อยากแชร์ประสบการณ์ ความภาคภูมิใจของคนไม่เลือกงาน

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป ผมอยากแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับชีวิตของผม เพื่อจะเป็นแนวทางให้กับน้องๆที่เพิ่งจบ ได้เป็นแนวทางครับ

ผมจบจากมหาลัยแห่งหนึ่งในสงขลาครับ ซึ่งใช้เวลาเรียน 5 ปี เพราะเป็นคนเรียนไม่เก่ง หลังจากนั้นผมก็ติดทหาร 2 ปี หลังจากปลดแล้ว ผมก็กลับบ้าน มาอยู่กับครอบครัวครับ

ผมกลับมาบ้านไม่ถึงสามอาทิตย์ ผมอยากทำงาน จึงได้ปรึกษากับแม่ แม่อยากให้ทำงานใกล้ๆบ้าน แต่ผมไม่เชื่อฟัง อยากอยู่กับเพื่อนตอนสมัยเรียน ผมจึงหนีออกจากบ้านมาเป็นพนักงานห้างตำแหน่ง Part time ที่หาดใหญ่ เงินเดือนผมแค่ 6,000 ทำได้แค่เดือนเดียวก็ออก เพราะไม่พอกิน สุดท้ายก็กลับบ้านไปหาแม่

ครอบครัวของผม แม่รับราชการ ส่วนพ่อเป็นทนายความ ทั้งพ่อและแม่ผมอยากให้ผมเข้าทำงานราชการมาก แต่ผมไม่ชอบครับ แม่เลยให้ผมไปสมัครสอบที่โรงพยาบาลแถวบ้าน ในตำแหน่งพนักงานคอมพิวเตอร์ แต่สุดท้าย ก็เจอเด็กเส้น ด้วยความที่น้อยใจผมจึงขอแม่ไปเที่ยวกับแฟนที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการคลายเครียด ซึ่งผมมีเงินเก็บอยู่ 15,000 บาท

ระหว่างที่นั่งรถไฟจากสถานีแถวบ้านไปกรุงเทพฯ แม่โทรมาบอกผมว่า ก็ไปหางานที่กรุงเทพฯเลย ถ้าไม่ได้ดี ก็ไม่ต้องกลับมา ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงพูดแบบนั้น หรือผมคงจะอายุมากไปที่จะอยู่บ้าน

หลังจากถึงกรุงเทพ ผมไปหาแฟนผม ซึ่งตอนนั้นเธอเรียนที่มหาลัยแห่งหนึ่งใกล้กับโรงเรียนเตรียมอุดม ผมและแฟนไปเที่ยวกัน จนกระทั่งมีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาว่าให้ผมไปสัมภาษณ์ เป็นบริษัทแถวทาวน์อินทาวน์ ชื่อ สยาม ธรก.... ในตำแหน่งพนักงานตัดต่อ ผมดีใจที่มีบริษัทเรียกสัมภาษณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้ส่งใบสมัครไป แต่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมานานมาก ผมแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าผมได้สมัครไว้

ผมจึงนั่งรถเมล์ไปสัมภาษณ์ รอนานหลายชั่วโมง สุดท้าย HR ของบริษัทก็มาบอกผมว่า ขอเลื่อนสัมภาษณ์อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากหัวหน้าฝ่ายไม่ว่าง ตอนนั้นผมเลยรู้สึกว่า นี่มันปฎิเสธกันชัดๆ ผมเดินออกมาจากที่นั่น และนั่งโมโหอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ในใจคิดว่าผมจะกลับบ้านไปหาแม่ดีมั้ย แต่กลับไปก็คงเสียศักดิ์ศรีน่าดู

ผมจึงกลับไปตั้งหลักที่ห้างมาบุญครองเพื่อรอแฟนผมเรียนเสร็จ ระหว่างรอก็เดินเล่นจนไปเจอป้ายรับสมัครงานตำแหน่ง Graphic Designer ของโรงพิมพ์ที่ห้าง ผมจึงเดินเข้าไปสมัครงาน ผมไม่มีหลักฐานอะไรติดตัวเลย แต่ที่โรงพิมพ์ก็ใจดี ให้ผมโหลดมาจาก Google Drive แล้วปริ๊นออกมาเพื่อให้เจ้าของโรงพิมพ์พิจารณ์ ซึ่งเจ้าของโรงพิมพ์ให้ผมเริ่มงานในวันรุ่งขึ้น ผมดีใจมาก

ผมและแฟนหาหอพักแถวๆห้วยขวาง จนเจอหอพักที่ถูกที่สุดในระแวกนั้น เพื่อเป็นที่อาศัยระหว่างทำงาน อีกทั้งแฟนผมก็สามารถมาอยู่กับผมได้เนื่องจากอยู่ใกล้ๆรถใต้ดิน

ระหว่างที่ทำงานโรงพิมพ์นั้นผมก็ได้หัดทำงานในโรงพิมพ์ต่างๆ เช่น ทำตรายาง ออกแบบนามบัตร ตัดกระดาษ ผมทำอยู่ที่นั่น 2 เดือน รับเงินเดือนที่ 8,000 บาท ผมก็ลาออก เนื่องจาก ในเว็บมหาวิทยาลัย มีบริษัท SI รับสมัครงานในตำแหน่ง Database Administrator ผมไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่เนื่องจากที่โรงพิมพ์เขาไม่ให้ผมลา ผมจึงลาออกมาเพื่อเสี่ยงโชคกับบริษัทใหม่ อีกอย่างเงินเดือนแค่ 8,000 จ่ายค่าหอไป ผมเหลือกินแค่ 4,500

ผมสัมภาษณ์กับทางบริษัท SI แห่งหนึ่งแถวสวนลุมพินี ทาง Manager ก็ให้โอกาสผม ให้มาทำในตำแหน่ง Database Admin ซึ่งผมไม่มีพื้นฐานเลย แต่พี่ Manager บอกว่า ของแบบนี้ฝึกกันได้

ผมทำงาน Database Admin ได้ปีกว่าซึ่งเป็นงานติดตั้ง ดูแล Database ให้กับลูกค้า จากที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย จนสามารถ Implement ได้หลายที่ เงินเดือนตอนนั้นของผม 13,000 เป็นเงินเดือนหมื่นก้อนแรกที่ผมได้รับ

หลังจากนั้นผมได้ย้ายที่ไปทำที่บริษัทลูกค้าในตำแหน่ง Technical Engineer เนื้องานออกทาง IT Support ในเงินเดือน 20,000 บาท ชีวิตผมเหมือนจะดี แต่สุดท้าย ผมคิดว่างาน IT Support มันยังไม่ใช่ ผมจึงลาออกมา ตอนนั้นเคว้งมากไม่รู้จะไปไหน แฟนผมเห็นผมไม่ค่อยมีความมั่นคง ก็ทิ้งผมไปอยู่กับคนอื่น ตอนนั้นรู้สึกว่าชีวิตผมตกต่ำมาก จนผมคิดว่า ผมควรกลับบ้านไปขอโทษ และอยู่กับแม่ แต่ก็มีบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งเรียกผมไปสัมภาษณ์ ผมคิดว่าบริษัทนี้ คงเป็นความหวังสุดท้ายที่ผมจะอยู่กรุงเทพ

ผมได้ไปสัมภาษณ์ที่บริษัทนั้นในตำแหน่ง IT ดูแลระบบ หลังจากสัมภาษณ์ผมคิดว่าผมคงไม่ได้งานที่นั่น เพราะเขาเหมือนต้องการคนที่มีประสบการณ์อย่างเก่งกาจมาก่อน อีกอย่างคำตอบที่ได้คือ แล้วจะติดต่อกลับไป

ผมไปบวช ณ วัดแห่งหนึ่ง ที่ๆซึ่งไกลบ้าน ไกลกรุงเทพฯ จิตใจผมสงบขึ้นมาก อาหารฟรี แถมได้เรียนรู้คำสวดมนต์ต่างๆ มันทำให้ผมปลงในหลายๆอย่างได้ จนกระทั่งบริษัทที่ผมเคยไปสัมภาษณ์ได้ติดต่อกลับมาแจ้งว่าผมได้งานที่นั่น

ผมสึกในอีกสองสัปดาห์ต่อมา เพื่อไปเริ่มงานใหม่ ซึ่งที่ใหม่ให้เงินเดือนผมที่ 24,000 เพื่อนๆบอกผมว่า ตำแหน่งผู้ดูแลระบบ มันขอได้มากกว่านั้นนะ ทำไมถึงยอม ผมบอกว่า ผมไม่รู้หรอกว่า base มันกี่บาท แต่ผมขอไปเพื่อให้ผมแค่ได้งาน

ผมทำงานมาสองปี เงินเดือนขึ้นปีละ 1000 จนกระทั่งผม 26,000 ก็มีที่ใหม่ติดต่อเข้ามาจาก Head Hunter เขาเอาข้อมูลผมมาใน Jobsdb

ข้อมูลที่ผมอัพไป ก็เป็นพวกประสบการณ์การทำงานที่ผมเคยทำมาทั้งหมด ทาง Head Hunter ก็บอกว่าประสบการณ์หลากหลาย น่าสนใจ

ผมสัมภาษณ์กับบริษัทใหม่ และตกลงไว้ที่ 30,000 ในตำแหน่ง IT ......

หลังจากที่เริ่มงานที่ใหม่ ผมก็กลับบ้านไป ขอโทษที่บ้านที่ไม่ได้ติดต่อไป และบอกกับแม่ว่า ผมทำได้แล้ว

สำหรับบางคนผมไม่รู้ว่าความสำเร็จคืออะไร แต่สำหรับผม ผมคิดว่าผมพอใจแล้วสำหรับความสำเร็จเท่านี้ ตอนนี้ผมสามารถซื้อทุกอย่างที่ผมอยากได้ จากที่ผมมีแค่กระเป๋าหนึ่งใบ เสื้อผ้าสามชุด โทรศัพท์ฮีโร่ ตอนนี้กลายเป็นว่าผมมีคอนโด มีมอเตอร์ไซค์ มี Gadget หลายๆอย่าง มีเงินลงทุนในกองทุนรวม และที่สำคัญมีแฟนใหม่

เลยอยากจะบอกเพื่อนๆว่า ถ้ากำลังตกงาน หรือมีปัญหา อย่าได้ยอมแพ้ อย่าเลือกงาน และที่สำคัญ อัพเดทเรซูเม่ไว้บ่อยๆ ต่อให้เป็นงานเล็กงานน้อยก็ควรใส่ไว้ครับ มันจะทำให้ค่าตัวของคุณดูมีค่าขึ้นมาทันที มีหลายคนที่เหนื่อยเพราะงานหนัก เบื่อคน เบื่อระบบ แต่ถ้าคุณขยันจนอัพเกรดความสามารถตัวเองให้ดูมี profile สักวันครับ สิ่งที่คุณทำอยู่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น คุณสามารถเลือกชีวิตได้ว่าอยากเป็นแบบไหน หวังว่าประสบการณ์ที่ผมเล่า คงจะทำให้เพื่อนๆมีแรงจูงใจในการทำงานนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่