1. ปฏิกิริยาระหว่างยาต้านไวรัส กับ ยาอื่นๆ
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง จนถึงระดับหนึ่ง อาจติดเชื้อแทรกซ้อนได้ เช่น เชื้อรา เชื้อวัณโรค ฯลฯ ยาที่ใช้รักษาเชื้อแทรกซ้อนเหล่านี้ รวมทั้งยาอื่นๆ ที่ใช้ร่วม อาจมีผลต่อระดับยาต้านไวรัส HIV ในเลือดได้ ยกตัวอย่างเช่น
• ยาต้านเชื้อรา ได้แก่ Ketoconazole, Itraconazole มีผลเพิ่มระดับยาต้านไวรัสในเลือด
• ยาต้านเชื้อวัณโรค ได้แก่ Rifampin มีผลลดระดับยาต้านไวรัสในเลือด
• ยารักษาไมเกรน ได้แก่ Ergotamine ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาต้านไวรัส HIV เพราะมีผลทำให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณปลายมือปลายเท้าลดลง
• ยานอนหลับ ได้แก่ Midazolam, Triazolam มีผลทำให้ฤทธิ์ยานอนหลับยาวนานขึ้น
2. ปฏิกิริยาระหว่างยาต้านไวรัส กับ อาหาร
2.1 ยาต้านไวรัสกลุ่ม NRTIs
ผลที่เกิดขึ้น อาหารลดระดับยาในเลือดลงร้อยละ 55
คำแนะนำในการใช้ยา รับประทานก่อนอาหารหนึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
2.2 ยาต้านไวรัสกลุ่มกลุ่ม PIs
ผลที่เกิดขึ้น อาหารลดระดับยาในเลือดลงร้อยละ 77
คำแนะนำในการใช้ยา รับประทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือ หลังอาหาร 2 ชั่วโมง
2.3 ยาต้านไวรัส กลุ่ม NNRTIs
ผลที่เกิดขึ้น อาหารที่มีไขมันสูงจะเพิ่มระดับยาในเลือด ร้อยละ 50 ซึ่งอาจทำให้เกิดพิษจากยาได้
คำแนะนำในการใช้ยา ไม่ควรรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันสูง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก rxrama.com

Report by LIV APCO
ปฏิกิริยาระหว่าง ยาต้านไวรัส กับ อาหารและยาอื่นๆ
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง จนถึงระดับหนึ่ง อาจติดเชื้อแทรกซ้อนได้ เช่น เชื้อรา เชื้อวัณโรค ฯลฯ ยาที่ใช้รักษาเชื้อแทรกซ้อนเหล่านี้ รวมทั้งยาอื่นๆ ที่ใช้ร่วม อาจมีผลต่อระดับยาต้านไวรัส HIV ในเลือดได้ ยกตัวอย่างเช่น
• ยาต้านเชื้อรา ได้แก่ Ketoconazole, Itraconazole มีผลเพิ่มระดับยาต้านไวรัสในเลือด
• ยาต้านเชื้อวัณโรค ได้แก่ Rifampin มีผลลดระดับยาต้านไวรัสในเลือด
• ยารักษาไมเกรน ได้แก่ Ergotamine ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาต้านไวรัส HIV เพราะมีผลทำให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณปลายมือปลายเท้าลดลง
• ยานอนหลับ ได้แก่ Midazolam, Triazolam มีผลทำให้ฤทธิ์ยานอนหลับยาวนานขึ้น
2. ปฏิกิริยาระหว่างยาต้านไวรัส กับ อาหาร
2.1 ยาต้านไวรัสกลุ่ม NRTIs
ผลที่เกิดขึ้น อาหารลดระดับยาในเลือดลงร้อยละ 55
คำแนะนำในการใช้ยา รับประทานก่อนอาหารหนึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
2.2 ยาต้านไวรัสกลุ่มกลุ่ม PIs
ผลที่เกิดขึ้น อาหารลดระดับยาในเลือดลงร้อยละ 77
คำแนะนำในการใช้ยา รับประทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือ หลังอาหาร 2 ชั่วโมง
2.3 ยาต้านไวรัส กลุ่ม NNRTIs
ผลที่เกิดขึ้น อาหารที่มีไขมันสูงจะเพิ่มระดับยาในเลือด ร้อยละ 50 ซึ่งอาจทำให้เกิดพิษจากยาได้
คำแนะนำในการใช้ยา ไม่ควรรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันสูง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก rxrama.com
Report by LIV APCO