สวัสดีค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์งานในสิงคโปร์ เลยอยากจะมาแชร์ เพื่อมีใครกำลังหางานในสิงคโปร์ หรือแถวบ้านใกล้เรือนเคียง
ช่วงนี้หางานค่ะ ทั้งในไทย สิงคโปร์ และโซนเอเชีย
สมัครงานผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยใช้เว็ป
http://www.stjobs.sg/ linkedin และหาบริษัทสมัครตรงๆกับทางเว็บบริษัท ส่วนมากจะสมัครทาง linkedin ไม่ว่าประเทศไหน ก็มีตำแหน่งงานเปิดให้ดู โดยHR ของบริษัทเป็นคนลงประกาศไว้
หางานที่ว่านี่ ไม่ได้ไปทำงานล้างจาน หรืองานบริการนะคะ เป็นงานบริษัท ตำแหน่งงานจริงๆ
เราจบด้าน คณิตศาสตร์มา งานในประเทศตำแหน่งที่อยากทำ ไม่มีค่ะ มีแต่ตำแหน่งข้างเคียง จะเป็นพวก นักคณิตศาสตร์ประกันภัย หรือนักวิเคราะห์สินเชื่อ ซึ่งไม่ได้อยากทำด้านนี้ พอลองหาตำแหน่งงานในประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า ที่สิงคโปร์มีตำแหน่งงานที่อยากทำ คือ Financial Engineer, Strategic Analyst, Price Analyst เยอะมากๆ เลยใช้เวลาส่วนใหญ่หางานจากประเทศสิงคโปร์
โชคดีที่มีเพื่อนคนเวียดนาม คนหนึ่ง ที่รู้จักมาตั้งแต่ปี 2009 เธอเรียนจบป.ตรีที่อังกฤษ ด้าน HR ปัจจุบันทำงานเป็น HR ของบริษัท recruitment ก็เลยได้สอบถาม วิธีการหางาน และสมัครงาน ซึ่งเธอก็แนะนำให้หาจากเน็ต โดยที่บางครั้งมีตำแหน่งที่น่าสนใจ เพื่อนจะส่งมาให้ดูแล้วบอกให้เราสมัครเองถ้าเราสนใจ
ปัจจุบัน หากไม่เคยทำงานในสิงคโปร์ จะไม่มี Employment Pass ทางสิงคโปร์จะมี Singapore Job Bank ไว้เปิดให้คนต่างชาติสมัครงาน แต่นั้นคือคนต่างชาติที่ได้residence permit ในสิงคโปร์แล้ว เพราะงั้น เราไม่สามารถหางานจากทางนี้ได้ จึงต้องสมัครผ่านทางอื่น
ปกติตำแหน่งงานในสิงคโปร์นั้น บริษัทจะพยายามรับคนสิงคโปร์ก่อน จะมีบางตำแหน่งที่เป็นของคนต่างชาติบ้าง แต่ต้องเป็นตำแหน่งที่หาคนสิงคโปร์ทำไม่ได้ และต้องผ่านอนุมัติจากทางการสิงคโปร์ (เท่าที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ)
หลังจากที่เริ่มสมัครเดือนมกรา... ประมาณช่วงปลายกุมภา ก็มีบ้างบริษัทจากสิงคโปร์โทรมาหาเพื่อสอบถามข้อมูลเล็กน้อย เช่น
ตอนนี้ทำอะไรอยู่? คุณสมัครตำแหน่งนี้มาใช่ไหม?
สะดวกมาสิงคโปร์ เพื่อสัมภาษณ์หรือไหม?
คุณอยากได้เงินเดือนประมาณเท่าไร ? แล้วทำการขอนัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์อีกที
ซึ่งก็มีเพียง 4บริษัทที่นัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์.... ใช้เวลาประมาณ 20นาที โดยคำถามแรกที่เจอจะคล้ายๆกัน "แนะนำตัวเอง" บางที่ เขาบอกให้เวลา 3นาที
คำถามอื่นๆก็จะมีเช่น ทำไมคุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้ ทำไมคุณถึงอยากมาทำงานในสิงคโปร์ หรือทำไมไม่หางานในไทย
หลังสัมภาษณ์เสร็จ ผ่านไปประมาณ 2อาทิตย์ มีเพียง 3 บริษัท ที่ส่ง Email มาให้ไปสัมภาษณ์ในสิงคโปร์ (บริษัทไม่ได้ออกค่าบิน ค่าโรงแรมนะคะ เราต้องออกเอง และทั้ง 3บริษัท มาจาก สมัครตรงทางหน้าเว็บ 1 และสมัครผ่านทางlinkedin 2ที่ โดยทาง linkedin ขอให้ส่งอีเมลล์ไปใหม่โดยตรงกับ HRทั้งสองที่ค่ะ ) เราวางแผนการไปสิงคโปร์ครั้งนี้ ไปเพื่อสัมภาษณ์งาน เลยบอกทั้งสามบริษัทว่าเราสะดวกวันเวลาช่วงนี้เท่านั้น ซึ่งทั้งสามบริษัทก็ตอบตกลงกับเวลาที่ได้นัดหมายกัน เราไปถึง 1วันก่อนสัมภาษณ์ เช้าวันรุ่งขึ้น เราออกจากโรงแรมไปraffle place เพื่อสัมภาษณ์งาน
บริษัท A : ไปถึงประมาณ 10.45 เขานัด 11.00น. ก็ขึ้นไปบนบริษัท มือถือก็ปิดเครื่องเรียบร้อย แบกเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น transcript ใบจบ ใบรับรองการทำงานจากที่ก่อนๆ CV และเอกสารที่คิดว่าเขาอาจจะดู ทางประชาสัมพันธ์พาไปนั่งรอที่ lobby ของบริษัทแค่ครู่เดียวจริงๆ ยังไม่ทันจะวางของ เขาก็เรียกเราเข้าไป ในห้องเล็กๆ ที่มีโต๊ะ และที่นั่ง 6ที่ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนสิงคโปร์เข้ามา 2คน และผู้ชายอินเดีย 1 คน ก็เริ่มสัมภาษณ์ก่อนเวลาสะอีก เริ่มแรก เขาอธิบายบริษัทเขา (เป็นธนาคารค่ะ) นโยบาย และพูดถึงตำแหน่งงาน ว่ากำลังหาคนประมาณไหน เขาไม่เปิดโอกาสให้เราได้พูด จนกระทั่ง เขาถามมาแค่ คุณคิดว่า คุณทำงานได้ไหม? ..... ก็ต้องตอบละค่ะ ด้วยความมั่นใจว่า ไม่เคยทำงานธนาคาร แต่คิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาน่าจะเป็นประโยชน์ สัมภาษณ์เสร็จประมาณ 11.30น.
เดินออกมาจากตึก โทรหาน้อง... สงสัยไม่ได้แน่เลย แบบ เง้อ หงิดแล้วจริงๆ น้องบอก ฮึดไว้ๆ เดียวบ่ายมีอีกที่ ใช่ค่ะ มาครั้งเดียวเอาให้คุ้ม สัมภาษณ์มันทั้งสามบริษัทนั่นละค่ะ
บริษัท B : เป็นบริษัทสายการบินยุโรป เรานัดไว้ 15.00 เพื่อเวลาเดินทางและกินข้าวกลางวัน ไปถึง 14.50น. บริษัทนี้ไม่ใหญ่ ห้องประชุมเต็ม เลยนั่งคุยกันตรงโซฟากับทางคนที่จะมาเป็นเจ้านาย และ HR ซึ่งเป็นผู้หญิงคน ผุ้ชายคน อันนี้เขาถามเรื่องความรู้ pricing modeling, forecasting และความรู้ programming ก็ตอบไปตามที่เรียนมา และเจ้านายเอา Laptop มาวาง และให้เราเขียนโปรแกรมให้เขาดู โอโห้.. สนุกเลย ก็ใช้เวลาประมาณ 15นาทีในการเขียน ระหว่างนั้น HR กับเจ้านายนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระ ปล.เจ้านายเป็นคนฝรั่งเศส HR คนจีน จีนมากๆ อาหมวยเลยค่ะ หลังจากนั้นก็คุย เขาก็เล่ามาว่างานมีปัญหา ถ้าเป็นเราจะแก้ยังไง เหมือนเป็นการสอบวิเคราะห์ของเรา แล้วก็มีถามเรื่อง ตัวเลข เพราะงานที่ทำจะยุ่งเกี่ยวกับตัวเลข และโปรแกรมคอมฯ เขาถามว่าเราถนัดไหม จะเบื่อไหม? ตำแหน่งนี้แทนคนที่กำลังจะออกไป ซึ่งเป็นคนต่างชาติเหมือนกัน เขาย้ายไปตำแหน่งอื่น เลยต้องหาคนเข้ามาแทน สัมภาษณ์เสร็จประมาณเกือบๆ ห้าโมงเย็น
จบวันแรก...
หลังจากนั้น ก็ข้ามไปหลายวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์...
บริษัท C: อีกที่หนึ่ง นัดวันจันทร์ นัด 9.00น. แต่เช้าเลย เนื่องจากบริษัทอยู่แถวสนามบิน เลยตัดสินใจนั่งแท๊กซี่ แต่รถติดมาก ใครว่าสิงคโปร์รถไม่ติด ติดค่ะ ดีว่าวันอาทิตย์ถามทางโรงแรม ว่าไปที่นี่ตอนเช้า ต้องออกกี่โมง โรงแรมบอกให้ออก 7.50น. เพื่อเวลาไว้ เราไปถึงประมาณ 8.40น. ซึ่งถือว่ารถติดมาก แท๊กซี่บอก ถ้าออก 8โมง คงถึง 9โมงพอดี. บริษัทนี้เป็นบริษัททำอุตสาหกรรม บริษัทแม่เป็นสัญชาติอเมริกันค่ะ
บริษัทนี้ไม่ได้คุยกับ HR คุยกับคนที่จะมาเป็นเจ้านายเลย (คนอเมริกา) เหมือนอำนาจตัดสินใจอยู่ที่คนนี้ ก็คุยเรื่องตัวงาน ว่าทำอะไรบ้าง เราทำได้ไหม แล้วเขาก็บอกมาว่า ต้องการให้เราดูเรื่อง ตัวเลข อัตราแลกเปลี่ยน กับของ supply raw material ก็คุยอยู่นานพอสมควร เสร็จประมาณเที่ยงๆ เลยมาหน่อย
สรุปเล็กๆน้อยๆ
-เราใส่สูททำงาน กางเกงไปสัมภาษณ์นะคะ ส่วนคนที่มานั่งสัมภาษณ์ก็ใส่สูททุกคนเช่นกัน ขนาดผู้หญิงใส่เดรส ก็ใส่สูททับ
-เอกสารที่เตรียมไป ไม่มีใครขอดู 5555+ HR ก็ไม่ดู ไม่รู้ว่าดี ไม่ดี หรือเพราะในตอนสมัครได้ upload เข้าระบบแล้ว แต่เตรียมไปก็ดีนะคะ
-อะไรที่เตรียมตัวมา ข้อดีข้อเสียตัวเอง ประสบการณ์ในการทำงานกลุ่ม คำถามที่หาจากเน็ตแล้วเตรียมตัวไม่ได้ใช้สักข้อ!!! โถ่....
-ไม่มีการถามหา TOEIC TOEFL IELTS เหมือนในไทย คิดว่าอาจจะเป็นเพราะใบจบจากประเทศเยอรมนีกับอังกฤษ และคนสิงคโปร์พูดอังกฤษเป็นปกติค่ะ
-ทาง HR มีการแชร์ข้อมูลว่าเราต้องเป็น expat เข้าไปทางสิงคโปร์ เพราะงั้นทางบริษัทจะบวกเพิ่มค่าบ้านให้ และทำวีซ่าให้
-ทุกการสัมภาษณ์ เป็นภาษาอังกฤษหมดค่ะ ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ หรือคุยตัวต่อตัว สำเนียงภาษาอังกฤษก็แตกต่างกันไป เราพยายามจะพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษให้ได้ดีที่สุดนะคะ
หลังจากสัมภาษณ์ผ่านไป มีเพียง 1บริษัทติดต่อมาขอสัมภาษณ์อีกรอบในเมืองไทย เพราะเจ้านายอีกคนจะบินมากรุงเทพช่วงหลังสงกานต์ เพิ่งสัมภาษณ์มาค่ะ และเขาบอกว่า ภายในอาทิตย์หน้านี้จะรู้คำตอบ ... ยังรอลุ้นต่อไปค่ะ โดยส่วนตัวชอบบริษัท B ที่สุดเลยค่ะ
อยากฝากถึงคนที่อยากหางานทำในต่างประเทศ ลองหางานใน linkedin หรือเปิดเว็บบริษัทโดยตรงดีกว่าผ่านทางเอเจนซี่เยอะค่ะ
*แก้ไขนะคะ ที่ว่าคนสัมภาษณ์อินเดีย (ไม่มีกลิ่นเน้อ) อยากจะบอกว่า เรามีเพื่อนสนิทเป็นคนอินเดีย โดยปกติส่วนมากความเชื่อที่เขานับถือกัน ห้ามใช้พวกเครื่องสำอางค์น้ำหอม ต้องเป็นดอกไม้แห้ง หรือกลิ่นหอมจากเครื่องหอมเท่านั้น โดยบ้านเพื่อน จะมีเครื่องเทศอยู่มาก ถ้าเป็นรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ของเพื่อน ทุกวันนี้ก็ไม่มีการใช้น้ำห้อม แต่เพื่อนๆของจขกท.ใช้น้ำหอมค่ะ เขาเองก็บอกยุคสมัยมันเปลี่ยนไป จากประสบการณ์ที่ทำงานในเยอรมนี และเจอคนอินเดียที่ทำงานออฟฟิต ไม่มีกลิ่นตัว อยากจะสื่อๆว่า อย่างไปรังเกียจกลิ่นเขาเลย เพราะความเชื่อทุกที่ไม่เหมือนกัน และวัฒนธรรมก็ต่างกัน แต่อาจจะเขียนสั้นไปหน่อย เลยเกิดการเข้าใจผิด ต้องขอโทษจริงๆค่ะ
UPDATE สถานะ... ยังคงรองานอยู่ ยังไม่มีเมลล์มาแต่อย่างใด คาดว่า วันนี้บริษัทคงหยุดกันละมั่งค่ะ
UPDATE 04/05/2016 บริษัท C ติดต่อมาค่ะวันนี้ ขอนัดสัมภาษณ์เพิ่มอีกยก เป็นการสัมภาษณ์กับผู้บริหารอีกท่าน ที่จะเดินทางมากทม. วันพรุ่งนี้ และนัดสัมภาษณ์วันศุกร์นี้ค่ะ ส่วนบริษัท A, B ยังไม่ได้รับการติดต่อมาเลยค่ะ....
UPDATE 19/05/2016 ได้งานแล้วค่า เย้! ทางบริษัทจะทำ Employment Pass ให้ แล้วจะมาอัพเดตต่อนะคะ
ประสบการณ์สัมภาษณ์งานในประเทศสิงคโปร์
ช่วงนี้หางานค่ะ ทั้งในไทย สิงคโปร์ และโซนเอเชีย
สมัครงานผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยใช้เว็ป http://www.stjobs.sg/ linkedin และหาบริษัทสมัครตรงๆกับทางเว็บบริษัท ส่วนมากจะสมัครทาง linkedin ไม่ว่าประเทศไหน ก็มีตำแหน่งงานเปิดให้ดู โดยHR ของบริษัทเป็นคนลงประกาศไว้
หางานที่ว่านี่ ไม่ได้ไปทำงานล้างจาน หรืองานบริการนะคะ เป็นงานบริษัท ตำแหน่งงานจริงๆ
เราจบด้าน คณิตศาสตร์มา งานในประเทศตำแหน่งที่อยากทำ ไม่มีค่ะ มีแต่ตำแหน่งข้างเคียง จะเป็นพวก นักคณิตศาสตร์ประกันภัย หรือนักวิเคราะห์สินเชื่อ ซึ่งไม่ได้อยากทำด้านนี้ พอลองหาตำแหน่งงานในประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า ที่สิงคโปร์มีตำแหน่งงานที่อยากทำ คือ Financial Engineer, Strategic Analyst, Price Analyst เยอะมากๆ เลยใช้เวลาส่วนใหญ่หางานจากประเทศสิงคโปร์
โชคดีที่มีเพื่อนคนเวียดนาม คนหนึ่ง ที่รู้จักมาตั้งแต่ปี 2009 เธอเรียนจบป.ตรีที่อังกฤษ ด้าน HR ปัจจุบันทำงานเป็น HR ของบริษัท recruitment ก็เลยได้สอบถาม วิธีการหางาน และสมัครงาน ซึ่งเธอก็แนะนำให้หาจากเน็ต โดยที่บางครั้งมีตำแหน่งที่น่าสนใจ เพื่อนจะส่งมาให้ดูแล้วบอกให้เราสมัครเองถ้าเราสนใจ
ปัจจุบัน หากไม่เคยทำงานในสิงคโปร์ จะไม่มี Employment Pass ทางสิงคโปร์จะมี Singapore Job Bank ไว้เปิดให้คนต่างชาติสมัครงาน แต่นั้นคือคนต่างชาติที่ได้residence permit ในสิงคโปร์แล้ว เพราะงั้น เราไม่สามารถหางานจากทางนี้ได้ จึงต้องสมัครผ่านทางอื่น
ปกติตำแหน่งงานในสิงคโปร์นั้น บริษัทจะพยายามรับคนสิงคโปร์ก่อน จะมีบางตำแหน่งที่เป็นของคนต่างชาติบ้าง แต่ต้องเป็นตำแหน่งที่หาคนสิงคโปร์ทำไม่ได้ และต้องผ่านอนุมัติจากทางการสิงคโปร์ (เท่าที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ)
หลังจากที่เริ่มสมัครเดือนมกรา... ประมาณช่วงปลายกุมภา ก็มีบ้างบริษัทจากสิงคโปร์โทรมาหาเพื่อสอบถามข้อมูลเล็กน้อย เช่น
ตอนนี้ทำอะไรอยู่? คุณสมัครตำแหน่งนี้มาใช่ไหม?
สะดวกมาสิงคโปร์ เพื่อสัมภาษณ์หรือไหม?
คุณอยากได้เงินเดือนประมาณเท่าไร ? แล้วทำการขอนัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์อีกที
ซึ่งก็มีเพียง 4บริษัทที่นัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์.... ใช้เวลาประมาณ 20นาที โดยคำถามแรกที่เจอจะคล้ายๆกัน "แนะนำตัวเอง" บางที่ เขาบอกให้เวลา 3นาที
คำถามอื่นๆก็จะมีเช่น ทำไมคุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้ ทำไมคุณถึงอยากมาทำงานในสิงคโปร์ หรือทำไมไม่หางานในไทย
หลังสัมภาษณ์เสร็จ ผ่านไปประมาณ 2อาทิตย์ มีเพียง 3 บริษัท ที่ส่ง Email มาให้ไปสัมภาษณ์ในสิงคโปร์ (บริษัทไม่ได้ออกค่าบิน ค่าโรงแรมนะคะ เราต้องออกเอง และทั้ง 3บริษัท มาจาก สมัครตรงทางหน้าเว็บ 1 และสมัครผ่านทางlinkedin 2ที่ โดยทาง linkedin ขอให้ส่งอีเมลล์ไปใหม่โดยตรงกับ HRทั้งสองที่ค่ะ ) เราวางแผนการไปสิงคโปร์ครั้งนี้ ไปเพื่อสัมภาษณ์งาน เลยบอกทั้งสามบริษัทว่าเราสะดวกวันเวลาช่วงนี้เท่านั้น ซึ่งทั้งสามบริษัทก็ตอบตกลงกับเวลาที่ได้นัดหมายกัน เราไปถึง 1วันก่อนสัมภาษณ์ เช้าวันรุ่งขึ้น เราออกจากโรงแรมไปraffle place เพื่อสัมภาษณ์งาน
บริษัท A : ไปถึงประมาณ 10.45 เขานัด 11.00น. ก็ขึ้นไปบนบริษัท มือถือก็ปิดเครื่องเรียบร้อย แบกเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น transcript ใบจบ ใบรับรองการทำงานจากที่ก่อนๆ CV และเอกสารที่คิดว่าเขาอาจจะดู ทางประชาสัมพันธ์พาไปนั่งรอที่ lobby ของบริษัทแค่ครู่เดียวจริงๆ ยังไม่ทันจะวางของ เขาก็เรียกเราเข้าไป ในห้องเล็กๆ ที่มีโต๊ะ และที่นั่ง 6ที่ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนสิงคโปร์เข้ามา 2คน และผู้ชายอินเดีย 1 คน ก็เริ่มสัมภาษณ์ก่อนเวลาสะอีก เริ่มแรก เขาอธิบายบริษัทเขา (เป็นธนาคารค่ะ) นโยบาย และพูดถึงตำแหน่งงาน ว่ากำลังหาคนประมาณไหน เขาไม่เปิดโอกาสให้เราได้พูด จนกระทั่ง เขาถามมาแค่ คุณคิดว่า คุณทำงานได้ไหม? ..... ก็ต้องตอบละค่ะ ด้วยความมั่นใจว่า ไม่เคยทำงานธนาคาร แต่คิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาน่าจะเป็นประโยชน์ สัมภาษณ์เสร็จประมาณ 11.30น.
เดินออกมาจากตึก โทรหาน้อง... สงสัยไม่ได้แน่เลย แบบ เง้อ หงิดแล้วจริงๆ น้องบอก ฮึดไว้ๆ เดียวบ่ายมีอีกที่ ใช่ค่ะ มาครั้งเดียวเอาให้คุ้ม สัมภาษณ์มันทั้งสามบริษัทนั่นละค่ะ
บริษัท B : เป็นบริษัทสายการบินยุโรป เรานัดไว้ 15.00 เพื่อเวลาเดินทางและกินข้าวกลางวัน ไปถึง 14.50น. บริษัทนี้ไม่ใหญ่ ห้องประชุมเต็ม เลยนั่งคุยกันตรงโซฟากับทางคนที่จะมาเป็นเจ้านาย และ HR ซึ่งเป็นผู้หญิงคน ผุ้ชายคน อันนี้เขาถามเรื่องความรู้ pricing modeling, forecasting และความรู้ programming ก็ตอบไปตามที่เรียนมา และเจ้านายเอา Laptop มาวาง และให้เราเขียนโปรแกรมให้เขาดู โอโห้.. สนุกเลย ก็ใช้เวลาประมาณ 15นาทีในการเขียน ระหว่างนั้น HR กับเจ้านายนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระ ปล.เจ้านายเป็นคนฝรั่งเศส HR คนจีน จีนมากๆ อาหมวยเลยค่ะ หลังจากนั้นก็คุย เขาก็เล่ามาว่างานมีปัญหา ถ้าเป็นเราจะแก้ยังไง เหมือนเป็นการสอบวิเคราะห์ของเรา แล้วก็มีถามเรื่อง ตัวเลข เพราะงานที่ทำจะยุ่งเกี่ยวกับตัวเลข และโปรแกรมคอมฯ เขาถามว่าเราถนัดไหม จะเบื่อไหม? ตำแหน่งนี้แทนคนที่กำลังจะออกไป ซึ่งเป็นคนต่างชาติเหมือนกัน เขาย้ายไปตำแหน่งอื่น เลยต้องหาคนเข้ามาแทน สัมภาษณ์เสร็จประมาณเกือบๆ ห้าโมงเย็น
จบวันแรก...
หลังจากนั้น ก็ข้ามไปหลายวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์...
บริษัท C: อีกที่หนึ่ง นัดวันจันทร์ นัด 9.00น. แต่เช้าเลย เนื่องจากบริษัทอยู่แถวสนามบิน เลยตัดสินใจนั่งแท๊กซี่ แต่รถติดมาก ใครว่าสิงคโปร์รถไม่ติด ติดค่ะ ดีว่าวันอาทิตย์ถามทางโรงแรม ว่าไปที่นี่ตอนเช้า ต้องออกกี่โมง โรงแรมบอกให้ออก 7.50น. เพื่อเวลาไว้ เราไปถึงประมาณ 8.40น. ซึ่งถือว่ารถติดมาก แท๊กซี่บอก ถ้าออก 8โมง คงถึง 9โมงพอดี. บริษัทนี้เป็นบริษัททำอุตสาหกรรม บริษัทแม่เป็นสัญชาติอเมริกันค่ะ
บริษัทนี้ไม่ได้คุยกับ HR คุยกับคนที่จะมาเป็นเจ้านายเลย (คนอเมริกา) เหมือนอำนาจตัดสินใจอยู่ที่คนนี้ ก็คุยเรื่องตัวงาน ว่าทำอะไรบ้าง เราทำได้ไหม แล้วเขาก็บอกมาว่า ต้องการให้เราดูเรื่อง ตัวเลข อัตราแลกเปลี่ยน กับของ supply raw material ก็คุยอยู่นานพอสมควร เสร็จประมาณเที่ยงๆ เลยมาหน่อย
สรุปเล็กๆน้อยๆ
-เราใส่สูททำงาน กางเกงไปสัมภาษณ์นะคะ ส่วนคนที่มานั่งสัมภาษณ์ก็ใส่สูททุกคนเช่นกัน ขนาดผู้หญิงใส่เดรส ก็ใส่สูททับ
-เอกสารที่เตรียมไป ไม่มีใครขอดู 5555+ HR ก็ไม่ดู ไม่รู้ว่าดี ไม่ดี หรือเพราะในตอนสมัครได้ upload เข้าระบบแล้ว แต่เตรียมไปก็ดีนะคะ
-อะไรที่เตรียมตัวมา ข้อดีข้อเสียตัวเอง ประสบการณ์ในการทำงานกลุ่ม คำถามที่หาจากเน็ตแล้วเตรียมตัวไม่ได้ใช้สักข้อ!!! โถ่....
-ไม่มีการถามหา TOEIC TOEFL IELTS เหมือนในไทย คิดว่าอาจจะเป็นเพราะใบจบจากประเทศเยอรมนีกับอังกฤษ และคนสิงคโปร์พูดอังกฤษเป็นปกติค่ะ
-ทาง HR มีการแชร์ข้อมูลว่าเราต้องเป็น expat เข้าไปทางสิงคโปร์ เพราะงั้นทางบริษัทจะบวกเพิ่มค่าบ้านให้ และทำวีซ่าให้
-ทุกการสัมภาษณ์ เป็นภาษาอังกฤษหมดค่ะ ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ หรือคุยตัวต่อตัว สำเนียงภาษาอังกฤษก็แตกต่างกันไป เราพยายามจะพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษให้ได้ดีที่สุดนะคะ
หลังจากสัมภาษณ์ผ่านไป มีเพียง 1บริษัทติดต่อมาขอสัมภาษณ์อีกรอบในเมืองไทย เพราะเจ้านายอีกคนจะบินมากรุงเทพช่วงหลังสงกานต์ เพิ่งสัมภาษณ์มาค่ะ และเขาบอกว่า ภายในอาทิตย์หน้านี้จะรู้คำตอบ ... ยังรอลุ้นต่อไปค่ะ โดยส่วนตัวชอบบริษัท B ที่สุดเลยค่ะ
อยากฝากถึงคนที่อยากหางานทำในต่างประเทศ ลองหางานใน linkedin หรือเปิดเว็บบริษัทโดยตรงดีกว่าผ่านทางเอเจนซี่เยอะค่ะ
*แก้ไขนะคะ ที่ว่าคนสัมภาษณ์อินเดีย (ไม่มีกลิ่นเน้อ) อยากจะบอกว่า เรามีเพื่อนสนิทเป็นคนอินเดีย โดยปกติส่วนมากความเชื่อที่เขานับถือกัน ห้ามใช้พวกเครื่องสำอางค์น้ำหอม ต้องเป็นดอกไม้แห้ง หรือกลิ่นหอมจากเครื่องหอมเท่านั้น โดยบ้านเพื่อน จะมีเครื่องเทศอยู่มาก ถ้าเป็นรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ของเพื่อน ทุกวันนี้ก็ไม่มีการใช้น้ำห้อม แต่เพื่อนๆของจขกท.ใช้น้ำหอมค่ะ เขาเองก็บอกยุคสมัยมันเปลี่ยนไป จากประสบการณ์ที่ทำงานในเยอรมนี และเจอคนอินเดียที่ทำงานออฟฟิต ไม่มีกลิ่นตัว อยากจะสื่อๆว่า อย่างไปรังเกียจกลิ่นเขาเลย เพราะความเชื่อทุกที่ไม่เหมือนกัน และวัฒนธรรมก็ต่างกัน แต่อาจจะเขียนสั้นไปหน่อย เลยเกิดการเข้าใจผิด ต้องขอโทษจริงๆค่ะ
UPDATE สถานะ... ยังคงรองานอยู่ ยังไม่มีเมลล์มาแต่อย่างใด คาดว่า วันนี้บริษัทคงหยุดกันละมั่งค่ะ
UPDATE 04/05/2016 บริษัท C ติดต่อมาค่ะวันนี้ ขอนัดสัมภาษณ์เพิ่มอีกยก เป็นการสัมภาษณ์กับผู้บริหารอีกท่าน ที่จะเดินทางมากทม. วันพรุ่งนี้ และนัดสัมภาษณ์วันศุกร์นี้ค่ะ ส่วนบริษัท A, B ยังไม่ได้รับการติดต่อมาเลยค่ะ....
UPDATE 19/05/2016 ได้งานแล้วค่า เย้! ทางบริษัทจะทำ Employment Pass ให้ แล้วจะมาอัพเดตต่อนะคะ