คือผมอยากให้มีการแข่งขันกีฬา เอาหลาย ๆ ประเภทเลยระหว่างนักการเมืองด้วยกันนี่แหละ
และที่สำคัญ นักการเมืองที่เป็นระดับ รัฐมนตรี จะต้องลงแข่งขันกีฬา ด้วยตัวเองอย่างน้อย
1 ชนิดกีฬา เพื่อปลูกฝัง ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาของนักการเมือง"จะได้รู้จัก แพ้ ชนะ และอภัย"
สงสัยคนพวกนี้คงจะลืม คำเหล่านี้ที่เป็นหลักสากลของขอว่า น้ำใจนักกีฬากันหมดแล้ว เลยลืม
สปิริตของคำเหล่านี้ พอแพ้ก็ไม่ยอมรับตัวเองแพ้ อ้างโน่นอ้างนี่ บ้างขอแก้กติกา
บ้างก็เรียกตัวช่วย กระจองอแงเหมือนเด็ก ๆ ทำให้ประเทศวุ่นวายไม่จบสิ้น
คือใครถนัดกีฬาชนิดใหน ก็ลงแข่งในประเภทนั้น ๆ แต่มีข้อบังคับว่า "นักการเมือง ที่มีตำแหน่ง รมต ทุกคนจะต้องลงแข่งขัน"
ไม่ว่าประเภทเดี๋ยวหรือทีมก็ตาม ปีหนึ่ง ๆ จะต้องจัดให้มีการแข่งขัน เป็นประเพณี 1 ครั้ง จะเลือกเอาช่วงเวลาใหนก็ประกาศบอกให้
ประชาชนรู้ไปเลย ใครรักใคร ชอบใคร เชียร์ใคร ก็สุดแล้วแต่ และขอให้ยึดถือผลแพ้ชนะ และยอมรับ ไม่ใช่แพ้แล้วพาล
แสดงตัวอย่างเหมือนเด็ก ๆ เยาวชนที่พวกเขา ต้องตระเวนแข่งสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ
เราคงจะได้รู้คราวนี้ใครกันแน่ ทั้งบริหารเก่ง ทั้งเล่นกีฬาเก่งใครกันแน่ เล่นกีฬาไม่เป็นแต่บริหารเป็นเลิศ
หรือใครกันแน่ ที่ทั้งเล่นกีฬาก็ไม่เป็น และบริหารก็ห่วยแตกสุด ๆ แถมไร้น้ำใจนักกีฬาเสียอีก
เวลาเยาวชน ไปสร้างชื่อเสียงมา แล้วอยากมาเกาะกระแสพวกเขา จะได้รู้ว่า เราก็แน่เช่นกัน จะได้ไม่เขินอาย
เมื่อเวลาขอถ่ายรูป หรืออยากเกาะกระแสกับนักกีฬาเก่ง ๆ.......
++++ จับนักการเมือง ไปเล่นกีฬาดีไหม ??? ++++
และที่สำคัญ นักการเมืองที่เป็นระดับ รัฐมนตรี จะต้องลงแข่งขันกีฬา ด้วยตัวเองอย่างน้อย
1 ชนิดกีฬา เพื่อปลูกฝัง ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาของนักการเมือง"จะได้รู้จัก แพ้ ชนะ และอภัย"
สงสัยคนพวกนี้คงจะลืม คำเหล่านี้ที่เป็นหลักสากลของขอว่า น้ำใจนักกีฬากันหมดแล้ว เลยลืม
สปิริตของคำเหล่านี้ พอแพ้ก็ไม่ยอมรับตัวเองแพ้ อ้างโน่นอ้างนี่ บ้างขอแก้กติกา
บ้างก็เรียกตัวช่วย กระจองอแงเหมือนเด็ก ๆ ทำให้ประเทศวุ่นวายไม่จบสิ้น
คือใครถนัดกีฬาชนิดใหน ก็ลงแข่งในประเภทนั้น ๆ แต่มีข้อบังคับว่า "นักการเมือง ที่มีตำแหน่ง รมต ทุกคนจะต้องลงแข่งขัน"
ไม่ว่าประเภทเดี๋ยวหรือทีมก็ตาม ปีหนึ่ง ๆ จะต้องจัดให้มีการแข่งขัน เป็นประเพณี 1 ครั้ง จะเลือกเอาช่วงเวลาใหนก็ประกาศบอกให้
ประชาชนรู้ไปเลย ใครรักใคร ชอบใคร เชียร์ใคร ก็สุดแล้วแต่ และขอให้ยึดถือผลแพ้ชนะ และยอมรับ ไม่ใช่แพ้แล้วพาล
แสดงตัวอย่างเหมือนเด็ก ๆ เยาวชนที่พวกเขา ต้องตระเวนแข่งสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ
เราคงจะได้รู้คราวนี้ใครกันแน่ ทั้งบริหารเก่ง ทั้งเล่นกีฬาเก่งใครกันแน่ เล่นกีฬาไม่เป็นแต่บริหารเป็นเลิศ
หรือใครกันแน่ ที่ทั้งเล่นกีฬาก็ไม่เป็น และบริหารก็ห่วยแตกสุด ๆ แถมไร้น้ำใจนักกีฬาเสียอีก
เวลาเยาวชน ไปสร้างชื่อเสียงมา แล้วอยากมาเกาะกระแสพวกเขา จะได้รู้ว่า เราก็แน่เช่นกัน จะได้ไม่เขินอาย
เมื่อเวลาขอถ่ายรูป หรืออยากเกาะกระแสกับนักกีฬาเก่ง ๆ.......