เชิญรับชมวิดีโอ




รวมอมตะธรรมคำสอน เข้าใจง่ายสายหลวงปู่มั่น - เมษายน 2559

ผู้ปิดทองหลังพระ คือผู้ที่หมั่นทำความดีโดยไม่เน้นประโยชน์ส่วนตน #ฟ้าทะลายโจร

ภูมิใจเสนอ รวมอมตะธรรมคำสอน เข้าใจง่ายสายหลวงปู่มั่น พระอรหันต์สายวัดป่า ธรรมยุต

รายการนี้เป็นรายการที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เหมาะแก่การฟังเพื่ออรรถรสทางปัญญา สมาธิ และการสนทนาธรรม


1.
"สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและมั่นใจในสิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียวโดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้นเป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน
อดีตปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย"

...เถระวาจาหลวงปู่มั่น ภูริทตฺตเถระ



2.
เขาพูดว่าเราดี เราก็ไม่ดีเหมือนคำเขาพูด
เขาพูดว่าเราชั่ว เราก็ไม่ชั่วเหมือนคำเขาพูด
ถ้าเราไม่ยึด...เราไม่มี...จะเอาอะไรไปดีไปชั่ว

....หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล วัดเลียบ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี



3.
บุคคลผู้ประสงค์จะแก้บาปนั้น นอกจากการนั่งสมาธิภาวนาแล้ว
ไม่มีวิธีอย่างอื่นที่จะแก้ได้ เพราะมีอานิสงส์มาก
เป็นวิธีแก้จิตที่เป็นบาปให้กลับมาเป็นบุญได้
แก้จิตที่เป็นโลกีย์ให้เป็นโลกุตระได้
เมื่อแก้จิตให้บริสุทธิ์ดีแล้ว บาปอกุศลก็หลุดหายไปเอง
พึงเห็นองคุลิมาลเป็นตัวอย่าง

หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา



4.
" สมบัติที่มนุษย์ต้องการ ไม่ทราบว่าจะกอบโกยเอาไปถึงไหน
ได้มาก็เพียงแต่เอาเลี้ยงชีวิตเท่านั้น เลี้ยงชีวิตให้นานตายหน่อย
นั่นละ..ประโยชน์ของมนุษย์สมบัติ เพียงแค่นั้นแหละ "

-------------------------------------------------------------------

"ศรัทธาที่เกินหน้าปัญญา กลายเป็น งมงาย
ปัญญาที่เกินหน้าสติ กลายเป็น หลงตัวเอง
สมาธิที่เกินหน้าปัญญา กลายเป็น เกียจคร้าน"

-------------------------------------------------------------------
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี



5.
"ถ้าต้องการความเจริญก้าวหน้า
อย่าอิจฉาคนอื่น"
----------------------
"อุปสรรคเป็นสัญลักษณ์ประการหนึ่ง ที่ช่วยผลักดันคนธรรมดาให้เป็นมหาบุรุษได้"
----------------------
จงยินดีในวิเวก จงยินดีในความเพียร
จงยินดีละกิเลส ชื่อว่าได้ปฏิบิติตามมัชฌิมาปฏิปทา
----------------------
หลวงปู่ขาว อนาลโย



6.
"พระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องของการอ้อนวอน ร้องขอ หรือให้กันได้
ทุกคนจะต้องทำด้วยตนของตนเอง จึงจะได้รับผล"

-------------------------------------------------------------------

"เสียงติชม ใครยึดถือก็คือคนโง่ เหมือนกินลมปาก กินน้ำลายของคนอื่นเขา"

-------------------------------------------------------------------

"การไม่ทำจริง เป็นเหตุให้ไม่เกิดผล เมื่อไม่เกิดผลก็ย่อมเกิดสนิมขั้นในใจ
คือ ความเบื่อหน่าย ท้อถอย เกียจคร้าน แล้วในที่สุดก็เลิก...
เมื่อใครทำจริงแล้ว ผลก็ต้องได้จริง คนที่มานั่ง พุทโธๆ แต่จิตคอยเผลอบ้าง แลบไปข้างหน้ามาหลังบ้าง
โงกง่วงบ้าง อย่างนี้เดี๋ยวก็ลืมลมหมด นั่ง ๑๐ ปี จนแห้งไปกับที่ ก็ไม่เกิดผล"

-------------------------------------------------------------------

พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ




7.
"เวลาโกรธขึ้นมา ด๊อกเตอร์กับ ป.๔ ก็โง่พอๆ กัน"

-------------------------------------------------------------------

"การภาวนานั้น ไม่ใช่นั่งหลับตาภาวนาอย่างเดียว
แต่ต้องปฏิบัติได้ตลอดเวลา ยืน เดิน นั่ง นอน
ให้มีสติประคับประคองอยู่เสมอ สมาธิ(ณาน)
ไม่ต้องเอามากหรอก แต่ให้มีสติอยู่เสมอ"

-------------------------------------------------------------------

"โดยมากก็มาแสวงหาบุญกัน แต่ว่าไม่เคยเห็นญาติโยมที่แสวงหาการละบาป
มีแต่แสวงบุญเรื่อยไป ไม่รู้จะเอาบุญไปไว้ตรงไหนก็ไม่รู้
ผ้าสกปรกไม่ฟอก แต่อยากจะรับน้ำย้อมนะ นี่มันเป็นอย่างนั้น"

-------------------------------------------------------------------

"บางคนถือเอาการไปเที่ยววัดว่าเป็นบุญ
ถ้าอานิสงส์ของการเข้าวัดเกิดเพราะกายอย่างเดียว
พวกกระรอก กระแต นก หนู หรือสัตว์อื่น ๆ ซึ่งอาศัยอยู่ในวัด ก็น่าจะได้บุญมากกว่าคนซึ่งมักจะอยู่ไม่นานเลย
มันสำคัญที่ใจ ถ้าโยมมาถวายจังหันหรือจำศีล แต่มาคุยกันเรื่องทางโลก เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาพูดกัน
ก็เท่ากับเอาโลกมาทับวัด มาวัดต้องเข้าใจความหมายและจุดมุ่งหมายของการเข้าวัดอย่างแท้จริง"

-------------------------------------------------------------------

...หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี




8.
การยอมโง่ในสายตาคนอื่น
แต่เพื่อความสบายใจของเรา
และไม่กระทบกระเทือนกันนั้น
เป็นอุบายที่ฉลาดของเรา
รู้หลบรู้หลีก รู้ผ่อนสั้นยาว
อย่างนี้เป็นทางของคนดี
และนักปราชญ์ชมเชย

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน



9.
“เมื่อมีเหตุ ผลก็ต้องมี
เหตุน้อย ผลน้อย
เหตุพอประมาณ ผลพอประมาณ
เหตุมาก ผลมาก
เหตุพิเศษ ผลก็พิเศษ ”

-------------------------------------------------------------------

"..ความดี กับ ความไม่ดี
ขึ้นอยู่กับเหตุ คือเราทำไว้
ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับคนพูด.."

-------------------------------------------------------------------

หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด


10.
"ไปเดือดร้อนอะไรกับคนนินทา ใครนินทาเราไม่ได้ยินไม่ใส่ใจก็สบาย
คนนินทาน่ะเป็นยาชูกำลังที่จะเตือนตัวเอง เขาติดีกว่าเขาชมจะได้รู้ตัว
ถ้าเราเป็นอย่างนั้นจะได้ปรับปรุง เราจะไปโกรธเขาทำไม ถ้าไปโกรธเขาก็เรียกว่าเราแพ้ตัวเอง"

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย


ติดตามต่อได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/DharmaXP
หรือคลิกชมวิดีโอ แล้ว Subscribe