เคยไปเองมาแล้ว2 ครั้ง เลยมีแรงบัลดาลใจ อยากพาคนที่เรารักไปเห็นในสิ่งที่เราชอบ และ คิดว่าเค้าจะชอบเหมือนเรา ฮาฮาฮา***ท่องเที่ยวตามใจฉัน มีVIP ไปด้วย เกร็งทุกอย่าง การจัดแพลนต้องเดาใจ VIP เป็นหลัก ตัวเลข งบประมาณ ไม่ค่อยละเอียดนัก ถามมาได้ค่ะ ภาษา ตามใจฉัน อยากอวดความประทับใจจริงๆ
เริ่ม วางแพลน กะ น้องๆ 2 ปีที่แล้ว งงหล่ะสิ 2 ปีจริงๆ ทุกคนทำงานกินเงินเดือน เลยต้องใช้เวลาหน่อย จนวันที่กำหนดวัน ถามทำไมต้องปีนี้ พ่อแม่เริ่มอายุเยอะการเดินคงไม่คล่องเหมือนก่อน เลย หักดิบ จองตั๋ว เครื่องบินเลย ดูเวลาแล้ว ช่วงหยุดยาวคือ สงกรานต์ หลังจาก ลองไปในช่วงต่างๆของปี สงกรานดีสุด ถึงแม้จะแพงสุ ด แต่ไม่ร้อนไม่หนาว จนเกินไป โอเคร จองตั๋วเลย จองป้า แอนค่ะANA 22,255 บาท จองตั้งแต่ กันยา58 ป้าแอนจองยาวๆได้ราคาถูก เทียบกะป้าเอื้อง ช่วงเทศกาลบ้านเรา แพงกระฉูด ฉุดไม่อยู่ น้องอีกคนจองทีหลัง กับป้าเอื้อง โดนไป36,000++ บาท และเริ่มหาที่พัก เริ่มคิดกันว่าจะไปไหนบ้าง น้องๆอยาก ไปโอซาก้า ด้วย นั่งชินคันเซน ไป สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ แต่ ข้อจำกัดคือ ในทริปมีเด็กสุด 8 ขวบ สูงสุด 60 ขวบ ต้องเปลี่ยนโรงแรมน้อยสุด เดินน้อยสุด หรอ? เลยลองเข้าไปดูที่พักตาม Agoda เอง แต่ละที ได้นะแต่ วันไม่ใช่ คือ โตเกียว2 โอซาก้า4 กลับมาโตเกียว 2 ในราคา ที่เรา คิดว่าไม่โอเค เลยปรึกษา พี่ สาวที่น่ารักดูว่า เราควรจัดแพลนอย่างไร และแล้วพี่สาวก็จัด มาให้เลยทั้งแพลน ทั้งโรงแรม รถไฟ JR Pass คือ ลงนาริตะ ชินคันเซนไปโอซาก้า นอนOsaka 4 คืน Kawaguchiko1 คืน Tokyo 3 คืน ที่แรก ที่ อยากไปที่สุดเลย คือUshiku daibusu ที่นี่คือต้องไปและคิดว่าพ่อต้องชอบ ก่อนเดินทางปัญหาหลักๆเลยคือ เสื้อผ้า ในขณะจัด บ้านเรา อากาศ 40 องศา แล้วใครจะไปจัดเสื้อโค้ด รับกะอุณหภูมิ 6-20 องศา บ้านเค้าได้ฟระ คิดไม่ออก อากาศแบบนั้นเป็นไง เรื่องใหญ่มาก5555 วันเดินทางเลยเอาเสื้อแจ๊คเก็ตธรรมดา ใส่ไป ยังมองหน้ากันพี่น้อง ว่า เมริงหนาวหรอ55555******มีตารางการเดินทางของพี่สาวเป็นไกด์ไลน์ มีบัตรเจอาร์ต้องให้คุ้ม มี Hyperdia คือชีวิต 55555 มีเพจที่น่ารักคอยกระซิบ เวลาฉุกเฉิน
วันแรก 7-8 เม.ย. 59 – Bangkok>>>Narita>>>>Tokyo>>>Osaka พักที่ Sunny Stone Hatelเดินทางตอนเที่ยงคืน ถึงช่วง 8 โมงเช้า ของที่โน่น ลงเครื่อง เสื้อที่ใส่มา คือมันใช้ แต่นั้นยังไม่ใช่ของจริง ยังมีฮีทเตอร์อยู่ในอาคาร 5555 ลงเครื่องเข้าแถวผ่าน ตม.คนเยอะปกติไม่ได้มากอะไร วางแผนอย่างดีอย่าเพิ่งแวะอะไร พุ่งไปผ่าน ตม.กับ ศล.ก่อน และแวะห้องน้ำ ชิวค่ะเวลาเหลือ แต่พอลงมาที่จะแลกบัตร JR Pass โอ้ว คนมหาศาล มาอยู่นี่เอง แถวยาวมาก
ตอนนั้นเปิด2 ตู้ โหย รอไปชั่วโมงเต็มคร้า ประเด็นคือหลังจากตัวแทนเข้าไปรอ แลกเสร็จจบจากคิวนาง เจ้าหน้าที่มาเดินตู้อีก4 ตู้ เป็น6 คืออารายยยยยย5555555 หลังจากนั้น เรา ขึ้นNEX เข้าโตเกียว แวะซื้อข้าวกล่อง
ต่อชินคันเซนที่จองที่นั่งแล้ว กินข้าวกล่องบนรถไฟ ได้บรรยากาศอีกแบบนะ เข้าโอซาก้า ถึงประมาณ บ่าย 3 ทำเวลาดีค่ะ เข้าไปเช็คอิน เราได้ที่พัก ตรง Esaka อยู่เหนือ สถานี ชินโอซาก้าไป 3 สถานี แต่ใช้เส้นใต้ดิน สีแดง เลยค่ะเข้าชินไชบาชิ นัมบะ พักที่ รร. แล้วออกมา ได้รองเท้า มาคนละคู่2 คู่ ด้วยความที่ห่วงว่าต้อง ส่งกระเป๋า ทางไปรษณีย์ เลยยังไม่ได้ซื้อขนมอะไรมาเยอะ กะมา จัดที่โตเกียว เลยเดินกินไปเรื่อย น้องคนไทยมารับไปกิน Okonomiyaki และได้ก็แวะถ่ายรูป มุมฮิต
หลังจากนั้นก็กลับเข้าโรงแรม
วันที่ 2 -- 9 เม.ย. 59 Kyoto Shin-osaka>>>>Kyoto ออก ประมาณ 9 โมง นั่ง Shikansen ไป Kyoto แพลนตอนแรกมี ไป วัดทองด้วยแต่ อยู่คนละทาง เดินเยอะ กลัวจะไม่ไหว เราเลยไป แค่วัดน้ำใสกะ ศาลจิ้งจอก ถึงเกียวโต ซื้อ OnedayBus ต่อแถวขึ้นรถเมล์สิค่ะ (อ่อก่อนออกแวะกินข้าวที่ เซเว่น ใช่ค่ะเป็นสิ่งที่ พ่อแม่ไม่เคยทำในบ้านเรา 5555)
ระหว่างทางเราจะผ่าน สารพัดวัด ที่สวยงามเลยค่ะ จริงเดินไปเรื่อยๆ ก็ได้ ถ้าเป็นหนุ่มสาว นี่ป้าไม่หวายยยย ถึง ปากทาง เดินเข้าวัด ทุกคนเริ่มตื่นเต้น กับคนใส่ชุด กิโมโน เดินเข้าวัด (ตอนแรกจะเช่าเหมือนกัน เสียดาย)
เดินไปเรื่อยๆ ของกินข้างทางเยอะ เลือกกินและ เดินไปให้ถึงวัด ให้เร็วที่สุด เพราะกลางทางมี ที่จอดรถทัวร์ โอ้ว กำลังขนกันมาเลย เดินไปเรื่อยๆ จนถึงวัด ทางเดินเป็นเนิน ค่ะ
ห่วงที่สุด คือ 2 ตายาย กลัวจะบ่นเมื่อยตั้งแต่วัดแรก แต่เค้าก็เพลินค่ะ อากาศ เย็น เดินเยอะขนาดนั้น จัดว่าสบายไม่มีเหงื่อเลย
หลังจากกลับลงมา ก็ไปต่อกันที่ศาลจิ้งจอกซึ่ง ต้องนั่งรถเมล์ไปต่อรถไฟ เพื่อที่จะ จอดใกล้ วัดมากที่สุด จริงๆค่ะ เดินออกจากสถานี เข้าวัดเลย 55555 เดินขึ้นไปได้ชั้นเดียวค่ะ
ผู้ใหญ่เริ่มไม่ไหว เลยตัดสินใจลงมาหาไรกินดีกว่า กลับ รร. วันนี้ได้เข้าไปกิน ร้านข้าวหน้าเนื้อ ที่เป็นตู้กด แล้วเอาบิลไปให้ พนักงาน เดินเข้าไปคนมองแล้วขำๆ เราก็งง แต่ด้วย หิว และตาลาย เลยไม่ได้สนใจอะไร(ไม่ได้เสียงดังต่างคนต่างสั่งต่างกิน) จนน้อง อีกคนเข้ามาน้องบอกอ๋อ ร้านแบบนี้แหละพี่ ที่เคยบอกว่า ไม่มีผู้หญิงเข้ามากินเลย อ่าว คืออะไร เลยถามเพื่อนคนญี่ปุ่น เค้าบอก ร้านแบบนี้ ราคาถูก ผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่เข้าร้านแบบนี้ (ตอนแรกตกใจนึกว่าเราทำผิดกฎอะไรเค้าหรือเปล่า) งงมั้ย แต่หลังๆก็มีบ้างแล้ว อ่อ แปลว่ากินได้ และเดินเข้า Unique โดนกันไป เบาๆ คนละ2-3 ชุด เสื้อผ้า คำนวณ ชุดละหลัก 300 บาท หาไม่ได้ที่ ยูนิโคลไทย จัดซะ เบาก่อน เด่วเป๋าเต็ม
วันที่3—10 เม.ย. 59 Nara Shi-Osaka>>>>Nara By Shikansen เมืองกวาง (เช้า ซื้อข้าวปั้น ที่แฟมิลี่มาทพ่อแม่เริ่ม ชิน) นั่งบัสเหมือนกัน ซื้อpass เหมือนกัน เดินเข้าวัด
จำได้ว่า มีคนเตือนว่าห้ามถ่ายรูปพระใหญ่แต่ ถ่ายด้านนอกได้ เลยถ่ายกันใหญ่ ก่อนเข้าพอเข้าไป ทำถ้าจะเก็บโทรศัพท์ พ่อหันมากระซิบ ”ไหนเมริงบอกเค้าห้ามถ่ายไง” เงยหน้ามา พรึบ ต่างชาติเจแปน แขก ไชนิส บางคนมีไม้เซลฟี้ด้วยจ้า อีนี่งง อารายวะ เอาวะขนาดนี้แล้วคงไม่ผิดอะไรและ จัดหนักสิคะ
ตอนกลับออก มาดูโพย พี่สาวได้จัดตารางร้านข้าวหน้าปลาไหลให้ จัดสิจ๊ะ เวลาเหลือแต่เดินไกลนะ หาทางที่ใกล้ที่สุด55555 เดินกิโลกว่า เดินชมเมือง
เค้าเลย 5555 พอเดินออกมาอีกฝั่ง เจอร้านโมจิ เจ้าดัง กำลัง ตำกันเลยจ้า จัดไป1 อัน 55555 กินคนละคำ คุณนายแม่ น้ำตาลขึ้น 5555 แต่เดินก็ช่วยลดน้ำตาลนะ สักพักน้องชายถือมาอีก2 5555 ขากลับแวะ Umeda โอ้ว สถานีรถไฟฟ้าใหญ่
สถานที่ๆต้องไปอีกแห่ง Gudetama store การ์ตูนโปรดของลูกชายฟินกันไป
เจอร้านรองเท้าอีกและ เกือบไป โชคดีไม่มีไซด์5555 กลับมาเก็บของ เพื่อจะไปส่งแมวดำ สอบถามทางโรงแรม เหมือนเค้าบอกว่า ต้องมีการเก็บเงินปลายทาง แล้วไม่รู้ว่า รร. ปลายทาง จะรับผิดชอบตรงนี้มั้ย เราเลย ลากไปเซเว่น หมดเรื่อง จ่ายต้นทาง สบายใจ เอาเสื้อผ้าใส่เป้ คนละชุด ไปหาคุณฟูจิ กันดีก่า
วันที่4---11 เม.ย.59 Esaka>>>>>Kawaguchiko พักที่ Yamagishi Ryokan ออก9 โมงค่ะ คือให้เลยเวลาออกทำงานไปแล้ว ไปต่อแถว จองที่นั่งชินคันเซน พลาดอย่างนึง เจ้าหน้าที่บอกว่า ที่นั่งไม่สูบบุหรี่ เต็ม เหลือ ที่สูบบุหรี่ เราก็เข้าใจว่า คงจะมีที่สูบในตู้โดยสารคงเหม็นนิดหน่อย ที่ไหนได้ พ่อเจ้าประคุณ นั่งสูบยังกะ ในผับ รถออกปุ๊บ ย้ายด่วน จากขบวนแรกไปเกือบสุดท้ายที่นั่ง ได้แบบไม่จอง ไม่ไหวค่ะยอมโดน ด่า นะรอบนี้ เราพลาดจริง กลับมาการเดินทาง Shin-Osaka>>>>Yokohama>>> Hachioji >>> Otsuki>>>Kawaguchiko มีบัตรเบ่ง กลัวไร ไปโรด ถึงที่ โชว์บัตร ยิ้มหวาน ตรงไหนงง ก็อ้าปากถามเค้า ภาษาใบ้มือ ส่งเข้าไป เจ้าหน้าที่ใจดี ก่อนถึง เห็นคุณฟูจิแบบ บิ๊กบึ้ม แต่มีเมฆบัง ก่อนไป เช็คอากาศ มีเมฆมากอาจ ไม่เห็นแต่คุณเค้า เปลือยขาให้ดูนิดนึง ใหญ่มากกกกกกกก สวยยยย
ได้แต่มองแล้วพูดแบบนี้ ผ่าน Fuji Q ด้วย น้องบอกว่า ถ้าอยากดู Mt.Fuji ในมุมที่สวยที่สุดต้องที่นี่ หึหึ ยอม ไปถึง สถานีประมาณบ่าย3 ก็มีเมฆบังอยู่ ไปยืน คำนับคุณก้อมเมฆ ให้พรุ่งนี้ คุณเมฆพักร้อน เป็นเคล็ด(คิดเอาเอง) ดูจากแผนที่ เดินไปที่พัก 15 นาที ถ้าโรงแจ้ง รร ก็จะมารับ แต่ ไหนๆก็ไหนๆและ เดินชมเมืองละกัน เดินไปเรื่อยๆตามแผนที่ และแล้วก็เจอทะเลสาบเพิ่งรู้ หน้าที่พักคือทะเลสาบ สวยมาก ด้านข้างมี กระเช่า ชมวิวด้วย แต่เดินลงมาไม่ทัน ปิดก่อน เลยได้แต่เดินเล่นรอบๆ ซื้อขนมกันไป รอเวลาอาหารเย็น แช่ออนเซนวิวสวยมาก ไม่ได้ถ่ายรูปมาห้องรวม วิวกลางคืนตรงทะเลสาบ สวยมาก
วันที่5---12 เม.ย.59 Kawaguchiko>>>Kamakura>>>Tokyo เช้ามาที่โน้นจะสว่างตั้งแต่ ตี5 นัดกะแม่ว่า จะไปออนเซนแต่เช้า จะได้ไม่มีคน แล้วค่อยออกไปเดินทะเลสาบ พอตื่นมา สิ่งแรกที่ทำคือ
ส่องเมฆ ใช่เลย ฟ้าใส เลยรีบไป แช่สักครึ่งชั่วโมง แล้วเดินไปถ่ายรูป สวยงาม อย่างที่รอ ทุกคนมีความสุข ขอบคุณ Fuji san ค่ะ
กลับเข้าโรงแรม กินมื้อเช้า แล้วก็เก็บของ ออกจากโรงแรม เวลาเหลือเยอะ เลย จะไปพระใหญ่ Kamakura เลย Kawaguchiko>>>Otsuki>>Shinjuku>>> Kamakura>>>Hase จัดไป เอากระเป๋าฝากล็อกเกอร์ และ ก็ลุย เดินเข้าตลาด
ก่อนเพื่อหาไรกินก่อนเข้าวัด ถึง Kamakura ก็ต้องปลา ข้าวสาร ตัวจิ๋ว (ครั้งนึงเคย ตามหาในไทย เพราะลูกชายชอบกินหายากมาก) มาถึงถิ่นจัดหนักเล่นซะไม่อยากมองอีกเลย55555
และเราก็เข้าวัดกัน เดินสิคะ รออะไร กินข้าวแล้ว หาเหนื่อยค่ะ ทุกที่ที่ไป ถึงแม้เดินเยอะ VIP ของเราหน้าจะบิดเบี้ยว แต่พอถึงที่ สีหน้าเปลี่ยน ไปทุกที่เลย สุขใจค่ะ หลังจากเดินถ่ายรูปอธิฐาน
ขอพรกันเสร็จแล้ว เราก็กลับเข้าโตเกียวค่ะ
Japan 2016 สงกรานต์ กับครอบครัว 8-50 ขวบ
เริ่ม วางแพลน กะ น้องๆ 2 ปีที่แล้ว งงหล่ะสิ 2 ปีจริงๆ ทุกคนทำงานกินเงินเดือน เลยต้องใช้เวลาหน่อย จนวันที่กำหนดวัน ถามทำไมต้องปีนี้ พ่อแม่เริ่มอายุเยอะการเดินคงไม่คล่องเหมือนก่อน เลย หักดิบ จองตั๋ว เครื่องบินเลย ดูเวลาแล้ว ช่วงหยุดยาวคือ สงกรานต์ หลังจาก ลองไปในช่วงต่างๆของปี สงกรานดีสุด ถึงแม้จะแพงสุ ด แต่ไม่ร้อนไม่หนาว จนเกินไป โอเคร จองตั๋วเลย จองป้า แอนค่ะANA 22,255 บาท จองตั้งแต่ กันยา58 ป้าแอนจองยาวๆได้ราคาถูก เทียบกะป้าเอื้อง ช่วงเทศกาลบ้านเรา แพงกระฉูด ฉุดไม่อยู่ น้องอีกคนจองทีหลัง กับป้าเอื้อง โดนไป36,000++ บาท และเริ่มหาที่พัก เริ่มคิดกันว่าจะไปไหนบ้าง น้องๆอยาก ไปโอซาก้า ด้วย นั่งชินคันเซน ไป สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ แต่ ข้อจำกัดคือ ในทริปมีเด็กสุด 8 ขวบ สูงสุด 60 ขวบ ต้องเปลี่ยนโรงแรมน้อยสุด เดินน้อยสุด หรอ? เลยลองเข้าไปดูที่พักตาม Agoda เอง แต่ละที ได้นะแต่ วันไม่ใช่ คือ โตเกียว2 โอซาก้า4 กลับมาโตเกียว 2 ในราคา ที่เรา คิดว่าไม่โอเค เลยปรึกษา พี่ สาวที่น่ารักดูว่า เราควรจัดแพลนอย่างไร และแล้วพี่สาวก็จัด มาให้เลยทั้งแพลน ทั้งโรงแรม รถไฟ JR Pass คือ ลงนาริตะ ชินคันเซนไปโอซาก้า นอนOsaka 4 คืน Kawaguchiko1 คืน Tokyo 3 คืน ที่แรก ที่ อยากไปที่สุดเลย คือUshiku daibusu ที่นี่คือต้องไปและคิดว่าพ่อต้องชอบ ก่อนเดินทางปัญหาหลักๆเลยคือ เสื้อผ้า ในขณะจัด บ้านเรา อากาศ 40 องศา แล้วใครจะไปจัดเสื้อโค้ด รับกะอุณหภูมิ 6-20 องศา บ้านเค้าได้ฟระ คิดไม่ออก อากาศแบบนั้นเป็นไง เรื่องใหญ่มาก5555 วันเดินทางเลยเอาเสื้อแจ๊คเก็ตธรรมดา ใส่ไป ยังมองหน้ากันพี่น้อง ว่า เมริงหนาวหรอ55555******มีตารางการเดินทางของพี่สาวเป็นไกด์ไลน์ มีบัตรเจอาร์ต้องให้คุ้ม มี Hyperdia คือชีวิต 55555 มีเพจที่น่ารักคอยกระซิบ เวลาฉุกเฉิน
วันแรก 7-8 เม.ย. 59 – Bangkok>>>Narita>>>>Tokyo>>>Osaka พักที่ Sunny Stone Hatelเดินทางตอนเที่ยงคืน ถึงช่วง 8 โมงเช้า ของที่โน่น ลงเครื่อง เสื้อที่ใส่มา คือมันใช้ แต่นั้นยังไม่ใช่ของจริง ยังมีฮีทเตอร์อยู่ในอาคาร 5555 ลงเครื่องเข้าแถวผ่าน ตม.คนเยอะปกติไม่ได้มากอะไร วางแผนอย่างดีอย่าเพิ่งแวะอะไร พุ่งไปผ่าน ตม.กับ ศล.ก่อน และแวะห้องน้ำ ชิวค่ะเวลาเหลือ แต่พอลงมาที่จะแลกบัตร JR Pass โอ้ว คนมหาศาล มาอยู่นี่เอง แถวยาวมาก
ตอนนั้นเปิด2 ตู้ โหย รอไปชั่วโมงเต็มคร้า ประเด็นคือหลังจากตัวแทนเข้าไปรอ แลกเสร็จจบจากคิวนาง เจ้าหน้าที่มาเดินตู้อีก4 ตู้ เป็น6 คืออารายยยยยย5555555 หลังจากนั้น เรา ขึ้นNEX เข้าโตเกียว แวะซื้อข้าวกล่อง
ต่อชินคันเซนที่จองที่นั่งแล้ว กินข้าวกล่องบนรถไฟ ได้บรรยากาศอีกแบบนะ เข้าโอซาก้า ถึงประมาณ บ่าย 3 ทำเวลาดีค่ะ เข้าไปเช็คอิน เราได้ที่พัก ตรง Esaka อยู่เหนือ สถานี ชินโอซาก้าไป 3 สถานี แต่ใช้เส้นใต้ดิน สีแดง เลยค่ะเข้าชินไชบาชิ นัมบะ พักที่ รร. แล้วออกมา ได้รองเท้า มาคนละคู่2 คู่ ด้วยความที่ห่วงว่าต้อง ส่งกระเป๋า ทางไปรษณีย์ เลยยังไม่ได้ซื้อขนมอะไรมาเยอะ กะมา จัดที่โตเกียว เลยเดินกินไปเรื่อย น้องคนไทยมารับไปกิน Okonomiyaki และได้ก็แวะถ่ายรูป มุมฮิต
หลังจากนั้นก็กลับเข้าโรงแรม
วันที่ 2 -- 9 เม.ย. 59 Kyoto Shin-osaka>>>>Kyoto ออก ประมาณ 9 โมง นั่ง Shikansen ไป Kyoto แพลนตอนแรกมี ไป วัดทองด้วยแต่ อยู่คนละทาง เดินเยอะ กลัวจะไม่ไหว เราเลยไป แค่วัดน้ำใสกะ ศาลจิ้งจอก ถึงเกียวโต ซื้อ OnedayBus ต่อแถวขึ้นรถเมล์สิค่ะ (อ่อก่อนออกแวะกินข้าวที่ เซเว่น ใช่ค่ะเป็นสิ่งที่ พ่อแม่ไม่เคยทำในบ้านเรา 5555)
ระหว่างทางเราจะผ่าน สารพัดวัด ที่สวยงามเลยค่ะ จริงเดินไปเรื่อยๆ ก็ได้ ถ้าเป็นหนุ่มสาว นี่ป้าไม่หวายยยย ถึง ปากทาง เดินเข้าวัด ทุกคนเริ่มตื่นเต้น กับคนใส่ชุด กิโมโน เดินเข้าวัด (ตอนแรกจะเช่าเหมือนกัน เสียดาย)
เดินไปเรื่อยๆ ของกินข้างทางเยอะ เลือกกินและ เดินไปให้ถึงวัด ให้เร็วที่สุด เพราะกลางทางมี ที่จอดรถทัวร์ โอ้ว กำลังขนกันมาเลย เดินไปเรื่อยๆ จนถึงวัด ทางเดินเป็นเนิน ค่ะ
ห่วงที่สุด คือ 2 ตายาย กลัวจะบ่นเมื่อยตั้งแต่วัดแรก แต่เค้าก็เพลินค่ะ อากาศ เย็น เดินเยอะขนาดนั้น จัดว่าสบายไม่มีเหงื่อเลย
หลังจากกลับลงมา ก็ไปต่อกันที่ศาลจิ้งจอกซึ่ง ต้องนั่งรถเมล์ไปต่อรถไฟ เพื่อที่จะ จอดใกล้ วัดมากที่สุด จริงๆค่ะ เดินออกจากสถานี เข้าวัดเลย 55555 เดินขึ้นไปได้ชั้นเดียวค่ะ
ผู้ใหญ่เริ่มไม่ไหว เลยตัดสินใจลงมาหาไรกินดีกว่า กลับ รร. วันนี้ได้เข้าไปกิน ร้านข้าวหน้าเนื้อ ที่เป็นตู้กด แล้วเอาบิลไปให้ พนักงาน เดินเข้าไปคนมองแล้วขำๆ เราก็งง แต่ด้วย หิว และตาลาย เลยไม่ได้สนใจอะไร(ไม่ได้เสียงดังต่างคนต่างสั่งต่างกิน) จนน้อง อีกคนเข้ามาน้องบอกอ๋อ ร้านแบบนี้แหละพี่ ที่เคยบอกว่า ไม่มีผู้หญิงเข้ามากินเลย อ่าว คืออะไร เลยถามเพื่อนคนญี่ปุ่น เค้าบอก ร้านแบบนี้ ราคาถูก ผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่เข้าร้านแบบนี้ (ตอนแรกตกใจนึกว่าเราทำผิดกฎอะไรเค้าหรือเปล่า) งงมั้ย แต่หลังๆก็มีบ้างแล้ว อ่อ แปลว่ากินได้ และเดินเข้า Unique โดนกันไป เบาๆ คนละ2-3 ชุด เสื้อผ้า คำนวณ ชุดละหลัก 300 บาท หาไม่ได้ที่ ยูนิโคลไทย จัดซะ เบาก่อน เด่วเป๋าเต็ม
วันที่3—10 เม.ย. 59 Nara Shi-Osaka>>>>Nara By Shikansen เมืองกวาง (เช้า ซื้อข้าวปั้น ที่แฟมิลี่มาทพ่อแม่เริ่ม ชิน) นั่งบัสเหมือนกัน ซื้อpass เหมือนกัน เดินเข้าวัด
จำได้ว่า มีคนเตือนว่าห้ามถ่ายรูปพระใหญ่แต่ ถ่ายด้านนอกได้ เลยถ่ายกันใหญ่ ก่อนเข้าพอเข้าไป ทำถ้าจะเก็บโทรศัพท์ พ่อหันมากระซิบ ”ไหนเมริงบอกเค้าห้ามถ่ายไง” เงยหน้ามา พรึบ ต่างชาติเจแปน แขก ไชนิส บางคนมีไม้เซลฟี้ด้วยจ้า อีนี่งง อารายวะ เอาวะขนาดนี้แล้วคงไม่ผิดอะไรและ จัดหนักสิคะ
ตอนกลับออก มาดูโพย พี่สาวได้จัดตารางร้านข้าวหน้าปลาไหลให้ จัดสิจ๊ะ เวลาเหลือแต่เดินไกลนะ หาทางที่ใกล้ที่สุด55555 เดินกิโลกว่า เดินชมเมือง
เค้าเลย 5555 พอเดินออกมาอีกฝั่ง เจอร้านโมจิ เจ้าดัง กำลัง ตำกันเลยจ้า จัดไป1 อัน 55555 กินคนละคำ คุณนายแม่ น้ำตาลขึ้น 5555 แต่เดินก็ช่วยลดน้ำตาลนะ สักพักน้องชายถือมาอีก2 5555 ขากลับแวะ Umeda โอ้ว สถานีรถไฟฟ้าใหญ่
สถานที่ๆต้องไปอีกแห่ง Gudetama store การ์ตูนโปรดของลูกชายฟินกันไป
เจอร้านรองเท้าอีกและ เกือบไป โชคดีไม่มีไซด์5555 กลับมาเก็บของ เพื่อจะไปส่งแมวดำ สอบถามทางโรงแรม เหมือนเค้าบอกว่า ต้องมีการเก็บเงินปลายทาง แล้วไม่รู้ว่า รร. ปลายทาง จะรับผิดชอบตรงนี้มั้ย เราเลย ลากไปเซเว่น หมดเรื่อง จ่ายต้นทาง สบายใจ เอาเสื้อผ้าใส่เป้ คนละชุด ไปหาคุณฟูจิ กันดีก่า
วันที่4---11 เม.ย.59 Esaka>>>>>Kawaguchiko พักที่ Yamagishi Ryokan ออก9 โมงค่ะ คือให้เลยเวลาออกทำงานไปแล้ว ไปต่อแถว จองที่นั่งชินคันเซน พลาดอย่างนึง เจ้าหน้าที่บอกว่า ที่นั่งไม่สูบบุหรี่ เต็ม เหลือ ที่สูบบุหรี่ เราก็เข้าใจว่า คงจะมีที่สูบในตู้โดยสารคงเหม็นนิดหน่อย ที่ไหนได้ พ่อเจ้าประคุณ นั่งสูบยังกะ ในผับ รถออกปุ๊บ ย้ายด่วน จากขบวนแรกไปเกือบสุดท้ายที่นั่ง ได้แบบไม่จอง ไม่ไหวค่ะยอมโดน ด่า นะรอบนี้ เราพลาดจริง กลับมาการเดินทาง Shin-Osaka>>>>Yokohama>>> Hachioji >>> Otsuki>>>Kawaguchiko มีบัตรเบ่ง กลัวไร ไปโรด ถึงที่ โชว์บัตร ยิ้มหวาน ตรงไหนงง ก็อ้าปากถามเค้า ภาษาใบ้มือ ส่งเข้าไป เจ้าหน้าที่ใจดี ก่อนถึง เห็นคุณฟูจิแบบ บิ๊กบึ้ม แต่มีเมฆบัง ก่อนไป เช็คอากาศ มีเมฆมากอาจ ไม่เห็นแต่คุณเค้า เปลือยขาให้ดูนิดนึง ใหญ่มากกกกกกกก สวยยยย
ได้แต่มองแล้วพูดแบบนี้ ผ่าน Fuji Q ด้วย น้องบอกว่า ถ้าอยากดู Mt.Fuji ในมุมที่สวยที่สุดต้องที่นี่ หึหึ ยอม ไปถึง สถานีประมาณบ่าย3 ก็มีเมฆบังอยู่ ไปยืน คำนับคุณก้อมเมฆ ให้พรุ่งนี้ คุณเมฆพักร้อน เป็นเคล็ด(คิดเอาเอง) ดูจากแผนที่ เดินไปที่พัก 15 นาที ถ้าโรงแจ้ง รร ก็จะมารับ แต่ ไหนๆก็ไหนๆและ เดินชมเมืองละกัน เดินไปเรื่อยๆตามแผนที่ และแล้วก็เจอทะเลสาบเพิ่งรู้ หน้าที่พักคือทะเลสาบ สวยมาก ด้านข้างมี กระเช่า ชมวิวด้วย แต่เดินลงมาไม่ทัน ปิดก่อน เลยได้แต่เดินเล่นรอบๆ ซื้อขนมกันไป รอเวลาอาหารเย็น แช่ออนเซนวิวสวยมาก ไม่ได้ถ่ายรูปมาห้องรวม วิวกลางคืนตรงทะเลสาบ สวยมาก
วันที่5---12 เม.ย.59 Kawaguchiko>>>Kamakura>>>Tokyo เช้ามาที่โน้นจะสว่างตั้งแต่ ตี5 นัดกะแม่ว่า จะไปออนเซนแต่เช้า จะได้ไม่มีคน แล้วค่อยออกไปเดินทะเลสาบ พอตื่นมา สิ่งแรกที่ทำคือ
ส่องเมฆ ใช่เลย ฟ้าใส เลยรีบไป แช่สักครึ่งชั่วโมง แล้วเดินไปถ่ายรูป สวยงาม อย่างที่รอ ทุกคนมีความสุข ขอบคุณ Fuji san ค่ะ
กลับเข้าโรงแรม กินมื้อเช้า แล้วก็เก็บของ ออกจากโรงแรม เวลาเหลือเยอะ เลย จะไปพระใหญ่ Kamakura เลย Kawaguchiko>>>Otsuki>>Shinjuku>>> Kamakura>>>Hase จัดไป เอากระเป๋าฝากล็อกเกอร์ และ ก็ลุย เดินเข้าตลาด
ก่อนเพื่อหาไรกินก่อนเข้าวัด ถึง Kamakura ก็ต้องปลา ข้าวสาร ตัวจิ๋ว (ครั้งนึงเคย ตามหาในไทย เพราะลูกชายชอบกินหายากมาก) มาถึงถิ่นจัดหนักเล่นซะไม่อยากมองอีกเลย55555
และเราก็เข้าวัดกัน เดินสิคะ รออะไร กินข้าวแล้ว หาเหนื่อยค่ะ ทุกที่ที่ไป ถึงแม้เดินเยอะ VIP ของเราหน้าจะบิดเบี้ยว แต่พอถึงที่ สีหน้าเปลี่ยน ไปทุกที่เลย สุขใจค่ะ หลังจากเดินถ่ายรูปอธิฐาน
ขอพรกันเสร็จแล้ว เราก็กลับเข้าโตเกียวค่ะ