โรงพยาบาลป่าซาง ลำพูน
กลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 15 เมษายน ล่วงเข้าวันที่ 16 แล้ว เพราะเวลาตีหนึ่งแล้ว แม่โทรมาบอกว่าพ่อไข้ขึ้นสูงมาก หนาวสั่นห่มผ้าให้สี่ชั้นยังหนาวอยู่ ใครมาได้ให้ออกไปเจอกันที่โรงพยาบาลป่าซาง
น้องชายรีบมาที่บ้านเราและออกไปกับน้องสาว สรุปคือหมอให้แอดมิท จากคำบอกเล่าของน้องสาวพยาบาลแจ้งว่าอาการแบบนี้เกรงว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด มีการเจาะเลือไปตรวจ และส่งไปเพาะเชื้อที่โรงพยาบาลลำพูนด้วย
จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ่ออาการดีขึ้นและหมอให้กลับบ้านได้ มาพักอยู่บ้านเรา ช่วยกันดูแลพ่อไป จนกระทั่งหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปพ่อยังอาการไม่ดีขึ้น หลังอาหารเช้าเลยโทรคุยกันสี่คนพี่น้อง สรุปคือให้เราพาพ่อไปพบหมออีกครั้ง
ตั้งใจว่าถ้าคุยกับหมอแล้วไม่ได้เรื่องเราจะขอเอกสารการรักษาพาพ่อมารักษาโรงพยาบาลเอกชนที่เชียงใหม่ เพราะกิตติศัพท์โรงพยาบาลรัฐบาลแต่ละครั้งที่เราได้ยินมาคือไม่มีเรื่องดีเลย
หลังอาหารเช้าขับรถจากเชียงใหม่ไปโรงพยาบาลป่าซาง ไปถึงที่นั่นเก้าโมงครึ่ง คนเยอะพอสมควรก็นั่งรอกันไป กว่าจะได้ตรวจเกือบบ่ายสองแล้ว เห็นว่านานพอสมควรเลยเข้าไปสอบถามพยาบาลหน้าห้องตรวจได้ความว่าหมอไปประชุมไม่รู้จะกลับมากี่โมง ระหว่างที่สอบถามพยาบาลคุณหมอกลับมาพอดี หลังจากนั้นอีกไม่นานได้พบหมอ เล่าอาการให้หมอฟัง คุณหมอบอกว่าอาจมีอะไรที่เรายังไม่ทราบสาเหตุ เพราะพ่อมีอาการความดันต่ำจนพยาบาลเรียกเปลมาให้พ่อนนอนรอ หมอเลยให้เอ็กซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจฉี่ กว่าผลจะออกคนไข้ที่รอตรวจเค้าตรวจเสร็จกลับบ้านไปหมดละ
เวลาล่วงเลยไปสี่โมงกว่า สรุปที่ตรวจไปนิ่วก็ไม่มีไตก็ปกติผลเลือดก็ปกติ หมอวินิจฉัยว่าพ่อร่างกายขาดน้ำ เลยให้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลืออีกสองคืน
เช้าวันพุธหมอมาตรวจแจ้งว่าอาการดีขึ้นแล้วให้กลับบ้านได้ ตอนนี้พ่อกลับมาพักผ่อนที่บ้านและอาการดีขึ้นแล้ว
สรุปที่เล่ามาทั้งหมดเราเพียงจะบอกว่าที่โรงพยาบาลป่าซางทำให้เรารู้ว่าโรงพยาบาลรัฐบาลไม่ได้เหมือนกันไปหมดทุกที่ ที่โรงพยาบาลป่าซางเจ้าหน้าที่พูดจาดีให้คำแนะนำดี พยาบาลให้ข้อมูลดีและแนะนำเราดี คุณหมอใจดีใส่ใจที่จะรักษาคนป่วยดีมาก ที่โรงพยาบาลหลังคาต่ำไปนิดทำให้รู้สึกร้อนตอนเย็นเลยออกไปนั่งตรงสระบัวบริเวณโรงพยาบาล เวลาเย็นพอสมควรน่าจะหกโมงเย็นแล้วแต่หมอใหญ่ (ผอ.) เพิ่งจะเดินออกจากโรพยาบาลกลับบ้านพัก
สุดท้ายที่เราอยากบอกคือ ขอบคุณคุณหมอจิระพงษ์ (ขออนุญาติเอ่ยนาม) ขอบคุณพยาบาลทุกคนที่ดูแลคุณพ่อ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้คำแนะนำ และสุดท้ายขอบคุณรัฐบาลต้นคิดบัตรทอง และขอบคุณทุกรัฐบาลที่สานต่อนโยบายบัตรทอง
# ขออภัยถ้าแท็กผิด
โรงพยาบาลป่าซาง ลำพูน
กลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 15 เมษายน ล่วงเข้าวันที่ 16 แล้ว เพราะเวลาตีหนึ่งแล้ว แม่โทรมาบอกว่าพ่อไข้ขึ้นสูงมาก หนาวสั่นห่มผ้าให้สี่ชั้นยังหนาวอยู่ ใครมาได้ให้ออกไปเจอกันที่โรงพยาบาลป่าซาง
น้องชายรีบมาที่บ้านเราและออกไปกับน้องสาว สรุปคือหมอให้แอดมิท จากคำบอกเล่าของน้องสาวพยาบาลแจ้งว่าอาการแบบนี้เกรงว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด มีการเจาะเลือไปตรวจ และส่งไปเพาะเชื้อที่โรงพยาบาลลำพูนด้วย
จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ่ออาการดีขึ้นและหมอให้กลับบ้านได้ มาพักอยู่บ้านเรา ช่วยกันดูแลพ่อไป จนกระทั่งหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปพ่อยังอาการไม่ดีขึ้น หลังอาหารเช้าเลยโทรคุยกันสี่คนพี่น้อง สรุปคือให้เราพาพ่อไปพบหมออีกครั้ง
ตั้งใจว่าถ้าคุยกับหมอแล้วไม่ได้เรื่องเราจะขอเอกสารการรักษาพาพ่อมารักษาโรงพยาบาลเอกชนที่เชียงใหม่ เพราะกิตติศัพท์โรงพยาบาลรัฐบาลแต่ละครั้งที่เราได้ยินมาคือไม่มีเรื่องดีเลย
หลังอาหารเช้าขับรถจากเชียงใหม่ไปโรงพยาบาลป่าซาง ไปถึงที่นั่นเก้าโมงครึ่ง คนเยอะพอสมควรก็นั่งรอกันไป กว่าจะได้ตรวจเกือบบ่ายสองแล้ว เห็นว่านานพอสมควรเลยเข้าไปสอบถามพยาบาลหน้าห้องตรวจได้ความว่าหมอไปประชุมไม่รู้จะกลับมากี่โมง ระหว่างที่สอบถามพยาบาลคุณหมอกลับมาพอดี หลังจากนั้นอีกไม่นานได้พบหมอ เล่าอาการให้หมอฟัง คุณหมอบอกว่าอาจมีอะไรที่เรายังไม่ทราบสาเหตุ เพราะพ่อมีอาการความดันต่ำจนพยาบาลเรียกเปลมาให้พ่อนนอนรอ หมอเลยให้เอ็กซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจฉี่ กว่าผลจะออกคนไข้ที่รอตรวจเค้าตรวจเสร็จกลับบ้านไปหมดละ
เวลาล่วงเลยไปสี่โมงกว่า สรุปที่ตรวจไปนิ่วก็ไม่มีไตก็ปกติผลเลือดก็ปกติ หมอวินิจฉัยว่าพ่อร่างกายขาดน้ำ เลยให้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลืออีกสองคืน
เช้าวันพุธหมอมาตรวจแจ้งว่าอาการดีขึ้นแล้วให้กลับบ้านได้ ตอนนี้พ่อกลับมาพักผ่อนที่บ้านและอาการดีขึ้นแล้ว
สรุปที่เล่ามาทั้งหมดเราเพียงจะบอกว่าที่โรงพยาบาลป่าซางทำให้เรารู้ว่าโรงพยาบาลรัฐบาลไม่ได้เหมือนกันไปหมดทุกที่ ที่โรงพยาบาลป่าซางเจ้าหน้าที่พูดจาดีให้คำแนะนำดี พยาบาลให้ข้อมูลดีและแนะนำเราดี คุณหมอใจดีใส่ใจที่จะรักษาคนป่วยดีมาก ที่โรงพยาบาลหลังคาต่ำไปนิดทำให้รู้สึกร้อนตอนเย็นเลยออกไปนั่งตรงสระบัวบริเวณโรงพยาบาล เวลาเย็นพอสมควรน่าจะหกโมงเย็นแล้วแต่หมอใหญ่ (ผอ.) เพิ่งจะเดินออกจากโรพยาบาลกลับบ้านพัก
สุดท้ายที่เราอยากบอกคือ ขอบคุณคุณหมอจิระพงษ์ (ขออนุญาติเอ่ยนาม) ขอบคุณพยาบาลทุกคนที่ดูแลคุณพ่อ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้คำแนะนำ และสุดท้ายขอบคุณรัฐบาลต้นคิดบัตรทอง และขอบคุณทุกรัฐบาลที่สานต่อนโยบายบัตรทอง
# ขออภัยถ้าแท็กผิด