คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่แน่ใจว่าคุณยังต้องการคำตอบอยู่ไหม
แลคโตสในกรณีนี้ไม่น่าเป็นห่วงครับ เพราะว่ามีปริมาณน้อยมากๆ อย่าให้ตัวเลข 96.1% มาหลอกเรา ต้องคิดคำนวณเป็นน้ำหนักต่อซองจริงๆก่อนถึงจะมองภาพออกครับ อย่างกรณีนี้ ถ้าคำนวณออกมาจริงๆแล้วซองนึงน่าจะมีแลคโตสไม่เกิน 1 กรัม ซึ่งแลคโตส 1 กรัมนี่ทานเข้าไปแทบไม่ได้มีผลอะไรกับร่างกายเลย เหตุผลที่เค้าใส่น่าจะเป็นเพราะว่า เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เค้ามีเนื้อมากขึ้น จะได้ง่ายต่อการผลิตและการใช้งาน (ลองนึกภาพว่าถ้าฉีกซองออกมาแล้วข้างในมีสารให้ความหวานแค่เกล็ดเล็กๆเกล็ดเดียวก็คงจะใช้ยากน่าดู) และก็เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อนของสารให้ความหวานมากกว่าครับ
ถ้าร่างกายได้รับแลคโตสในปริมาณมากก็จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้เหมือนกัน หลักการคิดก็เช่นเดียวกับคาร์โบไฮเดรตชนิดอื่นในอาหาร ซึ่งต้องนำมาคิดรวมกัน แต่อาหารทั่วไปจะไม่ค่อยมีแลคโตสอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่อาหารจำพวกนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมครับ
แลคโตสในกรณีนี้ไม่น่าเป็นห่วงครับ เพราะว่ามีปริมาณน้อยมากๆ อย่าให้ตัวเลข 96.1% มาหลอกเรา ต้องคิดคำนวณเป็นน้ำหนักต่อซองจริงๆก่อนถึงจะมองภาพออกครับ อย่างกรณีนี้ ถ้าคำนวณออกมาจริงๆแล้วซองนึงน่าจะมีแลคโตสไม่เกิน 1 กรัม ซึ่งแลคโตส 1 กรัมนี่ทานเข้าไปแทบไม่ได้มีผลอะไรกับร่างกายเลย เหตุผลที่เค้าใส่น่าจะเป็นเพราะว่า เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เค้ามีเนื้อมากขึ้น จะได้ง่ายต่อการผลิตและการใช้งาน (ลองนึกภาพว่าถ้าฉีกซองออกมาแล้วข้างในมีสารให้ความหวานแค่เกล็ดเล็กๆเกล็ดเดียวก็คงจะใช้ยากน่าดู) และก็เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อนของสารให้ความหวานมากกว่าครับ
ถ้าร่างกายได้รับแลคโตสในปริมาณมากก็จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้เหมือนกัน หลักการคิดก็เช่นเดียวกับคาร์โบไฮเดรตชนิดอื่นในอาหาร ซึ่งต้องนำมาคิดรวมกัน แต่อาหารทั่วไปจะไม่ค่อยมีแลคโตสอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่อาหารจำพวกนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบว่า แลคโตส(Lactose) ในน้ำตาลเทียม ให้พลังงาน หรือ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือไม่ครับ?