มิงกะลาบา ขอออกตัวว่านี่เป็นกระทู้แรกค่ะ เป็นทริปที่เกิดขึ้นจากอารมณ์อยากเที่ยวฉับพลันหลังจากเสพกระทู้ผู้อื่นแล้วเกิดความคิดว่า
“อยากเห็นทะเลเจดีย์ที่พุกาม”
หลังจากคิดไปมาหลายตลบก็คิดว่าต้องไปแน่ๆ แต่ค่าทัวร์ก็แพงเหลือเกินถ้าจะไปย่างกุ้งด้วย ก็เลยต้องหาแนวร่วมค่ะ
แต่!!.....จะหาจากไหน พี่สาวก็ไม่อยู่ เลยหว่านคำถามเข้าไปในไลน์คณะ
"จะไปพม่าเมษาใครอยากไปไลน์ส่วนตัวมา"
.
.
.
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็หลอกคนมาร่วมทริปได้ห้าคนค่ะ
บอกก่อนนะคะว่าทริปนี้อาจจะไม่ได้ประหยัดมาก หมดไปกับค่ารถเสียส่วนใหญ่ เอาไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากไปกันเองกับกลุ่มเพื่อนเล็กๆค่ะ
โดยจุดหมายครั้งนี้มีสามเมืองหลักค่ะ คือ มัณฑะเลย์ พุกาม และ ย่างกุ้งค่ะ
แต่ก่อนเดินทางก็ต้องมีการเตรียมตัวนิดนึงค่ะ
1. ตั๋วเครื่องบิน : เนื่องจากเป็นทริปที่กะทันหัน ดังนั้นตั๋วเครื่องบินเราจึงไม่ได้ราคาถูกมากค่ะ เลือกจากแค่อันไหนเวลาได้ตามที่ต้องการก็เอาอันนั้นค่ะ ขาไปลงที่มัณฑะเลย์กับแอร์เอเชียค่ะ ประมาณ 2500 บาท ไม่รวมโหลดกระเป๋า ส่วนขากลับ นั่งจากย่างกุ้ง Full service กับ Thai smile ค่ะ ประมาณ 2800 บาท
2. Visa : ถ้าเข้าพม่าไม่เกิน 14 วันไม่ใช้ค่ะ
3. แลกเงิน : ที่พม่าใช้สกุลเงินจั๊ตกับ USD ค่ะ ซึ่งต้องแลกเป็นเงิน USD ก่อนแล้วไปแลกจั๊ตที่พม่าค่ะ โดยแบงค์ดอลล่าต้องไม่ยับ และไม่มีรอยใดๆเลย แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ค่ะ (โดนมาแล้ว) เมื่อไปถึงพม่าจะแลกเป็นจั๊ตหมดหรือแลกเพียงบางส่วนก็ได้ค่ะ แต่ส่วนมากใช้เงินจั๊ต และถ้าให้ดีเตรียมกระเป๋าเงินแยก เพราะตอนแลกเป็นจั๊ตเราจะได้เงินมาเป็นปึกค่ะ ย้ำว่าเป็นปึก
4. ตั๋วรถ : ตั๋วรถประเภทนั่งจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งสามารถจองออนไลน์ได้ค่ะ ที่เว็บนี้
http://myanmarbusticket.com/ แต่กลุ่มเราตกลงว่าจะไปตายเอาดาบหน้าค่ะ เผื่อโปรแกรมเปลี่ยน
5. รองเท้า : เพิ่มหัวข้อนี้มาเพราะแนะนำรองเท้าแตะอย่างเดียวค่ะ เพราะต้องถอดรองเท้าทุกสถานที่สำคัญ
หลังจากลงเครื่องผ่าน ตม. เราต้องหารถเข้าเมืองค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร ถ้าราคาต่อคนจะตก 4000 จั๊ตมีทั้งบัสทั้งรถตู้ราคาเดียวกัน แต่ถ้าเหมารถตู้ 18000 จั๊ต ส่วนถ้ามาแอร์เอเชียจะมีบริการรถฟรีเข้าเมืองค่ะ แต่เนื่องจากอยากเที่ยวเร็วๆ เพราะกว่าจะออกมาก็บ่ายแล้วเลยตัดสินใจเหมาส่งโรงแรมค่ะ มาหกคนไม่ต้องกลัว 55555
พักโรงแรม Hotel Mahar ค่ะ ตกคืนละ 400 กว่าบาท ภาพจาก agoda ค่ะ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ โรงแรมสามารถหาแท็กซี่และตั๋วรถบัสให้ได้ค่ะ
เริ่มเที่ยวเลยค่ะ เริ่มแรกที่พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังไม้สักที่โนระเบิดไปตอนสงครามโลก ปัจจุบันรัฐบาลพม่าจำลองขึ้นมาใหม่หมดค่ะ ค่าเข้าเป็นบัตรรวมใช้เข้าสถานที่สำคัญในมัณฑะเลย์ได้หลายที่ค่ะ ราคา 10 USD อายุการใช้งาน 5 วัน
ด้านหน้าค่ะ ย้อนแสงแรงมาก
ด้านในก็มีประวัติจัดแสดงค่ะ ไม่ได้อ่านเหมือนกัน
ด้านนอกใส่โรงเท้าได้ค่ะแต่ถ้าถ่ายข้างในต้องถอดเข้าไป
นี่ไงต้องถอดรองเท้า
เดินมาในโซนข้างหลังค่ะ มีพระตำหนักเล็กๆเต็มเลย
รายละเอียดจะจำลองแค่ส่วนบนเท่านั้นค่ะ ตรงฝาผนังจะเป็นไม้ฝาธรรมดา
เดินมาจนสุดก็พบของกินค่ะ ขนมห่อพม่า ห่อละ 400 จั๊ต รสพิซซ่า
จากนั้นคุณลุงแท็กซี่ก็พาเรามาส่วนเดียวของพระราชวังที่ยังเหลืออยู่ เพราะถูกยกมาถวายวัดก่อนเลยไม่โดนระเบิด "วัดชเวนันดอว์"
รายละเอียดเยอะมากกกกกกกกกกกกก คิดดูว่าถ้าพระราชวังไม่โดนระเบิดจะอลังการขนาดไหน
จากนั้นเราก็ไปสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกค่ะ "สะพานอูเบ็ง" ต้องออกมาจากมัณฑะเลย์ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
คนมหาศาลมาก
ทำไมต้องมีคนแบบนี้อยู่ทั่วทุกมุมโลกนะ
รอดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ
ช่วงที่ไปน้ำแห้งมากค่ะ กลายเป็นลานจอดรถไปซะละ
ช่วงน้ำลงน้ำแล้งก็มีการบูรณะสะพานนะคะ จะว่าดีก็ดี
ปิดท้ายวันด้วยอาหารจริงๆจังๆมื้อแรกของวัน บุฟเฟต์อาหารพม่าค่ะ ถัดโรงแรมมาสองบล็อค ราคา 4000 จั๊ต (130 บาท) ฟาดไม่ยั้งเติมข้าวไปสามจาน คุ้มละค่ะ
ก่อนจากกับลุงแท็กซี่เราได้นัดให้ลุงมารับตอนตีสี่ค่ะ เพื่อไปดูพิธีล้างพระพักต์พระมหามัยมุนีค่ะ
คนมาเยอะมากค่ะ ทั้งๆที่พิธีมีทุกวัน ลูกเล็กเด็กแดงก็มา หนุ่มสาวก็มี ผู้สูงอายุก็เยอะ
พิธีกำลังจะเริ่มค่ะ ที่มีพิธีนี้เพราะเชื่อว่าพระพุทธมีลมหายใจค่ะจึงต้องล้างหน้าแปรงฟันทำความสะอาด ผู้หญิงต้องอยู่หลังที่กั้น ผู้ชายเข้าใกล้ได้ค่ะ แต่เพื่อนผู้ชายเราขอไม่ฝ่าฝูงชนดีกว่า 555 คนเยอะมาก
อยู่หลังไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เห็นค่ะ มีจอพร้อมเสียงสวดเซอร์ราวน์
เพิ่งเข้าใจคำว่าทองสุกปลั่งก็วันนี้ล่ะค่ะ
วัดมหามุนียามเช้ามืดค่ะ สวดเสร็จคนเขาก็จะเอาน้ำที่ล้างพระพักต์ใส่ขวดไปบูชา แล้วก็ช่วยกันกวาดทำความสะอาดวัดค่ะ
เสร็จจากพิธีคุณลุงแท็กซี่ก็พาเราไปที่ Mandalay Hill เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ เสียค่าเข้า 1000 จั๊ต ไม่ว่าคุณจะมีกล้องหรือไม่มีกล้อง
มาถึงก็ ผ่าง!!! ฟ้าสว่างจ้า ไหนพระอาทิตย์อ่ะ!??!
หลังจากอภิปรายกับคณะ ลงความเห็นว่า หรือเมฆเยอะเลยไม่เห็นป่ะ
แต่นี่มันหน้าร้อนนะ อุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นจะไม่เห็นจริงเหรอแกร๊!!!!!!!
สุดท้ายด้วยความเสียดายเงินตั้งพันจั๊ต ทำให้เราเอ้อระเหยอยู่ข้างบนค่ะ เสียดายเงิน
หลังจากที่ถอดใจไปแล้วหันกลับมาอีกที ก็พบกับ....
พระอาทิตย์!!!
สรุปคือตรงนั้นเป็นเขาค่ะ แล้วพระอาทิตย์ยังไม่พ้นเขา
จากนั้นเราก็ลงเขาค่ะ ลุงแท็กซี่ก็พาไปตระเวณวัดต่างๆก่อนอาหารเช้า เริ่มที่วัด "สันดะมุนี"
มณฑปที่เห็นไว้เก็บพระไตรปิฎกค่ะ
ต่อที่ "วัดกุโสดอว์"
ถอดรองเท้าให้ระวัง น้ำหมากด้วยค่ะ เยอะมากจริงๆ
วงธรรมจักรที่เศียรพระพุทธรูปเป็นธรรมจักร LED ค่ะ
ศิลาพระไตรปิฎกแต่ละหน้าจะถูกครอบด้วยมณฑปเช่นกันค่ะ
ต่อที่พระพุทธรูปหินอ่อน "วัดเจ้าตอจี้" ค่ะ
แล้วเราก็ถ้ายสองสิงห์ใกล้ๆกันค่ะ
ติดลุงแท็กซี่ ที่เห็นลุงยืนอยู่คือลุงจะพาเราข้ามถนนค่ะ 55555
หลังจากกลับไปกินอาหารเช้าและอาบน้ำที่โรงแรม ลุงก็มารับเราไปที่สุดท้ายของมัณฑะเลย์ค่ะ "วัดชเวอินปิน"
สร้างโดยพ่อค้าชาวจีนค่ะ เอาแบบมาจากวัด ชเวนันดอว์
แล้วปิดท้ายเมืองนี้ด้วยอาหารเที่ยงและไอศครีมร้านดัง อย่างร้าน Nylon
เหมือนก๋วยเตี๋ยวแต่เส้นเหมือนขนมจีน เค็มๆ อร่อยดีค่ะ
เป็นไอติมข้างล่างเป็นเหมือนเยลลี่โรยข้างบนด้วยมะพร้าวค่ะ อร่อย
แต่!!! ไม่แนะนำเมนูโยเกิร์ตค่ะสำหรับคนที่กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติแท้ๆไม่ได้
สรุปค่ารถนะคะ สองวัน ตกคนละ 15000 จั๊ต ค่ะ เป็นรถแท็กซี่สองคัน นั่งคันละสามคน
เดี๋ยวมาต่อพาร์ทที่สองกับเมืองต่อไป "พุกาม" ค่ะ
[CR] [Myanmar summer] Hot ปรอทแตก มัณฑะเลย์ - พุกาม - ย่างกุ้ง PART 1
มิงกะลาบา ขอออกตัวว่านี่เป็นกระทู้แรกค่ะ เป็นทริปที่เกิดขึ้นจากอารมณ์อยากเที่ยวฉับพลันหลังจากเสพกระทู้ผู้อื่นแล้วเกิดความคิดว่า
“อยากเห็นทะเลเจดีย์ที่พุกาม”
หลังจากคิดไปมาหลายตลบก็คิดว่าต้องไปแน่ๆ แต่ค่าทัวร์ก็แพงเหลือเกินถ้าจะไปย่างกุ้งด้วย ก็เลยต้องหาแนวร่วมค่ะ
แต่!!.....จะหาจากไหน พี่สาวก็ไม่อยู่ เลยหว่านคำถามเข้าไปในไลน์คณะ
"จะไปพม่าเมษาใครอยากไปไลน์ส่วนตัวมา"
.
.
.
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็หลอกคนมาร่วมทริปได้ห้าคนค่ะ
บอกก่อนนะคะว่าทริปนี้อาจจะไม่ได้ประหยัดมาก หมดไปกับค่ารถเสียส่วนใหญ่ เอาไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากไปกันเองกับกลุ่มเพื่อนเล็กๆค่ะ
โดยจุดหมายครั้งนี้มีสามเมืองหลักค่ะ คือ มัณฑะเลย์ พุกาม และ ย่างกุ้งค่ะ
แต่ก่อนเดินทางก็ต้องมีการเตรียมตัวนิดนึงค่ะ
1. ตั๋วเครื่องบิน : เนื่องจากเป็นทริปที่กะทันหัน ดังนั้นตั๋วเครื่องบินเราจึงไม่ได้ราคาถูกมากค่ะ เลือกจากแค่อันไหนเวลาได้ตามที่ต้องการก็เอาอันนั้นค่ะ ขาไปลงที่มัณฑะเลย์กับแอร์เอเชียค่ะ ประมาณ 2500 บาท ไม่รวมโหลดกระเป๋า ส่วนขากลับ นั่งจากย่างกุ้ง Full service กับ Thai smile ค่ะ ประมาณ 2800 บาท
2. Visa : ถ้าเข้าพม่าไม่เกิน 14 วันไม่ใช้ค่ะ
3. แลกเงิน : ที่พม่าใช้สกุลเงินจั๊ตกับ USD ค่ะ ซึ่งต้องแลกเป็นเงิน USD ก่อนแล้วไปแลกจั๊ตที่พม่าค่ะ โดยแบงค์ดอลล่าต้องไม่ยับ และไม่มีรอยใดๆเลย แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ค่ะ (โดนมาแล้ว) เมื่อไปถึงพม่าจะแลกเป็นจั๊ตหมดหรือแลกเพียงบางส่วนก็ได้ค่ะ แต่ส่วนมากใช้เงินจั๊ต และถ้าให้ดีเตรียมกระเป๋าเงินแยก เพราะตอนแลกเป็นจั๊ตเราจะได้เงินมาเป็นปึกค่ะ ย้ำว่าเป็นปึก
4. ตั๋วรถ : ตั๋วรถประเภทนั่งจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งสามารถจองออนไลน์ได้ค่ะ ที่เว็บนี้ http://myanmarbusticket.com/ แต่กลุ่มเราตกลงว่าจะไปตายเอาดาบหน้าค่ะ เผื่อโปรแกรมเปลี่ยน
5. รองเท้า : เพิ่มหัวข้อนี้มาเพราะแนะนำรองเท้าแตะอย่างเดียวค่ะ เพราะต้องถอดรองเท้าทุกสถานที่สำคัญ
หลังจากลงเครื่องผ่าน ตม. เราต้องหารถเข้าเมืองค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร ถ้าราคาต่อคนจะตก 4000 จั๊ตมีทั้งบัสทั้งรถตู้ราคาเดียวกัน แต่ถ้าเหมารถตู้ 18000 จั๊ต ส่วนถ้ามาแอร์เอเชียจะมีบริการรถฟรีเข้าเมืองค่ะ แต่เนื่องจากอยากเที่ยวเร็วๆ เพราะกว่าจะออกมาก็บ่ายแล้วเลยตัดสินใจเหมาส่งโรงแรมค่ะ มาหกคนไม่ต้องกลัว 55555
พักโรงแรม Hotel Mahar ค่ะ ตกคืนละ 400 กว่าบาท ภาพจาก agoda ค่ะ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ โรงแรมสามารถหาแท็กซี่และตั๋วรถบัสให้ได้ค่ะ
เริ่มเที่ยวเลยค่ะ เริ่มแรกที่พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังไม้สักที่โนระเบิดไปตอนสงครามโลก ปัจจุบันรัฐบาลพม่าจำลองขึ้นมาใหม่หมดค่ะ ค่าเข้าเป็นบัตรรวมใช้เข้าสถานที่สำคัญในมัณฑะเลย์ได้หลายที่ค่ะ ราคา 10 USD อายุการใช้งาน 5 วัน
ด้านหน้าค่ะ ย้อนแสงแรงมาก
ด้านในก็มีประวัติจัดแสดงค่ะ ไม่ได้อ่านเหมือนกัน
ด้านนอกใส่โรงเท้าได้ค่ะแต่ถ้าถ่ายข้างในต้องถอดเข้าไป
นี่ไงต้องถอดรองเท้า
เดินมาในโซนข้างหลังค่ะ มีพระตำหนักเล็กๆเต็มเลย
รายละเอียดจะจำลองแค่ส่วนบนเท่านั้นค่ะ ตรงฝาผนังจะเป็นไม้ฝาธรรมดา
เดินมาจนสุดก็พบของกินค่ะ ขนมห่อพม่า ห่อละ 400 จั๊ต รสพิซซ่า
จากนั้นคุณลุงแท็กซี่ก็พาเรามาส่วนเดียวของพระราชวังที่ยังเหลืออยู่ เพราะถูกยกมาถวายวัดก่อนเลยไม่โดนระเบิด "วัดชเวนันดอว์"
รายละเอียดเยอะมากกกกกกกกกกกกก คิดดูว่าถ้าพระราชวังไม่โดนระเบิดจะอลังการขนาดไหน
จากนั้นเราก็ไปสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกค่ะ "สะพานอูเบ็ง" ต้องออกมาจากมัณฑะเลย์ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
คนมหาศาลมาก
ทำไมต้องมีคนแบบนี้อยู่ทั่วทุกมุมโลกนะ
รอดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ
ช่วงที่ไปน้ำแห้งมากค่ะ กลายเป็นลานจอดรถไปซะละ
ช่วงน้ำลงน้ำแล้งก็มีการบูรณะสะพานนะคะ จะว่าดีก็ดี
ปิดท้ายวันด้วยอาหารจริงๆจังๆมื้อแรกของวัน บุฟเฟต์อาหารพม่าค่ะ ถัดโรงแรมมาสองบล็อค ราคา 4000 จั๊ต (130 บาท) ฟาดไม่ยั้งเติมข้าวไปสามจาน คุ้มละค่ะ
ก่อนจากกับลุงแท็กซี่เราได้นัดให้ลุงมารับตอนตีสี่ค่ะ เพื่อไปดูพิธีล้างพระพักต์พระมหามัยมุนีค่ะ
คนมาเยอะมากค่ะ ทั้งๆที่พิธีมีทุกวัน ลูกเล็กเด็กแดงก็มา หนุ่มสาวก็มี ผู้สูงอายุก็เยอะ
พิธีกำลังจะเริ่มค่ะ ที่มีพิธีนี้เพราะเชื่อว่าพระพุทธมีลมหายใจค่ะจึงต้องล้างหน้าแปรงฟันทำความสะอาด ผู้หญิงต้องอยู่หลังที่กั้น ผู้ชายเข้าใกล้ได้ค่ะ แต่เพื่อนผู้ชายเราขอไม่ฝ่าฝูงชนดีกว่า 555 คนเยอะมาก
อยู่หลังไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เห็นค่ะ มีจอพร้อมเสียงสวดเซอร์ราวน์
เพิ่งเข้าใจคำว่าทองสุกปลั่งก็วันนี้ล่ะค่ะ
วัดมหามุนียามเช้ามืดค่ะ สวดเสร็จคนเขาก็จะเอาน้ำที่ล้างพระพักต์ใส่ขวดไปบูชา แล้วก็ช่วยกันกวาดทำความสะอาดวัดค่ะ
เสร็จจากพิธีคุณลุงแท็กซี่ก็พาเราไปที่ Mandalay Hill เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ เสียค่าเข้า 1000 จั๊ต ไม่ว่าคุณจะมีกล้องหรือไม่มีกล้อง
มาถึงก็ ผ่าง!!! ฟ้าสว่างจ้า ไหนพระอาทิตย์อ่ะ!??!
หลังจากอภิปรายกับคณะ ลงความเห็นว่า หรือเมฆเยอะเลยไม่เห็นป่ะ
แต่นี่มันหน้าร้อนนะ อุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นจะไม่เห็นจริงเหรอแกร๊!!!!!!!
สุดท้ายด้วยความเสียดายเงินตั้งพันจั๊ต ทำให้เราเอ้อระเหยอยู่ข้างบนค่ะ เสียดายเงิน
หลังจากที่ถอดใจไปแล้วหันกลับมาอีกที ก็พบกับ....
พระอาทิตย์!!!
สรุปคือตรงนั้นเป็นเขาค่ะ แล้วพระอาทิตย์ยังไม่พ้นเขา
จากนั้นเราก็ลงเขาค่ะ ลุงแท็กซี่ก็พาไปตระเวณวัดต่างๆก่อนอาหารเช้า เริ่มที่วัด "สันดะมุนี"
มณฑปที่เห็นไว้เก็บพระไตรปิฎกค่ะ
ต่อที่ "วัดกุโสดอว์"
ถอดรองเท้าให้ระวัง น้ำหมากด้วยค่ะ เยอะมากจริงๆ
วงธรรมจักรที่เศียรพระพุทธรูปเป็นธรรมจักร LED ค่ะ
ศิลาพระไตรปิฎกแต่ละหน้าจะถูกครอบด้วยมณฑปเช่นกันค่ะ
ต่อที่พระพุทธรูปหินอ่อน "วัดเจ้าตอจี้" ค่ะ
แล้วเราก็ถ้ายสองสิงห์ใกล้ๆกันค่ะ
ติดลุงแท็กซี่ ที่เห็นลุงยืนอยู่คือลุงจะพาเราข้ามถนนค่ะ 55555
หลังจากกลับไปกินอาหารเช้าและอาบน้ำที่โรงแรม ลุงก็มารับเราไปที่สุดท้ายของมัณฑะเลย์ค่ะ "วัดชเวอินปิน"
สร้างโดยพ่อค้าชาวจีนค่ะ เอาแบบมาจากวัด ชเวนันดอว์
แล้วปิดท้ายเมืองนี้ด้วยอาหารเที่ยงและไอศครีมร้านดัง อย่างร้าน Nylon
เหมือนก๋วยเตี๋ยวแต่เส้นเหมือนขนมจีน เค็มๆ อร่อยดีค่ะ
เป็นไอติมข้างล่างเป็นเหมือนเยลลี่โรยข้างบนด้วยมะพร้าวค่ะ อร่อย
แต่!!! ไม่แนะนำเมนูโยเกิร์ตค่ะสำหรับคนที่กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติแท้ๆไม่ได้
สรุปค่ารถนะคะ สองวัน ตกคนละ 15000 จั๊ต ค่ะ เป็นรถแท็กซี่สองคัน นั่งคันละสามคน
เดี๋ยวมาต่อพาร์ทที่สองกับเมืองต่อไป "พุกาม" ค่ะ