สวัสดีครับ
สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือน มีนาคม 2016 ที่ผ่านมาได้ผมได้มีโอกาสไปเยือน Sydney โดยบังเอิญ และเป็นการไป Australia ครั้งแรกด้วย ดังนั้นผมจึงตัดสินใจอยู่เที่ยวต่อสักหน่อยหลังจากเสร็จธุระ เนื่องจากผมต้องบินไป-กลับที่ Sydney เท่านั้น ผมเลยหาข้อมูลที่เที่ยวแต่เฉพาะบริเวณ Sydney ด้วยเวลาที่มีผมก็เลือกที่จะเที่ยวในตัวเมือง หาด Mandy หาด Bondi แล้วก็ Blue mountain ครับ ซึ่งผมก็ใช้บางกระทู้ใน pantip เป็นข้อมูลอ้างอิงการไปตามสถานที่ต่างๆที่เลือกไว้ ซึ่งก็ใช้ได้ดีครับจะมีปัญหาก็ที่ Blue mountain นี่ละครับที่ผมค่อนข้างสับสนนิดหน่อย ผมก็เลยไปหาข้อมูลของต่างประเทศบ้าง ซึ่งก็น่าแปลกที่ข้อมูลไม่ค่อย update และละเอียดเท่าไหร่ (ที่ว่าหาข้อมูลนี่เอาจริงๆก็ไม่ได้ละเอียดอะไรมากครับออกแนวอ่านพอเป็นแนวทางแล้วไปด้นสดเอาหน้างาน อารมณ์สนุกลุ้นๆไปอีกแบบ)
จากการที่ผมเพิ่งได้ไปมาสิ่งที่เปลี่ยนไปจากข้อมูลในกระทู้ที่ชัดเจนเลยก็เรื่องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะนี่ล่ะครับ
โดยบัตรโดยสารประเภท My multi 1, 2, 3 รายสัปดาห์ที่กระทู้ส่วนมากแนะนำให้ใช้ ตอนนี้ไม่มีแล้วนะครับ โดยเพิ่งมีการประกาศยกเลิกไปเมื่อต้นปี 2016 นี้เอง
อ้างอิง
http://www.transportnsw.info/en/tickets/tickets-opal-fares/ticket-retirement.page?
บัตรโดยสารที่ใช้กันหลักๆก็คือ Opal card ครับซื้อได้ที่สนามบินเลยผมซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ WH Smith ครับ โดย Opal card เคยมีคนรีวิวไว้แล้ว ผลประโยชน์หลักๆก็ ค่าเดินทางวันธรรมดาสูงสุดวันละ 15 AUD ค่าเดินทางวันอาทิตย์สูงสุด 2.5 AUD เกินจากนั้นฟรี ภายใน 1 อาทิตย์เดินทางมากกว่า 8 รอบขึ้นไปค่าโดยสารต่อจากนั้นฟรี (มีกฎการนับอยู่นะครับ) โดยเราสามารถเข้าไปตรวจสอบ activity ว่าเดินทางไปแล้วกี่รอบ เหลือเงินเท่าไหร่ได้ในเว็บไซต์ของเค้าตามลิงค์นี้เลยครับ
https://www.opal.com.au/
บัตร opal สามารถใช้ได้ในการเดินทางเกือบทุกประเภทในแถบ NSW รวมทั้งรถไฟที่ออกจากสนามบินด้วย ทั้งนี้การที่เราเข้าออกสนามบินต้องเตรียมเงินเผื่อไว้ด้วยครับ เพราะทางสนามบินจะหักค่าธรรมเนียมในอัตราผู้ใหญ่ครั้งละ 13.4 AUD ไม่ว่าจะเข้าหรืออกจากสนามบินทั้ง domestic และ international flight และค่าธรรมเนียมสนามบินจะไม่สามารถนำไปนับร่วมกับค่าโดยสารจริงๆเพื่อคำนวณผลประโยชน์พิเศษของ Opal card ได้ เช่นสมมติเรานั่งรถไฟจากสนามบินไปโรงแรม สมมติ 3.6 AUD รวมกับค่าธรรมเนียมเป็น 17 AUD กรณีนี้ไม่ถือว่าโดยสารประจำวันเกิน 15 AUD นะครับเพราะเราเสียค่ารถจริงๆแค่ 3.6 เหรียญ ถ้าไปกลับสนามบินก็ขอให้เผื่อเงินค่าธรรมเนียมนี้ไว้ด้วยนะครับจะได้ไม่ลำบากเพราะออกจากสถานีไม่ได้ ต้องไปติดต่อพนักงาน เติมเงินเพิ่มทั้งๆที่ลากกระเป๋าไปด้วยให้วุ่นวาย แล้วทุกท่านก็สามารถเข้าไปตรวจสอบค่าโดยสารล่วงหน้าก่อนได้นะครับเพราะค่าเดินทางที่นี่แตกต่างกันไปตามเวลาการเดินทางด้วยโดยถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าหรือเย็นหลังเลิกงานก็จะมีราคาแพงขึ้นมาหน่อย ตรวจสอบค่าเดินทางตามเวลาได้ในลิงค์นี้ครับ
http://www.transportnsw.info/ ใช้แทน Google ได้เหมือนกันครับและเลือกได้เลยว่าจะเดินทางด้วยยานพาหนะประเภทไหน
มาต่อกันที่การไปเที่ยว Blue mountain เลยนะครับ
การเดินทางไปเที่ยวที่ Blue mountain นี่ส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางจาก Sydney ไปกันก็จะนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Katoomba ก่อนนะครับ ซึ่งตรงนี้ยังสามารถเดินทางด้วย opal card ได้อยู่ครับโดยเราจะต้องไปนั่งรถไฟออกจากตัวเมืองจาก Central station ไป Katoomba station ด้วยรถไฟ Blue mountain line ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทาง รถไฟออกทุกครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงนะครับแล้วแต่ช่วงเวลาตอนเช้าจะมีขบวนถี่หน่อย สามารถเข้าไปเช็คเวลาเดินรถได้ตามลิงค์ที่ให้ไว้ข้างบน หรือใครถนัด Google map ก็ตามสะดวกครับ
ที่นี่พอเรามาถึงสถานี Katoomba แล้วเราจะไป Bluemountains ต่ออย่างไรนี่ล่ะครับที่ผมค่อนข้างสับสนในตอนแรก จากการอ่านตามกระทู้ก็ได้ความว่าการเที่ยวที่ Blue mountain นี้เราจะต้องนั่งรถไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ อันได้แก่ จุดชมวิว จุดให้บริการรถกระเช้า รถราง จุดเดินป่า ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก มีบางกระทู้ที่แนะนำให้ใช้บัตร iventure card ที่สามารถเลือก Blue mountain explorer bus ได้ แต่ส่วนตัวผมไปไม่ถึง 3 ที่ตามที่ให้เลือกขั้นต่ำใน iventure card (105 AUD สำหรับบัตรแบบ 3 ที่เที่ยว) ผมเลยลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเฉพาะของ Blue mountains explorer bus
http://www.explorerbus.com.au/index.html ซึ่งก็มีให้เลือก 3 แบบ ว่าจะนั่งรถส่งตามจุดต่างๆรอบเมืองอย่างเดียว นั่งรถ+กระเช้าและรถราง หรือ แบบรวมค่าเข้า Aboriginal centre ด้วย ซึ่งราคาก็ไม่ใช่เล่น 44, 83, 98 AUD ตามลำดับ ด้วยความที่เป็นวันท้ายๆแล้วเงินในกระเป๋าเริ่มร่อยหรอ ผมเลยหาข้อมูลเพิ่มดูว่ามีอะไรที่พอจะช่วยให้ประหยัดได้มากกว่านี้หรือเปล่าก็มาเจอว่ามีผู้ให้บริการรถบัสนำเที่ยวอีกเจ้าหนึ่งคือ Blue mountains trolley tours
http://www.trolleytours.com.au/ ซึ่งรูปแบบคล้ายๆกันกับเจ้าแรก จำนวนป้ายที่รถจอดก็เท่ากันที่ 29 ป้าย แต่ราคาต่างกันพอสมควรโดยคิดราคาค่ารถรอบเมืองที่ 25 AUD ค่ารถ+กระเช้าและรถรางที่ 64 AUD เทียบกับเจ้าแรกที่ราคา 44, 83 AUD ตามลำดับก็ถือว่าราคาเป็นมิตรกว่ากันพอสมควร ผมก็สงสัยว่าทำไมมันต่างกันได้ขนาดนี้พอลองอ่านเพิ่มเติมดูก็พบว่าต่างกัน ต่างกันนิดหน่อยที่เวลาเดินรถซึ่งเจ้า Explorer จะมาทุกครึ่งชั่วโมง ขณะที่ trolley tours จะประมาณทุกชั่วโมง แต่เจ้า Trolley tours นี้มีรายละเอียดจุดจอดเป็นภาษาไทยด้วยนะครับตามลิงค์นี้
http://www.trolleytours.com.au/links/language-guides/Tha_TrolleyWelcomeLetter.pdf
รูปจุดจอดรถ 29 จุดครับเหมือนๆกันทั้งคู่
Explorer
Trolley tours
มาถึงตรงนี้บางคนก็อาจตัดสินใจเลือก Trolley tours แต่ตอนที่ผม search หาข้อมูลมีกระทู้หนึ่งใน tripadvisor บอกว่าสามารถเดินทางได้โดยรถบัสสาธารณะ เห็นอย่างนี้ก็เข้าทางคนงบกำลังน้อยแบบผมสิครับ เมื่อหาข้อมูลดูก็พบว่าจุดที่รถบัสสาธารณะวิ่งจะไม่เท่ากับ 29 จุดที่รถเอกชนทั้ง 2 เจ้าจอดแต่มันวิ่งไปถึงจุดที่สำคัญๆอย่างเช่นจุดชมวิว Echo point จุดปล่อยรถรางและกระเช้า scenic World รู้อย่างนี้แล้วผมเลยตัดสินใจใช้บริการรถบัสสาธารณะอย่างไม่ลังเลเลยครับ จากนั้นทำการบ้านนิดหน่อยโดยดูข้อมูลการเดินป่า (bush walks) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผมสนใจมากที่สุดในการไปเที่ยว Blue mountains จากหน้าเว็บของ Blue mountains explorer ซึ่งจะบอกระยะทาง ความยาก และเวลาที่ใช้ไว้คร่าวๆ จุดนี้มีประโยชน์มากเพราะเราสามารถดูจุดจอดรถจาก 29 จุดไปหาใน Google map ได้ว่ารถบัสสาธารณะคันไหนที่ไปจุดใกล้ๆกับที่เราต้องการ
หน้าเว็บจุดเดินป่าของ Blue mountains explorer

เว็บลิงค์
http://www.explorerbus.com.au/plan.html?type=101
สถานที่ที่ผมอยากไปก็มี Three sisters, จุดชมวิว Echo point, น้ำตก katoomba, ธารน้ำตก Leura cascade และไปนั่งรถรางที่ Scenic World 1 เที่ยวขาลง (ประมาณ 19 AUD ขาเดียว) ซึ่งจุดที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไปได้ด้วยรถบัสสาย 686 ครับ!! และใช้ Opal card จ่ายได้ ตรงนี้ขอบอกว่าถ้าใครเลือกมาที่นี่วันอาทิตย์นี่ประหยัดค่าเดินทางสุดๆครับ สำหรับใครที่ไม่ชอบเดินป่าก็สามารถมาซื้อตั๋วกระเช้า หรือรถรางได้นะครับในราคาผู้ใหญ่ 39 AUD โดยนั่งได้ทั้งกระเช้าและรถรางแบบไม่จำกัดเที่ยวในระยะเวลา 1 วัน ส่วนตัวผมคิดว่าคุ้มกว่าการซื้อตั๋วรถบัสจาก Trolley tours, Explorer หรือซื้อ Day tour มากครับ ความถี่ในการเดินรถของสาย 686 นี่ก็อยู่ที่ประมาณทุกครึ่งชั่วโมงครับ ค่อนข้างดีเลย
รูปตารางเดินรถสาย 686 จากป้ายสถานี Katoomba (ออกจากสถานีมาเดินข้ามถนนแล้วตรงไปอีกหน่อยหาไม่ยากครับ)
สำหรับผม ผมเลือกใช้จุดชมวิว Echo point เป็นจุดศูนย์กลางในการเที่ยวครับผมเริ่มจากนั่งรถมาลงที่ตรงนี้ดูวิวป่าสุดลูกหูลูกตา และ The Three sisters ครับมาเช้าๆกำลังดีครับคนไม่เยอะ
จากตรงนี้ชมวิวเสร็จเราสามารถไปสอบถามข้อมูล บวกซื้อแผนที่การเดินป่าได้ที่ Information center ซึ่งผมแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมไม่มี Information center ที่สถานี Katoomba ส่วนหนึ่งคงเพราะอยากสนับสนุนกิจการรถบัสเอกชนของทั้งสองเจ้า แผนที่เดินป่าที่มีขายเท่าที่เห็นราคาประมาณ 4 AUD นอกจากจะมีแผนที่บอกคิดว่าข้างในคงมีรายละเอียดอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น ข้อมูลต้นไม้ ดอกไม้ ประวัติสถานที่ แต่ผมไม่ได้ซื้อมานะครับ เราสามารถเดินไปถามพนักงานได้ เค้าจะมีแผนที่เดินป่าคร่าวๆหน้าตาก็คล้ายๆกับแผนที่ที่อยู่นอกตึก และจุดจอดรถ 29 เลยครับ
รูปแผนที่นอกตึก
จากรูปผมตัดสินใจเดินไปทางซ้ายมือของแผนที่ไปทาง Scenic World ผ่านทาง น้ำตก Gordon ก่อนครับ เส้นทางนี้มีนักท่องเที่ยวเดินกันเยอะครับป้ายบอกทาง เส้นทางค่อนข้างชัดเจนไม่มีหลงแน่นอน ส่วนตัวผมตัดสินใจเดินไปให้ถึงด้านล่าง Furber Steps เพื่อขึ้นรถรางกลับมาครับซึ่งส่วนตัวคิดว่าตัดสินใจผิดไปครับ จริงๆควรนั่งลงจะดีกว่าเพราะรถรางที่นี่ขึ้นชื่อว่ามีความชันติดอันดับต้นๆของโลกผมเห็นขาลงนี่คนกรี๊ดกันดังมาก แต่ตอนผมขึ้นไปนี่ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าใครซื้อ pass ก็ไม่ต้องห่วงครับนั่งกี่รอบก็ได้ถ้าติดใจ
รูปบอกทางที่อยู่ในป่าครับเดินตามป้ายไม่มีหลง
ส่วนอันนี้เป็นป้ายบอกว่าเราจะไปทางไหนระหว่างนั่งรถรางกลับขึ้นด้านบน(ขวามือ) หรือเดินไปทาง Echo points หรือป่า Leura (ซ้ายมือ)
หลังจากขึ้นกระเช้ากลับขึ้นมาด้วยความผิดหวัง(เล็กๆ) รถ 686 ก็มาถึงพอดีผมเลยนั่งกลับไปที่ Echo points เพื่อเดินป่าต่อไปที่ Leura cascade คราวนี้เราจะเดินไปที่ด้านขวามือของแผนที่ Echo points ด้านบนแล้วนะครับ ก่อนไปน้ำตกผมแบ่งเวลาไปเดิน ลง Giant steps แล้วค่อยเดินขึ้นกลับมา เพื่อไป Leura cascade ผ่านทาง Prince Henry's Cliff ซึ่งการเดินป่าในฝั่งนี้ทางและป้ายบอกอาจไม่ดีและไม่มากเท่าทาง Furber steps นะครับใครไปคนเดียวเหมือนผมเห็นป้าย หรือทางแยกก็ถ่ายรูปไว้ดูหน่อยก็ดีนะครับ (เส้นที่ผมเดินค่อนข้างสวนกับชาวบ้านเค้าบางทีก็เดินเสียวๆอยู่คนเดียวนานเลย 55)
รูปวิวจาก Giant steps

รูป Leura cascade
จาก Leura cascade ก็สามารถเดินกลับขึ้นมารอรถเข้าเมือง Katoomba ได้แถวร้านอาหาร Solitary หรือจะเดินต่อไปรอรถสาย 686 แถว ถ.Merriwa ก็ได้แต่จากตรงนี้ผมเดินเอาเลยครับเพราะเวลารอรถนี่พอๆกับเวลาเดินไปเลย
สรุปก็ไม่มีอะไรมากครับในการมาเที่ยวที่นี่ สิ่งสำคัญก็คือต้องกะเวลาขึ้นรถให้ดีจะได้ไม่รอนาน โดยเฉพาะรถเข้า sydney พลาดทีรอเป็นชั่วโมงเลยนะครับ ทริปผมนี่ถึง katoomba ประมาณ 10 โมงกลับ sydney 4 โมงเย็นนิดๆกำลังดีครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับหวังว่าคงมีประโยชน์และช่วย save เงินไม่มากก็น้อย
ปล. สัญญาณมือถือ Telstar ใช้ไม่ค่อยได้ที่ katoomba นะครับระวังด้วย
Mini review: Opal card และแนะนำเที่ยว Blue mountains/ The three sisters จาก Sydney Australia แบบประหยัด
สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือน มีนาคม 2016 ที่ผ่านมาได้ผมได้มีโอกาสไปเยือน Sydney โดยบังเอิญ และเป็นการไป Australia ครั้งแรกด้วย ดังนั้นผมจึงตัดสินใจอยู่เที่ยวต่อสักหน่อยหลังจากเสร็จธุระ เนื่องจากผมต้องบินไป-กลับที่ Sydney เท่านั้น ผมเลยหาข้อมูลที่เที่ยวแต่เฉพาะบริเวณ Sydney ด้วยเวลาที่มีผมก็เลือกที่จะเที่ยวในตัวเมือง หาด Mandy หาด Bondi แล้วก็ Blue mountain ครับ ซึ่งผมก็ใช้บางกระทู้ใน pantip เป็นข้อมูลอ้างอิงการไปตามสถานที่ต่างๆที่เลือกไว้ ซึ่งก็ใช้ได้ดีครับจะมีปัญหาก็ที่ Blue mountain นี่ละครับที่ผมค่อนข้างสับสนนิดหน่อย ผมก็เลยไปหาข้อมูลของต่างประเทศบ้าง ซึ่งก็น่าแปลกที่ข้อมูลไม่ค่อย update และละเอียดเท่าไหร่ (ที่ว่าหาข้อมูลนี่เอาจริงๆก็ไม่ได้ละเอียดอะไรมากครับออกแนวอ่านพอเป็นแนวทางแล้วไปด้นสดเอาหน้างาน อารมณ์สนุกลุ้นๆไปอีกแบบ)
จากการที่ผมเพิ่งได้ไปมาสิ่งที่เปลี่ยนไปจากข้อมูลในกระทู้ที่ชัดเจนเลยก็เรื่องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะนี่ล่ะครับ
โดยบัตรโดยสารประเภท My multi 1, 2, 3 รายสัปดาห์ที่กระทู้ส่วนมากแนะนำให้ใช้ ตอนนี้ไม่มีแล้วนะครับ โดยเพิ่งมีการประกาศยกเลิกไปเมื่อต้นปี 2016 นี้เอง
อ้างอิง http://www.transportnsw.info/en/tickets/tickets-opal-fares/ticket-retirement.page?
บัตรโดยสารที่ใช้กันหลักๆก็คือ Opal card ครับซื้อได้ที่สนามบินเลยผมซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ WH Smith ครับ โดย Opal card เคยมีคนรีวิวไว้แล้ว ผลประโยชน์หลักๆก็ ค่าเดินทางวันธรรมดาสูงสุดวันละ 15 AUD ค่าเดินทางวันอาทิตย์สูงสุด 2.5 AUD เกินจากนั้นฟรี ภายใน 1 อาทิตย์เดินทางมากกว่า 8 รอบขึ้นไปค่าโดยสารต่อจากนั้นฟรี (มีกฎการนับอยู่นะครับ) โดยเราสามารถเข้าไปตรวจสอบ activity ว่าเดินทางไปแล้วกี่รอบ เหลือเงินเท่าไหร่ได้ในเว็บไซต์ของเค้าตามลิงค์นี้เลยครับ https://www.opal.com.au/
บัตร opal สามารถใช้ได้ในการเดินทางเกือบทุกประเภทในแถบ NSW รวมทั้งรถไฟที่ออกจากสนามบินด้วย ทั้งนี้การที่เราเข้าออกสนามบินต้องเตรียมเงินเผื่อไว้ด้วยครับ เพราะทางสนามบินจะหักค่าธรรมเนียมในอัตราผู้ใหญ่ครั้งละ 13.4 AUD ไม่ว่าจะเข้าหรืออกจากสนามบินทั้ง domestic และ international flight และค่าธรรมเนียมสนามบินจะไม่สามารถนำไปนับร่วมกับค่าโดยสารจริงๆเพื่อคำนวณผลประโยชน์พิเศษของ Opal card ได้ เช่นสมมติเรานั่งรถไฟจากสนามบินไปโรงแรม สมมติ 3.6 AUD รวมกับค่าธรรมเนียมเป็น 17 AUD กรณีนี้ไม่ถือว่าโดยสารประจำวันเกิน 15 AUD นะครับเพราะเราเสียค่ารถจริงๆแค่ 3.6 เหรียญ ถ้าไปกลับสนามบินก็ขอให้เผื่อเงินค่าธรรมเนียมนี้ไว้ด้วยนะครับจะได้ไม่ลำบากเพราะออกจากสถานีไม่ได้ ต้องไปติดต่อพนักงาน เติมเงินเพิ่มทั้งๆที่ลากกระเป๋าไปด้วยให้วุ่นวาย แล้วทุกท่านก็สามารถเข้าไปตรวจสอบค่าโดยสารล่วงหน้าก่อนได้นะครับเพราะค่าเดินทางที่นี่แตกต่างกันไปตามเวลาการเดินทางด้วยโดยถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าหรือเย็นหลังเลิกงานก็จะมีราคาแพงขึ้นมาหน่อย ตรวจสอบค่าเดินทางตามเวลาได้ในลิงค์นี้ครับ http://www.transportnsw.info/ ใช้แทน Google ได้เหมือนกันครับและเลือกได้เลยว่าจะเดินทางด้วยยานพาหนะประเภทไหน
มาต่อกันที่การไปเที่ยว Blue mountain เลยนะครับ
การเดินทางไปเที่ยวที่ Blue mountain นี่ส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางจาก Sydney ไปกันก็จะนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Katoomba ก่อนนะครับ ซึ่งตรงนี้ยังสามารถเดินทางด้วย opal card ได้อยู่ครับโดยเราจะต้องไปนั่งรถไฟออกจากตัวเมืองจาก Central station ไป Katoomba station ด้วยรถไฟ Blue mountain line ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทาง รถไฟออกทุกครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงนะครับแล้วแต่ช่วงเวลาตอนเช้าจะมีขบวนถี่หน่อย สามารถเข้าไปเช็คเวลาเดินรถได้ตามลิงค์ที่ให้ไว้ข้างบน หรือใครถนัด Google map ก็ตามสะดวกครับ
ที่นี่พอเรามาถึงสถานี Katoomba แล้วเราจะไป Bluemountains ต่ออย่างไรนี่ล่ะครับที่ผมค่อนข้างสับสนในตอนแรก จากการอ่านตามกระทู้ก็ได้ความว่าการเที่ยวที่ Blue mountain นี้เราจะต้องนั่งรถไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ อันได้แก่ จุดชมวิว จุดให้บริการรถกระเช้า รถราง จุดเดินป่า ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก มีบางกระทู้ที่แนะนำให้ใช้บัตร iventure card ที่สามารถเลือก Blue mountain explorer bus ได้ แต่ส่วนตัวผมไปไม่ถึง 3 ที่ตามที่ให้เลือกขั้นต่ำใน iventure card (105 AUD สำหรับบัตรแบบ 3 ที่เที่ยว) ผมเลยลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเฉพาะของ Blue mountains explorer bus http://www.explorerbus.com.au/index.html ซึ่งก็มีให้เลือก 3 แบบ ว่าจะนั่งรถส่งตามจุดต่างๆรอบเมืองอย่างเดียว นั่งรถ+กระเช้าและรถราง หรือ แบบรวมค่าเข้า Aboriginal centre ด้วย ซึ่งราคาก็ไม่ใช่เล่น 44, 83, 98 AUD ตามลำดับ ด้วยความที่เป็นวันท้ายๆแล้วเงินในกระเป๋าเริ่มร่อยหรอ ผมเลยหาข้อมูลเพิ่มดูว่ามีอะไรที่พอจะช่วยให้ประหยัดได้มากกว่านี้หรือเปล่าก็มาเจอว่ามีผู้ให้บริการรถบัสนำเที่ยวอีกเจ้าหนึ่งคือ Blue mountains trolley tours http://www.trolleytours.com.au/ ซึ่งรูปแบบคล้ายๆกันกับเจ้าแรก จำนวนป้ายที่รถจอดก็เท่ากันที่ 29 ป้าย แต่ราคาต่างกันพอสมควรโดยคิดราคาค่ารถรอบเมืองที่ 25 AUD ค่ารถ+กระเช้าและรถรางที่ 64 AUD เทียบกับเจ้าแรกที่ราคา 44, 83 AUD ตามลำดับก็ถือว่าราคาเป็นมิตรกว่ากันพอสมควร ผมก็สงสัยว่าทำไมมันต่างกันได้ขนาดนี้พอลองอ่านเพิ่มเติมดูก็พบว่าต่างกัน ต่างกันนิดหน่อยที่เวลาเดินรถซึ่งเจ้า Explorer จะมาทุกครึ่งชั่วโมง ขณะที่ trolley tours จะประมาณทุกชั่วโมง แต่เจ้า Trolley tours นี้มีรายละเอียดจุดจอดเป็นภาษาไทยด้วยนะครับตามลิงค์นี้ http://www.trolleytours.com.au/links/language-guides/Tha_TrolleyWelcomeLetter.pdf
รูปจุดจอดรถ 29 จุดครับเหมือนๆกันทั้งคู่
Explorer
Trolley tours
มาถึงตรงนี้บางคนก็อาจตัดสินใจเลือก Trolley tours แต่ตอนที่ผม search หาข้อมูลมีกระทู้หนึ่งใน tripadvisor บอกว่าสามารถเดินทางได้โดยรถบัสสาธารณะ เห็นอย่างนี้ก็เข้าทางคนงบกำลังน้อยแบบผมสิครับ เมื่อหาข้อมูลดูก็พบว่าจุดที่รถบัสสาธารณะวิ่งจะไม่เท่ากับ 29 จุดที่รถเอกชนทั้ง 2 เจ้าจอดแต่มันวิ่งไปถึงจุดที่สำคัญๆอย่างเช่นจุดชมวิว Echo point จุดปล่อยรถรางและกระเช้า scenic World รู้อย่างนี้แล้วผมเลยตัดสินใจใช้บริการรถบัสสาธารณะอย่างไม่ลังเลเลยครับ จากนั้นทำการบ้านนิดหน่อยโดยดูข้อมูลการเดินป่า (bush walks) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผมสนใจมากที่สุดในการไปเที่ยว Blue mountains จากหน้าเว็บของ Blue mountains explorer ซึ่งจะบอกระยะทาง ความยาก และเวลาที่ใช้ไว้คร่าวๆ จุดนี้มีประโยชน์มากเพราะเราสามารถดูจุดจอดรถจาก 29 จุดไปหาใน Google map ได้ว่ารถบัสสาธารณะคันไหนที่ไปจุดใกล้ๆกับที่เราต้องการ
หน้าเว็บจุดเดินป่าของ Blue mountains explorer
เว็บลิงค์
http://www.explorerbus.com.au/plan.html?type=101
สถานที่ที่ผมอยากไปก็มี Three sisters, จุดชมวิว Echo point, น้ำตก katoomba, ธารน้ำตก Leura cascade และไปนั่งรถรางที่ Scenic World 1 เที่ยวขาลง (ประมาณ 19 AUD ขาเดียว) ซึ่งจุดที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไปได้ด้วยรถบัสสาย 686 ครับ!! และใช้ Opal card จ่ายได้ ตรงนี้ขอบอกว่าถ้าใครเลือกมาที่นี่วันอาทิตย์นี่ประหยัดค่าเดินทางสุดๆครับ สำหรับใครที่ไม่ชอบเดินป่าก็สามารถมาซื้อตั๋วกระเช้า หรือรถรางได้นะครับในราคาผู้ใหญ่ 39 AUD โดยนั่งได้ทั้งกระเช้าและรถรางแบบไม่จำกัดเที่ยวในระยะเวลา 1 วัน ส่วนตัวผมคิดว่าคุ้มกว่าการซื้อตั๋วรถบัสจาก Trolley tours, Explorer หรือซื้อ Day tour มากครับ ความถี่ในการเดินรถของสาย 686 นี่ก็อยู่ที่ประมาณทุกครึ่งชั่วโมงครับ ค่อนข้างดีเลย
รูปตารางเดินรถสาย 686 จากป้ายสถานี Katoomba (ออกจากสถานีมาเดินข้ามถนนแล้วตรงไปอีกหน่อยหาไม่ยากครับ)
สำหรับผม ผมเลือกใช้จุดชมวิว Echo point เป็นจุดศูนย์กลางในการเที่ยวครับผมเริ่มจากนั่งรถมาลงที่ตรงนี้ดูวิวป่าสุดลูกหูลูกตา และ The Three sisters ครับมาเช้าๆกำลังดีครับคนไม่เยอะ
จากตรงนี้ชมวิวเสร็จเราสามารถไปสอบถามข้อมูล บวกซื้อแผนที่การเดินป่าได้ที่ Information center ซึ่งผมแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมไม่มี Information center ที่สถานี Katoomba ส่วนหนึ่งคงเพราะอยากสนับสนุนกิจการรถบัสเอกชนของทั้งสองเจ้า แผนที่เดินป่าที่มีขายเท่าที่เห็นราคาประมาณ 4 AUD นอกจากจะมีแผนที่บอกคิดว่าข้างในคงมีรายละเอียดอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น ข้อมูลต้นไม้ ดอกไม้ ประวัติสถานที่ แต่ผมไม่ได้ซื้อมานะครับ เราสามารถเดินไปถามพนักงานได้ เค้าจะมีแผนที่เดินป่าคร่าวๆหน้าตาก็คล้ายๆกับแผนที่ที่อยู่นอกตึก และจุดจอดรถ 29 เลยครับ
รูปแผนที่นอกตึก
จากรูปผมตัดสินใจเดินไปทางซ้ายมือของแผนที่ไปทาง Scenic World ผ่านทาง น้ำตก Gordon ก่อนครับ เส้นทางนี้มีนักท่องเที่ยวเดินกันเยอะครับป้ายบอกทาง เส้นทางค่อนข้างชัดเจนไม่มีหลงแน่นอน ส่วนตัวผมตัดสินใจเดินไปให้ถึงด้านล่าง Furber Steps เพื่อขึ้นรถรางกลับมาครับซึ่งส่วนตัวคิดว่าตัดสินใจผิดไปครับ จริงๆควรนั่งลงจะดีกว่าเพราะรถรางที่นี่ขึ้นชื่อว่ามีความชันติดอันดับต้นๆของโลกผมเห็นขาลงนี่คนกรี๊ดกันดังมาก แต่ตอนผมขึ้นไปนี่ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าใครซื้อ pass ก็ไม่ต้องห่วงครับนั่งกี่รอบก็ได้ถ้าติดใจ
รูปบอกทางที่อยู่ในป่าครับเดินตามป้ายไม่มีหลง
ส่วนอันนี้เป็นป้ายบอกว่าเราจะไปทางไหนระหว่างนั่งรถรางกลับขึ้นด้านบน(ขวามือ) หรือเดินไปทาง Echo points หรือป่า Leura (ซ้ายมือ)
หลังจากขึ้นกระเช้ากลับขึ้นมาด้วยความผิดหวัง(เล็กๆ) รถ 686 ก็มาถึงพอดีผมเลยนั่งกลับไปที่ Echo points เพื่อเดินป่าต่อไปที่ Leura cascade คราวนี้เราจะเดินไปที่ด้านขวามือของแผนที่ Echo points ด้านบนแล้วนะครับ ก่อนไปน้ำตกผมแบ่งเวลาไปเดิน ลง Giant steps แล้วค่อยเดินขึ้นกลับมา เพื่อไป Leura cascade ผ่านทาง Prince Henry's Cliff ซึ่งการเดินป่าในฝั่งนี้ทางและป้ายบอกอาจไม่ดีและไม่มากเท่าทาง Furber steps นะครับใครไปคนเดียวเหมือนผมเห็นป้าย หรือทางแยกก็ถ่ายรูปไว้ดูหน่อยก็ดีนะครับ (เส้นที่ผมเดินค่อนข้างสวนกับชาวบ้านเค้าบางทีก็เดินเสียวๆอยู่คนเดียวนานเลย 55)
รูปวิวจาก Giant steps
รูป Leura cascade
จาก Leura cascade ก็สามารถเดินกลับขึ้นมารอรถเข้าเมือง Katoomba ได้แถวร้านอาหาร Solitary หรือจะเดินต่อไปรอรถสาย 686 แถว ถ.Merriwa ก็ได้แต่จากตรงนี้ผมเดินเอาเลยครับเพราะเวลารอรถนี่พอๆกับเวลาเดินไปเลย
สรุปก็ไม่มีอะไรมากครับในการมาเที่ยวที่นี่ สิ่งสำคัญก็คือต้องกะเวลาขึ้นรถให้ดีจะได้ไม่รอนาน โดยเฉพาะรถเข้า sydney พลาดทีรอเป็นชั่วโมงเลยนะครับ ทริปผมนี่ถึง katoomba ประมาณ 10 โมงกลับ sydney 4 โมงเย็นนิดๆกำลังดีครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับหวังว่าคงมีประโยชน์และช่วย save เงินไม่มากก็น้อย
ปล. สัญญาณมือถือ Telstar ใช้ไม่ค่อยได้ที่ katoomba นะครับระวังด้วย