สวัสดีค่ะ สิงอยู่ที่นี่มานาน วันนี้เพิ่งมีโอกาสได้ตั้งกระทู้ เข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ
เราเป็นคนที่ไม่ชอบเด็กเอามากๆ ได้ยินเสียงไม่ได้เลย หงุดหงิด ยิ่งเด็กที่วิ่งเพ่นพ่านยั้วเยี้ย แหกปากเสียงดังไปจนกระทั่งกรี๊ดจนคอแตกนี่ ไม่ทนจริงๆ เด็กสามารถ ruin วันดีๆ ของเราได้ราบคาบเลยค่ะ ถ้าเด็กดีๆ ไม่วุ่นวายเราก็พอจะวางเฉยได้นะคะ แต่ถ้าเป็นลิงนี่เราไม่ทนอะค่ะ เหวี่ยงเลย
เราไม่เคยรู้สึกว่าเด็กน่ารัก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นลูกใคร จะเพื่อน จะญาติ เวลาไปเยี่ยมเราก็จะมีจุดมุ่งหมายเพื่อเยี่ยมคุณแม่คุณพ่อมือใหม่เท่านั้น ไม่แตะเด็กเลย แล้วก็เหมือนว่าเด็กจะสัมผัสได้ด้วยว่าเราไม่ชอบเค้า ทุกครั้งที่มีคนยัดเยียดเด็กมาให้เราอุ้ม เด็กจะร้องไห้เหมือนเราจะฆ่าเลย ทั้งที่เรายืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก แล้วก็นั่นล่ะค่ะ พอได้ยินเสียงเด็กร้อง เราก็ยิ่งหงุดหงิด
ในความรู้สึกเราบ้านที่มีเด็กอ่อน ให้ความรู้สึกมืดมนมากๆ ไม่น่าเข้า ไม่มีอิสระ ไม่มีความสุขเลย ทั้งที่คนอื่นๆ ก็ยืนยันว่ามันสดใส เต็มไปด้วยพลังงานที่ดี -*-
ชีวิตเราคงไม่มีปัญหาอะไรถ้าเราไม่ได้วางแผนจะมีลูก
ตามประสาคู่รักที่คบกันมานานจนเวลามันเหมาะสมจะแต่งงานล่ะค่ะ เรากับแฟนเริ่มคุยกันเรื่องแต่งงานสร้างชีวิตร่วมกันค่ะ ก่อนหน้านั้นเราเคยบอกแฟนแล้วว่า เราไม่ชอบเด็กนะ เราไม่อยากมีลูกนะ เรากลัวจะเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ แฟนก็เหมือนจะเข้าใจ ตกปากรับคำดิบดีเลยค่ะ ว่าไม่ต้องมีก็ได้
จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่ เพื่อนๆ ของแฟนเริ่มมีลูกค่ะ !!
พอได้ตระเวนเยี่ยมหลาน เยี่ยมลูกเพื่อน เราก็ได้เห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของคุณแฟนค่ะ! คือทุกครั้งที่นางได้อุ้มเด็ก นางจะฉายรัศมีความเป็นคุณพ่อเต็มที่ ยิ้มแย้มแก้มปริ หน้าตาดูอ่อนโยนขึ้นมาจนน่าขนลุก ส่วนเราก็จะไปหลบในซอกเล็กๆ ที่ห่างจากเด็กที่สุด ปอกผลไม้ ช่วยเก็บของไปพลาง
จนในที่สุดสิ่งที่เรากลัวก็เป็นจริงขึ้นมา
ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้หลังกลับมาจากโรงพยาบาล กำลังขับรถคุยกันเพลินๆ แฟนก็จู่โจมเป็นระลอกๆ ค่ะ
Strike ที่ 1
แฟน: "เค้าว่าหลังจากรถคันนี้เค้าอยากได้ suv"
เรา: "มันก็สวยดีนะ ไปเที่ยวหลายคนคงจะขับสนุก แต่ว่ามันจะกินน้ำมันรึเปล่าคะ?"
แฟน:
"ไม่รู้สิ แต่เผื่ออนาคตพาลูกไปไหนต่อไหนมันจะนั่งได้สบายๆ ไง"
เรา: .....เงียบ.....
Strike ที่ 2
เรา: "คอนโดขึ้นใหม่น่าสนใจจัง ลองหาข้อมูลดูกันเนอะ"
แฟน: "ห้องกี่ตารางอะ?"
เรา: "อืมมม 1 ห้องนอน xx ตรม. ค่ะ" (ขอ xx ไว้นะคะเพราะตอนที่พูดจำไม่ได้แล้วว่าพูดถึงคอนโดไหน ดูไว้หลายที่เลยเพราะมีแพลนจะซื้อ)
แฟน: "หรอๆ มันใหญ่เท่าห้องที่ตัวเองอยู่ตอนนี้มั้ย?"
เรา: "เล็กกว่าหน่อยนึงอะสิ"
แฟน:
"โหหห ถ้ามีลูกเพิ่มเข้ามาก็อึดอัดแย่เลยสิ?"
เรา: .....ตึง.....
Strike ที่ 3 นี่มาโต้งๆ เลยค่ะ
แฟน: "ลูกพี่ xx น่ารักเนอะ ตัวข๊าวขาว จมูกโด่งเหมือนพ่อเลย"
เรา: "ดูยังไงจมูกโด่งอะ เค้าเห็นแต่ตาจมูกปากรวมกันตรงกลางหน้า"
แฟน: "ถ้าเรามีลูก ลูกต้องจมูกโด่งเหมือนเค้าแน่เลย"
เรา: "หนิ! ตกลงกันแล้วนี่ว่าจะไม่มี?"
แฟน: "ตอนนี้เค้าอยากมีแล้วอะ เติมเต็มครอบครัวดีออก"
เรา: "เธอก็ท้องเองสิ!!!"
หลังจากนั้นเราก็โดนแฟนตัดพ้อเรื่อยๆ เลยค่ะเรื่องมีลูก ยิ่งมีคนถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน จะมีลูกเมื่อไหร่เค้าจะชอบโบ้ยมาทางเรา ทำให้เรารู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนว่าตัวเอง (กำลังจะ) เป็นแม่บ้านที่บกพร่องยังไงไม่รู้ บางทีก็คิดนะคะว่ามันจะยากแค่ไหนเชียวถ้าจะตัดใจมีให้เค้าซักคน แต่พอไปเห็นสภาพแม่มือใหม่ที่สะบักสะบอมจากคลอดลูกยังไม่พอ ยังโทรมลงๆ กับการวิ่งวุ่นดูแลเด็กเล็กอีก แล้วยังได้อ่านเรื่องแสบๆ ของเด็กเวรแทบทุกวันเรายิ่งระอาเข้าไปใหญ่ เรานับถือใจผู้หญิงที่ตั้งใจเป็นคุณแม่มากๆ เลยนะคะ มันเป็นความเสียสละที่ดูยิ่งใหญ่มากเลยสำหรับเรา
แฟนเราเค้าก็อ้างว่า ถ้าไม่มีลูกครอบครัวมันเหมือนไม่เติมเต็ม มันขาด ถ้าเค้าเป็นอะไรขึ้นมาใครจะดูแลเรา แก่ไปใครจะมาเลี้ยงดู ... เราก็เถียงไปนะว่า ใช่ว่ามีแล้วมันจะเลี้ยงเราเมื่อไหร่ล่ะ? จะไปหวังอะไร เก็บเงินดูแลตัวเองดีกว่ามั้ย?
เราอยากรู้มากเลยค่ะ ว่าคุณแม่ทั้งหลายที่เคยเกลียดเด็ก ถ้ามีลูกแล้วจะกลายเป็นรักเด็กไปเลยมั้ย หรือก็จะรักแต่ลูกของตัวเอง? (หรือลูกตัวเองก็ยังแอบรำคาญ??)
คนที่ไม่อยากมีลูก วางแผนอนาคตข้างหน้าว่ายังไง? ดูแลตนเองยามแก่ยังไงคะ ทรัพย์สมบัติจัดการยังไง
คนที่ไม่อยากมีลูก แต่แฟนอยากจะมี ตัดสินใจยังไงคะ? แล้วเคยทะเลาะกับแฟนเรื่องนี้กันบ้างมั้ย? รับมือยังไงถ้าเราตัดสินใจว่ายังไงก็ไม่ยอมมี??
ขอโทษด้วยค่ะที่พิมพ์ยาว ว่าจะจำกัดสั้นๆ แล้วแต่อัดอั้น 555 สั้นไม่ได้เลย ถือว่าขอทั้งระบายและปรึกษาไปในตัวนะคะ อยากลองฟังความเห็นของบรรดาคุณแม่หลายๆ ท่าน เผื่อเราอาจจะเปลี่ยนใจ? แล้วก็อยากฟังความเห็นของคนที่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่มี ว่าจนถึงบัดนี้ชีวิตคู่เป็นยังไงบ้าง?
----- edit -----
มาแก้ตัวหนาออกค่ะ
----- edit -----
เพิ่มเติมนะคะ ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ เราอ่านทุกคอมเม้นท์เลย ได้ข้อมูล ข้อคิดดีๆ เยอะเลย มีผู้หวังดีตอบมาหลังไมค์ด้วย บางคนแอบมาบอกว่ากระทู้เราเป็นประเด็นอยู่ใน Facebook หลายเพจทีเดียว 55555 ขอบคุณค่ะ
เราไม่เล่นเฟสบุ้คค่ะ เลยไม่ได้ไปตามอ่าน แต่ตามที่แคปมาให้ดู เราไม่ซีเรียสกับความเห็นแง่ลบในนั้นเท่าไหร่นะคะ บางคนอ่านหัวเรื่องยังไม่จบก็อาจจะคอมเม้นท์เลย ขอคัดเลือกเอาที่เป็นสาระและปรับใช้ได้จริงมากกว่าเก็บ hate speech ที่ไม่มีประโยชน์มาใส่ใจค่ะ ซึ่งสาระเราได้จากในกระทู้นี้เยอะพอควรเลย อ่านแล้วได้มุมมองหลายด้านค่ะ ชอบมากๆ
เราไม่แปลกใจว่าทำไมมีคนว่าเราว่าดูไม่มีความอ่อนโยน ก็อ่านจากตัวหนังสืออยู่ด้านเดียวอะเนอะ ไม่ได้รู้จักกันในชีวิตจริงจะคิดไปยังไงก็ได้ แต่ยืนยันว่าเรามีด้านนั้นนะคะ 555 เราเป็นคนรักแมวค่ะ รักแมวตัวเองไม่พอ เผื่อแผ่ไปยังแมวจรจัดทั้งหลายด้วย เรามีกิจกรรมยามว่างเป็นการช่วยเหลือและหาบ้านให้แมวจร ช่วยด้วยใจและกำลังทรัพย์ของตัวเองแบบไม่หวังอะไรตอบแทนเลยค่ะ แต่เลี้ยงแมวก็ไม่คงไม่เหมือนเลี้ยงลูกอะเนอะ ยังต้องคิดกันอีกไกล
เราขำมากที่ถามว่าไม่เคยเป็นเด็กหรอ เราได้ยินแบบนี้บ่อยแล้วค่ะ ตอนเด็กๆแม่เราเลี้ยงมาเข้มงวดมากค่ะ แต่พ่อจะใจดีเป็นเหมือนที่หลบภัย เราไม่เคยกรี๊ดๆๆ ดิ้นพล่านจะเอาอะไร แม้แต่ขอของจากคนอื่นก็ไม่เคยค่ะ เลยไม่ค่อยเข้าใจเวลาเห็นเด็กเป็นแบบนั้น ว่าทำไมพ่อแม่เขา groom ลูกไม่ได้ และถ้าไม่มีศักยภาพมากพอที่จะสอนเด็กให้ดี จะมีเค้าขึ้นมาทำไม
ส่วนเรื่องปัญหาทางจิต ตอนแรกเราก็กังวลนะคะว่าจะมีแค่เราหรือเปล่า เป็นไปได้มั้ยที่เราจะมีปัญหา!? แต่หลังจากได้อ่านความเห็นในกระทู้ เราค่อนข้างมั่นใจแล้วนะคะว่าไม่ใช่ 555 คือดีใจ เรามีเพื่อน!
สุดท้ายนี้เรื่องที่หลายคนกังวล
ไม่มีลูก สามีจะหนีไปมีคนอื่นนะ ... อันนี้เราว่ามันไม่เกี่ยวกันค่ะ มีลูกแล้วสามีมีคนอื่นก็เห็นได้ทั่วไป เห็นทุกวัน คนเรามันจะทำมันก็ทำค่ะ ไม่มีข้ออ้างอะไรจะแก้ไขจุดนี้ ในกรณีนั้นบ่อยครั้งลูกกลายเป็นโซ่ตรวนคล้องคอ มากกว่าโซ่ทองคล้องใจ จะเลิกก็ไม่ได้ มีห่วงเยอะแยะไปหมด ... ถ้าเราไม่ยอมมีลูกแล้วแฟนเราจะไปมีใคร เราเลิกกับเค้าแน่นอนค่ะ รักได้เลิกได้ ตามที่ตอบไว้ใน คห. 2-4
เราขอเลือกที่จะคิดเยอะๆ จนฟังดูน่ารำคาญไว้ก่อนแล้วกันค่ะในเรื่องการมีลูก (เพราะจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ง่ายๆ เลยนะคะ) อายุเรายังน้อยอยู่ (มั้ง) ยังพอมีเวลาคิดอีกค่ะ ไม่อยากผลีผลาม มาเก็บข้อมูลแต่เนิ่นๆ คงไม่มีอะไรเสียหายเนอะ ตอนนี้เรารู้ตัวเองว่ายังไม่พร้อมเลยเลือกที่จะยึดความคิดเดิม คือไม่อยากมี จะได้ไม่ต้องสร้างประชากรที่มีปัญหาสู่สังคม แต่อนาคตยังไม่แน่นอนค่ะ ซักวันเราอาจตื่นมาแล้วอยากมีก็ได้
ก็ต้องคิดยาวๆ คุยกับแฟนนานๆ ล่ะค่ะ แต่ถ้าจะมีมันต้องมาจากความพร้อมเท่านั้น ถ้ายังคาใจยังรู้สึกติดลบอยู่ เราขอเลือกที่จะยังไม่มีดีกว่า ไม่อยากให้ affect เด็กด้วย
สู้ๆ ค่ะทุกคน
"เกลียดเด็ก" สอบถามทั้งคนที่เคยเกลียด ทั้งคนที่ปัจจุบันยังเกลียดอยู่ คิดจะมีลูกมั้ยวางแผนอนาคตยังไงกันบ้าง?
เราเป็นคนที่ไม่ชอบเด็กเอามากๆ ได้ยินเสียงไม่ได้เลย หงุดหงิด ยิ่งเด็กที่วิ่งเพ่นพ่านยั้วเยี้ย แหกปากเสียงดังไปจนกระทั่งกรี๊ดจนคอแตกนี่ ไม่ทนจริงๆ เด็กสามารถ ruin วันดีๆ ของเราได้ราบคาบเลยค่ะ ถ้าเด็กดีๆ ไม่วุ่นวายเราก็พอจะวางเฉยได้นะคะ แต่ถ้าเป็นลิงนี่เราไม่ทนอะค่ะ เหวี่ยงเลย
เราไม่เคยรู้สึกว่าเด็กน่ารัก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นลูกใคร จะเพื่อน จะญาติ เวลาไปเยี่ยมเราก็จะมีจุดมุ่งหมายเพื่อเยี่ยมคุณแม่คุณพ่อมือใหม่เท่านั้น ไม่แตะเด็กเลย แล้วก็เหมือนว่าเด็กจะสัมผัสได้ด้วยว่าเราไม่ชอบเค้า ทุกครั้งที่มีคนยัดเยียดเด็กมาให้เราอุ้ม เด็กจะร้องไห้เหมือนเราจะฆ่าเลย ทั้งที่เรายืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก แล้วก็นั่นล่ะค่ะ พอได้ยินเสียงเด็กร้อง เราก็ยิ่งหงุดหงิด
ในความรู้สึกเราบ้านที่มีเด็กอ่อน ให้ความรู้สึกมืดมนมากๆ ไม่น่าเข้า ไม่มีอิสระ ไม่มีความสุขเลย ทั้งที่คนอื่นๆ ก็ยืนยันว่ามันสดใส เต็มไปด้วยพลังงานที่ดี -*-
ชีวิตเราคงไม่มีปัญหาอะไรถ้าเราไม่ได้วางแผนจะมีลูก
ตามประสาคู่รักที่คบกันมานานจนเวลามันเหมาะสมจะแต่งงานล่ะค่ะ เรากับแฟนเริ่มคุยกันเรื่องแต่งงานสร้างชีวิตร่วมกันค่ะ ก่อนหน้านั้นเราเคยบอกแฟนแล้วว่า เราไม่ชอบเด็กนะ เราไม่อยากมีลูกนะ เรากลัวจะเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ แฟนก็เหมือนจะเข้าใจ ตกปากรับคำดิบดีเลยค่ะ ว่าไม่ต้องมีก็ได้
จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่ เพื่อนๆ ของแฟนเริ่มมีลูกค่ะ !!
พอได้ตระเวนเยี่ยมหลาน เยี่ยมลูกเพื่อน เราก็ได้เห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของคุณแฟนค่ะ! คือทุกครั้งที่นางได้อุ้มเด็ก นางจะฉายรัศมีความเป็นคุณพ่อเต็มที่ ยิ้มแย้มแก้มปริ หน้าตาดูอ่อนโยนขึ้นมาจนน่าขนลุก ส่วนเราก็จะไปหลบในซอกเล็กๆ ที่ห่างจากเด็กที่สุด ปอกผลไม้ ช่วยเก็บของไปพลาง
จนในที่สุดสิ่งที่เรากลัวก็เป็นจริงขึ้นมา
ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้หลังกลับมาจากโรงพยาบาล กำลังขับรถคุยกันเพลินๆ แฟนก็จู่โจมเป็นระลอกๆ ค่ะ
Strike ที่ 1
แฟน: "เค้าว่าหลังจากรถคันนี้เค้าอยากได้ suv"
เรา: "มันก็สวยดีนะ ไปเที่ยวหลายคนคงจะขับสนุก แต่ว่ามันจะกินน้ำมันรึเปล่าคะ?"
แฟน: "ไม่รู้สิ แต่เผื่ออนาคตพาลูกไปไหนต่อไหนมันจะนั่งได้สบายๆ ไง"
เรา: .....เงียบ.....
Strike ที่ 2
เรา: "คอนโดขึ้นใหม่น่าสนใจจัง ลองหาข้อมูลดูกันเนอะ"
แฟน: "ห้องกี่ตารางอะ?"
เรา: "อืมมม 1 ห้องนอน xx ตรม. ค่ะ" (ขอ xx ไว้นะคะเพราะตอนที่พูดจำไม่ได้แล้วว่าพูดถึงคอนโดไหน ดูไว้หลายที่เลยเพราะมีแพลนจะซื้อ)
แฟน: "หรอๆ มันใหญ่เท่าห้องที่ตัวเองอยู่ตอนนี้มั้ย?"
เรา: "เล็กกว่าหน่อยนึงอะสิ"
แฟน: "โหหห ถ้ามีลูกเพิ่มเข้ามาก็อึดอัดแย่เลยสิ?"
เรา: .....ตึง.....
Strike ที่ 3 นี่มาโต้งๆ เลยค่ะ
แฟน: "ลูกพี่ xx น่ารักเนอะ ตัวข๊าวขาว จมูกโด่งเหมือนพ่อเลย"
เรา: "ดูยังไงจมูกโด่งอะ เค้าเห็นแต่ตาจมูกปากรวมกันตรงกลางหน้า"
แฟน: "ถ้าเรามีลูก ลูกต้องจมูกโด่งเหมือนเค้าแน่เลย"
เรา: "หนิ! ตกลงกันแล้วนี่ว่าจะไม่มี?"
แฟน: "ตอนนี้เค้าอยากมีแล้วอะ เติมเต็มครอบครัวดีออก"
เรา: "เธอก็ท้องเองสิ!!!"
หลังจากนั้นเราก็โดนแฟนตัดพ้อเรื่อยๆ เลยค่ะเรื่องมีลูก ยิ่งมีคนถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน จะมีลูกเมื่อไหร่เค้าจะชอบโบ้ยมาทางเรา ทำให้เรารู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนว่าตัวเอง (กำลังจะ) เป็นแม่บ้านที่บกพร่องยังไงไม่รู้ บางทีก็คิดนะคะว่ามันจะยากแค่ไหนเชียวถ้าจะตัดใจมีให้เค้าซักคน แต่พอไปเห็นสภาพแม่มือใหม่ที่สะบักสะบอมจากคลอดลูกยังไม่พอ ยังโทรมลงๆ กับการวิ่งวุ่นดูแลเด็กเล็กอีก แล้วยังได้อ่านเรื่องแสบๆ ของเด็กเวรแทบทุกวันเรายิ่งระอาเข้าไปใหญ่ เรานับถือใจผู้หญิงที่ตั้งใจเป็นคุณแม่มากๆ เลยนะคะ มันเป็นความเสียสละที่ดูยิ่งใหญ่มากเลยสำหรับเรา
แฟนเราเค้าก็อ้างว่า ถ้าไม่มีลูกครอบครัวมันเหมือนไม่เติมเต็ม มันขาด ถ้าเค้าเป็นอะไรขึ้นมาใครจะดูแลเรา แก่ไปใครจะมาเลี้ยงดู ... เราก็เถียงไปนะว่า ใช่ว่ามีแล้วมันจะเลี้ยงเราเมื่อไหร่ล่ะ? จะไปหวังอะไร เก็บเงินดูแลตัวเองดีกว่ามั้ย?
เราอยากรู้มากเลยค่ะ ว่าคุณแม่ทั้งหลายที่เคยเกลียดเด็ก ถ้ามีลูกแล้วจะกลายเป็นรักเด็กไปเลยมั้ย หรือก็จะรักแต่ลูกของตัวเอง? (หรือลูกตัวเองก็ยังแอบรำคาญ??)
คนที่ไม่อยากมีลูก วางแผนอนาคตข้างหน้าว่ายังไง? ดูแลตนเองยามแก่ยังไงคะ ทรัพย์สมบัติจัดการยังไง
คนที่ไม่อยากมีลูก แต่แฟนอยากจะมี ตัดสินใจยังไงคะ? แล้วเคยทะเลาะกับแฟนเรื่องนี้กันบ้างมั้ย? รับมือยังไงถ้าเราตัดสินใจว่ายังไงก็ไม่ยอมมี??
ขอโทษด้วยค่ะที่พิมพ์ยาว ว่าจะจำกัดสั้นๆ แล้วแต่อัดอั้น 555 สั้นไม่ได้เลย ถือว่าขอทั้งระบายและปรึกษาไปในตัวนะคะ อยากลองฟังความเห็นของบรรดาคุณแม่หลายๆ ท่าน เผื่อเราอาจจะเปลี่ยนใจ? แล้วก็อยากฟังความเห็นของคนที่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่มี ว่าจนถึงบัดนี้ชีวิตคู่เป็นยังไงบ้าง?
----- edit -----
มาแก้ตัวหนาออกค่ะ
----- edit -----
เพิ่มเติมนะคะ ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ เราอ่านทุกคอมเม้นท์เลย ได้ข้อมูล ข้อคิดดีๆ เยอะเลย มีผู้หวังดีตอบมาหลังไมค์ด้วย บางคนแอบมาบอกว่ากระทู้เราเป็นประเด็นอยู่ใน Facebook หลายเพจทีเดียว 55555 ขอบคุณค่ะ
เราไม่เล่นเฟสบุ้คค่ะ เลยไม่ได้ไปตามอ่าน แต่ตามที่แคปมาให้ดู เราไม่ซีเรียสกับความเห็นแง่ลบในนั้นเท่าไหร่นะคะ บางคนอ่านหัวเรื่องยังไม่จบก็อาจจะคอมเม้นท์เลย ขอคัดเลือกเอาที่เป็นสาระและปรับใช้ได้จริงมากกว่าเก็บ hate speech ที่ไม่มีประโยชน์มาใส่ใจค่ะ ซึ่งสาระเราได้จากในกระทู้นี้เยอะพอควรเลย อ่านแล้วได้มุมมองหลายด้านค่ะ ชอบมากๆ
เราไม่แปลกใจว่าทำไมมีคนว่าเราว่าดูไม่มีความอ่อนโยน ก็อ่านจากตัวหนังสืออยู่ด้านเดียวอะเนอะ ไม่ได้รู้จักกันในชีวิตจริงจะคิดไปยังไงก็ได้ แต่ยืนยันว่าเรามีด้านนั้นนะคะ 555 เราเป็นคนรักแมวค่ะ รักแมวตัวเองไม่พอ เผื่อแผ่ไปยังแมวจรจัดทั้งหลายด้วย เรามีกิจกรรมยามว่างเป็นการช่วยเหลือและหาบ้านให้แมวจร ช่วยด้วยใจและกำลังทรัพย์ของตัวเองแบบไม่หวังอะไรตอบแทนเลยค่ะ แต่เลี้ยงแมวก็ไม่คงไม่เหมือนเลี้ยงลูกอะเนอะ ยังต้องคิดกันอีกไกล
เราขำมากที่ถามว่าไม่เคยเป็นเด็กหรอ เราได้ยินแบบนี้บ่อยแล้วค่ะ ตอนเด็กๆแม่เราเลี้ยงมาเข้มงวดมากค่ะ แต่พ่อจะใจดีเป็นเหมือนที่หลบภัย เราไม่เคยกรี๊ดๆๆ ดิ้นพล่านจะเอาอะไร แม้แต่ขอของจากคนอื่นก็ไม่เคยค่ะ เลยไม่ค่อยเข้าใจเวลาเห็นเด็กเป็นแบบนั้น ว่าทำไมพ่อแม่เขา groom ลูกไม่ได้ และถ้าไม่มีศักยภาพมากพอที่จะสอนเด็กให้ดี จะมีเค้าขึ้นมาทำไม
ส่วนเรื่องปัญหาทางจิต ตอนแรกเราก็กังวลนะคะว่าจะมีแค่เราหรือเปล่า เป็นไปได้มั้ยที่เราจะมีปัญหา!? แต่หลังจากได้อ่านความเห็นในกระทู้ เราค่อนข้างมั่นใจแล้วนะคะว่าไม่ใช่ 555 คือดีใจ เรามีเพื่อน!
สุดท้ายนี้เรื่องที่หลายคนกังวล ไม่มีลูก สามีจะหนีไปมีคนอื่นนะ ... อันนี้เราว่ามันไม่เกี่ยวกันค่ะ มีลูกแล้วสามีมีคนอื่นก็เห็นได้ทั่วไป เห็นทุกวัน คนเรามันจะทำมันก็ทำค่ะ ไม่มีข้ออ้างอะไรจะแก้ไขจุดนี้ ในกรณีนั้นบ่อยครั้งลูกกลายเป็นโซ่ตรวนคล้องคอ มากกว่าโซ่ทองคล้องใจ จะเลิกก็ไม่ได้ มีห่วงเยอะแยะไปหมด ... ถ้าเราไม่ยอมมีลูกแล้วแฟนเราจะไปมีใคร เราเลิกกับเค้าแน่นอนค่ะ รักได้เลิกได้ ตามที่ตอบไว้ใน คห. 2-4
เราขอเลือกที่จะคิดเยอะๆ จนฟังดูน่ารำคาญไว้ก่อนแล้วกันค่ะในเรื่องการมีลูก (เพราะจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ง่ายๆ เลยนะคะ) อายุเรายังน้อยอยู่ (มั้ง) ยังพอมีเวลาคิดอีกค่ะ ไม่อยากผลีผลาม มาเก็บข้อมูลแต่เนิ่นๆ คงไม่มีอะไรเสียหายเนอะ ตอนนี้เรารู้ตัวเองว่ายังไม่พร้อมเลยเลือกที่จะยึดความคิดเดิม คือไม่อยากมี จะได้ไม่ต้องสร้างประชากรที่มีปัญหาสู่สังคม แต่อนาคตยังไม่แน่นอนค่ะ ซักวันเราอาจตื่นมาแล้วอยากมีก็ได้
ก็ต้องคิดยาวๆ คุยกับแฟนนานๆ ล่ะค่ะ แต่ถ้าจะมีมันต้องมาจากความพร้อมเท่านั้น ถ้ายังคาใจยังรู้สึกติดลบอยู่ เราขอเลือกที่จะยังไม่มีดีกว่า ไม่อยากให้ affect เด็กด้วย
สู้ๆ ค่ะทุกคน