ต้องขอเล่าประวัติตัวเองให้ฟังนะคะ ไม่ได้จะว่าแม่แต่อย่างใด เดิมที แม่กับพ่อทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ พอท้องใกล้คลอดแม่เลยไปอยู่ที่บ้านยายที่ต่างจังหวัด พ่อทำงานคนเดียวที่กรุงเทพฯ พอคลอดเสร็จแม่ก็กลับมาทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเราเป็นลูกคนเดียว โดยให้เราอยู่กับป้าและยาย จน 1 ขวบ ป้าเล่าให้ฟังว่าแม่ก็มารับเรามาอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ด้วยความที่แม่ต้องทำงาน แม่เลยขัดเราไว้ในห้อง และเมื่อว่างก็จะขึ้นมาดูบ่อยๆ ยายและป้าเรารู้เรื่อง เลยมารับเรากลับไปอยู่ด้วยที่ต่างจังหวัด ต่อมา เราขึ้นอนุบาลแม่ก็กลับมาอยู่บ้าน โดยที่ให้พ่อเราทำงานคนเดียว พออยู่ได้สักอนุบาล 2 แม่กับพ่อก็เลิกกัน (เราเคยถามแม่ในตอนที่โตแล้ว ว่า ทำไมถึงเลิกกัน แม่ตอบว่าพ่อเราเล่นการพนัน โดยก่อนเลิกกันไป ยายให้เงินพ่อเราติดตัวไป 25,000. บาท) แล้วพ่อก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย แม่ก็กลับไปทำงานอีกครั้ง จนเราอยู่ชั้น ป.2 แม่เราก็แต่งงานใหม่ โดยสามีใหม่ของแม่เด็กกว่าแม่เรา โดยที่สามีใหม่ของแม่เขาก็ไม่เคยมาเข้าใกล้เราเลย เพราะยายและป้ากลัว เขาจะทำอะไรเราเหมือนในละคร ในข่าว เลยห้ามเราเข้าใกล้เขาเด็ดขาด เราก็เลยไม่รู้นิสัยของเขาเวลาอยู่กับแม่เราเป็นยังไง โดยที่ตลอดเวลาค่าเล่าเรียน ค่าเลี้ยงดูของเรา จะมีแค่ป้าของเราออกให้ โดยที่แม่ของเราไม่เคยส่งเสียให้เลยตั้งแต่อนุบาล 2 ซึ่งแม่ก็มาอยู่บ้านกับสามีใหม่ที่บ้านของเขา เป็นหลังที่เขาซื้อด้วยกัน ซึ่งในทุกๆปี แม่กลับบ้านแค่ 1 ครั้งเท่านั้น คือวันปีใหม่ แต่ก็ไม่เคยให้เงินกับยายและป้าเพื่อใช้ดูเราเลย ต่อมาเราอยู่ชั้น ม.1 ซึ่งกำลังจะขึ้น ม.2 ยายเสีย ญาติพี่น้องทุกคนพยายามติดต่อแม่ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนต้องมาตามหาที่แม่ทำงาน แม่ถึงได้กลับไป โดยที่แม่เล่าว่า แม่เลิกกับสามีใหม่แล้ว แต่แม่ต้องทำงานส่งค่าผ่อนบ้าน ซึ่งญาติพี่น้องของแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้แม่ผ่อนให้หมด โดยที่แม่ก็ไม่ได้ให้เงินค่าเลี้ยงดูเราเช่นเดิม เราจึงต้องอยู่บ้านกับป้า 2 คน โดยเล่าเรียนของเราทั้งหมดเป็นป้าที่รับผิดชอบ ต่อมาตอนเราอยู่ชั้นม.4 เราอยากได้รถมอไซต์ เพราะด้วยความเป็นเด็ก เห็นเพื่อนมี เราก็อยากได้ แต่ไม่กล้าขอป้า เพราะมันเยอะเกินไป (ซึ่งต้องขอบอกนิสัยเราก่อน คือเราอยากได้อะไร เราก็ต้องได้ ขอป้าก็ซื้อให้หมด พูดง่ายๆว่าเราใช้เงินมือเติบมาก) เราเลยขอแม่ (ที่เรากล้า เพราะเราแอบไปเปิดดูสมุดบัญชีของแม่) แม่เลยให้เรามา 35,000 บาท พอเราเอาเงินให้ป้า บอกให้ป้าพาไปซื้อ ป้าบอกกับเราว่าเรายังเด็ก อันตราย เลยไม่ซื้อให้ เราก็เชื่อ คงเด็กจริงๆตามที่ป้าบอก ป้าเลยนำเงินก้อนนั้นไปปล่อยเงินกู้ ต่อมา ม.4 เราย้ายโรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอ ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ซึ่งจะให้ป้าออกให้เหมือนเดิมเราเกรงใจ เราเลยขอแม่ตลอดทุกเดือน ซึ่งแม่ก็ให้ตลอด ครั้งละเป็นหมื่น โดยเป็นแบบนี้เสมอจนเราเรียนจบมหาลัย และตอนนี้เราทำงานแล้วในบางเดือนที่ไม่พอใช้ก็ขอแม่เช่นเดิม ดูเหมือนชีวิตเรียบง่ายใช่ไหมคะ แต่ปล่าวเลยตลอดเวลาแม่ไม่เคยโทรหาเราเลยสักครั้ง จะมีแค่เราที่โทรแม่ตลอด ซึ่งโทรไปเดือนละครั้ง ตอนขอเงินเท่านั้น เพราะเคยมีครั้งนึงเราเครียดเรื่องเราทะเลาะกับเพื่อนรูมเมส เพราะนางพาผู้ชายขึ้นหอ ซึ่งแม่บ้านเห็นนางมาด่าที่เราทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นคนทำ จะแจ้งเรื่องที่ทำผิดกฎจะให้ย้ายออก เราเลยโทรไปหาแม่ เพราะเราติดตาอป้าไม่ได้ เพื่อช่วยคิดหน่อยว่าจะทำไงดี แม่ก็ว่าแต่เราเป็นฝ่ายผิด ให้อดทน ซึ่งเราเสียใจมาก เราเลยไม่ติดต่อแม่ไป 2 เดือน แม่ก็โทรหาเราเช่นเดียวกัน ซึ่งจะโทรก็เมื่อตอนไม่มีเงินเท่านั้น ซึ่งป้าของเราก็ยังออกค่าใช้จ่ายให้เราเกมือนเดิม โดยที่เราใช้เงินต่อเดือน เดือนละประมาณ 15,000 บาท เป็นแบบนี้จนเราเรียนจบมหาลัย พอเราเรียนมหาลัยได้สักที่ 3 ป้าเราก็ซื้อมอเตอร์ไซด์ให้ เพราะตึกเรียนเริ่มไกลมาก ปั่นจักรยานไม่ไหว ป้าเราเลยซื้อให้ ซึ่งเวลาเราป่วย เครียด หาทางออกไม่ได้ ก็จะมีแค่ป้าเรากับเพื่อน ที่ค่อยช่วยเหลือและรับฟัง ซึ่งในทุกๆครั้ง ที่เราโทรหาแม่เรา เพื่อขอความช่วยเหลือ หรือ ขอคำปรึกษา แม่ก็รีบๆพูดแล้ววางสาย ทั้งๆที่เรายังค้างคาใจ โดยบอกทุกครั้งว่า ให้เราอดทน และให้เราเป็นฝ่ายยอมๆไป (นิสัยส่วนตัวของเรา เราค่อนข้างใจร้อน และไม่ยอมถ้าเราไม่ผิด เป็นคนเกิดวันอังคารค่ะ) เป็นแบบนี้เสมอ ถ้าขอคำปรึกษาจากแม่ แม่ก็พูดแบบนี้ตลอด ว่าเราเป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าเป็นป้าเรา ป้าเราจะเข้าข้างเราเสมอทั้งๆที่เราผิดก็ตาม ป้าเราจะทำให้เราสบายใจทุกครั้ง โดยครั้งล่าสุด เราทะเลาะกับลูกพี่ลูกน้องเรื่องหอพัก ตอนนี้เราเรียนจบแล้ว มาทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะว่าตอนนั้นเรามายังไม่มีห้องอยู่ เลยมาอาศัยเขาอยู่ ต่อได้เราทำงานมีเงิน เราเลยจะย้ายออก แต่ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นโกรษเพราะว่า เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น เราก็ได้แต่สงสัยตอนก่อนที่เราจะมาอยู่ด้วย ทำไมจ่ายได้ (ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าห้อง ค่าข้าว เราออกเยอะกว่า ถ้าในกรณีที่หารแล้วไม่ลงตัว) พอเราจะย้ายออก เราเลยแม่ เพราะเราติดต่อป้าไม่ได้ แม่ก็บอกว่าให้เราอดทน ซึ่งเราก็อดทน แต่เขาไม่เกรงใจเราเลย เราอึดอัดจริงๆ เราเลยขอมาอยู่คนเดียว แม่ว่าเราโกหกแม่ เพราะลูกพี่ลูกน้องคนนั้นไปเล่าให้แม่ฟังหมดแล้วว่าเขาลำบาก มีค่าใช้จ่ายเยอะ พอมีเราอยู่ด้วย แล้วชีวิตเขาดีขึ้น แต่เรารับไม่ได้ คนเห็นแก่ตัวแบบนี้ เราอยู่ด้วยแล้วเราอึดอัด แต่แม่ก็ยังบอกให้เราอดทนเอา เวลาทำงานเหนื่อยๆโทรไปเล่าให้ฟัง แค่ประมาณ 3 นาที ก็วางสายใส่ เราเสียใจทุกครั้งที่แม่ทำแบบนี้ เรารู้ว่าป้ารักเรา แม่รักเรา เราถึงตั้งใจเรียน ไม่ได้ทำตัวเกเร แต่บางทีที่แม่ทำแบบนี้ มันทำให้อดน้อยใจไม่ได้ ว่าเพราะอะไร ถึงไม่เคยเข้าใจเราเลยสักครั้ง ทั้งที่ป้าเราเข้าใจเราทุกเรื่อง เราพยายามถามแม่แล้วว่า ทำไมถึงไม่เคยเชื่อเราหรือเข้าข้างเรา แม่เราก็จะประชดกลับทุกครั้งว่า เชื่อเสมอ เราถึงได้กลัวเราเป็นเด็กมีปัญหาหรือปล่าว ยังไงช่วยแนะนำด้วยนะคะว่าต้องทำยังไงดีค่ะ (พิมพ์ผิดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ พอดีพิมพ์ให้มือถือ เป็นกระทู้แรกของชีวิตเลย เครียดจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ)
ทะเลาะกับแม่ กลัวเป็นเด็กมีปัญหาค่ะ