เปลี่ยนมาเป็นทำรายการ ประชาสัมพันธ์ รายละเอียดใน รัฐธรรมนูญ แบบง่ายๆ
ถ่ายทอดให้เห็น ข้อดี ข้อเสีย ของมัน แบบเป็นกลาง (เน้นนะคับ แบบเป็นกลาง ไม่ใช่บอกแค่ข้อดี) แล้วให้ประชาชนใช้สมองตัดสินใจเองดีกว่ามั้ย
ปัญหาคือตอนนี้บางคนยังไม่เคยอ่านด้วยซ้ำ แม้ถึงอ่านแล้ว ก็ไม่รู้ว่า มันจะกระทบกับอะไรบ้าง เพราะ เวลาเขียนกฏหมายพวกนี้มันใช้ภาษาที่อ่านยาก
ไม่งั้นเดี๋ยวก็ไปเลือกตามพวก ชอบพวกไหน...ก็ประชามติตามพวกนั้น ยกตัวอย่าง แม่ผม
ลูก : แม่รับไม่รับ รัฐธรรมนูญ ใหม่
แม่ : รับซิ
ลูก : ทำไม รับมันดียังไง เค้าแก้อะไรบ้าง แม่อ่านยัง
แม่ : ..........
ลูก : แบบใหม่ ทุกคะแนนมีค่า แต่สภา อาจไม่มีอำนาจเด็ดขาด เพราะ สส อาจมีหลายพรรค จะทำอะไรก็ยาก ต้องไปแบ่งผลประโยชน์กันอีก ดีเหรอแม่
แม่ : แล้วที่ผ่านมา เป็นไง ทะเลาะกันไม่จบ นี่ลุง เค้ามาช่วยก็ดีเท่าไรแล้ว
ลูก : ก็เข้าใจ ตกลงแม่อ่านยัง
แม่ : ..........
แล้วตอนลงประชามติ จริงๆ อยากให้ ลงเป็น ข้อๆ เลยเห็น ด้วย ข้อไหน ไม่เห็นด้วย ข้อไหน .... จะได้พิสูจน์ว่าคนไปลงเข้าใจจริงๆ
แล้ว เอาข้อที่ไม่เห็นด้วยไปแก้อีกที ก็ได้
เรื่องรัฐธรรมูญ แทนที่รัฐจะห้ามแสดงออก
ถ่ายทอดให้เห็น ข้อดี ข้อเสีย ของมัน แบบเป็นกลาง (เน้นนะคับ แบบเป็นกลาง ไม่ใช่บอกแค่ข้อดี) แล้วให้ประชาชนใช้สมองตัดสินใจเองดีกว่ามั้ย
ปัญหาคือตอนนี้บางคนยังไม่เคยอ่านด้วยซ้ำ แม้ถึงอ่านแล้ว ก็ไม่รู้ว่า มันจะกระทบกับอะไรบ้าง เพราะ เวลาเขียนกฏหมายพวกนี้มันใช้ภาษาที่อ่านยาก
ไม่งั้นเดี๋ยวก็ไปเลือกตามพวก ชอบพวกไหน...ก็ประชามติตามพวกนั้น ยกตัวอย่าง แม่ผม
ลูก : แม่รับไม่รับ รัฐธรรมนูญ ใหม่
แม่ : รับซิ
ลูก : ทำไม รับมันดียังไง เค้าแก้อะไรบ้าง แม่อ่านยัง
แม่ : ..........
ลูก : แบบใหม่ ทุกคะแนนมีค่า แต่สภา อาจไม่มีอำนาจเด็ดขาด เพราะ สส อาจมีหลายพรรค จะทำอะไรก็ยาก ต้องไปแบ่งผลประโยชน์กันอีก ดีเหรอแม่
แม่ : แล้วที่ผ่านมา เป็นไง ทะเลาะกันไม่จบ นี่ลุง เค้ามาช่วยก็ดีเท่าไรแล้ว
ลูก : ก็เข้าใจ ตกลงแม่อ่านยัง
แม่ : ..........
แล้วตอนลงประชามติ จริงๆ อยากให้ ลงเป็น ข้อๆ เลยเห็น ด้วย ข้อไหน ไม่เห็นด้วย ข้อไหน .... จะได้พิสูจน์ว่าคนไปลงเข้าใจจริงๆ
แล้ว เอาข้อที่ไม่เห็นด้วยไปแก้อีกที ก็ได้