กาลครั้งหนึ่ง ผมเลิกทำฟรีแลนซ์ มาเป็นพนักงานประจำ
สวัสดีครับ ^^
เกริ่น คร่าวๆ ผมเป็นเด็กบ้านนอก ตัวดำๆ เริ่มงานฟรีแลนซ์ครั้งแรกๆ จากการ รับเป็นพี่เลี้ยงค่ายเยาวชน ค่ายอาสา
เริ่มสะสมทักษะให้ตัวเอง เริ่มรับงานเพิ่ม ทำเวที แสง สี เสียง ทำซีเควน ถ่ายภาพ ออกแบบ ขุดดิน ทำบ่อปลา ทำแลป เก็บตัวอย่างวิจัยน้ำ พืช ปลา
จากรับงานรายวัน เป็นเหมาโปรเจค สามวัน สี่วัน หลังๆ รับเป็นปี
เป็นช่วงชีวิตที่สนุกมาก สุดเหวี่ยงที่สุด รายได้เข้ามามาก รายจ่ายก็มาก
ได้ออกไปเห็นโลกกว้าง ระบายสีประเทศไทยได้เกือบครบทุกจังหวัดแล้ว
แต่ เบื่อมั้ย ?
ผมเป็นคนที่คุยกับตัวเองค่อนข้างบ่อย แต่มักไม่ค่อยหาข้อสรุปให้ตัวเองนะ ผมเคยถามตัวเองว่า จะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่
คำตอบคือ ก็ทำไปเรื่อยๆ จะบอกว่าขี้เกียจหางาน มันก็ใช่ ตัวผมไม่เคยสมัครงานที่ไหนเลยนะ เมื่อไหร่ที่ถึงช่วงงานหมด มักจะมีงานใหม่เข้ามาเสมอๆ
จนถึงวันนึง ในช่วงอายุ 29 ผมตัดสินใจหยุดงานฟรีแลนซ์ อยากลองทำงานประจำบ้าง
เลยเลือกหาจากทางเน็ต สมัครงานครั้งแรก จากรุ่นน้องที่มากระจายข่าว เค้าเห็นโปรไฟล์เรา แล้ว...เห้ยยยย โดนเรียกสัมภาษณ์ว่ะ
ดีใจ ตื่นเต้น เขิล แต่มีสติ สัมภาษณ์จบ สอบ Attitude นัดวันให้เราไปตรวจร่างกาย อดข้าว อดน้ำ โดนเจาะเลือด ทุกอย่างครบสมบูรณ์หมด
แต่เค้า ไม่รับ แป่ววววว เพราะ แมนพาวเวอร์ไม่ต้องการคนเพิ่ม (คือไรฟร่ะ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ)
ผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นคือ จนไปพักนึง เพราะแมร่งเหมือนได้แน่ๆ เลยไปถอยเสื้อเชิร์ต กางเกงสแลค รองเท้า ใหม่ครบชุด หลายชุดด้วย
ฟรัคคคคคคค
ไม่เป็นไร เอาใหม่ หางานใหม่ เรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ มาก เทียบกะติดคุกที่อเมริกาแล้ว เด็กๆ
จิ้มครั้งที่ 2 โดนเรียกสัมภาษณ์เหมือนเดิม แต่...สัมภาษณ์ครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนในการย้ายงาน
ผมถูกส่งมาประจำที่โครงการป่าวังจันทร์ ของสถาบันปลูกป่า ปตท. ในฐานะตัวแทนบริษัทซัพฯ
ถูกส่งมาทำงานที่นี่เหมือนถูกหวย คือ 1) ได้กลับบ้าน โดยไม่รู้มาก่อนว่าต้องมาอยู่ไซด์ ระยอง 2) โครงการทำเรื่องฟื้นฟูป่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3) เรามีอิสระจากสำนักงานใหญ่ (พอสมควร)
เริ่มงานครั้งแรก สิ่งที่กังวลที่สุดคือ การตื่นมาทำงาน และ การวนลูปของกิจกรรม ทำงาน กินข้าว ทำงาน กลับบ้าน อยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมๆ
บอกเลยว่ากังวลจริงๆ แต่ชีวิตที่นี ไม่ใช่แบบที่แอบคิดไว้โดยสิ้นเชิง
มาดูสถานที่ทำงานของผมก่อนนะครับ
ผมเริ่มงานตอนปลายฤดูหนาวของปีนี้ ที่นี่อยู่ติดเขาขุนอินทร์ ต้นน้ำของแม่น้ำระยองและแม่น้ำประแสร์
ต้นไม้บนเขายังเขียวให้ความชุ่มชื่น ดูไกลๆ สวยงาน และสมบูรณ์มาก
แต่ความจริง มีต้นไม้ แต่เป็นต้นไม้ที่ไม่มีค่าทางเศรษฐกิจ ส่วนต้นไม้ที่มีค่าเช่นสัก ประดู่ ตะเคียน มีแต่ตอให้เราชื่นชม
กลับมาๆๆ ตั้งใจจะไม่ดราม่าเนอะ บนเขายังพอมีต้นไม้บ้าง เลยยังพอมีหมอกให้เห็นตอนเช้าๆ ถ้าหน้าหนาวก็คลุมทั่วทั้งโครงการ อ๋อยยยยยเลย
อยู่ที่นี่ ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มากขึ้น เป็นเหมือนงานประจำที่ค่อนข้างได้สัมผัสดิน หญ้า ต้นไม้ สัตว์
ได้เห็นนกกระทาทุ่ง พอลูกออกมาหากิน แอบดูนกกระแตแต้แว๊ดกกไข่ และโวยวายใส่เราเวลาเดินไปใกล้รัง เห็นกระต่ายป่าวิ่งดุ๊กๆๆๆๆ ผ่านหน้าไป
แมร่งสบายตามากๆ
เล่าเรื่องสัตว์ป่า ทำให้นึกถึงสัตว์เลี้ยง ในโครงการมีห่าน อยู่ 2 ตัว ชื่อ ทีเวอร์ กะ โมเดล และไก่ชน ที่ไม่มีชื่ออีก 1 ตัว
เรื่องที่อยากเล่าคือ ห่าน 2 ตัว นี้ ถูกเลี้ยงโดย ไก่ชน
จริงๆ ไม่ได้พิมพ์ผิด ไก่ชนตัวผู้ มันโตกว่าห่านเล็กน้อยตอนมันเจอกัน
ทำให้ไอ่ห่าน!! คิดว่าไก่น่าจะเป็นพี่เลี้ยงของมัน มันเลยเดินตามไก่ตลอดเวลา ทำกิริยาเหมือนไก่ คือเดินเอาเท้าผังผืดเขี่ยๆๆ ดิน
เอาปากจิกๆ และที่เป็นไฮไลค์ คือ มันไม่ว่ายน้ำ มันว่ายน้ำไม่เป็นนนนน
ทุกวันนี้ ผมและ คนในโครงการทุกคน พยายามแล้ว เรียกมันไปแถวบ่อน้ำบ้าง โยนผักลงในบ่อบ้าง
ให้เท้ามันแตะๆ น้ำ เผื่อ DNA ตัวไหนของมันที่ระบุว่าเป็นห่านจะตื่นมาบ้าง ทำแม้กระทั้ง อุ้มมันโยนลงน้ำ
มันก็บินขึ้นฝั่งอย่างไวที่สุด
ผมพยายามแล้ว T^T
สงสัยว่า พวกมัน 2 ตัวไม่สงสัยเลยหรอ ว่า ผังพืดที่ตรีนมัน ไม่ได้มีไว้คุ้ยอาหาร T^T
ภาพนี้ถ่ายตอนมันยังเด็ก นะครับ ปัจจุบัน มันอ้วนมากกกกก ไม่รู้ว่ามันสามารถคุ้ยอะไรกินจนอ้วนได้ยังไง
เลิกงานเย็นๆ เราออกกำลังกายกัน
กล้าไม้พยุง
ภาพถ่ายอาคารตอนเย็นๆ
ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องป่าไม้ ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเลือกชนิดพืชที่จะลูก คัดเลือกเมล้ดพันธ์ุ ดูแลกล้าไม้
รวมถึงการเก็บรักษาพันธุกรรมพืช การทำ Herbarium อัดแห้งพันธุ์ไม้ การดอง ฯลฯ
ภาพนี้คือ ใบ และลูกของต้นยางนา
ทุ่งหญ้าก็มา
ภาพเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เด๋วมาดูภาพปัจจุบันครับ
ภาพปัจจุบัน ถึงเวลาก็ต้องไป T^T
ทางเข้าโครงการ เดือนมีนาคม
กระถางจากขุยมะพร้าว เอาไว้สอนเด็กๆ
นกกระแตแต้แว๊ด เอาหินมาเรียงเป็นรัง และฟักไข่
ทุกวันนี้ผมค่อนข้างมีความสุขกับสิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน ค่อนข้างมาก เรากลายเป็นมนุษย์เงินเดือนที่รอวันหยุดก็จริง
แต่ที่ทำงานเรา อยู่ในป่า แวดล้อมด้วยสีเขียว (ที่ตอนนี้เป็นสีเหลืองเพราะแล้ง) มีต้นไม้ให้ดู มีกล้าให้เห็นการเจริญเติบโต
ไหนจะลูกนก ที่พึ่งออกมาดูโลก วิ่งตามพ่อแม่มันเต็มไปหมด ผมอยากใช้เวลาเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบนี้ไปก่อน
อยากใช้ช่วงชีวิตอยู่แบบนี้ไปสักพัก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ยังไม่มีกำหนด
^^
กาลครั้งหนึ่ง ผมเลิกทำฟรีแลนซ์ มาเป็นพนักงานประจำ
สวัสดีครับ ^^
เกริ่น คร่าวๆ ผมเป็นเด็กบ้านนอก ตัวดำๆ เริ่มงานฟรีแลนซ์ครั้งแรกๆ จากการ รับเป็นพี่เลี้ยงค่ายเยาวชน ค่ายอาสา
เริ่มสะสมทักษะให้ตัวเอง เริ่มรับงานเพิ่ม ทำเวที แสง สี เสียง ทำซีเควน ถ่ายภาพ ออกแบบ ขุดดิน ทำบ่อปลา ทำแลป เก็บตัวอย่างวิจัยน้ำ พืช ปลา
จากรับงานรายวัน เป็นเหมาโปรเจค สามวัน สี่วัน หลังๆ รับเป็นปี
เป็นช่วงชีวิตที่สนุกมาก สุดเหวี่ยงที่สุด รายได้เข้ามามาก รายจ่ายก็มาก
ได้ออกไปเห็นโลกกว้าง ระบายสีประเทศไทยได้เกือบครบทุกจังหวัดแล้ว
แต่ เบื่อมั้ย ?
ผมเป็นคนที่คุยกับตัวเองค่อนข้างบ่อย แต่มักไม่ค่อยหาข้อสรุปให้ตัวเองนะ ผมเคยถามตัวเองว่า จะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่
คำตอบคือ ก็ทำไปเรื่อยๆ จะบอกว่าขี้เกียจหางาน มันก็ใช่ ตัวผมไม่เคยสมัครงานที่ไหนเลยนะ เมื่อไหร่ที่ถึงช่วงงานหมด มักจะมีงานใหม่เข้ามาเสมอๆ
จนถึงวันนึง ในช่วงอายุ 29 ผมตัดสินใจหยุดงานฟรีแลนซ์ อยากลองทำงานประจำบ้าง
เลยเลือกหาจากทางเน็ต สมัครงานครั้งแรก จากรุ่นน้องที่มากระจายข่าว เค้าเห็นโปรไฟล์เรา แล้ว...เห้ยยยย โดนเรียกสัมภาษณ์ว่ะ
ดีใจ ตื่นเต้น เขิล แต่มีสติ สัมภาษณ์จบ สอบ Attitude นัดวันให้เราไปตรวจร่างกาย อดข้าว อดน้ำ โดนเจาะเลือด ทุกอย่างครบสมบูรณ์หมด
แต่เค้า ไม่รับ แป่ววววว เพราะ แมนพาวเวอร์ไม่ต้องการคนเพิ่ม (คือไรฟร่ะ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ)
ผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นคือ จนไปพักนึง เพราะแมร่งเหมือนได้แน่ๆ เลยไปถอยเสื้อเชิร์ต กางเกงสแลค รองเท้า ใหม่ครบชุด หลายชุดด้วย
ฟรัคคคคคคค
ไม่เป็นไร เอาใหม่ หางานใหม่ เรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ มาก เทียบกะติดคุกที่อเมริกาแล้ว เด็กๆ
จิ้มครั้งที่ 2 โดนเรียกสัมภาษณ์เหมือนเดิม แต่...สัมภาษณ์ครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนในการย้ายงาน
ผมถูกส่งมาประจำที่โครงการป่าวังจันทร์ ของสถาบันปลูกป่า ปตท. ในฐานะตัวแทนบริษัทซัพฯ
ถูกส่งมาทำงานที่นี่เหมือนถูกหวย คือ 1) ได้กลับบ้าน โดยไม่รู้มาก่อนว่าต้องมาอยู่ไซด์ ระยอง 2) โครงการทำเรื่องฟื้นฟูป่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3) เรามีอิสระจากสำนักงานใหญ่ (พอสมควร)
เริ่มงานครั้งแรก สิ่งที่กังวลที่สุดคือ การตื่นมาทำงาน และ การวนลูปของกิจกรรม ทำงาน กินข้าว ทำงาน กลับบ้าน อยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมๆ
บอกเลยว่ากังวลจริงๆ แต่ชีวิตที่นี ไม่ใช่แบบที่แอบคิดไว้โดยสิ้นเชิง
มาดูสถานที่ทำงานของผมก่อนนะครับ
ผมเริ่มงานตอนปลายฤดูหนาวของปีนี้ ที่นี่อยู่ติดเขาขุนอินทร์ ต้นน้ำของแม่น้ำระยองและแม่น้ำประแสร์
ต้นไม้บนเขายังเขียวให้ความชุ่มชื่น ดูไกลๆ สวยงาน และสมบูรณ์มาก
แต่ความจริง มีต้นไม้ แต่เป็นต้นไม้ที่ไม่มีค่าทางเศรษฐกิจ ส่วนต้นไม้ที่มีค่าเช่นสัก ประดู่ ตะเคียน มีแต่ตอให้เราชื่นชม
กลับมาๆๆ ตั้งใจจะไม่ดราม่าเนอะ บนเขายังพอมีต้นไม้บ้าง เลยยังพอมีหมอกให้เห็นตอนเช้าๆ ถ้าหน้าหนาวก็คลุมทั่วทั้งโครงการ อ๋อยยยยยเลย
อยู่ที่นี่ ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มากขึ้น เป็นเหมือนงานประจำที่ค่อนข้างได้สัมผัสดิน หญ้า ต้นไม้ สัตว์
ได้เห็นนกกระทาทุ่ง พอลูกออกมาหากิน แอบดูนกกระแตแต้แว๊ดกกไข่ และโวยวายใส่เราเวลาเดินไปใกล้รัง เห็นกระต่ายป่าวิ่งดุ๊กๆๆๆๆ ผ่านหน้าไป
แมร่งสบายตามากๆ
เล่าเรื่องสัตว์ป่า ทำให้นึกถึงสัตว์เลี้ยง ในโครงการมีห่าน อยู่ 2 ตัว ชื่อ ทีเวอร์ กะ โมเดล และไก่ชน ที่ไม่มีชื่ออีก 1 ตัว
เรื่องที่อยากเล่าคือ ห่าน 2 ตัว นี้ ถูกเลี้ยงโดย ไก่ชน
จริงๆ ไม่ได้พิมพ์ผิด ไก่ชนตัวผู้ มันโตกว่าห่านเล็กน้อยตอนมันเจอกัน
ทำให้ไอ่ห่าน!! คิดว่าไก่น่าจะเป็นพี่เลี้ยงของมัน มันเลยเดินตามไก่ตลอดเวลา ทำกิริยาเหมือนไก่ คือเดินเอาเท้าผังผืดเขี่ยๆๆ ดิน
เอาปากจิกๆ และที่เป็นไฮไลค์ คือ มันไม่ว่ายน้ำ มันว่ายน้ำไม่เป็นนนนน
ทุกวันนี้ ผมและ คนในโครงการทุกคน พยายามแล้ว เรียกมันไปแถวบ่อน้ำบ้าง โยนผักลงในบ่อบ้าง
ให้เท้ามันแตะๆ น้ำ เผื่อ DNA ตัวไหนของมันที่ระบุว่าเป็นห่านจะตื่นมาบ้าง ทำแม้กระทั้ง อุ้มมันโยนลงน้ำ
มันก็บินขึ้นฝั่งอย่างไวที่สุด
ผมพยายามแล้ว T^T
สงสัยว่า พวกมัน 2 ตัวไม่สงสัยเลยหรอ ว่า ผังพืดที่ตรีนมัน ไม่ได้มีไว้คุ้ยอาหาร T^T
ภาพนี้ถ่ายตอนมันยังเด็ก นะครับ ปัจจุบัน มันอ้วนมากกกกก ไม่รู้ว่ามันสามารถคุ้ยอะไรกินจนอ้วนได้ยังไง
เลิกงานเย็นๆ เราออกกำลังกายกัน
กล้าไม้พยุง
ภาพถ่ายอาคารตอนเย็นๆ
ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องป่าไม้ ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเลือกชนิดพืชที่จะลูก คัดเลือกเมล้ดพันธ์ุ ดูแลกล้าไม้
รวมถึงการเก็บรักษาพันธุกรรมพืช การทำ Herbarium อัดแห้งพันธุ์ไม้ การดอง ฯลฯ
ภาพนี้คือ ใบ และลูกของต้นยางนา
ทุ่งหญ้าก็มา
ภาพเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เด๋วมาดูภาพปัจจุบันครับ
ภาพปัจจุบัน ถึงเวลาก็ต้องไป T^T
ทางเข้าโครงการ เดือนมีนาคม
กระถางจากขุยมะพร้าว เอาไว้สอนเด็กๆ
นกกระแตแต้แว๊ด เอาหินมาเรียงเป็นรัง และฟักไข่
ทุกวันนี้ผมค่อนข้างมีความสุขกับสิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน ค่อนข้างมาก เรากลายเป็นมนุษย์เงินเดือนที่รอวันหยุดก็จริง
แต่ที่ทำงานเรา อยู่ในป่า แวดล้อมด้วยสีเขียว (ที่ตอนนี้เป็นสีเหลืองเพราะแล้ง) มีต้นไม้ให้ดู มีกล้าให้เห็นการเจริญเติบโต
ไหนจะลูกนก ที่พึ่งออกมาดูโลก วิ่งตามพ่อแม่มันเต็มไปหมด ผมอยากใช้เวลาเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบนี้ไปก่อน
อยากใช้ช่วงชีวิตอยู่แบบนี้ไปสักพัก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ยังไม่มีกำหนด
^^