เมื่อเสมือน เพื่อนพ้อง............พวกใคร
ก็พร้อมร่วม ยกไป.................ปกป้อง
พฤติกรรม ดีร้าย....................หาใส่ ใจแฮ
รู้แค่เพียง ร่ำร้อง...................กู่ก้องพวกกู
ใครขัดแย้ง ขู่กร้าว................เพื่อนกู
มันก็เป็น ศัตรู.......................กูด้วย
ใครส่งเสริม เชิดชู.................อีกฝ่าย หนึ่งนา
อาฆาตสาป แช่งม้วย.............หมดสิ้นพวกมัน
ผมหายหน้าหายตาไปสักพัก เพราะภาระกิจการงาน และกลับบ้านที่ต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลับมาคราวนี้ ก็เห็นประเด็นร้อนๆในราชดำเนิน ที่จะฟ้องร้องกัน ก็ลองตามไปอ่าน ตามไปดูจากลายแทงที่แต่ล่ะฝ่ายให้มา ก็พอเข้าใจเรื่องราวได้คร่าวๆ
ซึ่งผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
แต่ขอจับประเด็นเรื่องราวของฝ่ายสนับสนุนทั้งสองฝ่าย มาแต่งโคลงสะท้อนความเป็นจริงที่น่าตกใจของความเชื่อในสังคมการเมืองไทย เพราะหากสังคมการเมือง ไม่ใช้คำว่า "
พวกเรา พวกมัน" มาแบ่งแยกคนไทยกันเอง ป่านนี้บ้านเมืองเราพัฒนารุดหน้าไปอยู่ระดับต้นๆของเอเซียแล้ว
หลายๆครั้ง หลายๆเหตุการณ์ในแวดวงการเมือง ก็ปรากฏความจริงให้ทราบในภายหลังว่า การก่อกระแสสนับสนุนหรือคัดค้านบางอย่างนั้น มันเป็นเรื่องผิด ที่มาจากผู้หวังผลทางการเมืองบางกลุ่มเท่านั้นเอง แต่ก่อผลเสียหายอย่างใหย่หลวงทำให้ประเทศสูญเสียโอกาศในการพัฒนา
ในทางการเมือง พวกเราที่เข้ามาในราชดำเนินแห่งนี้ หลายๆคน ก็มีความรู้ความสามารถ ที่จะตั้งกะทู้วิเคราะห์ เหตุผลข้อมูล เพื่อระบุหาตัว "
ไอ้โม่ง" ที่อยู่เบื้องหลังในการสร้าางกระแสได้ และทำการประนามคนเหล่านั้นที่ทำให้ชาติเสียโอกาศ
บอร์ดราชดำเนินก็เช่นกัน ที่มีการสร้างกระแสจากประเด็นความขัดแย้งส่วนบุคคล ก็มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นับแค่เฉพาะช่วงเวลาที่ผมอยู่มาในบอร์ดนี้ ร่วมๆสิบปี ก็มีอยู่ตลอด
แต่แล้วทำไม เราหลายๆคนก็มองออกว่า ในราชดำเนินก็มี "ไอ้โม่ง" ที่ฉกฉวยโอกาศสร้างกระแส พยายามทำเรื่องแบบนี้ให้เป้น น้ำผึ้งหยดเดียว ที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือของบอร์ดแห่งนี้ไป แต่กลับนิ่งเฉยไม่ประนามคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้
ตอนก่อนจะไปทำงาน ผมว่าบอร์ดแห่งนี้ "
เสื่อม"มนต์ขลังของสถานที่แลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมืองไปแล้ว
ตอนกลับมาครั้งนี้ ผมว่าบอร์ดแห่งนี้ กำลัง"
ทรุด"ด้วยความคึกคะนองของคนที่ไม่รู้จักควบคุมตนเอง ในการแสดงความเห็นในที่สาธารณะ
เศร้าใจครับ
โคลงสี่สุภาพ.....พวก (ความจริงในสังคมการเมือง ความจริงของนิสัยคนไทย)
ก็พร้อมร่วม ยกไป.................ปกป้อง
พฤติกรรม ดีร้าย....................หาใส่ ใจแฮ
รู้แค่เพียง ร่ำร้อง...................กู่ก้องพวกกู
ใครขัดแย้ง ขู่กร้าว................เพื่อนกู
มันก็เป็น ศัตรู.......................กูด้วย
ใครส่งเสริม เชิดชู.................อีกฝ่าย หนึ่งนา
อาฆาตสาป แช่งม้วย.............หมดสิ้นพวกมัน
ผมหายหน้าหายตาไปสักพัก เพราะภาระกิจการงาน และกลับบ้านที่ต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลับมาคราวนี้ ก็เห็นประเด็นร้อนๆในราชดำเนิน ที่จะฟ้องร้องกัน ก็ลองตามไปอ่าน ตามไปดูจากลายแทงที่แต่ล่ะฝ่ายให้มา ก็พอเข้าใจเรื่องราวได้คร่าวๆ
ซึ่งผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
แต่ขอจับประเด็นเรื่องราวของฝ่ายสนับสนุนทั้งสองฝ่าย มาแต่งโคลงสะท้อนความเป็นจริงที่น่าตกใจของความเชื่อในสังคมการเมืองไทย เพราะหากสังคมการเมือง ไม่ใช้คำว่า "พวกเรา พวกมัน" มาแบ่งแยกคนไทยกันเอง ป่านนี้บ้านเมืองเราพัฒนารุดหน้าไปอยู่ระดับต้นๆของเอเซียแล้ว
หลายๆครั้ง หลายๆเหตุการณ์ในแวดวงการเมือง ก็ปรากฏความจริงให้ทราบในภายหลังว่า การก่อกระแสสนับสนุนหรือคัดค้านบางอย่างนั้น มันเป็นเรื่องผิด ที่มาจากผู้หวังผลทางการเมืองบางกลุ่มเท่านั้นเอง แต่ก่อผลเสียหายอย่างใหย่หลวงทำให้ประเทศสูญเสียโอกาศในการพัฒนา
ในทางการเมือง พวกเราที่เข้ามาในราชดำเนินแห่งนี้ หลายๆคน ก็มีความรู้ความสามารถ ที่จะตั้งกะทู้วิเคราะห์ เหตุผลข้อมูล เพื่อระบุหาตัว "ไอ้โม่ง" ที่อยู่เบื้องหลังในการสร้าางกระแสได้ และทำการประนามคนเหล่านั้นที่ทำให้ชาติเสียโอกาศ
บอร์ดราชดำเนินก็เช่นกัน ที่มีการสร้างกระแสจากประเด็นความขัดแย้งส่วนบุคคล ก็มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นับแค่เฉพาะช่วงเวลาที่ผมอยู่มาในบอร์ดนี้ ร่วมๆสิบปี ก็มีอยู่ตลอด
แต่แล้วทำไม เราหลายๆคนก็มองออกว่า ในราชดำเนินก็มี "ไอ้โม่ง" ที่ฉกฉวยโอกาศสร้างกระแส พยายามทำเรื่องแบบนี้ให้เป้น น้ำผึ้งหยดเดียว ที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือของบอร์ดแห่งนี้ไป แต่กลับนิ่งเฉยไม่ประนามคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้
ตอนก่อนจะไปทำงาน ผมว่าบอร์ดแห่งนี้ "เสื่อม"มนต์ขลังของสถานที่แลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมืองไปแล้ว
ตอนกลับมาครั้งนี้ ผมว่าบอร์ดแห่งนี้ กำลัง"ทรุด"ด้วยความคึกคะนองของคนที่ไม่รู้จักควบคุมตนเอง ในการแสดงความเห็นในที่สาธารณะ
เศร้าใจครับ