อาชีพพนักงานขายทางโทรศัพท์ ทำได้วันเดียว แล้วไม่อยากทำอีกเลย

ไม่รู้ว่าจะมาปรึกษา จะมาแชร์ประสบการณ์ หรือจะมาระบายดี

เนื่องจากเรากำลังตกงาน และมีโรงแรมใกล้ๆบ้านเรากำลังเปิดรับสมัครงาน ตำแหน่งพนักงานขายทางโทรศัพท์
เราไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ แต่เห็นเขาเปิดรับสมัครบ่อยมาก ก็ลองไปสมัคร ปรากฎว่าทางโรงแรมรับเราทำงานทันทีเลย
ก่อนทำงาน เขาก็มีการอบรมให้แป๊บนึง ลักษณะงานคือ ขายบัตรและคูปองสมาชิกโรงแรม เขามีรายชื่อลูกค้ามาให้เรา
หน้าที่ของเราคือโทรไปตามรายชื่อลูกค้า อธิบายรายละเอียดผลิตภัณฑ์ และชักชวนให้ลูกค้าสมัครสมาชิกบัตร มีสิทธิประโยชน์มากมาย
ทำงานที่นี่วันแรก หัวหน้าก็ใจดี เพื่อนร่วมงานก็ใจดี ไม่มีใครมาคอยยุ่งหรือก้าวก่ายหน้าที่ของกันและกัน แถมมีอาหารกลางวันฟรี
แต่ข้อเสียของงานนี้ (และเราคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญด้วย) คือ ไม่มีเงินเดือน ไม่มีประกันสังคม รายได้ขึ้นอยู่กับยอดขายของเราล้วนๆ
ถ้ามีลูกค้ามาซื้อผลิตภัณฑ์กับเรา 1 คน เราก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น ซึ่งก็ได้เยอะอยู่ ถ้าขายเก่งๆ อาจมีรายได้ถึงหลายหมื่นต่อเดือน แถมมีโบนัสอีก

ตอนเราฟังเขาอธิบายถึงลักษณะงานนี้ เราก็คิดในใจอยู่แล้วว่า มันจะขายกันได้ง่ายๆเหรอ ผลิตภัณฑ์ของโรงแรมราคาก็แพง
คนที่จะสนใจผลิตภัณฑ์ คือคนที่ชอบเที่ยว และชอบพักโรงแรม แต่ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ใครจะอยากจ่ายเงินไปเที่ยวหรือพักโรงแรมกัน
แถมขายทางโทรศัพท์ ต้องอธิบายให้ลูกค้าฟัง ลูกค้าส่วนใหญ่เขาไม่สนใจ และไม่อยากฟังหรอก (ขนาดเรายังไม่อยากฟังเลย)
จะส่งรายละเอียดให้ลูกค้าทางเมล์ก็ไม่ได้ โบชัวร์ก็ไม่มีให้ลูกค้า ต้องคุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงาน
วันนึงอาจต้องโทรหาลูกค้าถึง 100 คน กว่าจะมีลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์สักคน ซึ่งตอนทำงานจริง เราโทรได้ไม่เยอะขนาดนั้นหรอก
เราคิดว่าวันนึงเราโทรได้อย่างมากก็ไม่เกิน 50 คน (นับรวมถึงลูกค้าที่โทรไปแล้วไม่รับสายด้วย) เพราะการคุยกับลูกค้าต้องใช้เวลา
ถ้าโทรไปแล้วลูกค้าบอกว่าไม่สนใจ ไม่สะดวกฟัง เราก็ไม่ต้องคุยมาก เราไม่ตื๊อต่อ เราตื๊อไม่เป็น อ้อนไม่เป็น ไม่ใช่นิสัยเรา
แต่ถ้าลูกค้าคนไหนมีเวลาฟังเราอธิบายผลิตภัณฑ์ เราก็ต้องใช้เวลาอธิบายไม่ต่ำกว่า 5 นาที อธิบายเสร็จ ลูกค้าก็ไม่ซื้ออยู่ดี
เราเองก็เหนื่อยเวลาโทรหาลูกค้าแต่ละคน พอโทรเสร็จแล้วก็ต้องนั่งทำใจสักครู่ กว่าจะตัดสินใจโทรหาลูกค้าคนต่อไป

หัวหน้าบอกว่าไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องกดดันตัวเอง แต่เราก็กดดัน งานนี้ไม่มีเงินเดือน ถ้าเราขายของไม่ได้ ก็ไม่มีเงิน
หัวหน้าบอกว่า ช่วงแรกๆ ถ้ายังหาลูกค้าไม่ได้ เขาจะมีเงินค่าชั่วโมงทำงานให้ แต่จำนวนเงินนั้นก็น้อยกะจิดริดมาก
และเราก็ไม่คิดว่าเราจะเป็นคนขายของเก่ง (ขนาดขายของออนไลน์ของตัวเอง เรายังขายไม่เก่งเลย)
พ่อเราบอกว่า ไปลองทำดูก่อนก็ได้ แต่อย่าไปหวังเรื่องเงิน หวังเรื่องประสบการณ์ก่อน จะได้เป็นคนพูดเก่งๆ
แต่สำหรับเรา เราเรียนจบมา 3 ปีแล้ว และเคยทำงานมาบ้างแล้ว เราจึงหวังรายได้มากกว่าประสบการณ์ เราอยากเก็บเงิน
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำงานแล้วไม่หวังเงิน ที่ผ่านๆมาเรายอมทำงานได้เงินเดือนน้อยๆ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้บ้าน ใกล้ครอบครัว

และตอนนี้มีบริษัทที่ กทม. ติดต่อเราไปสัมภาษณ์งานด้วย ซึ่งไม่ใช่งานขาย แต่ กทม. อยู่ไกลจากบ้านเรามาก
ถ้าเราไปสัมภาษณ์งาน เราก็ต้องไปอยู่ กทม. หลายวัน บางทีรายได้อาจน้อยกว่าอาชีพพนักงานขายทางโทรศัพท์
เพราะเราต้องเช่าหอพัก และจ่ายค่าอะไรๆด้วยตัวเองหมด มันไม่เหมือนกับตอนอยู่บ้าน ที่ยังมีคนช่วยออกค่าใช้จ่ายด้วย
แต่อย่างน้อยก็มีเงินเดือน ไม่ต้องมาคอยลุ้นคอยเสี่ยงว่าเดือนนี้จะมีรายได้เท่าไหร่ หรือจะมีรายได้ไหม
พอคิดแบบนี้ วันต่อมาเราก็เลยไม่ไปทำงานอีก โทรไปบอกหัวหน้าเรียบร้อย

แบบนี้เราดูเหมือนคนไม่มีความอดทนหรือเปล่า ถ้าเป็นเพื่อนๆจะเลือกทำงานแบบไหน
ระหว่างงานที่มีค่าคอมมิชชั่นแต่ไม่มีเงินเดือน กับงานที่มีเงินเดือนแต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่