ใช้แป้งโฮลวีท, กรีกโยเกิร์ต และน้ำมันเพียงจิ๋วเดียว
Healthy Whole Wheat - Greek Yogurt - Blueberry Muffins
เพิ่งซื้อบลูเบอร์รี่มา เลยได้ฤกษ์ทำบลูเบอร์รี่มัฟฟิ่นซะที แต่จะทำสูตรปกติก็ไม่ใช่เรา วันนี้เลยจัดสูตรน้ำมันน้อย ใช้กรีก โยเกิร์ตแบบปราศจากไขมัน (ซึ่งทำเอง) และแป้งโฮลวีท จะได้ทานอย่างสบายใจ
.
อย่าเพิ่งทำหน้ายุ่งค่ะ หากรีก โยเกิร์ตไม่ได้ใช่มั้ย…. ทำเองเลยคะ ง่ายๆ
ดูวิธีการทำ กรีก โยเกิร์ตได้จากโพสต์ DIY Greek Yogurt ตามลิงค์นี้คะ
https://www.facebook.com/maekruasanfran101/posts/491397394378375?notif_t=like¬if_id=1460379837453118
.
ทีนี้ก็เริ่มเลยนะคะ (แปะลิงค์ vdo clip ให้ดูด้านล่างด้วยคะ)
***ก่อนทำขอให้อ่านวิธีทำให้จบด้วยนะคะเพราะมี tips เขียนไว้ให้ด้วย***
.
ส่วนผสม (ได้ 7 ถ้วยใหญ่)
1 ถ้วย แป้งโฮลวีท*
1 ชต. แป้งข้าวโพด
1/2 ชต. เบคกิ้ง พาวเดอร์
1 ถ้วย บลูเบอร์รี่สด** (อุณหภูมิห้อง – เกินได้นิดหน่อย)
1 ไข่ฟองโต (อุณหภูมิห้อง)
1/2 ถ้วย กรีก โยเกิร์ต (อุณหภูมิห้อง)***
1 ชช. กลิ่นวนิลา
1/4 ถ้วย น้ำมันพืช**** (ตวงขาดนิดหน่อยได้)
1/2 ถ้วย น้ำตาลทรายขาว (ตวงขาดนิดหน่อยได้)
Note:
*ถ้าไม่มีแป้งโฮลวีทใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์ปกติได้เลย
**ใครหาบลูเบอร์รี่สดไม่ได้ จะใช้บลูเบอร์รี่แห้ง หรือบลูเบอร์รี่แช่แข็งก็ได้โดยเตรียมดังนี้
>> บลูเบอร์รี่แห้ง: นำไปแช่น้ำร้อนซัก 15 นาทีให้เค้าคลายตัว ก่อนใช้ก็เทน้ำออกให้หมด (ซับน้ำออกด้วย)
>>บลูเบอร์รี่แช่แข็ง: นำบลูเบอร์รี่ไปล้างน้ำเย็นจนน้ำเป็นสีใส (น้ำแรกๆจะเป็นสีม่วงๆ) จากนั้นนำบลูเบอร์รี่ไปซับน้ำออก ใช้กระดาษทิชชู่หลายๆชั้นหน่อยคะ (วิธีการนี้จะช่วยป้องกันไม่ใช้เนื้อมัฟฟิ่นเป็นสีฟ้าหม่น ไม่น่าทาน แต่จะเป็นสีเหลืองทองน่าทาน อย่างที่ควรเป็น) …. ดูรูปประกอบนะคะ
***ดิฉันใช้ fat free greet yogurt (ทำเอง) ยังอร่อย เนื้อนุ่ม ถ้าคุณๆใช้ greek yogurt ธรรมดาจะยิ่งอร่อยเข้าไปอีกคะ
****ใครอยากใช้น้ำมันมะพร้าวก็ละลายก่อนนะคะ จะได้ตวงได้แม่นๆ

.
วิธีทำ
1. อุ่นเตารอ ใช้ความร้อนที่ 175 องศาเซลเซียส หรือ 350 องศาฟาเรนไฮต์*
2. ทาน้ำมันบางๆที่พิมพ์** แล้วโรยแป้งบางๆทับกันมัฟฟิ่นติดพิมพ์ หรือใช้ muffin liner ชนิดที่เป็น Parchment Paper (ไม่งั้นมันจะติดคะ)
3. เตรียมส่วนผสมแห้ง: ตวงแป้งโฮลวีท 1 ถ้วย แต่ตักออก 1 ชต. จากนั้นผสมแป้งข้าวโพดลงไปแทน ผสมให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยเบคกิ้งพาวเดอร์ ผสมให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดี ก็เทบลูเบอร์รี่ ¾ ถ้วยลงไป ผสมอย่างเบามือ แล้วพักไว้ (ทำแบบนี้ บลูเบอร์รี่จะกระจายอยู่ทั่ว ไม่ไปรวมนอนก้นอยู่ที่เดียว
4. ส่วนผสมเปียก: ผสม ไข่ กรีกโยเกิร์ต น้ำมัน วนิลา แล้วตีให้เข้ากันจนเนียน จากนั้นจึงผสมน้ำตาลทราย ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
5. เทส่วนผสมแห้ง (ทีละครึ่ง) ลงในชามส่วนผสมเปียก แล้วกวนอย่างเบามือให้พอเข้ากัน อย่ากวนนานเพราะจะทำให้เนื้อมัฟฟิ่น แน่น แข็ง (เห็นแป้งขาวๆบ้าง ไม่เป็นไรคะ)
6. ใช้ที่ตักไอศรีมขนาดลูกใหญ่ตักแป้งลงพิมพ์ให้เกือบเต็ม กะให้ปริมาณแป้งเท่าๆกันทุกหลุม หลุมไหนไม่มีแป้งให้เทน้ำเปล่าใส่ เค้กจะได้สุกเท่าๆกัน จากนั้นนำบลูเบอร์รี่ที่เหลือมาโรยหน้ามัฟฟิ่น (กดให้จมลงแป้งนิดหน่อย)
7. อบนาน 15-18 นาที (แล้วแต่เตาอบ) หรือเมื่อนำไม้หรือปลายมีดไปจิ้มแล้วไม่มีแป้งติดออกมา
8. เมื่ออบเสร็จ เอาถาดออกจากเตาพักไว้ซัก 2 นาที จากนั้นนำมัฟฟิ่นออกจากพิมพ์แล้วพักบนตะแกรงให้หายร้อน
9. ถ้าอยากให้มัฟฟิ่นน่าทาน โรยน้ำตาลไอซ์ซิ่งทับได้คะ แต่รอให้เค้าเย็นสนิทก่อน และโรยก่อนทานนะคะ ไม่งั้นรอซักพักไอซ์ซิ่งจะละลายมองไม่เห็นแล้ว…..จากนั้นก็ถึงเวลาหม่ำแล้ววววว
.
Note:
*ควรมี เทอร์โมมิเตอร์ใส่ไว้ในเตาอบ อย่ากะเอาเองเพราะถ้าความร้อนมากหรือน้อยกว่าที่กำหนด จะมีผลต่อขนมอบ/อาหาร ของเรา
**หลีกเลี่ยงการใช้ cooking oil spray นะคะเพราะอันตราย…แล้วไว้ถ้ามีเวลาจะอธิบายแยกไว้ให้ว่าทำไมถึงไม่ควรใช้
.
เป็นไงคะ อ่านดูแล้วรู้สึกว่ายากหรือง่าย ถ้ารู้สึกว่ายากมาดู vdo clip กันแล้วจะรู้สึกว่าง่ายขึ้นมาเลย

เข้าไปดูสูตรอาหาร เค้ก คุ๊กกี้ ขนม แบบ healthy และไม่อ้วนh
ที่มีข้อมูล ส่วนผสมและวิธีทำครบถ้วนได้ที่ เฟสบุ๊คเพจ “แม่พลอยซานฟราน”
ตามลิงค์นี้เลย
https://www.facebook.com/maekruasanfran101/
แล้วอย่าลืมกด like เป็น แฟนเพจด้วยน้า จะได้เห็นทุกสูตร
ทำเลยคะแล้วบอกด้วยว่าชอบมั้ย….อย่าได้ช้า ^ ^
แล้วเจอกันจานหน้าคะ (เร็ๆนี้เลย)
แม่พลอยซานฟราน
เฮลตี้บลูเบอร์รี่มัฟฟิ่น (มัฟฟิ่นสูตรนางแบบ) ไม่อ้วน และอร่อยมากๆ
Healthy Whole Wheat - Greek Yogurt - Blueberry Muffins
เพิ่งซื้อบลูเบอร์รี่มา เลยได้ฤกษ์ทำบลูเบอร์รี่มัฟฟิ่นซะที แต่จะทำสูตรปกติก็ไม่ใช่เรา วันนี้เลยจัดสูตรน้ำมันน้อย ใช้กรีก โยเกิร์ตแบบปราศจากไขมัน (ซึ่งทำเอง) และแป้งโฮลวีท จะได้ทานอย่างสบายใจ
.
อย่าเพิ่งทำหน้ายุ่งค่ะ หากรีก โยเกิร์ตไม่ได้ใช่มั้ย…. ทำเองเลยคะ ง่ายๆ
ดูวิธีการทำ กรีก โยเกิร์ตได้จากโพสต์ DIY Greek Yogurt ตามลิงค์นี้คะ https://www.facebook.com/maekruasanfran101/posts/491397394378375?notif_t=like¬if_id=1460379837453118
.
ทีนี้ก็เริ่มเลยนะคะ (แปะลิงค์ vdo clip ให้ดูด้านล่างด้วยคะ)
***ก่อนทำขอให้อ่านวิธีทำให้จบด้วยนะคะเพราะมี tips เขียนไว้ให้ด้วย***
.
ส่วนผสม (ได้ 7 ถ้วยใหญ่)
1 ถ้วย แป้งโฮลวีท*
1 ชต. แป้งข้าวโพด
1/2 ชต. เบคกิ้ง พาวเดอร์
1 ถ้วย บลูเบอร์รี่สด** (อุณหภูมิห้อง – เกินได้นิดหน่อย)
1 ไข่ฟองโต (อุณหภูมิห้อง)
1/2 ถ้วย กรีก โยเกิร์ต (อุณหภูมิห้อง)***
1 ชช. กลิ่นวนิลา
1/4 ถ้วย น้ำมันพืช**** (ตวงขาดนิดหน่อยได้)
1/2 ถ้วย น้ำตาลทรายขาว (ตวงขาดนิดหน่อยได้)
Note:
*ถ้าไม่มีแป้งโฮลวีทใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์ปกติได้เลย
**ใครหาบลูเบอร์รี่สดไม่ได้ จะใช้บลูเบอร์รี่แห้ง หรือบลูเบอร์รี่แช่แข็งก็ได้โดยเตรียมดังนี้
>> บลูเบอร์รี่แห้ง: นำไปแช่น้ำร้อนซัก 15 นาทีให้เค้าคลายตัว ก่อนใช้ก็เทน้ำออกให้หมด (ซับน้ำออกด้วย)
>>บลูเบอร์รี่แช่แข็ง: นำบลูเบอร์รี่ไปล้างน้ำเย็นจนน้ำเป็นสีใส (น้ำแรกๆจะเป็นสีม่วงๆ) จากนั้นนำบลูเบอร์รี่ไปซับน้ำออก ใช้กระดาษทิชชู่หลายๆชั้นหน่อยคะ (วิธีการนี้จะช่วยป้องกันไม่ใช้เนื้อมัฟฟิ่นเป็นสีฟ้าหม่น ไม่น่าทาน แต่จะเป็นสีเหลืองทองน่าทาน อย่างที่ควรเป็น) …. ดูรูปประกอบนะคะ
***ดิฉันใช้ fat free greet yogurt (ทำเอง) ยังอร่อย เนื้อนุ่ม ถ้าคุณๆใช้ greek yogurt ธรรมดาจะยิ่งอร่อยเข้าไปอีกคะ
****ใครอยากใช้น้ำมันมะพร้าวก็ละลายก่อนนะคะ จะได้ตวงได้แม่นๆ
.
วิธีทำ
1. อุ่นเตารอ ใช้ความร้อนที่ 175 องศาเซลเซียส หรือ 350 องศาฟาเรนไฮต์*
2. ทาน้ำมันบางๆที่พิมพ์** แล้วโรยแป้งบางๆทับกันมัฟฟิ่นติดพิมพ์ หรือใช้ muffin liner ชนิดที่เป็น Parchment Paper (ไม่งั้นมันจะติดคะ)
3. เตรียมส่วนผสมแห้ง: ตวงแป้งโฮลวีท 1 ถ้วย แต่ตักออก 1 ชต. จากนั้นผสมแป้งข้าวโพดลงไปแทน ผสมให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยเบคกิ้งพาวเดอร์ ผสมให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดี ก็เทบลูเบอร์รี่ ¾ ถ้วยลงไป ผสมอย่างเบามือ แล้วพักไว้ (ทำแบบนี้ บลูเบอร์รี่จะกระจายอยู่ทั่ว ไม่ไปรวมนอนก้นอยู่ที่เดียว
4. ส่วนผสมเปียก: ผสม ไข่ กรีกโยเกิร์ต น้ำมัน วนิลา แล้วตีให้เข้ากันจนเนียน จากนั้นจึงผสมน้ำตาลทราย ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
5. เทส่วนผสมแห้ง (ทีละครึ่ง) ลงในชามส่วนผสมเปียก แล้วกวนอย่างเบามือให้พอเข้ากัน อย่ากวนนานเพราะจะทำให้เนื้อมัฟฟิ่น แน่น แข็ง (เห็นแป้งขาวๆบ้าง ไม่เป็นไรคะ)
6. ใช้ที่ตักไอศรีมขนาดลูกใหญ่ตักแป้งลงพิมพ์ให้เกือบเต็ม กะให้ปริมาณแป้งเท่าๆกันทุกหลุม หลุมไหนไม่มีแป้งให้เทน้ำเปล่าใส่ เค้กจะได้สุกเท่าๆกัน จากนั้นนำบลูเบอร์รี่ที่เหลือมาโรยหน้ามัฟฟิ่น (กดให้จมลงแป้งนิดหน่อย)
7. อบนาน 15-18 นาที (แล้วแต่เตาอบ) หรือเมื่อนำไม้หรือปลายมีดไปจิ้มแล้วไม่มีแป้งติดออกมา
8. เมื่ออบเสร็จ เอาถาดออกจากเตาพักไว้ซัก 2 นาที จากนั้นนำมัฟฟิ่นออกจากพิมพ์แล้วพักบนตะแกรงให้หายร้อน
9. ถ้าอยากให้มัฟฟิ่นน่าทาน โรยน้ำตาลไอซ์ซิ่งทับได้คะ แต่รอให้เค้าเย็นสนิทก่อน และโรยก่อนทานนะคะ ไม่งั้นรอซักพักไอซ์ซิ่งจะละลายมองไม่เห็นแล้ว…..จากนั้นก็ถึงเวลาหม่ำแล้ววววว
.
Note:
*ควรมี เทอร์โมมิเตอร์ใส่ไว้ในเตาอบ อย่ากะเอาเองเพราะถ้าความร้อนมากหรือน้อยกว่าที่กำหนด จะมีผลต่อขนมอบ/อาหาร ของเรา
**หลีกเลี่ยงการใช้ cooking oil spray นะคะเพราะอันตราย…แล้วไว้ถ้ามีเวลาจะอธิบายแยกไว้ให้ว่าทำไมถึงไม่ควรใช้
.
เป็นไงคะ อ่านดูแล้วรู้สึกว่ายากหรือง่าย ถ้ารู้สึกว่ายากมาดู vdo clip กันแล้วจะรู้สึกว่าง่ายขึ้นมาเลย
เข้าไปดูสูตรอาหาร เค้ก คุ๊กกี้ ขนม แบบ healthy และไม่อ้วนh
ที่มีข้อมูล ส่วนผสมและวิธีทำครบถ้วนได้ที่ เฟสบุ๊คเพจ “แม่พลอยซานฟราน”
ตามลิงค์นี้เลย https://www.facebook.com/maekruasanfran101/
แล้วอย่าลืมกด like เป็น แฟนเพจด้วยน้า จะได้เห็นทุกสูตร
ทำเลยคะแล้วบอกด้วยว่าชอบมั้ย….อย่าได้ช้า ^ ^
แล้วเจอกันจานหน้าคะ (เร็ๆนี้เลย)
แม่พลอยซานฟราน