เราเป็นคนนึงที่มั่นใจมากว่าตัวเองทุ่มเทเต็ม 100 กับงาน
และจะหาว่าเราไม่ประสบความสำเร็จในงานก็ไม่ได้อีกค่ะ
เราทำเงินเดือนได้ครึ่งแสนก่อนอายุ 26 ถ้าเราไม่โอเค ไม่มีองค์กรไหนยอมจ่ายให้เราหรอก

และเราก็คิดอย่างนี้จริงๆ เราว่าแนวคิดอย่างนี้ถูกต้องแล้ว
ไม่ใช่คำพูดของคนเช้าชามเย็นชามหรอก คนฉลาดก็เคยพูด

รักงานที่ทำได้ ... คือตัวงานที่เราทำทุกวัน รักมันได้ ขวนขวายหาความรู้ หาอะไรใหม่ๆ มาพัฒนาตนเองในงานได้ ตราบใดที่เราสนุกกับงานที่เราทำ เราจะไปได้ดีไม่ว่าไปที่ไหน

แต่ อย่ายึดติดกับตัวบริษัท

บางบริษัท ไม่ได้รักคุณเลย เค้าต้องการแค่เม็ดเงินที่ความสามารถของคุณผลิตให้เค้าได้เท่านั้น เราย้ำว่า บางบริษัทนะคะ บางที่ดี๊ดี ดูแลพนักงานดีก็มีจริงๆ แต่เราถามตรงนี้เลยว่า มันจะมีสักกี่ที่??

คนที่เป็นเจ้าของบริษัท เอาเงินมาลงทุนเค้าก็หวังกำไร หวังผลตอบแทนเข้ากระเป๋าตัวเองทั้งนั้นแหละค่ะ! เวลาฝืดเคืองผลประโยชน์ส่วนพนักงานจะโดนจำกัดเป็นจุดแรก ต่อให้เรารักบริษัทมากแค่ไหน ทำงานเข้าเช้ากลับดึกยังไง เมื่อคุณตายไป เค้าก็หาคนใหม่มาแทนที่คุณได้อยู่ดี

นี่เป็นคำที่เจ้านายคนแรกของเราพูด ตอนนั้นเราเพิ่งจบใหม่ ราขยันทำงานมาก ทุ่มเทบ้าพลัง จนพี่เค้าต้องเรียกไปคุย ไปเบรค ไปเล่าประสบการณ์ชีวิตให้ฟัง แล้วก็บอกคำนี้กับเรานี่แหละ เค้าบอกว่าเราขยัน เราทุ่มเท ทำงานเก่ง เค้าชอบ แต่เค้าอยากให้เราทำงานแบบพอดี balance ทั้งชีวิตทั้งงานให้มันพอดีๆ กันมากกว่า กลับบ้านเร็วๆ ไปกินข้าวเย็นกับพ่อแม่บ้างสุดท้ายครอบครัวก็สำคัญที่สุด ไม่ใช่องค์กร อย่าคิดแม้แต่นิดเดียวว่าเรามีความสำคัญกับองค์กร ... ใหญ่แค่ไหน เก่งแค่ไหน เค้าก็หาคนมาแทนเราได้ตลอด แต่ตัวเรามีแค่ 1 เดียว เป็นอะไรไป คนข้างหลังก็หาเรามาแทนใหม่ไม่ได้ ...

ก็นั่นแหละค่ะ ตามนั้นนะ ตรงตามเนื้อหาเลยค่ะ
งานที่ทำ รักได้ ขยันทำ มีความสุขกับมัน พัฒนาตัวเองเพื่อจะทำมันให้เก่งขึ้น ดีขึ้นได้ สุดท้ายทักษะนั้นๆ ก็ติดตัวเราไป ใครก็เอาไปไม่ได้
แต่จะใหญ่จะเก่งแค่ไหน บริษัทก็หาคนมาแทนที่ได้ อย่าสำคัญตัวเองให้มากไป เค้าจะเขี่ยเราตอนไหนก็ได้เมื่อเราหมดประโยชน์ ไม่มีจ๊อบส์ แอปเปิ้ลยังอยู่ได้ ... แล้วคุณล่ะเป็นใคร?

ไม่ใช่ครับ อย่ารักบริษัท"ที่ไม่รักคุณ" ต่างหาก

ให้รักงาน รักเพื่อนร่วมงาน รักหัวหน้างาน รักสถานที่ขนาดไหน
ถ้าตัวบริษัทหรือนายจ้างไม่รักคุณ
ใช้งานเกินเวลา จ่ายค่าจ้างไม่เป็นธรรม โอทีไม่มีโอฟรีตลอด
กฎเกณฑ์ความก้าวหน้าไม่มี ไม่คิดจะให้ความรู้ฝึกอบรม
ประเมินผลงานทีก็ปาเป้า หรือไม่ก็เท่ากันหมดทั้งคนดีไม่ดี

อย่างนี้แล้ว อย่าไปรักบริษัทนี้เลยครับ
เราตายคาบริษัท เขาหาคนมาแทนเราง่ายนิดเดียว
แต่คนที่บ้าน หาใครมาแทนเราไม่ได้นะครับ