สวัสดีค่ะ ทริปนี้จะมาเล่าประสบการณ์เที่ยวประจำปีของครอบครัวค่ะ จากปีที่แล้วไปชุมพร รอบนี้เมื่อต้นเดือนมี.ค. ไปภูเก็ต สิมิลัน เสม็ดนางชีมาค่ะ (รีวิวไม่เน้นรูปคนขอลงเฉพาะวิวนะคะ) ภาพอาจสีไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่เพราะใช้หลายอย่าง ทั้งมือถือ DSLR และก็กล้องกันน้ำตัวจิ๋วค่ะ
เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว มีแผนที่ทางหลวงเล่มใหญ่ และจีพีเอสเป็นเพื่อนร่วมทางเหมือนเดิมค่ะ เริ่มออกจากหาดใหญ่ 7 โมงเช้าวันเสาร์ กะว่าจะไปสิมิลันวันอาทิตย์ จองทัวร์เรียบร้อยจ่ายเงินก่อนครึ่งหนึ่งที่เหลือค่อยจ่ายวันเดินทาง โรงแรมจองกับอโกด้าไว้หลายเดือนล่วงหน้าได้ลดหลายสิบเปอร์เซ็นต์เหลือราคาพันกว่านิดๆ ก็จัดว่าโอเคค่ะเพราะอยู่ย่านชุมชน เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ Go… Go!
ใช้เส้นทางหลวงเพชรเกษมเลี้ยวซ้าย เข้าแยกพัทลุงผ่านเขาพับผ้า จ.ตรัง ถนนดีทำทางใหม่เป็น 4 เลน วิ่งสบายกว่าเมื่อก่อนค่ะ ระหว่างทางบนเขาเดี๋ยวนี้มีทั้งร้านอาหารบริการทั้งรีสอร์ทที่พักสวยดี มีจุดชมวิวแวะถ่ายรูปได้ แต่ไม่ได้แวะถ่ายหรอกค่ะ เพราะต้องทำเวลาให้ไม่เกิน 7 ช.ม. เพื่ออาจจะไปเผชิญรถติดระหว่างทางเข้าเมืองภูเก็ตอีก
จากตรังไปตามจีพีเอสและเปิดแผนที่ทางหลวงไปด้วยเพื่อเซฟเวลา (กลัวโดนจีพีเอสหลอก) เคยเจอมาแล้วเป็นประสบการณ์ที่นึกจะขำบางทีก็ขำไม่ออก บางครั้งก็ทำให้เสียเวลาแต่ก็ได้ประสบการณ์ดีเหมือนกันค่ะ
พอออกจากตัวเมืองตรังจะไปกระบี่ ใช้เส้นทาง อ.สิเกา มาออกทาง อ.วังวิเศษ ไม่ได้ขึ้นห้วยยอดตามเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ลัดกว่ากันหลาย กม.เหมือนกัน ถนนสวนกันสองเลนแต่ขับไม่ยากค่ะ เส้นนี้เป็นเส้นทางเลียบทะเล แต่ไม่เห็นทะเลต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกที (เป็นเส้นทางเดียวกับที่ไปท่าเรือปากเมง)
จากแยกวังวิเศษเลี้ยวซ้ายขึ้นทางหลักหมายเลข 4 คราวนี้ขับยาวผ่าน อ. คลองท่อม อ.เหนือคลอง ผ่านสนามบินกระบี่ ไม่เข้าตัวเมืองกระบี่และยังใช้เส้นทางหลักหมายเลข 4 เหมือนเดิม แล้วเลี้ยวขวาไปทางทับปุด ถึงจุดนี้เราใช้เส้นทาง 415 ลัดเข้าพังงาไม่ได้ใช้เส้นทางหลัก ก็ย่นระยะได้หลาย กม. อีกเหมือนกัน ถึงจะขึ้นทางหลักหมายเลข 4 ผ่านตะกั่วทุ่งนิดเดียวก็ถึงสะพานสารสิน เข้าตัวเมืองภูเก็ต
ถึงภูเก็ตบ่ายโมงกว่าๆ อยากไปหาดไม้ขาวมาก มาภูเก็ตหลายครั้งไม่เคยได้แวะ ถามที่ด่านบอกให้กลับรถเลี้ยวเข้าทาง ร.ร. แมริออท ก็ไปกันค่ะ ไม่ไกลก็ถึงหาดไม้ขาว เงียบดี สวยสงบ คนไม่เยอะ ที่สำคัญรีสอร์ทหรูใหญ่ๆ เยอะมากแค่ทางเข้าหาดก็ไม่รู้กี่รีสอร์ทแล้ว แต่เราไม่ได้พักหรอก แพงเกิน หน้าหาดมีถนนเล็กๆ ให้รถผ่าน มีร้านค้าอาหารทะเลประปราย ตอนไปถึงบ่ายกว่าๆ ยังไม่เปิดเลยแวะจอดถ่ายรูปที่หาดนิดนึงแล้วก็ไปต่อ
เราออกเส้นทางเดิมแล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางไปสนามบิน ไปแวะอีกสองแห่งคือหาดในยางและหาดในทอน หาดสวยดีค่ะ คนไม่ค่อยเยอะมากด้วย ส่วนมากเป็นต่างชาติ หาดในทอนมีร่มกางบ้างบางจุด มีรีสอร์ท ร้านอาหารเยอะอยู่ แต่รวมๆ แล้วก็ยังจัดว่าไม่มากเท่าหาดอื่นๆ น่าพักดีเหมือนกัน
จากนั้นเราไม่ออกถนนใหญ่ที่มุ่งเข้าตัวเมืองถลาง เพราะหนีรถติด แต่ใช้เส้นเลียบทะเล ไปทางหาดลายัน เส้นนี้ขับยากมากเลย เส้นป่าตองว่ายากแล้ว เส้นนี้ยากกว่าแถมแคบโค้งเยอะ สูงชันด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไม่ค่อยมีคนใช้ นอกจากนักท่องเที่ยวที่ใช้มอเตอร์ไซค์ซะเยอะ
หาดลายันเราไม่ได้ลงไปดูด้วยค่ะ เพราะอยู่ช่วงเขาชันพอดีจอดรถยาก
ทีแรกว่าจะแวะหาดสุรินทร์ด้วย แต่ยังไม่ทันไปถึงเราหลงทางค่ะไปออกถลางเฉยเลย ขนาดมีจีพีเอสกับแผนที่เล่มก็ยังหลง มารู้ตัวอีกทีเมื่อถึงอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร เราไปอ้อมรถกลับมาอีกค่อนข้างไกลและรถติดก็เลยอดแวะหาดสุรินทร์ ได้แต่มองผ่านไป T T
เราใช้เส้นเลียบหาดไปจนถึงป่าตอง กว่าจะถึงก็นานใช้ได้อยู่ ที่พักของเรารอบนี้ก็เหมือนสองปีที่แล้ว เพียงแต่เปลี่ยนโรงแรมใหม่ คราวนี้ได้ที่พักเปิดใหม่ไม่นาน ชื่อ The Crib Patong
ลักษณะเป็นตึกแถวหลายหน้าห้อง ชั้นล่างสุดล็อบบี้ไม่มีแอร์ ไม่มีร้านอาหารเปิดตลอดเวลา แต่สามารถสั่งได้เป็นช่วงๆ มีบอกในเมนู ตึกลวดลายสีฟ้า มี 9 ชั้น รั้วหลังโรงแรมอยู่ติดตลาดบันซ้านแค่เดินอ้อมมาถนนใหญ่ก็ถึงเลย ที่นี่ไม่มีที่จอดรถแต่ไปจอดด้านในได้ มี รปภ. เฝ้าค่ะ ทีแรกกลัวนะแต่พอไปดูแล้วก็โอเคค่ะ จอดหน้าอีกโรงแรมนึงได้พอดี
จองไปกับอโกด้าสองห้อง ห้องเล็กฝักบัวราคาพันสามกว่าๆ ไม่รวมอาหารเช้า ห้องใหญ่มีอ่างอาบน้ำ ราคาพันกลางๆ ไม่รวมอาหารเช้าเหมือนกันเพราะไปทัวร์เราคงกินไม่ทัน เอาภาพห้องโดยรวมมาให้ดูค่ะ ไม่ต้องบรรยายเนาะเดี๋ยวจะยาวเกินไปค่ะ
ชั้นบนสุดเป็นสระว่ายน้ำเล็กๆ 2 ระดับ น้ำไม่ลึกค่ะ เราขึ้นไปสำรวจเช้าอีกวันยังไม่มีใคร มีแต่ฝรั่งนอนชิลคนเดียว มีห้องน้ำสะอาดสะอ้านและมีฟิตเนสขนาดเล็กเครื่องเล่น 3-4 ชิ้นให้เล่นในห้องแอร์ติดสระ
ตรงข้ามเป็นถนนที่เดินทะลุไปหาดป่าตองได้แบบตรงๆ ไม่ต้องเลี้ยวไปไหนก็เจอ ตรงข้ามตลาดบันซ้านเป็นสนามมวย และเดินไปอีกนิดข้ามถนนก็ถึงจังซีลอน เรียกว่าจะไม่ไปไหนไกล ทุกอย่างหาได้ในที่เดียวนี่เลยและเดินได้นี่แหละชอบมากค่ะ
วันเสาร์ที่ไปมีประกวดชายงาม จังซีลอนคนเยอะใช้ได้ เราก็ดูๆ สักพักก็ไปหาดป่าตองกัน จะไปดูพระอาทิตย์ตกและป่าตองตอนนี้ที่ไม่มีร่มกับเก้าอี้นั่งชายหาดจะเป็นยังไงบ้าง
ถนนคนเดินปีนี้ที่เห็นความเปลี่ยนแปลงคือ ไม่มีคนพาอิกัวน่ามาเดินให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอีกแล้ว แต่ที่เดินขายกันเกลื่อนก็คือ “ไม้เซลฟี่” เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีที่เข้ามา แต่เราไม่ถนัดกับหอบไม้เซลฟี่ไปมา เพราะที่บ้านเราไม่ค่อยชอบถ่ายรูปกันเองด้วยละ ถึงจะถ่ายก็เก็บไว้ดูกันเอง แหะๆ
ป่าตองยามเย็นแบ็คทูเบสิคมากมาย นักท่องเที่ยวนั่งเล่นกันบนหาดไม่มีปูผ้าหรือเก้าอี้ชายหาดให้นั่ง บ้างก็ยืนถ่ายรูป รอชมวิวพระอาทิตย์ตก บ้างก็ต่อคิวขึ้นบอลลูนหรือโดดร่ม (เอ... ไม่รู้เรียกแบบไหนค่ะ) บ้างก็เล่นเจ็ทสกีสนุกสนาน เราอยู่ดูจนถึงพระอาทิตย์ตกเลย ลมเย็น อากาศกำลังดี เพิ่งรู้สึกว่าหาดทรายป่าตองนิ่มมากๆ ก็คราวนี้ที่ได้นั่งยืนเดินอยู่นานนี่ล่ะค่ะ
จากป่าตองก็ค่ำแล้ว เราเดินกลับทางเดิมผ่านถนนคนเดิน ร้านค้าต่างๆ เริ่มโชว์โปรโมชั่นต่างๆ เรียกแขก เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะความหิว ตั้งใจไปหาอะไรกินที่ตลาดบันซ้านติดที่พักของเรากัน
รอบนี้ตลาดไฟไม่ดับแบบรอบที่แล้ว ในตลาดมีทั้งของทะเลสดที่ซื้อแล้วให้ร้านอาหารบนชั้นสองปรุงให้ใหม่ๆ ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ น่าจะพอๆ กับแถวหาดราไวย์เลยนะ แล้วก็มีผลไม้ ของฝากต่างๆ ขายกันจนถึงค่ำ
อาหารทะเลด้านนอกราคาพอสมควร ไม่ถูกไม่แพง มีทั้งเลือกสดๆ ให้ปรุงหรือเลือกที่แช่บนถาดน้ำแข็งก็มี เราสั่งอาหารง่ายๆ เพราะอะไรก็น่าอร่อยไปหมด นอกจากอาหารทะเลแล้วก็มีอาหารใต้ ส้มตำ ยำ ลาย สารพัดจะปรุง คนเดินซื้อเยอะมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ คนพื้นที่ก็เยอะ
มีอย่างนึงที่เห็นหลายครั้งแล้วไม่เคยซื้อ แต่รอบนี้ซื้อมากะเอาไปชิมที่โรงแรมคือ ข้าวจี่ชุบไข่ ปรากฏว่าติดใจ อร่อยอะ ชิ้นละ 15 บาท อิ่มเลย กินกับไก่ย่าง หมูย่าง แซ่บ! วันที่สองมีกลับมาซื้ออีกรอบด้วย
ที่แปลกตาก็คงเป็นไอศกรีมใส่ในลูกมะพร้าวผ่าครึ่งมีเนื้อมะพร้าวรองใต้ไอศกรีม หลายลูกอยู่เหมือนกันเกือบเต็ม ส่วนเครื่องจะเป็นแบบบุฟเฟต์ให้เราเลือกตักเองเท่าไหร่ก็ได้ตามแต่ต้องการ ขายในราคาลูกละ 50 บาท เราก็ลองเอามาชิมลูกนึงอร่อยดี ชอบ ^^
ก่อนเข้าที่พักแวะเซเว่นสักนิดซื้อขนมติดไม้ติดมือ เพราะเช้ามืดเรามีโปรแกรมไปทัวร์สิมิลันแต่คราวนี้เอารถไปเองเพราะจะได้สำรวจเส้นทางด้วย ห้องพักเราอยู่ชั้นสามมีระเบียงเล็กๆ มีเก้าอี้นั่งหนึ่งตัว เราก็ออกไปดูวิวตลาดบันซ้านตอนกลางคืน คนเยอะจริงๆ แต่เสียงไม่ดังอย่างที่คิด แม้แต่สนามมวยที่วันนั้นมีชกก็ไม่ดังมาถึง หลับสบายดีมาก
(มีต่อสิมิลัน ใน คคห. ค่ะ)
[CR] ++ ทริปภูเก็ต พักป่าตอง เดย์ทริปสิมิลัน ย่านเมืองเก่า อควาเรียม เสม็ดนางชี ++ (ตอน 1 / 2)
สวัสดีค่ะ ทริปนี้จะมาเล่าประสบการณ์เที่ยวประจำปีของครอบครัวค่ะ จากปีที่แล้วไปชุมพร รอบนี้เมื่อต้นเดือนมี.ค. ไปภูเก็ต สิมิลัน เสม็ดนางชีมาค่ะ (รีวิวไม่เน้นรูปคนขอลงเฉพาะวิวนะคะ) ภาพอาจสีไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่เพราะใช้หลายอย่าง ทั้งมือถือ DSLR และก็กล้องกันน้ำตัวจิ๋วค่ะ
เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว มีแผนที่ทางหลวงเล่มใหญ่ และจีพีเอสเป็นเพื่อนร่วมทางเหมือนเดิมค่ะ เริ่มออกจากหาดใหญ่ 7 โมงเช้าวันเสาร์ กะว่าจะไปสิมิลันวันอาทิตย์ จองทัวร์เรียบร้อยจ่ายเงินก่อนครึ่งหนึ่งที่เหลือค่อยจ่ายวันเดินทาง โรงแรมจองกับอโกด้าไว้หลายเดือนล่วงหน้าได้ลดหลายสิบเปอร์เซ็นต์เหลือราคาพันกว่านิดๆ ก็จัดว่าโอเคค่ะเพราะอยู่ย่านชุมชน เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ Go… Go!
ใช้เส้นทางหลวงเพชรเกษมเลี้ยวซ้าย เข้าแยกพัทลุงผ่านเขาพับผ้า จ.ตรัง ถนนดีทำทางใหม่เป็น 4 เลน วิ่งสบายกว่าเมื่อก่อนค่ะ ระหว่างทางบนเขาเดี๋ยวนี้มีทั้งร้านอาหารบริการทั้งรีสอร์ทที่พักสวยดี มีจุดชมวิวแวะถ่ายรูปได้ แต่ไม่ได้แวะถ่ายหรอกค่ะ เพราะต้องทำเวลาให้ไม่เกิน 7 ช.ม. เพื่ออาจจะไปเผชิญรถติดระหว่างทางเข้าเมืองภูเก็ตอีก
จากตรังไปตามจีพีเอสและเปิดแผนที่ทางหลวงไปด้วยเพื่อเซฟเวลา (กลัวโดนจีพีเอสหลอก) เคยเจอมาแล้วเป็นประสบการณ์ที่นึกจะขำบางทีก็ขำไม่ออก บางครั้งก็ทำให้เสียเวลาแต่ก็ได้ประสบการณ์ดีเหมือนกันค่ะ
พอออกจากตัวเมืองตรังจะไปกระบี่ ใช้เส้นทาง อ.สิเกา มาออกทาง อ.วังวิเศษ ไม่ได้ขึ้นห้วยยอดตามเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ลัดกว่ากันหลาย กม.เหมือนกัน ถนนสวนกันสองเลนแต่ขับไม่ยากค่ะ เส้นนี้เป็นเส้นทางเลียบทะเล แต่ไม่เห็นทะเลต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกที (เป็นเส้นทางเดียวกับที่ไปท่าเรือปากเมง)
จากแยกวังวิเศษเลี้ยวซ้ายขึ้นทางหลักหมายเลข 4 คราวนี้ขับยาวผ่าน อ. คลองท่อม อ.เหนือคลอง ผ่านสนามบินกระบี่ ไม่เข้าตัวเมืองกระบี่และยังใช้เส้นทางหลักหมายเลข 4 เหมือนเดิม แล้วเลี้ยวขวาไปทางทับปุด ถึงจุดนี้เราใช้เส้นทาง 415 ลัดเข้าพังงาไม่ได้ใช้เส้นทางหลัก ก็ย่นระยะได้หลาย กม. อีกเหมือนกัน ถึงจะขึ้นทางหลักหมายเลข 4 ผ่านตะกั่วทุ่งนิดเดียวก็ถึงสะพานสารสิน เข้าตัวเมืองภูเก็ต
ถึงภูเก็ตบ่ายโมงกว่าๆ อยากไปหาดไม้ขาวมาก มาภูเก็ตหลายครั้งไม่เคยได้แวะ ถามที่ด่านบอกให้กลับรถเลี้ยวเข้าทาง ร.ร. แมริออท ก็ไปกันค่ะ ไม่ไกลก็ถึงหาดไม้ขาว เงียบดี สวยสงบ คนไม่เยอะ ที่สำคัญรีสอร์ทหรูใหญ่ๆ เยอะมากแค่ทางเข้าหาดก็ไม่รู้กี่รีสอร์ทแล้ว แต่เราไม่ได้พักหรอก แพงเกิน หน้าหาดมีถนนเล็กๆ ให้รถผ่าน มีร้านค้าอาหารทะเลประปราย ตอนไปถึงบ่ายกว่าๆ ยังไม่เปิดเลยแวะจอดถ่ายรูปที่หาดนิดนึงแล้วก็ไปต่อ
เราออกเส้นทางเดิมแล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางไปสนามบิน ไปแวะอีกสองแห่งคือหาดในยางและหาดในทอน หาดสวยดีค่ะ คนไม่ค่อยเยอะมากด้วย ส่วนมากเป็นต่างชาติ หาดในทอนมีร่มกางบ้างบางจุด มีรีสอร์ท ร้านอาหารเยอะอยู่ แต่รวมๆ แล้วก็ยังจัดว่าไม่มากเท่าหาดอื่นๆ น่าพักดีเหมือนกัน
จากนั้นเราไม่ออกถนนใหญ่ที่มุ่งเข้าตัวเมืองถลาง เพราะหนีรถติด แต่ใช้เส้นเลียบทะเล ไปทางหาดลายัน เส้นนี้ขับยากมากเลย เส้นป่าตองว่ายากแล้ว เส้นนี้ยากกว่าแถมแคบโค้งเยอะ สูงชันด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไม่ค่อยมีคนใช้ นอกจากนักท่องเที่ยวที่ใช้มอเตอร์ไซค์ซะเยอะ
หาดลายันเราไม่ได้ลงไปดูด้วยค่ะ เพราะอยู่ช่วงเขาชันพอดีจอดรถยาก
ทีแรกว่าจะแวะหาดสุรินทร์ด้วย แต่ยังไม่ทันไปถึงเราหลงทางค่ะไปออกถลางเฉยเลย ขนาดมีจีพีเอสกับแผนที่เล่มก็ยังหลง มารู้ตัวอีกทีเมื่อถึงอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร เราไปอ้อมรถกลับมาอีกค่อนข้างไกลและรถติดก็เลยอดแวะหาดสุรินทร์ ได้แต่มองผ่านไป T T
เราใช้เส้นเลียบหาดไปจนถึงป่าตอง กว่าจะถึงก็นานใช้ได้อยู่ ที่พักของเรารอบนี้ก็เหมือนสองปีที่แล้ว เพียงแต่เปลี่ยนโรงแรมใหม่ คราวนี้ได้ที่พักเปิดใหม่ไม่นาน ชื่อ The Crib Patong
ลักษณะเป็นตึกแถวหลายหน้าห้อง ชั้นล่างสุดล็อบบี้ไม่มีแอร์ ไม่มีร้านอาหารเปิดตลอดเวลา แต่สามารถสั่งได้เป็นช่วงๆ มีบอกในเมนู ตึกลวดลายสีฟ้า มี 9 ชั้น รั้วหลังโรงแรมอยู่ติดตลาดบันซ้านแค่เดินอ้อมมาถนนใหญ่ก็ถึงเลย ที่นี่ไม่มีที่จอดรถแต่ไปจอดด้านในได้ มี รปภ. เฝ้าค่ะ ทีแรกกลัวนะแต่พอไปดูแล้วก็โอเคค่ะ จอดหน้าอีกโรงแรมนึงได้พอดี
จองไปกับอโกด้าสองห้อง ห้องเล็กฝักบัวราคาพันสามกว่าๆ ไม่รวมอาหารเช้า ห้องใหญ่มีอ่างอาบน้ำ ราคาพันกลางๆ ไม่รวมอาหารเช้าเหมือนกันเพราะไปทัวร์เราคงกินไม่ทัน เอาภาพห้องโดยรวมมาให้ดูค่ะ ไม่ต้องบรรยายเนาะเดี๋ยวจะยาวเกินไปค่ะ
ชั้นบนสุดเป็นสระว่ายน้ำเล็กๆ 2 ระดับ น้ำไม่ลึกค่ะ เราขึ้นไปสำรวจเช้าอีกวันยังไม่มีใคร มีแต่ฝรั่งนอนชิลคนเดียว มีห้องน้ำสะอาดสะอ้านและมีฟิตเนสขนาดเล็กเครื่องเล่น 3-4 ชิ้นให้เล่นในห้องแอร์ติดสระ
ตรงข้ามเป็นถนนที่เดินทะลุไปหาดป่าตองได้แบบตรงๆ ไม่ต้องเลี้ยวไปไหนก็เจอ ตรงข้ามตลาดบันซ้านเป็นสนามมวย และเดินไปอีกนิดข้ามถนนก็ถึงจังซีลอน เรียกว่าจะไม่ไปไหนไกล ทุกอย่างหาได้ในที่เดียวนี่เลยและเดินได้นี่แหละชอบมากค่ะ
วันเสาร์ที่ไปมีประกวดชายงาม จังซีลอนคนเยอะใช้ได้ เราก็ดูๆ สักพักก็ไปหาดป่าตองกัน จะไปดูพระอาทิตย์ตกและป่าตองตอนนี้ที่ไม่มีร่มกับเก้าอี้นั่งชายหาดจะเป็นยังไงบ้าง
ถนนคนเดินปีนี้ที่เห็นความเปลี่ยนแปลงคือ ไม่มีคนพาอิกัวน่ามาเดินให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอีกแล้ว แต่ที่เดินขายกันเกลื่อนก็คือ “ไม้เซลฟี่” เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีที่เข้ามา แต่เราไม่ถนัดกับหอบไม้เซลฟี่ไปมา เพราะที่บ้านเราไม่ค่อยชอบถ่ายรูปกันเองด้วยละ ถึงจะถ่ายก็เก็บไว้ดูกันเอง แหะๆ
ป่าตองยามเย็นแบ็คทูเบสิคมากมาย นักท่องเที่ยวนั่งเล่นกันบนหาดไม่มีปูผ้าหรือเก้าอี้ชายหาดให้นั่ง บ้างก็ยืนถ่ายรูป รอชมวิวพระอาทิตย์ตก บ้างก็ต่อคิวขึ้นบอลลูนหรือโดดร่ม (เอ... ไม่รู้เรียกแบบไหนค่ะ) บ้างก็เล่นเจ็ทสกีสนุกสนาน เราอยู่ดูจนถึงพระอาทิตย์ตกเลย ลมเย็น อากาศกำลังดี เพิ่งรู้สึกว่าหาดทรายป่าตองนิ่มมากๆ ก็คราวนี้ที่ได้นั่งยืนเดินอยู่นานนี่ล่ะค่ะ
จากป่าตองก็ค่ำแล้ว เราเดินกลับทางเดิมผ่านถนนคนเดิน ร้านค้าต่างๆ เริ่มโชว์โปรโมชั่นต่างๆ เรียกแขก เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะความหิว ตั้งใจไปหาอะไรกินที่ตลาดบันซ้านติดที่พักของเรากัน
รอบนี้ตลาดไฟไม่ดับแบบรอบที่แล้ว ในตลาดมีทั้งของทะเลสดที่ซื้อแล้วให้ร้านอาหารบนชั้นสองปรุงให้ใหม่ๆ ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ น่าจะพอๆ กับแถวหาดราไวย์เลยนะ แล้วก็มีผลไม้ ของฝากต่างๆ ขายกันจนถึงค่ำ
อาหารทะเลด้านนอกราคาพอสมควร ไม่ถูกไม่แพง มีทั้งเลือกสดๆ ให้ปรุงหรือเลือกที่แช่บนถาดน้ำแข็งก็มี เราสั่งอาหารง่ายๆ เพราะอะไรก็น่าอร่อยไปหมด นอกจากอาหารทะเลแล้วก็มีอาหารใต้ ส้มตำ ยำ ลาย สารพัดจะปรุง คนเดินซื้อเยอะมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ คนพื้นที่ก็เยอะ
มีอย่างนึงที่เห็นหลายครั้งแล้วไม่เคยซื้อ แต่รอบนี้ซื้อมากะเอาไปชิมที่โรงแรมคือ ข้าวจี่ชุบไข่ ปรากฏว่าติดใจ อร่อยอะ ชิ้นละ 15 บาท อิ่มเลย กินกับไก่ย่าง หมูย่าง แซ่บ! วันที่สองมีกลับมาซื้ออีกรอบด้วย
ที่แปลกตาก็คงเป็นไอศกรีมใส่ในลูกมะพร้าวผ่าครึ่งมีเนื้อมะพร้าวรองใต้ไอศกรีม หลายลูกอยู่เหมือนกันเกือบเต็ม ส่วนเครื่องจะเป็นแบบบุฟเฟต์ให้เราเลือกตักเองเท่าไหร่ก็ได้ตามแต่ต้องการ ขายในราคาลูกละ 50 บาท เราก็ลองเอามาชิมลูกนึงอร่อยดี ชอบ ^^
ก่อนเข้าที่พักแวะเซเว่นสักนิดซื้อขนมติดไม้ติดมือ เพราะเช้ามืดเรามีโปรแกรมไปทัวร์สิมิลันแต่คราวนี้เอารถไปเองเพราะจะได้สำรวจเส้นทางด้วย ห้องพักเราอยู่ชั้นสามมีระเบียงเล็กๆ มีเก้าอี้นั่งหนึ่งตัว เราก็ออกไปดูวิวตลาดบันซ้านตอนกลางคืน คนเยอะจริงๆ แต่เสียงไม่ดังอย่างที่คิด แม้แต่สนามมวยที่วันนั้นมีชกก็ไม่ดังมาถึง หลับสบายดีมาก
(มีต่อสิมิลัน ใน คคห. ค่ะ)