สรุปมาให้เฉพาะ tips เนอะ ส่วนรีวิว เดี๋ยวคงมีคนทำอีกหลายคน
ส่วนเราขี้เกียจย่อรูป 55555
เรื่องเล่าจากทริป #Iceland
- คนที่นี่ พูดอังกฤษได้ดี ถึงดีมาก ประชากรทั้งประเทศมีประมาณ 350,000 เท่านั้น แต่ GDP สูงเว่อร์
เค้ารวยจากรายได้หลักคือประมง พลังงาน ประชากรโดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองหลวง คือ Reykjavík
- ที่เที่ยว เก็บได้มากกว่าที่ลิสไว้เยอะมาก เพราะตอนไปเมษาพระอาทิตย์ตกสี่ทุ่ม
เวลาเที่ยวไม่ต้องคิดมาก ขับรถไปเรื่อยๆ มันจะมีป้าย point of interest อยู่ตามทางเรื่อยๆ ก็แวะมันทุกอันอะแหละ
ประเทศเป็นเกาะ มีถนนเส้นหลักอยู่เส้นเดียว ขับไปเรื่อยๆสุดท้ายก็จะกลับมาที่เดิม อ้อ อุทยานที่นี่ส่วนใหญ่ไม่คิดค่าเข้า
- ค่ากินที่จ่ายไป คือมีกินตามร้านเด็ดประจำเมืองทุกวัน ถ้าทำกับข้าวกินเอง จะประหยัดไปได้คนละหลายพัน
(ค่าอาหารแบบนั่งที่ร้านจะอยู่ที่คนละ 1,xxx บาท เป็นอย่างน้อย)
- ค่าที่พักคือนอนโรงแรมทุกคืน ถ้าเช่ารถบ้านไป อาจจะถูกกว่า แต่ไม่แน่ใจว่าน้ำมันจะแพงขึ้นรึเปล่า
- เงินสด เอาติดตัวไปไม่ต้องมาก ในป่าในเขา แม้แต่เข้าส้วมก็รับการ์ด
- การเที่ยวส่วนใหญ่เป็น out door จิงควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและรองเท้าดีๆมา (ดีกับแพงนั้นคนละเรื่องกัน)
ชุดกันหนาวยี่ห้อดังของที่โน่นคือ
https://www.66north.us/ ซื้อใช้แล้วทำ refund ได้
- ไอซ์แลนด์ไม่มีสถานทูตในไทย เลยต้องขอวีซ่าผ่าน vfs เดนมาร์ค (ไม่รับจอง ให้ walk in เท่านั้น) อยู่หลังเซนทรัลชิดลม
จะเขี้ยวเรื่องเอกสารนิสนึง ในใบรับรองการทำงาน ต้องระบุลงไปด้วย ว่าอนุญาติให้ลางานจากวันไหนถึงวันไหน
- อาหารท้องถิ่นคือ ปลาคอต ปลาแซลมอน ลอปสเตอร์ ส่วนเนื้อจะเป็นเนื้อแกะ มีไก่กะเนื้อบ้างประปราย หมูนี่ไม่เห็น
- โค้กราคาประมาณขวดละ 100 บาทอัพ น้ำก็อกกินได้ เค้าเคลมว่า สะอาดที่สุดในโลก
- minimart จะของแพง ถ้าจะเอาถูกกว่า ต้องไปซุปเปอร์ เจ้าใหญ่คือ bonus เปิดเกือบเที่ยง ปิดหกโมง (อินดี้มาก ว่าป่ะ)
อีกเจ้าคือ Kronan เปิดราว 10 โมง ปิด 2 ทุ่ม (สังเกตว่าสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากเมกาและสวีเดนเป็นหลัก)
- เนตเร็วกว่าไทย ในป่าในดงก็หา wifi ได้
- ปั๊มน้ำมันเป็นแบบเติมเอง เปิด 24 ชม ราคาลิตรละ 6X บาทใช้รูดบัตรเอา
แต่บัตรไทยมักจะมีปัญหา ให้ไปซื้อเป็น cash card เอาในมินิมาร์ทในปั๊มแทน ซึ่งปิดราว 2 ทุ่ม
วิธีการเติมง่ายๆ ปั๊มแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน ดังนั้น ให้อ่านเอาที่ตู้มันมีวิธีเติมแปะไว้
- รถที่นี่ขับซ้าย เวลาขับรถให้ระวัง speed limit ถ้าเป็นถนนนอกเมืองลาดยาง 90 / ลูกรัง 80 ในเมืองจะอยู่ที่ 30-50
แต่ละที่ไม่เท่ากัน ให้อ่านป้ายเอา แต่กล้องมีทั่วประเทศ
แนะนำให้ดูคลิปนี้ก่อนไป เป็นการบอกวิธีขับรถในไอซ์แลนด์
http://drive.is/
- คำว่า #เดี๋ยวก่อน ไม่เหมาะจะใช้กับที่นี่ เพราะสภาพอากาศแปรปรวนตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าเห็นอะไรดี อะไรสวย ทำเลย
เพราะอีก 10 นาทีต่อมา มันอาจจะเปลี่ยนเป็นเลวร้ายมากๆ
- ถ้าอยากเห็นแสงเหนือ ให้เช็คพยากรณ์อากาศเป็นรายวัน
http://en.vedur.is/weather/forecasts/aurora/ ปัจจัยหลัก 2อย่าง
คือค่า KP (ยิ่งมากยิ่งดี) แล้วก็ต้องดูว่าฟ้าเปิดมั้ยด้วย (แสงเกิดในชั้นบรรยากาศนอกโลก ถ้าโดนเมฆบัง ก็จบข่าว)
สรุปง่ายๆคือ ดวงล้วนๆ
- ถ้าจะถ่ายรูปแสงเหนือ (แบบมือสมัครเล่นเช่นข้าพเจ้า) ต้องพกขาตั้งกล้องไป ไม่งั้นรู้จะออกมาบัดซบมาก
จากนั้นก็เลือก night view แล้วหลับหูหลับตากดไป ส่วนพวกไอแพดไอโฟน ให้ลืมไปได้เลย ศักยภาพไม่ถึง ถ่ายไปเปลืองแบตเปล่าๆ
- ถ้าอยากเดินบนกลาเซียร์ จะต้องมีไกด์ ไม่อนุญาติให้เดินเอง เพราะอันตราย แถมเดินได้แค่บางช่วงเวลาของปีเท่านั้น
ตอนนี้คิดออกแค่นี้

[CR] Tips from Iceland Road Trip เก็บตกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากทริปสงกรานต์ที่ผ่านมา
ส่วนเราขี้เกียจย่อรูป 55555
เรื่องเล่าจากทริป #Iceland
- คนที่นี่ พูดอังกฤษได้ดี ถึงดีมาก ประชากรทั้งประเทศมีประมาณ 350,000 เท่านั้น แต่ GDP สูงเว่อร์
เค้ารวยจากรายได้หลักคือประมง พลังงาน ประชากรโดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองหลวง คือ Reykjavík
- ที่เที่ยว เก็บได้มากกว่าที่ลิสไว้เยอะมาก เพราะตอนไปเมษาพระอาทิตย์ตกสี่ทุ่ม
เวลาเที่ยวไม่ต้องคิดมาก ขับรถไปเรื่อยๆ มันจะมีป้าย point of interest อยู่ตามทางเรื่อยๆ ก็แวะมันทุกอันอะแหละ
ประเทศเป็นเกาะ มีถนนเส้นหลักอยู่เส้นเดียว ขับไปเรื่อยๆสุดท้ายก็จะกลับมาที่เดิม อ้อ อุทยานที่นี่ส่วนใหญ่ไม่คิดค่าเข้า
- ค่ากินที่จ่ายไป คือมีกินตามร้านเด็ดประจำเมืองทุกวัน ถ้าทำกับข้าวกินเอง จะประหยัดไปได้คนละหลายพัน
(ค่าอาหารแบบนั่งที่ร้านจะอยู่ที่คนละ 1,xxx บาท เป็นอย่างน้อย)
- ค่าที่พักคือนอนโรงแรมทุกคืน ถ้าเช่ารถบ้านไป อาจจะถูกกว่า แต่ไม่แน่ใจว่าน้ำมันจะแพงขึ้นรึเปล่า
- เงินสด เอาติดตัวไปไม่ต้องมาก ในป่าในเขา แม้แต่เข้าส้วมก็รับการ์ด
- การเที่ยวส่วนใหญ่เป็น out door จิงควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและรองเท้าดีๆมา (ดีกับแพงนั้นคนละเรื่องกัน)
ชุดกันหนาวยี่ห้อดังของที่โน่นคือ https://www.66north.us/ ซื้อใช้แล้วทำ refund ได้
- ไอซ์แลนด์ไม่มีสถานทูตในไทย เลยต้องขอวีซ่าผ่าน vfs เดนมาร์ค (ไม่รับจอง ให้ walk in เท่านั้น) อยู่หลังเซนทรัลชิดลม
จะเขี้ยวเรื่องเอกสารนิสนึง ในใบรับรองการทำงาน ต้องระบุลงไปด้วย ว่าอนุญาติให้ลางานจากวันไหนถึงวันไหน
- อาหารท้องถิ่นคือ ปลาคอต ปลาแซลมอน ลอปสเตอร์ ส่วนเนื้อจะเป็นเนื้อแกะ มีไก่กะเนื้อบ้างประปราย หมูนี่ไม่เห็น
- โค้กราคาประมาณขวดละ 100 บาทอัพ น้ำก็อกกินได้ เค้าเคลมว่า สะอาดที่สุดในโลก
- minimart จะของแพง ถ้าจะเอาถูกกว่า ต้องไปซุปเปอร์ เจ้าใหญ่คือ bonus เปิดเกือบเที่ยง ปิดหกโมง (อินดี้มาก ว่าป่ะ)
อีกเจ้าคือ Kronan เปิดราว 10 โมง ปิด 2 ทุ่ม (สังเกตว่าสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากเมกาและสวีเดนเป็นหลัก)
- เนตเร็วกว่าไทย ในป่าในดงก็หา wifi ได้
- ปั๊มน้ำมันเป็นแบบเติมเอง เปิด 24 ชม ราคาลิตรละ 6X บาทใช้รูดบัตรเอา
แต่บัตรไทยมักจะมีปัญหา ให้ไปซื้อเป็น cash card เอาในมินิมาร์ทในปั๊มแทน ซึ่งปิดราว 2 ทุ่ม
วิธีการเติมง่ายๆ ปั๊มแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน ดังนั้น ให้อ่านเอาที่ตู้มันมีวิธีเติมแปะไว้
- รถที่นี่ขับซ้าย เวลาขับรถให้ระวัง speed limit ถ้าเป็นถนนนอกเมืองลาดยาง 90 / ลูกรัง 80 ในเมืองจะอยู่ที่ 30-50
แต่ละที่ไม่เท่ากัน ให้อ่านป้ายเอา แต่กล้องมีทั่วประเทศ
แนะนำให้ดูคลิปนี้ก่อนไป เป็นการบอกวิธีขับรถในไอซ์แลนด์ http://drive.is/
- คำว่า #เดี๋ยวก่อน ไม่เหมาะจะใช้กับที่นี่ เพราะสภาพอากาศแปรปรวนตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าเห็นอะไรดี อะไรสวย ทำเลย
เพราะอีก 10 นาทีต่อมา มันอาจจะเปลี่ยนเป็นเลวร้ายมากๆ
- ถ้าอยากเห็นแสงเหนือ ให้เช็คพยากรณ์อากาศเป็นรายวัน http://en.vedur.is/weather/forecasts/aurora/ ปัจจัยหลัก 2อย่าง
คือค่า KP (ยิ่งมากยิ่งดี) แล้วก็ต้องดูว่าฟ้าเปิดมั้ยด้วย (แสงเกิดในชั้นบรรยากาศนอกโลก ถ้าโดนเมฆบัง ก็จบข่าว)
สรุปง่ายๆคือ ดวงล้วนๆ
- ถ้าจะถ่ายรูปแสงเหนือ (แบบมือสมัครเล่นเช่นข้าพเจ้า) ต้องพกขาตั้งกล้องไป ไม่งั้นรู้จะออกมาบัดซบมาก
จากนั้นก็เลือก night view แล้วหลับหูหลับตากดไป ส่วนพวกไอแพดไอโฟน ให้ลืมไปได้เลย ศักยภาพไม่ถึง ถ่ายไปเปลืองแบตเปล่าๆ
- ถ้าอยากเดินบนกลาเซียร์ จะต้องมีไกด์ ไม่อนุญาติให้เดินเอง เพราะอันตราย แถมเดินได้แค่บางช่วงเวลาของปีเท่านั้น
ตอนนี้คิดออกแค่นี้