สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิว แชร์ประสบการณ์ให้กับคนที่จะไปเที่ยวอังกฤษเองแบบกระเตงลูกเที่ยว ตั้งแต่การขอวีซ่า ไปจนเรื่องไร้สาระอื่นๆ ที่เราคิดว่าควรจะรู้ไว้บ้างก็ดี จะได้เตรียมตัวกันถูกก่อนไปนะคะ
เราเพิ่งไปเที่ยวอังกฤษมาเมื่อตอนต้นเดือนเมษา 59 นี้ โดยเที่ยวเองค่ะ ช่วงแรกตามสามีไปประชุมก่อน แล้วจึงจะเริ่มเที่ยว ไปกันเป็นครอบครัวค่ะ มีลูกอายุเกือบจะสองขวบไปด้วย เลยมีความเหนื่อยและยุ่งยากขึ้นนิดหน่อยค่ะ เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์บางเรื่องไว้เป็นข้อมูลในการเดินทางท่องเที่ยวอังกฤษค่า
1.การขอวีซ่าอังกฤษ
- ขอวีซ่าอังกฤษ ต้องยื่นผ่าน Agent ทางเว็บเท่านั้นค่ะ โดยเข้าไปสมัครก่อนที่
http://www.vfsglobal.co.uk/thailand/thai/applicationcentre.html
เราก็กรอกตามรีวิวจากลิงค์นี้เลยค่ะ ค่อนข้างละเอียด
http://m.pantip.com/topic/31758151?
เข้าไปเลือกวันสัมภาษณ์และจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลยค่ะ
- ประเภทวีซ่า เราเดินทางติดตามสามี เลยไม่กล้าขอเป็น business เพราะไม่ได้ประชุมเอง ของเป็นแบบท่องเที่ยวไป แต่ตอนยื่นยื่นพร้อมกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ค่ะ เลยง่ายเลย เขาจะเหมารวมเป็น business ผ่านเร็วและง่ายกว่าค่ะ
- มีลูกไปด้วย ต้องแนบสูติบัตรแบบแปลแล้วไปด้วยนะคะ เราหาข้อมูลและโหลดมาจากเว็บกงศุลนึง ดูแล้วไม่ตรงกันบางประการกับตัวจริงเลยแอดเพิ่มไป ตามตัวอย่างนะคะ
ตอนยื่นเจ้าหน้าที่จะถามว่าแปลที่ไหนมา เราบอกแปลเองค่ะ เขาจะถามย้ำว่าไม่ให้ร้านข้างล่างแปลให้เหรอคะ เราก็งงนิดหน่อยว่าเขาแปลแล้วมีรับรองอะไรเป็นพิเศษไหม แต่จนท.บอกว่าไม่มี เขาจะปั๊มรับรองว่าแปลจากที่ไหนให้เฉยๆ เราเลยเขียนลงไปด้านล่างขวาของกระดาษว่า translate by ชื่อเรา (Mother) ค่ะ เพราะเรามั่นใจว่าเราแปลไม่ผิดนะคะ ร้านแปลเสียเงินเพิ่มค่ะ ไม่เอา เปลือง 555
- ขอนัดคิวด่วนพิเศษ วันเสาร์ เพราะเราอยู่ ตจว. ค่ะ ไม่สามารถไปวันธรรมดาได้ (ขอเซฟวันลานิดนึง) เลยไปวันเสาร์ มีค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ 2400 กว่าบาท/คน จ่ายเพิ่มในวันไปเป็นเงินสด แต่วันที่เราไปนั้นเขาลดราคาให้ค่ะ เหลือ 2200 กว่าบาท ไม่แน่ใจว่าทำไมลดนะคะ
- ไปถึงก็ขึ้นลิฟท์ด้านหลังค่ะ เดินไปทางขวา เขาจะติอป้ายบอกว่าเดินไปลิฟท์ด้านหลัง สำหรับผู้มาขอวีซ่าค่ะ
ขึนไปถึงแจ้งชื่อ และเวลานัด ก็จะมี จนท. พาเข้าไปค่ะ นั่งรอในห้องโถงกลางแป้บนึง ก็จะพาเข้าไปในห้องเล็กค่ะ เมื่อเข้าห้องเล็กก็จะตรวจเอกสารเราค่ะ ว่าครบไหม ขาดอะไรบ้าง เอกสารเราใส่ซองน้ำตาลไปทั้งหมด พร้อมสมุดบัญชี และpassport
เขาจะถามว่าส่งสมุดบัญชีตัวจริงด้วยไหม เราส่ง 1 เล่มค่ะ อีกเล่มขอ statement มาจากธนาคาร เลยไม่ส่ง เราว่าถ้าอัพเดทยอดเงินบ่อยๆ ไม่ต้องขอจากธนาคารเลยค่ะ ถ่ายเอกสารสมุดบัญชีมาเองมาก็น่าจะผ่าน
- เอกสารควรเซ็นรับรองสำเนาไปก่อนทุกหน้านะคะ เราลืมเซ็นไปก็เลยรีบๆ นิดนึง
- เวลายื่นเอกสารแล้วเขาจะมีใบติ๊กว่าเราส่งอะไรไปบ้าง เราเห็นอข้อนึงเป็นสำเนาฉโนดที่ดินต่างๆ เพิ่งรู้นะคะว่าเอามาเป็นหลักฐานการขอวีซ่าได้ด้วย ก็ดีนะคะเผื่อใครมีทรัพย์สินเยอะ ก็เอามาเป็นตัวยื่นได้ด้วย
- หลังจากเรายื่นวันเสาร์ วันอังคารก็มีอีเมลมาให้ไปรับเอกสารคืนในวันรุ่งขึ้นค่ะ โดยไม่แจ้งผลนะคะ ต้องเปิดซองลุ้นเองค่ะ และเย็นนั้นเจ้าหน้าที่จะโทรมาแจ้งอีกรอบให้ไปรับผลค่ะ ไม่ตองเสียค่า sms ให้เปลืองนะคะ
จบเรื่องขอวีซ่าแล้ว ไปเรื่องอื่นกันต่อค่ะ
แชร์ประสบการณ์คุณแม่ กระเตงลูกน้อยไปเที่ยวอังกฤษ
เราเพิ่งไปเที่ยวอังกฤษมาเมื่อตอนต้นเดือนเมษา 59 นี้ โดยเที่ยวเองค่ะ ช่วงแรกตามสามีไปประชุมก่อน แล้วจึงจะเริ่มเที่ยว ไปกันเป็นครอบครัวค่ะ มีลูกอายุเกือบจะสองขวบไปด้วย เลยมีความเหนื่อยและยุ่งยากขึ้นนิดหน่อยค่ะ เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์บางเรื่องไว้เป็นข้อมูลในการเดินทางท่องเที่ยวอังกฤษค่า
1.การขอวีซ่าอังกฤษ
- ขอวีซ่าอังกฤษ ต้องยื่นผ่าน Agent ทางเว็บเท่านั้นค่ะ โดยเข้าไปสมัครก่อนที่
http://www.vfsglobal.co.uk/thailand/thai/applicationcentre.html
เราก็กรอกตามรีวิวจากลิงค์นี้เลยค่ะ ค่อนข้างละเอียด
http://m.pantip.com/topic/31758151?
เข้าไปเลือกวันสัมภาษณ์และจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลยค่ะ
- ประเภทวีซ่า เราเดินทางติดตามสามี เลยไม่กล้าขอเป็น business เพราะไม่ได้ประชุมเอง ของเป็นแบบท่องเที่ยวไป แต่ตอนยื่นยื่นพร้อมกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ค่ะ เลยง่ายเลย เขาจะเหมารวมเป็น business ผ่านเร็วและง่ายกว่าค่ะ
- มีลูกไปด้วย ต้องแนบสูติบัตรแบบแปลแล้วไปด้วยนะคะ เราหาข้อมูลและโหลดมาจากเว็บกงศุลนึง ดูแล้วไม่ตรงกันบางประการกับตัวจริงเลยแอดเพิ่มไป ตามตัวอย่างนะคะ
ตอนยื่นเจ้าหน้าที่จะถามว่าแปลที่ไหนมา เราบอกแปลเองค่ะ เขาจะถามย้ำว่าไม่ให้ร้านข้างล่างแปลให้เหรอคะ เราก็งงนิดหน่อยว่าเขาแปลแล้วมีรับรองอะไรเป็นพิเศษไหม แต่จนท.บอกว่าไม่มี เขาจะปั๊มรับรองว่าแปลจากที่ไหนให้เฉยๆ เราเลยเขียนลงไปด้านล่างขวาของกระดาษว่า translate by ชื่อเรา (Mother) ค่ะ เพราะเรามั่นใจว่าเราแปลไม่ผิดนะคะ ร้านแปลเสียเงินเพิ่มค่ะ ไม่เอา เปลือง 555
- ขอนัดคิวด่วนพิเศษ วันเสาร์ เพราะเราอยู่ ตจว. ค่ะ ไม่สามารถไปวันธรรมดาได้ (ขอเซฟวันลานิดนึง) เลยไปวันเสาร์ มีค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ 2400 กว่าบาท/คน จ่ายเพิ่มในวันไปเป็นเงินสด แต่วันที่เราไปนั้นเขาลดราคาให้ค่ะ เหลือ 2200 กว่าบาท ไม่แน่ใจว่าทำไมลดนะคะ
- ไปถึงก็ขึ้นลิฟท์ด้านหลังค่ะ เดินไปทางขวา เขาจะติอป้ายบอกว่าเดินไปลิฟท์ด้านหลัง สำหรับผู้มาขอวีซ่าค่ะ
ขึนไปถึงแจ้งชื่อ และเวลานัด ก็จะมี จนท. พาเข้าไปค่ะ นั่งรอในห้องโถงกลางแป้บนึง ก็จะพาเข้าไปในห้องเล็กค่ะ เมื่อเข้าห้องเล็กก็จะตรวจเอกสารเราค่ะ ว่าครบไหม ขาดอะไรบ้าง เอกสารเราใส่ซองน้ำตาลไปทั้งหมด พร้อมสมุดบัญชี และpassport
เขาจะถามว่าส่งสมุดบัญชีตัวจริงด้วยไหม เราส่ง 1 เล่มค่ะ อีกเล่มขอ statement มาจากธนาคาร เลยไม่ส่ง เราว่าถ้าอัพเดทยอดเงินบ่อยๆ ไม่ต้องขอจากธนาคารเลยค่ะ ถ่ายเอกสารสมุดบัญชีมาเองมาก็น่าจะผ่าน
- เอกสารควรเซ็นรับรองสำเนาไปก่อนทุกหน้านะคะ เราลืมเซ็นไปก็เลยรีบๆ นิดนึง
- เวลายื่นเอกสารแล้วเขาจะมีใบติ๊กว่าเราส่งอะไรไปบ้าง เราเห็นอข้อนึงเป็นสำเนาฉโนดที่ดินต่างๆ เพิ่งรู้นะคะว่าเอามาเป็นหลักฐานการขอวีซ่าได้ด้วย ก็ดีนะคะเผื่อใครมีทรัพย์สินเยอะ ก็เอามาเป็นตัวยื่นได้ด้วย
- หลังจากเรายื่นวันเสาร์ วันอังคารก็มีอีเมลมาให้ไปรับเอกสารคืนในวันรุ่งขึ้นค่ะ โดยไม่แจ้งผลนะคะ ต้องเปิดซองลุ้นเองค่ะ และเย็นนั้นเจ้าหน้าที่จะโทรมาแจ้งอีกรอบให้ไปรับผลค่ะ ไม่ตองเสียค่า sms ให้เปลืองนะคะ
จบเรื่องขอวีซ่าแล้ว ไปเรื่องอื่นกันต่อค่ะ