ใครเคยมีปัญหาพี่ชายห่วง(เกินไป)ไหมคะ แล้วแก้ปัญหานี้ยังไงคะ เพราะตอนนี้เราก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่มีพี่คอยเป็นห่วงเป็นใย แต่บางทีความเป็นห่วงที่มากไปก็ทำให้เราอึดอัดและรู้สึกเซงๆในบางที
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทำให้เราเซงนะคะ
1.มีอยู่คืนนึง พี่ไลน์มาถามเราว่าอยู่ไหน เราก็บอกอยู่บ้าน แต่เขาไม่เชื่อ คาดคั้นให้บอกว่าอยู่ไหน อย่าโกหก เราก็ยืนยันว่าอยู่บ้าน เขาเลยบอกให้เราถ่ายรูปแล้วส่งให้เขาดูมุมนู้นมุมนี้ พอเราส่งให้ถึงเชื่อว่าเราอยู่บ้าน เราเลยมาคุยกับแม่ทีหลังว่าพี่เป็นอะไร แม่เล่าให้ฟังว่าพี่ไปกินข้าวกับเเฟนแล้วเจอ ผญ คนนึงเดินผ่านซึ่งเหมือนเรามาก เลยคิดว่าเป็นเราออกไปเที่ยวตอนกลางคืน (ทั้งๆที่เราไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืนเลย จะมีไปก็ต่อเมื่อมีงานเลี้ยงฝ่าย หรือบายเนียอะไรทำนองนี้)
2. เวลาเราไปเลี้ยงฝ่ายหรืองานอะไรที่ไปเลี้ยงกันที่ร้านนั่งชิว (เรายังเป็นนักศึกษาอยู่นะคะ) เราจะบอกที่บ้านทุกครั้งว่าไปร้านนี้นะ พี่จะถามเราตลอดว่าจะกลับกี่โมง เดี๊ยวไปรับ ซึ่งบางทีเราก็ตอบไม่ได้ว่าเราจะกลับกี่โมง มันก็ต้องขึ้นอยู่กับบรรยากาศหรืออะไรหลายๆอย่าง บางทีเราก็บอกไว้ว่าประมาณเที่ยงคืนแล้วกัน แต่ทุกครั้งเขาจะมาประมาณสี่ทุ่มไม่เกินห้าทุ่ม อ่านไม่ผิดค่ะ เขามารับเราสี่ทุ่มมม !!!! เวลาประมาณสี่ทุ่มเขาจะไลน์มาละ ว่าถึงเเล้วนะจอดรออยู่หน้าร้าน เราก็จะบอกเขาว่าเราบอกว่าเที่ยงคืนไง เขาก็จะบอกว่า "น้องก็อยู่ต่อไปดิ พี่รอในรถ" แล้วใครจะบ้าให้พี่ตัวเองรออยู่ในรถเกือบสองชั่วโมงล่ะคะ เราก็ต้องจำใจยอมกลับตอนสี่ทุ่มกว่า (ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นคนกินเหล้ากินเบียร์เลย ไม่เคยกินเลยด้วยซ้ำเพราะกลัวเมาค่ะ)
ปล.ทั้งๆที่เวลาตัวเองเที่ยวกลับบ้านตั้งตีสองตีสามไม่เห็นมีใครไปกดดันว่าให้กลับเร็วหรืออะไร ทั้งๆที่คนอื่นเขาก็เป็นห่วงเหมือนกัน
3. มีวันนึงไปเที่ยวกับครอบครัวค่ะ ตอนมื้อเย็นที่ร้านอาหารพ่อเราก็กินเหล้าตามประสาเขา แล้ววันนั้นเป็นอะไรไม่รู้อยู่ๆเราก็อยากลองชิมว้อดก้า อยากรู้ว่ารสชาติมันเป็นยังไง ที่เห็นคนพูดกันว่อดก้าๆเนี่ย มันอร่อยมากเลยเหรอเราเลยพูดขึ้นมาว่าอยากลอง พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าอะไร บอกลองสิ แต่ถ้าไปกับคนอื่นห้ามกินนะ อะไรทำนองนี้ แต่พี่เราเขาไม่ใช่อย่างงั้น เขาบอกว่า น้องจะลองทำไม มันไม่อร่อยหรอก เราก้จะบอกว่า อาจอร่อยสำหรับเราก็ได้ เขาก็บอก สั่งมาพอไม่อร่อยน้องก็ไม่กิน เราเลยบอกว่าถ้าเราไม่กินพ่อก็กินได้ พี่ก็กินได้ เอากลับบ้านก็ได้ ไม่ได้ทิ้งสักหน่อย เขาเลยบอก ตามใจน้องแล้วกัน สรุปพ่อก็สั่งมาให้ค่ะ เย็นนั้นเขาก็นั่งกดแต่โทรศัพท์ไม่พูดไม่จาตลอดเวลาที่กินข้าว ด้วยความสัจจริง เราคิดว่าเขาทะเลาะกับแฟน เลยไม่ค่อยสนใจ เช้ามาอีกวันเราเลยถามแม่ว่าเมื่อคืนพี่ทะเลาะกับแฟนเหรอ แม่บอกว่า ป่าว แต่เขาไม่อยากให้เราลอง เขาไปคุยกับพ่อแม่ตอนที่เราหลับไปแล้วว่าทำไมถึงให้เราลอง
ทั้งหมดนี้ถ้าเราเป็นเด็กเที่ยว เด็กดื่ม เราจะไม่อะไรในตัวพี่เราเลย แต่นี่เราเป็นเด็กติ๋มมากกกก จะไปไหนมาไหนบอกพ่อกับแม่ตลอด การเรียนเราก็ไม่เคยต่ำกว่า 3.5 แต่พี่เรายังเป็นห่วงขนาดนี้ บางทีก็รู้สึกเหมือนเขาไม่เชื่อใจ ซึ่งบางทีพ่อแม่เรายังไม่อะไรขนาดนี้เลย
ขอวิธีแก้ปัญหาพี่ชายเป็นห่วง(เกินไป) ค่ะ
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทำให้เราเซงนะคะ
1.มีอยู่คืนนึง พี่ไลน์มาถามเราว่าอยู่ไหน เราก็บอกอยู่บ้าน แต่เขาไม่เชื่อ คาดคั้นให้บอกว่าอยู่ไหน อย่าโกหก เราก็ยืนยันว่าอยู่บ้าน เขาเลยบอกให้เราถ่ายรูปแล้วส่งให้เขาดูมุมนู้นมุมนี้ พอเราส่งให้ถึงเชื่อว่าเราอยู่บ้าน เราเลยมาคุยกับแม่ทีหลังว่าพี่เป็นอะไร แม่เล่าให้ฟังว่าพี่ไปกินข้าวกับเเฟนแล้วเจอ ผญ คนนึงเดินผ่านซึ่งเหมือนเรามาก เลยคิดว่าเป็นเราออกไปเที่ยวตอนกลางคืน (ทั้งๆที่เราไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืนเลย จะมีไปก็ต่อเมื่อมีงานเลี้ยงฝ่าย หรือบายเนียอะไรทำนองนี้)
2. เวลาเราไปเลี้ยงฝ่ายหรืองานอะไรที่ไปเลี้ยงกันที่ร้านนั่งชิว (เรายังเป็นนักศึกษาอยู่นะคะ) เราจะบอกที่บ้านทุกครั้งว่าไปร้านนี้นะ พี่จะถามเราตลอดว่าจะกลับกี่โมง เดี๊ยวไปรับ ซึ่งบางทีเราก็ตอบไม่ได้ว่าเราจะกลับกี่โมง มันก็ต้องขึ้นอยู่กับบรรยากาศหรืออะไรหลายๆอย่าง บางทีเราก็บอกไว้ว่าประมาณเที่ยงคืนแล้วกัน แต่ทุกครั้งเขาจะมาประมาณสี่ทุ่มไม่เกินห้าทุ่ม อ่านไม่ผิดค่ะ เขามารับเราสี่ทุ่มมม !!!! เวลาประมาณสี่ทุ่มเขาจะไลน์มาละ ว่าถึงเเล้วนะจอดรออยู่หน้าร้าน เราก็จะบอกเขาว่าเราบอกว่าเที่ยงคืนไง เขาก็จะบอกว่า "น้องก็อยู่ต่อไปดิ พี่รอในรถ" แล้วใครจะบ้าให้พี่ตัวเองรออยู่ในรถเกือบสองชั่วโมงล่ะคะ เราก็ต้องจำใจยอมกลับตอนสี่ทุ่มกว่า (ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นคนกินเหล้ากินเบียร์เลย ไม่เคยกินเลยด้วยซ้ำเพราะกลัวเมาค่ะ)
ปล.ทั้งๆที่เวลาตัวเองเที่ยวกลับบ้านตั้งตีสองตีสามไม่เห็นมีใครไปกดดันว่าให้กลับเร็วหรืออะไร ทั้งๆที่คนอื่นเขาก็เป็นห่วงเหมือนกัน
3. มีวันนึงไปเที่ยวกับครอบครัวค่ะ ตอนมื้อเย็นที่ร้านอาหารพ่อเราก็กินเหล้าตามประสาเขา แล้ววันนั้นเป็นอะไรไม่รู้อยู่ๆเราก็อยากลองชิมว้อดก้า อยากรู้ว่ารสชาติมันเป็นยังไง ที่เห็นคนพูดกันว่อดก้าๆเนี่ย มันอร่อยมากเลยเหรอเราเลยพูดขึ้นมาว่าอยากลอง พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าอะไร บอกลองสิ แต่ถ้าไปกับคนอื่นห้ามกินนะ อะไรทำนองนี้ แต่พี่เราเขาไม่ใช่อย่างงั้น เขาบอกว่า น้องจะลองทำไม มันไม่อร่อยหรอก เราก้จะบอกว่า อาจอร่อยสำหรับเราก็ได้ เขาก็บอก สั่งมาพอไม่อร่อยน้องก็ไม่กิน เราเลยบอกว่าถ้าเราไม่กินพ่อก็กินได้ พี่ก็กินได้ เอากลับบ้านก็ได้ ไม่ได้ทิ้งสักหน่อย เขาเลยบอก ตามใจน้องแล้วกัน สรุปพ่อก็สั่งมาให้ค่ะ เย็นนั้นเขาก็นั่งกดแต่โทรศัพท์ไม่พูดไม่จาตลอดเวลาที่กินข้าว ด้วยความสัจจริง เราคิดว่าเขาทะเลาะกับแฟน เลยไม่ค่อยสนใจ เช้ามาอีกวันเราเลยถามแม่ว่าเมื่อคืนพี่ทะเลาะกับแฟนเหรอ แม่บอกว่า ป่าว แต่เขาไม่อยากให้เราลอง เขาไปคุยกับพ่อแม่ตอนที่เราหลับไปแล้วว่าทำไมถึงให้เราลอง
ทั้งหมดนี้ถ้าเราเป็นเด็กเที่ยว เด็กดื่ม เราจะไม่อะไรในตัวพี่เราเลย แต่นี่เราเป็นเด็กติ๋มมากกกก จะไปไหนมาไหนบอกพ่อกับแม่ตลอด การเรียนเราก็ไม่เคยต่ำกว่า 3.5 แต่พี่เรายังเป็นห่วงขนาดนี้ บางทีก็รู้สึกเหมือนเขาไม่เชื่อใจ ซึ่งบางทีพ่อแม่เรายังไม่อะไรขนาดนี้เลย