[แปล] รู้จักตัวตนของ Kosheleva

ปกติแล้วพูดถึงทีมรัสเซีย กาโมว่าจะเป็นเสมือนดาวฤกษ์ ฉายแสงทำผลงานซะส่วนใหญ่ ชิงแชมป์โลกปี 2014 กาโมว่าไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาลคนเดียวอีกต่อไป ยังมีโคเซเลว่าอีกหนึ่งคน ที่กลางเป็นศูนย์กลางของทีมอย่างรวดเร็ว

"พูดกว้างๆ ทีมในตอนนี้เล่นโดยมีเธอเป็นตัวหลัก เธอเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลทื่ดีที่สุดและสำคัญมากสำหรับทีมของเรา" โค้ช ยูริ มาริเชฟกล่าวช่วงปี 2014



เธอเล่าถึงวัยเด็กว่า "ช่วงหลังจบเกรด 6 ฉันยังไม่เคยแม้แต่แตะลูกวอลเลย์บอลเลย ส่วนสูงของฉันก็ธรรมดา ทุกอย่างที่นักวอลเลย์บอลควรมี ฉันไม่มีเลย ต่ำกว่ามาตรฐานทุกอย่าง ตอนฉันอายุ 11 ปี ฉันสูงแค่ 162 เซนติเมตร จำได้เลยว่ามามอสโกตอนอายุ 15 ปี ตอนนั้นฉันสูง 184 แล้ว พออายุ 16-17 ฉันก็สูงเท่าปัจจุบัน" ตอนนี้เธอสูง 191 เซนติเมตร

"ที่เมือง Tula ซึ่งครอบครัวฉันย้ายมาจาก Minsk ในปี 93 ไม่มีใครเชื่อความสามารถฉันเลย แม้แต่ตัวของฉันเองก็ไม่เชื่อ พอเริ่มฝึก ส่วนมากฉันจะได้ฝึกแค่เสิร์ฟบอล พอรายชื่อทีมเยาวชนถูกประกาศออกมา แน่นอนว่าไม่มีชื่อฉันติดอยู่ด้วย โค้ช Evgeny Smirnov ในตอนนั้นชวนฉันนั่งรถไปกับนักกีฬาเยาวชน บอกว่าให้ไปดูว่าเด็กที่นั่นเค้าเล่นกันยังไง ฉันก็ไปด้วย"

"ฉันจำวันนั้นได้ไม่ลืมเลย พอไปถึงโค้ช Irina Bespalov เดินออกมา แล้วเธอก็บอกให้ฉันไปเปลี่ยนเป็นชุดซ้อม เธอกล่าวขอบคุณโค้ช Evgeny ตอนนั้นฉันงงตัวเองมาก ฉันได้ติดทีมเยาวชนทั้งๆที่ไม่มีชื่อ นั่นเปลี่ยนชีวิตของฉันไปเลย และโค้ช Irina นี่แหละที่ช่วยแนะนำทีม Dinamo Moscow ให้รับฉันเข้าร่วมทีม"

"Bespalov เชื่อมั่นในตัวฉันมาโดยตลอด เธอทำให้ฉันมีความมั่นใจ เธอสอนฉันให้กระโดดตบเป็น สอนตั้งแต่ต้นเลย มันเหมือนพระเจ้าส่งคนที่ดีที่สุดมาให้ในช่วงเวลาสำคัญ"



พูดถึงความสัมพันธ์ของเธอบ้าง เธอเจอกับสามีช่วงปี 2009 ปีเดียวกับที่เธอเริ่มเข้าทีมชาติ Fedor Kuzin อายุมากกว่าเธอ 7 ปี เป็นผู้ช่วยโค้ชเก็บสถิติ "ฉันเล่นในเมือง Odintsovo และเขาทำงานให้กับทีม Dinamo Yantar ทีมผู้ชาย เราไปหากันบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราตกหลุมรักซึ่งกันและกัน Fedor ตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา เขาลาออกจากทีมเดิม เพื่อมาอยู่กับฉัน มันปลื้มใจเป็นอย่างมาก มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย จากนั้นเราอยู่ด้วยกัน โชคดีมากที่ฉันได้อยู่กับเขา เราทำงานด้วยกัน สโมสรเดียวกัน ทีมเดียวกัน ทุกวันมีแต่ความสุข"



ในช่วงปี 2011 ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย "ฉันชินกับการไม่มีเวลา สามีฉันรับได้ อย่างแรกเลย เราก็อยากได้งานแต่งสวยๆจัดใหญ่ๆเหมือนคนทั่วไป แต่แล้วฉันก็เข้าใจว่ามันทำไม่ได้ เนื่องจากมีกำหนดการณ์ต้องไป Krasnodar และ Moscow คงต้องใช้เวลาอีกนานมากๆกว่าจะทำได้ และเราก็ไม่อยากรอนานกว่านั้น ตอนนั้นฉันอยู่กับทีมในแคมป์เก็บตัวที่ Kaliningrad ซึ่งตอนนั้นก็ปีที่ 4 แล้ว ฉันโทรหาเพื่อนที่รู้จัก พวกเค้าช่วยจัดการงานแต่งงานให้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้วเราตกลงกันว่าเราจะจัดงานแต่งแบบนี้ สิ่งที่สำคัญคือเราได้แต่งงานก็พอ งานอย่างเป็นทางการขอแค่ให้มีแหวน!"

"แน่นอนว่าไม่มีค่าจัดงาน แม้ว่าฉันใส่เสื้อยืดสีขาว กับแจ็คเก็ตและยีน สามีก็สวมเสื้อสเว็ตเตอร์กับยีน แต่ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบมาก เราไม่อยากได้งานแต่งใหญ่ๆอยู่แล้ว เราไม่มีเวลาขนาดนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก พ่อแม่ของเรามาไม่ทัน แต่เพื่อนๆในทีมมากันครบ ไม่มีใครแต่งชุดหรูหรามาหรอก ทุกคนมาในชุดยีนกับเสื้อแขนยาว ไม่เห็นจะเป็นอะไร เพราะสุดท้ายเราก็ได้แต่งงาน ตอนแรกเราไม่ได้กังวลอะไรทั้งนั้น แต่พอพวกเราเริ่มไปถึงแล้วบาทหลวงเริ่มพูด มันรวดเร็วมาก ตอนนั้นแหละปากฉันก็สั่น พูดผิดๆถูกๆ"



เธอถ่ายพรีเว็ดดิ้งหลังจากแต่งงานผ่านไปแล้วสองปี

พูดถึงชีวิตประจำวันกับการฝึกกันบ้าง "เรามีสองช่วงของการฝึก เมื่อตื่นขึ้น เก็บที่นอนให้เรียบร้อย แปรงฟัน อาบน้ำ ทานอาหารเช้า ไปยิม หลังจากเทรนเสร็จ เราทานอาหารกลางวันและนอนกลางวัน พอเราตื่นอีกรอบ เราทานอาหารว่าง กลับมาฝึก ออกกำลังกาย และทานอาหารเย็น ใช้เวลารวมประมาณ 8 ชั่วโมง เวลาที่เหลือ 3-4 ชั่วโมง แล้วแต่พวกเรา นั่นคือวันธรรมดา สุดสัปดาห์ อยากจะทำธุระส่วนตัวก็แล้วแต่เลย ถ้าไม่ก็นอนอยู่ที่ห้อง"



"ฉันไม่เคยต้องควบคุมอาหารเลย ขอบคุณพ่อที่ให้ยีนมาดี ฉันไม่เคยต้องลดน้ำหนัก ไม่เคยแม้แต่จะคิด ฉันเคยพยายามจะไม่กินตอนเย็น แต่ก็เผลอเปิดตู้เย็นทุกที คนที่สามารถควบคุมตัวเองได้เรื่องนี้ เป็นคนที่แข็งแกร่งจริงๆ"

เมื่อพูดถึงการวางแผนครอบครัว เธอเคยพูดทีเล่นทีจริงว่าจะเริ่มมีตัวน้อยหลังจากได้รับชัยชนะรายการโอลิมปิก อย่างไรก็ตาม การพ่ายแพ้ให้กับบราซิลในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ลอนดอน 2012 ทำให้เกิดแผลในใจมาจนถึงทุกวันนี้ "ทุกอย่างล้วนมีเวลาของมัน ฉันอยากมีลูกซักสองคน ชายและหญิง เมื่อช่วงชีวิตแบบนี้ผ่านไป นั่นแหละคือช่วงเวลาอีกอย่างของชีวิต ฉันอยากมีเวลาเพื่อมอบทุกอย่างให้กับลูกๆของฉัน ถ้าเขาอยากเล่นกีฬา ดีเลย จากประสบการณ์กีฬาสอนเราหลายๆอย่าง สอนให้เราไม่เสียใจกับผลลัพธ์ สอนวินัย และอีกอย่าง มันสำคัญมากโดยเฉพาะช่วงวัยเด็ก ฉันคิดว่าอาชีพนักกีฬาดีที่สุดเลยนะ"

เมื่อเธออายุ 25 เธอมีอาการบาดเจ็บรวมกว่า 5 ครั้ง ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือช่วงปี 2012 ที่ทำให้เธอเกือบอดไปโอลิมปิกและต้องจบอาชีพนักกีฬา เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดเข่าและนิ้ว "ตอนนั้นฉันคิดว่าคงจะเป็นจุดสิ้นสุดของอาชีพนี้เป็นแน่นอนแล้ว มันยากมากที่จะยอมรับได้ ฉันคิดว่าฉันสามารถเล่นได้ยอดเยี่ยมแต่ขณะเดียวกันอาชีพของฉันกำลังจะจบ ตอนนั้นฉันอยู่คาซาน แพทย์ที่นั่นเสนอให้จัดการกับเส้นประสาทส่วนที่เจ็บทำให้อาการเจ็บปวดหายไป แต่เขาคงลืมไปว่า ฉันยังอายุแค่ 23 และ ยังอยากเป็นแม่คนอยู่ สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่เอา"

นั่นเป็นเหตุผลให้เธอต้องออกจากทีม Dinamo Kazan



"เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลา 7 เดือน ถือเป็นบทเรียนชิ้นใหญ่ของฉันเลย ฉันต้องเข้ารับการรักษาร่วมกับทีมแพทย์หลายคน รวมถึงจิตแพทย์ด้วย ฉันไม่อายเลยนะที่จะบอกแบบนี้ ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองมีปัญหาอยู่ อย่าขังตนเองแล้วจมอยู่กับมัน หาผู้เชี่ยวชาญ คนที่สามารถช่วยคุณได้"

"เวลาว่างไม่ค่อยมีหรอก พอมีเราก็อยากจะอยู่แต่บ้าน นอนพักผ่อน ฉันกับสามีจำวันวันหยุดล่าสุดได้ เราอยู่กับบ้านแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเลย วันหยุดสองวันส่วนมากก็ได้ไปดูหนัง ไปร้านอาหาร ฉันนึกไม่ออกเลยว่าวันหยุดแบบ 28 วันมันเป็นยังไง คิดดูสิ มันคงจะแบบว่า ว้าว"



ชมรูปเพิ่มเติม ได้ที่นี่ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่