[][][] วิชาประวัติศาสตร์ ตาบอด (เลือก) คลำช้าง และการสร้างความสับสนในหมู่ประชาชน

ดิฉันรู้สึกสับสนงุนงงเป็นประจำ เวลาได้อ่านกระทู้ หรือแม้แต่บทความทางประวัติศาสตร์ค่ะ เพราะเหมือนพวกเขาจะพูดถึงแต่แนวคิด และหลักฐานของตนเอง ถกกันจนคอเป็นเอ็น
พาลให้ดิฉันรู้สึกสงสัย ถึงระเบียบวิธีการต่างๆ ที่นักประวัติศาสตร์ใช้ว่ายังคงศักดิ์สิทธิ์อยู่ไหม
หรือมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สนับสนุน preconception ของนักประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะพวกที่สวมหมวก 'นักวิพากษ์สังคม' แถมอีกใบ


ในแง่กรอบการวิจัย

ประวัติศาสตร์ ก็เหมือนศาสตร์สังคมสาขาอื่นๆ คือพัฒนาทฤษฎีจาก 'หลักฐานที่เลือกมา' (จริงๆ มีหลักฐานอีกมากที่ขัดแย้ง แต่ไม่นำมารวมในการวิเคราะห์)

ปัญหาคือสาขาอื่นๆ ไม่ว่าเศรษฐศาสตร์ สังคมวิทยา มานุษยวิทยา ฯลฯ เขาจะระบุไว้ชัดเจนในบทความวิจัยเลยค่ะ
ว่าในกรอบการวิจัยสนใจแค่ปัจจัย 1, 2, 3, ..n นะ ปัจจัยอื่นๆ เราไม่สนใจ หรือสมมติให้เป็นปัจจัยคงที่ ก็ว่ากันไป
แต่บทความวิจัยประวัติศาสตร์มักไม่แสดงความชัดเจนตรงนี้ คืองุบงิบไว้ แล้วเลือกหยิบแต่หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีของตนเองมาใช้ เงิบ

ในแง่การสรุปผล

ศาสตร์สังคมสาขาอื่นๆ ไม่ว่าเศรษฐศาสตร์ สังคมวิทยา มานุษยวิทยา ฯลฯ จะสรุปผลและเสนอข้อสรุป ภายใต้กรอบ/เงื่อนไขที่ตั้งเอาไว้
หรือไม่ก็สรุปผลตามการพิสูจน์ข้อสันนิษฐาน (hypothesis) ที่ตั้งไว้เพื่อ test เท่านั้นค่ะ
นั่นก็หมายความว่า พวกเขาไม่ overclaim
พลังการอธิบายของข้อสรุปจึงอยู่ในกรอบ 'กรณีเฉพาะ' เท่านั้น จะเอาไปอธิบาย 'กรณีทั่วไป' เสมือนดังหนึ่ง 'นี่คือความจริง' ไม่ได้

แต่ประวัติศาสตร์จะ 'เล่นใหญ่' เลยค่ะ เรามักจะได้ยินข้อเสนอ (argument) เช่น
- ชาวบ้านบางระจันไม่ได้สู้เพื่อชาติ vs ชาวบ้านบางระจันสู้เพื่อชาติ
- พระมหาอุปราชาถูกปืนสวรรคต vs พระมหาอุปราชาขาดคอช้างสวรรคต
- ศิลาจารึกหลักที่ 1 เป็นของปลอม vs ศิลาจารึกหลักที่ 1 เป็นของจริง
ฯลฯ
เพี้ยนลุย

ข้อสรุปเหล่านี้เกิดจากการเลือกหยิบหลักฐานตามความพึงพอใจ ที่สนับสนุนทฤษฎีของตัวเอง แล้วเอามาสร้างข้อสรุป

"โดยมักไม่ระบุ ถึงหลักฐานที่สวนทางกับงานวิจัยของตน ไม่ระบุกรอบที่ชัดเจนว่าข้อเสนอของตนอยู่ภายใต้กรอบอะไรบ้าง"

พวกเขาเสนอความคิดราวกับนั่นคือเรื่องจริง (โอเค to some extent มันจริงภายใต้กรอบบางอย่าง หรือภายใต้หลักฐานจำนวนหนึ่ง แต่คุณไม่ระบุ ไม่บอกดิฉันไง)

กระบวนการศึกษาแบบนี้ สร้างความสับสน และความเข้าใจผิดๆ ให้แก่ประชาชนมากเลยนะคะ
แล้วดิฉันก็ไม่เห็นประโยชน์งอกเงยอะไร นอกจากเถียงกันไปกันมา ซึ่งเป็นการเถียงที่ไม่นำไปสู่ข้อสรุปที่ดีกว่าเสียด้วย
เพราะต่างคน ก็ต่างเชื่อในสิ่งที่ตนเองคิด และมันพิสูจน์ไม่ได้ เพราะนี่คือ 'สังคมศาสตร์' ความจริงไม่ได้มีแค่หนึ่งเดียว เพราะสังคมประกอบด้วยความหลากหลาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่