ถึงเวลารึยัง กับ รถหรูคันโก้ สู่ อีโคคาร์ เพื่อ โลก จากค่านิยม ของความหล่อ สู่ค่านิยม เพื่อโลก

ค่านิยมที่ควรเปลี่ยน
เรื่องเริ่มจาก ผม เคยใช้ รถ ฮอนด้า แอคคอร์ด แต่แล้ววันนึง ก็ เกิดความคิดอยากเปลี่ยน
จนปัจจุบัน ได้รถ มิราจ ซึ่งเป็นรถ อีโค คาร์ คันกะเปี้ยก เร่งสูงสุด ราว 120 ก็ เริ่มสั่น งึกๆ แต่ รู้อะไร ไหม
ผมกับชอบรถคันนี้มากกว่า แอคคอร์ แคมรี่ ฟอจูนเนอ ที่เคยๆ ใช้มาทั้งหมด และผม ก็อยากชวน ทุกคนที่ได้อ่าน บทความนี้ มาสนับสนุน หรือ เปลี่ยน
เปลี่ยนค่านิยม มาใช้ อีโค คาร์กันเถอะ
------------------
เริ่มจาก ลักษณะ ความยาว รถ  หน่วย มิลลิเมตร
อีโค คาร์
มิราจ 3710
มาช 3780
บริโอ 3780
สวิฟ 3850
C-Segment
อัลติส ยาว 4540  
ซีวิค ยาว 4525
D-Segment
แอคคอร์ด 4930
แคมรี่ 4850
---------------------------



ดู มิติรถ แล้วอาจจะยังมอง ภาพไม่ออก ลองนึก ถึง ถนน เส้น สุขุมวิท ซอย 1 ถึง ซอย สุขุมวิท 55 ทองหล่อ ระยะ 3800 เมตร
ปล. สมมุติไม่คิด ระยะห่าง ของแต่ละคัน กับแยกไฟแดง เน้อะ คิดขำๆ อย่า คิดเยอะ
ถ้า บน ถนน มีแต่ อีโคคาร์ เฉลี่ย ความยาว 3.8 เมตร ได้ 1000 คัน
ถ้า บน ถนน มีแต่ C-Segment เฉลี่ย ความยาว 4.5 เมตร ได้ 844คัน หรือต้องใช้ ถนน ยาว 4500 เมตร เท่ากับ ซอย 1 ถึง ซอย 63 รถติดยาวไป อีก 1 แยก ใหญ่
ถ้า บน ถนน มีแต่ D-Segment เฉลี่ย ความยาว 4.85 เมตร ได้ 783 คัน หรือต้องใช้ ถนน ยาว 4850 เมตร เท่ากับ ซอย 1 ถึง ซอย 65 รถติดยาวไป อีก 1 แยก ใหญ่ + ซอย ย่อยๆ อีก หน่อย

****ใช่แล้วครับ อีโคคาร์ บนถนน 3.8 กิโลเมตร หรือ 1000 คัน สามารถ ลดระยะ ทาง ได้มากกว่า รถ d segment ถึง 1 กิโลเมตร****
นี้แค่ระยะ เล็กๆ 3-4 กิโลแล้วใน กทมที่ มี ถนน ราว 5000-6000 กิโล เมตร สมมุติ เลข กลมๆ ที่ 6000กิโล หรือ 6000000 เมตร จะสามารถ รองรับ อีโคคาร์ 157,894 คัน : C-Segment 133,333 คัน : D-Segment 123,711 คัน


***ถ้าคนใน กทม ใช้ อีโคคาร์ กัน หมด จะ สามารถ ใช้รถ ได้มากกว่า D segment ถึง 30,000 คันเลย ทีเดียว หรือ ประหยัด พื้นที่บน ถนน ได้ถึง 145,000 เมตร หรือ 145 กิโลเมตร นั้นหมายถึง จาก อนุเสาวรีชัยสมรภูมิถึง มวกเหล็ก กันเลยทีเดียว****


ต่อไป เรื่องพลังงาน ดูบ้าง สมมุติ รถ ที่ความ เร็ว 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
อีโคคาร์ เครื่อง 1200-1500 เฉลี่ยประมาณ 15 กิโลเมตร ต่อลิตร 1 ชั่วโมง ใช้ น้ำมัน 5.33 ลิตร
ซี เครื่อง 1600-2000 เฉลี่ยประมาณ 12 กิโล เมตรต่อลิตร 1 ชั่วโมง ใช้น้ำมัน 6.6 ลิตร
ดี เครื่อง 2400-3000 เฉลี่ย ประมาณ 10 กิโลเมตร ต่อลิตร 1 ชั่ว โมงใช้น้ำมัน 8 ลิตร
ถ้ารถ 100,000 คัน ใน กทม ล่ะ น้ำมัน e20 ณ วันที่ เขียน ข้อมูล 21.24 บาทต่อลิตร
อีโค ใช้น้ำมัน 5.3 * 100,000 เท่ากับ 530000 ลิตร มูลค่า 11,257,200 บาท
ซี ใช้น้ำมั้น 6.6 * 100,000 เท่ากับ 660000 ลิตร มูลค่า 14,018,400 บาท
ดี ใช้น้ำมัน 8* 100,000 เท่ากับ 800000 ลิตร มูลค่า 16,992,000 บาท

****และก็อีกแหละครับ นี้แค่ รถ 100,000 คัน ใน 1 ชั่วโมง รถ อีโคคาร์ สามารถ ประหยัด กว่า D segment ถึง 5 ล้านบาท
หรือ 120 ล้านบาท ใน 24 ชั่ว โมง และ 3 พันกว่าล้าน ใน 1 เดือน*****

ยังไม่ได้ พูดถึงเรื่อง co2 ที่เกิด ขึ้น มลพิษที่เกิด ขึ้น ปล. อยากพูด แต่ไม่รู้จะไปเอาข้อมูล ของรถ แต่ละคันจากไหน หากมีเพื่อ สมาชิกใด พอหาข้อมูลด้วย ช่วย ด้วยครับ****


ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ควรจะเปลี่ยน ค่านิยม ของ คนกรุงเทพ ที่ ขับรถออกจากบ้านไปทำงาน แล้วก็ กลับบ้าน ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องมี รถใหญ่ๆ ไว้วิ่ง ข้ามจังหวัด หรือ แม้แต่คนที่มี ฐานะ พอที่จะ ซื้อรถ ได้หลายๆ คัน เลิก ใช้รถ คราส ซี หรือ ดี ในเมืองกรุง เถอะครับ นอกจากจะ หล่อหรู แล้วก็ ไม่ได้ช่วย อะไรกับ สังคมเท่าไหร่

+++++
เปลี่ยน รถหรูคันโก้ โออ่า สู่ อีโคคา คันจ้อย แต่ สามาถ ช่วย ชาติช่วยโลก และช่วยเงินในกระเป๋าเราได้จำนวนมาก
น่าจะถึงเวลาแล้วที่ จะมาให้ความสำคัญ ให้คุณค่ากับ คนที่ ใช้อีโคคาร์ เพราะเค้าคือ คนที่ ช่วยประเทศชาติ และโลกของเรา ตัวจริง.............
ท้ายสุด ไม่ได้ เขียนบทความนี้เพื่อ ให้คน 1 แสนคน คิดแบบ ผม แค่อยากให้ คุณได้คิดตาม และเมื่อไหร่ ที่คุณเปลี่ยน หมายถึงว่า คุณ ได้เป็น 1 ในส่วน การ ช่วย ลดภาระ รถติด บนท้องถนน ลง 1 เมตร และ ช่วย ประหยัดพลังงาน ชั่วโมงละ 20 บาท