้วเป็นที่สาธารณะ และพอถึงวันนัดตรวจบ้าน เราก็เจอรถคันเดิม จอดอยู่ที่เดิม ข้างบ้านที่เราจอง เรารู้สึกไม่สบายใจเลย แต่เราไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่เซลเห็นเรายืนมองไปที่รถคันนั้น เซลก็บอกว่า เขาจอดชั่วคราวค่ะ แต่เดี๋ยวถ้าตัวเองย้ายเข้ามาอยุ่แล้ว เขาก็คงไม่กล้ามาจอดแล้ว ซึ่ง!! เราก็รู้สึก 50/50 กลัวจะเสียสุขภาพจิตระยะยาวจังเลยค่ะ เราควรไปต่อดีไหมคะ 😣