อยากให้ผู้รู้และผู้ที่ศึกษาธรรมะ ช่วยแนะนำวิธีคิดหรือปฏิบัติตัวเพื่อกำจัดความเกียจคร้านค่ะ
ตั้งแต่เด็กเราไม่ใช่คนมีวินัยมาก (ขี้เซา การบ้านก็ทำก่อนส่ง อ่านหนังสือก่อนสอบ) แต่ก็รับผิดชอบการเรียนและทำกิจกรรมดีมาเสมอ อาจจะเพราะเรามีผู้ปกครองคอยดูแล และ สิ่งที่ต้องทำยังไม่ได้ยากมากและเราก็เป็นเด็กทุกอย่างดูน่าสนใจไปหมด
พอโตมาสู่วัยมหาลัยพอจบแล้วก็ต้องเรียนรู้ต่อเพื่อสอบของสายวิชาชีพ ก็เริ่มรู้สึกขี้เกียจมากๆ คือ รู้ว่าต้องทำอะไร แต่มันมีคำว่าผัดวันประกันพรุ่ง อยากนอนมากกว่ามานั่งอ่านหนังสือ ทั้งๆที่รู้ว่าต้องทำถ้าไม่ทำเราจะประกอบอาชีพไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากอ่านหนังสือ เหมือนคิดว่า มันยาก มันเยอะเกินไป ไม่ชอบ อ่านแบ้วก็เหมือนจะเข้าใจแต่ผ่านไปแป๊บเดียวก็ลืม อ่านหนังสือแล้วฟุ้งซ่าน กังวลและกลัวไปหมด จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกผิดมาก แต่ก็เอาชนะใจตัวเองไม่ได้สักที
ส่วนตัวเคยไปปฏิบัติธรรมถือศีลที่วัดหลายวันมากๆคนเดียว ก็ทำได้ดี ตื่นมาทำวัตรเช้า สวดมนต์นั่งสมาธิจนสี่ทุ่มได้ แต่กลับเอาวินัยตรงนั้นมาปรับใช้ในชีวิตจริงไม่ได้
อยากขอคำแนะนำด้วยนะคะ ถือว่าให้เป็นธรรมทาน
ขอบคุณมากๆค่ะ
อยากให้ช่วยแนะนำธรรมะเพื่อกำจัดความขี้เกียจค่ะ
ตั้งแต่เด็กเราไม่ใช่คนมีวินัยมาก (ขี้เซา การบ้านก็ทำก่อนส่ง อ่านหนังสือก่อนสอบ) แต่ก็รับผิดชอบการเรียนและทำกิจกรรมดีมาเสมอ อาจจะเพราะเรามีผู้ปกครองคอยดูแล และ สิ่งที่ต้องทำยังไม่ได้ยากมากและเราก็เป็นเด็กทุกอย่างดูน่าสนใจไปหมด
พอโตมาสู่วัยมหาลัยพอจบแล้วก็ต้องเรียนรู้ต่อเพื่อสอบของสายวิชาชีพ ก็เริ่มรู้สึกขี้เกียจมากๆ คือ รู้ว่าต้องทำอะไร แต่มันมีคำว่าผัดวันประกันพรุ่ง อยากนอนมากกว่ามานั่งอ่านหนังสือ ทั้งๆที่รู้ว่าต้องทำถ้าไม่ทำเราจะประกอบอาชีพไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากอ่านหนังสือ เหมือนคิดว่า มันยาก มันเยอะเกินไป ไม่ชอบ อ่านแบ้วก็เหมือนจะเข้าใจแต่ผ่านไปแป๊บเดียวก็ลืม อ่านหนังสือแล้วฟุ้งซ่าน กังวลและกลัวไปหมด จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกผิดมาก แต่ก็เอาชนะใจตัวเองไม่ได้สักที
ส่วนตัวเคยไปปฏิบัติธรรมถือศีลที่วัดหลายวันมากๆคนเดียว ก็ทำได้ดี ตื่นมาทำวัตรเช้า สวดมนต์นั่งสมาธิจนสี่ทุ่มได้ แต่กลับเอาวินัยตรงนั้นมาปรับใช้ในชีวิตจริงไม่ได้
อยากขอคำแนะนำด้วยนะคะ ถือว่าให้เป็นธรรมทาน
ขอบคุณมากๆค่ะ