เกมรักกิเลนไฟ บทที่ 11

กระทู้สนทนา
บทที่ 11

การช่วยเหลือ




เที่ยงครึ่ง

พาฝันติดตามกลุ่มของหยางเจี๋ยออกจากลิฟต์มาชะลอฝีเท้าลงเมื่อเห็นกลุ่มคนยืนออกันแน่นขนัดหน้าร้านจิลเวอรี่ หัวหน้ายามร้องบอกขอทาง เจ้าหน้าที่รปภ.ด้วยกันแหวกออกเปิดทางให้เดินผ่านไปที่ประตูร้าน ในตอนที่ทุกคนไปถึงนั้น เป็นขณะเดียวกันกับที่ชายวัยกลางคนสวมชุดสูทเดินพรวดๆ มาตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่า

    “ไหน ไอ้เลวตัวไหนกล้ายุ่งกับคุณหนูนานา อยากเจอกูนักใช่มั้ย เปิดประตูสิวะ”

    รปภ.หนุ่มที่เคยอาสาจะตามตัวเพื่อนมาให้ภายในห้านาที ถอยหลังมากระซิบบอกหยางเจี๋ยว่า “คนนี้แหละที่ลงโทษน้องชายของพี่ตุ้มเขาน่ะ”

    พาฝันเพ่งตามอง ชายวัยกลางคนที่ถูกพูดถึงรูปร่างเตี้ยม่อต้อ ใบหน้าบู้บี้ดูหงุดหงิดตลอดเวลาเหมือนกับสุนัขบุลด๊อก ท่าทางคงเป็นพวกเจ้าอารมณ์อย่างไม่ต้องสงสัย

    ยืนอยู่สักครู่ประตูกระจกของร้านจิลเวอรี่ก็เปิดออก คนเปิดเป็นกัณดิษฐ์ หน้าตาของเขาเคร่งเครียด หยางเจี๋ยคิดจะถือโอกาสนั้นแทรกตัวเข้าไปพร้อมกับผู้บริหารของห้างที่ก่อปัญหา แต่กัณดิษฐ์ก็ยกมือกั้นบอกว่า “เข้ามาได้แค่คุณกำจรคนเดียว คนอื่นๆ กรุณารออยู่ด้านนอก”

    “ผมเป็นหัวหน้าเขา ให้ผมเข้าไปคุยด้วยเถอะ” หัวหน้ายามพูดจากหลังไหล่ของหนุ่มฮ่องกง “ถ้าไอ้ตุ้มไม่ยอมให้ผมเข้า ก็บอกมันไปว่าไม่ต้องมานับถือผมเป็นพี่เป็นน้องกันอีก”

    กัณดิษฐ์หันหน้าไปถ่ายทอดข้อความแก่ชายสติคลั่งด้านใน อีกครึ่งค่อนวันผ่านไปกัณดิษฐ์ก็กลับมาโผล่หน้าที่ประตู และผงกศีรษะอนุญาต วินาทีที่เบี่ยงกายหลบให้กำจรกับหัวหน้ายามเดินผ่านประตูเข้าไป พาฝันเห็นนายตำรวจหนุ่มหลิ่วตามาให้กับหยางเจี๋ย ไม่รู้ส่งสัญญาณอะไรกันแต่หนุ่มฮ่องกงก็ถอยกายกลับมายืนที่เดิมทันที

เมื่อบอดีการ์ดส่วนตัวของคุณหนูนานาปิดประตู ขณะนี้พวกเขาจึงทำได้เพียงมองภาพเหตุการณ์ผ่านประตูและผนังร้านซึ่งเป็นกระจกใส ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูภาพยนตร์ที่ถูกกดปุ่มปิดเสียงเงียบในความรู้สึกของพาฝันเหลือเกิน

    “ข้างในนั่นจะทำอะไรกันเหรอ” นายอ๋องส่งเสียงถามมาจากด้านหลังขณะเห็นกำจรกับหัวหน้ายามไปหยุดยืนกลางร้านท่ามกลางชั้นวางเครื่องประดับ กัณดิษฐ์ยืนอยู่หน้าสุด ด้านตรงข้ามเป็นชายที่ชื่อตุ้มซึ่งจับนานาเป็นตัวประกัน กัณดิษฐ์พยายามเจรจาต่อรองบางอย่างพลางสืบเท้าเข้าไปใกล้ทีละนิด

ในที่สุด ก็มาถึงข้างกายของชายคลั่ง ชายคลั่งปล่อยตัวคุณหนูสาวออกมาและเปลี่ยนมาล็อคตัวใช้มีดจี้คอบอดีการ์ดหนุ่มแทน

    “ไอ้หมอนี่ขอแลกตัวประกัน” หยางเจี๋ยยกมือเกาหัว “นานาปลอดภัยแล้ว แต่คนอื่นนี่สิปัญหา”

    “ทำไมเหรอ” พาฝันถาม

    หนุ่มฮ่องกงหันมาตอบ “ก็ถ้าคนที่ทำให้น้องเธอตายมายืนอยู่ตรงหน้า เธอจะทำยังไงล่ะ”

    “หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต เลือดต้องล้างด้วยเลือดเท่านั้น” นายอ๋องตอบให้แทน

    “หมายความว่าแบบนี้คนที่ตกอยู่ในอันตรายที่สุด ก็คืออีตาลุงกำจรอะไรนั่นสิ” พาฝันว่า

    จังหวะนั้น หยางเจี๋ยเหลือบตาไปพบกับนายตำรวจในเครื่องแบบสองสามคนที่มาคอยคุมไทยมุง เขาเดินเข้าไปสอบถามว่าขณะนี้ทางตำรวจเตรียมการเคลื่อนไหวอะไรบ้าง เพราะเห็นว่าพวกของนิรวานสวมเสื้อเป็นคนของทางจังหวัด นายตำรวจคนหนึ่งจึงรายงานว่านักจิตวิทยากับทีมหน่วยสวาทกำลังอยู่ระหว่างการเดินทาง คาดว่าอีกสิบห้านาทีจะมาถึง

ต่อจากนั้น หยางเจี๋ยผละกลับออกมาเลี่ยงจากฝูงชน พึมพำกับอาหลินว่า “เรามีเวลาสิบห้านาทีที่จะช่วยชีวิตทุกคน หาทางเข้าร้านทางอื่นกันเถอะ”

พาฝันเดินตามหลังมาติดๆ ได้ยินอาหลินถามกลับไป “นายน้อยหมายถึงอะไรคะ ทุกคนจะตายกันหมดเหรอ”

“ถ้าปล่อยไว้อีกไม่เกินสิบนาที ตาลุงบุลด๊อกนั่นตายแน่ แต่ถ้าหน่วยสวาทมาเมื่อไหร่ ไอ้ยามตุ้มนั่นก็คงไม่รอดเหมือนกัน”

นิรวานซึ่งเดินคู่อยู่กับพาฝันแทรกขึ้น “พวกเขาคงไม่ทำรุนแรงขนาดนั้น เต็มที่คงแค่กระสุนยางหรือวางยาสลบแล้วเข้าชาร์จ”

หนุ่มฮ่องกงหัวเราะฝืด “ผมไม่ได้กลัวตำรวจ แต่ผมกลัวคนที่ส่งอีเมลลึกลับนั่น หรือไม่ก็ใหญ่ คชสารต่างหาก เห็นได้ชัดว่าไม่คนหนึ่งคนใดก็ต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี่ และถ้าหากจวนตัว มันก็คงไม่ยอมให้ยามตุ้มรอดมาคายเบาะแสอะไรที่จะสาวกลับไปถึงตัวแน่”

“นายหมายถึงมันจะลอบฆ่าพี่ยามใช่มั้ย” พาฝันพูด “งั้นมันก็ต้องอยู่แถวๆ นี้สิ”

ขณะนี้ พวกเขาเดินแทรกผ่านซอกเล็กแคบย้อนไปทางด้านหลังร้านแล้ว หยางเจี๋ยเหลียวหน้ามาตอบ “ไม่จำเป็นเสมอไป มันอาจจะใช้วิธีกล่อมให้พี่ยามยอมเชื่อว่า ถ้าเหตุการณ์คับขันจวนตัวขอให้ฆ่าตัวตายไปพร้อมๆ กับคนที่เกลียดไรงี้ แค่นั้นต่อให้ตายเราก็ไม่รู้ว่าคนที่ส่งอีเมลเป็นใคร”

“นายน้อยเลยพยายามช่วยชีวิตพี่ยามเพื่อเอาไว้สอบถามข้อมูลสินะคะ” อาหลินโถมตัวเกาะไหล่เจ้านายเหมือนเป็นกระต่ายน้อย “นายน้อยฉลาดจังเลย”

พาฝันอยากสวนออกไปว่าฉลาดพ่อง ตอนแรกนึกว่าจะช่วยเพราะมนุษยธรรมหรืออะไร ที่แท้ก็ต้องการช่วยไว้เพื่อนำมารีดข้อมูล ไอ้หมอนี่มันจิ้งจอกชั่วร้ายจิตใจอำมหิต ตฤณคุณต้องไม่โตขึ้นมาเป็นคนแบบนี้แน่ จึงรู้สึกผิดหวังกับตัวเองเล็กน้อยไม่ได้ ที่เมื่อคืนเผลอแอบหวั่นไหวไปกับท่าทีของเขาชั่ววูบ

ความคิดดำเนินมาถึงตรงนี้ กลุ่มของพวกเขาก็มาหยุดลงที่ด้านหลังร้าน แต่ไม่รู้จะเข้ายังไงเพราะประตูปิดล็อคจากด้านใน ถ้าพังประตูหรือสะเดาะกลอนเข้าไปสัญญาณเตือนภัยอาจดังขึ้นก็ได้ หยางเจี๋ยถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกฝากไว้กับอาหลิน เผยให้เห็นเสื้อยืดชนิดแขนยาวด้านใน เขาพับแขนเสื้อขึ้นอยู่ก่อนแล้วแต่พาฝันเพิ่งสังเกตว่าที่ท่อนแขนซ้ายเหมือนจะมีรอยสักโผล่ออกมาแวบๆ เธอไม่มีเวลาสนใจต่อเพราะพอจะเดาออกแล้วว่าหยางเจี๋ยพยายามจะทำอะไร

“นั่นนายจะปีนเข้าช่องแอร์งั้นเหรอ” เธอถามขณะเห็นเขาถอดฝาปิดช่องระบายอากาศหลังร้าน ปัดสองมือไปมาเหมือนเตรียมตัวปีน เขาเหลียวหน้ามาพยักหน้า พาฝันก็ก้าวเข้าไปยืนด้านข้างบอกว่าปีนท่อแอร์ไม่ง่ายเหมือนในหนัง ร้านนี้เป็นร้านใหญ่ ระบบการวางท่ออาจซับซ้อนกว่าที่คิด สุ่มสี่สุ่มห้าปีนเข้าไปไม่มีหวังจะช่วยใครได้ทันเวลา

“แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง” หยางเจี๋ยขึงตามอง

“ฉันจะไปเอง ฉันจบด้านสถาปัตย์ เรื่องเส้นทางการวางท่อหลับตาคลานก็ยังได้” หญิงสาวตอบตามจริง หยางเจี๋ยยิ้มหยันใส่หน้า เขาถามกลับว่าตัวเธอจะโดดลงไปเข้าชาร์จชายฉกรรจ์ที่กำลังคลั่งได้งั้นหรือ ไม่มีทาง เถียงกันอีกสองสามคำก็ตกลงว่าพาฝันจะปีนนำหน้า แล้วหยางเจี๋ยปีนตามมา ส่วนพวกที่เหลือรออยู่ด้านนอก

อาหลินยืนกรานจะตามมาแต่หยางเจี๋ยไม่ยอม ผู้ช่วยสาวจึงล้วงปืนพกกระบอกหนึ่งออกจากเป้ส่งให้เจ้านายไว้ใช้ป้องกันตัว พาฝันอดคิดไม่ได้ยายตาโตนี่พกอะไรติดตัวอยู่บ้างนะ

เวลาแทบไม่มีเหลือ พาฝันจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองเรียบร้อยก็เหยียบไหล่หนุ่มฮ่องกงปีนเข้าสู่ช่องสี่เหลี่ยมที่กว้างพอให้คลานได้แบบเรียงเดี่ยว หยางเจี๋ยโหนตัวมุดตามขึ้นมา ท่อแอร์กลายเป็นอุโมงค์โจรชั่วคราว พาฝันคลานแบบทหารในสนามรบที่กำลังหลบกระสุน พยายามให้เงียบงันที่สุด แต่ความเย็นของท่อแอร์ก็ทำให้อดด่าทอความเบาบางของเสื้อยืดไม่ได้ ซ้ายขวาบนล่างแตะนิดก็เย็นเหมือนถูกแช่แข็ง รู้แบบนี้ใส่แจ็คเก็ตคลานมาดีกว่าไม่น่าไปฝากยายอาหลินไว้เลย

พาฝันยุติความฟุ้งซ่านของตนเองแล้วตั้งใจกำหนดทิศทาง ตะเกรงด้านข้างเป็นช่องระบายอากาศเหมือนรังไข่ โชคดีที่กว้างพอให้ส่องออกไปได้เป็นระยะว่าอยู่ส่วนไหนภายในร้านแล้ว นับจากปากทางเข้าผ่านมาถึงห้องเก็บของด้านหลังร้าน ใช้เวลาเบ็ดเสร็จไม่เกินห้านาที พาฝันเหลียวหน้าไปส่งสัญญาณมือบอกหยางเจี๋ยว่าให้หยุด ก็พบว่าหมอนี่กำลังจ้องก้นเธอที่อยู่ภายใต้กางเกงรัดรูปอย่างลืมตัว

“ย๊า ไอ้ลามกนี่... ”

หนุ่มฮ่องกงหลุดจากภวังค์ทันเวลาก่อนที่พาฝันจะใช้เท้ากระทุ้งยอดหน้าเรียกสติ เขาทำปากพะงาบๆ ถามกลับมาว่าทำไม เธอตอบว่าถึงแล้วให้เขาเป็นฝ่ายถอดตะแกรงด้านข้าง จะได้ออกไปกัน

(ต่อด้านล่าง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่