ขอระบายความในใจของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่สามารถเข้ากับญาติของสามีได้ T^T

เราเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งซึ่งอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีลูก อยากมีสามีแบบคนทั่วๆไปเขามีกันแต่ติดก็เสียแต่ว่าเป็นคนอินดี้ ติสท์แตก หัวรุนแรงและยึดมั่นในความถูกต้องเป็นที่หนึ่ง ซึ่งเราถูกที่บ้านสอนมาแบบนี้ เราจึงไม่เหมาะกับสังคมโลกสวย ใครๆก็มักจะหาว่าเรานิสัยเลวเพียงแค่เราคิดต่าง
   
    เอ้า...มาต่อ เราได้พบรักและอยู่กินกับชายคนหนึ่งซึ่งเขาก็มีนิสัยที่ไม่ดีแต่ก็ไม่เลวร้ายขนาดเป็นปัญหาสังคม เราอยู่กับชายคนนี้โดยที่ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆ เราทราบว่าเขามีเรือพ่วงมาสองคนในวันที่มันสายไปเสียทุกอย่าง แต่เรารับได้ในจุดนี้ เราสองคนมีหน้าที่การงานที่พอจะเลี้ยงตัวได้และพอจะมีเงินเหลือเผื่อไปให้ครอบครัวของแต่ละฝ่ายได้ใช้จ่ายอย่างไม่ลำบาก
     
     ปีแรกผ่านไป...ทุกสิ่งทุกอย่างโอเค ทะเลาะกันบ้างตามประสามนุษย์ธรรมดา ขัดสนเป็นบ้างครั้งแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร
     
     ปีที่สองย่างเข้ามา...เราเริ่มมีปัญหากับคนในครอบครัวของสามี ตอนแรกนั้นไม่ได้ซื้อบ้าน เช่าหออยู่กันสองคน ส่วนเรือพ่วงสองหน่อก็ฝากพ่อแม่ทางบ้านนอกไว้ เริ่มมีเงินเก็บจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เพราะคำว่าต้องเก็บเงินเนี่ยแหละเรากับสามีต้องทำงานหนักเพื่อสร้างฐานครอบครัวให้มั่นคง ทำงานแทบไม่ได้พัก ตากแดดทุกวัน เลิกงานก็ค่ำ ใช้แรงงานเยี่ยงกรรมกร เราเหนื่อยมาก ต้องการพักผ่อนนอนหลับเอาแรงไปหาเงินต่อในวันต่อๆไป วันหนึ่งทางบ้านญาติสามีนั้นมีงานเลี้ยงสุรา (ซึ่งมันก็มีแทบจะทุกวัน) บางครั้งเราก็ไป บางครั้งก็ขอตัวพักผ่อนเลยให้สามีไป แต่วันนั้นเราไม่ได้ไปแต่อยู่ที่หอ สามีก็สงสารเราเลยอยู่เป็นเพื่อนเพราะเขาก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน ปรากฏว่าญาติคนหนึ่งของสามีก็โพสต์ลงในเฟสบุ๊คจ้า...ว่าเราเนี่ยไม่เข้าสังคม ไม่มีเพื่อนไม่มีฝูง ไม่มีใครรัก ไม่มีสังคม สักวันอยากได้ความช่วยเหลือก็จะไม่มีใครช่วยสักคน...จำไว้ !!! เราอึ้งจ้า...กะอีแค่ไม่ไปกินเหล้าแค่วันเดียวแค่เนี่ย? คือผัวเมียต่างคนต่างทำงานไม่มีวันหยุด มันก็อยากจะมีเวลาสวีทกันเวลาที่ได้หยุดอยู่บ้านพร้อมๆกันป่าววะ? คือ...นี่คือประเด็นแรกที่ญาติสามีเกลียดชัง  เค้าเคยตอกหน้าเราไว้ ถ้าสักวันฉันมีปัญหาอะไร จะไม่มีใครมาเหลียวแลเลย คือ...รู้ป่ะ? ตั้งแต่เราเดินจากครอบครัวนั้นมา เราไม่เคยเหยียบกลับไปในที่นั้นอีกเลย แถมหลังจากนั้นเราก็มีเงินเก็บพอที่จะไปดาวน์บ้านเล็กๆเป็นของตัวเองโดยไม่ได้พึ่งใครสักคนเลย เราป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเราก็ไม่เคยคิดจะขอให้ญาติสามีเอารถยนต์ไปส่งสักครั้ง เราขับมอเตอร์ไซค์ไปโรงบาลเองเลยจ้า นอนโรงบาล 2 คืน ไม่ง้อใครมาเยี่ยม นอนห้องรวมธรรมดา มีพยาบาลเดินไปเดินมาก็กวักมือเรียก หายแล้วเดินออกจากโรงพยาบาล เท่านั้น จบปิ๊ง !!! ลำเลิกบุญคุณไม่ได้นะจ๊ะ แต่เราก็ไม่เคยแคร์นะ เพราะลับหลังญาติๆ (ญาติหลายคน) ก็เอาเราไปนินทาลับหลังโน่นนี่นั่น เราชินแล้วล่ะ โชคดีที่สามีเราเข้าใจ แต่ก็แอบบังคับเราให้ไปขอโทษญาติของเขา เราเสียใจเพราะเราไม่สามารถทำให้สามีได้ เลยกลายเป็นว่าญาติสามีเกลียดเราและไม่มองหน้าเราเลยล่ะ นั่นเป็นรอยร้าวจุดแรกที่ใครๆก็ไม่คาดคิด

      ย่างสู่ปีที่สาม...ชีวิตก็เริ่มสุขสบายขึ้น มีบ้าน ก็เริ่มแพลนว่าอยากได้รถยนต์ เผื่ออยากกลับบ้านนอก ไม่อยากตากฝนไปทำงาน เราทำงานหนักเพื่อส่งบบ้านและหนี้สินผ่อนของเล็กๆน้อยๆ มีเงินเดือนพอเหลือที่จะผ่อนรถเราจึงตัดสินใจว่าจะซื้อรถ ตอนแรกก็ดูรถมือสองไว้ คนรอบข้าง เพื่อนฝูงก็แนะนำให้ซื้อมือหนึ่งดีกว่า เราตัดใจซื้อโดยขอให้สามีดาวน์รถให้ แต่ ณ ที่นี้ก็คล้ายๆเรายืมเงินเขาอ่ะ เพราะเงินดาวน์เราต้องทยอยจ่ายคืนสามีเป็นจำนวน 10 งวด เพราะเขาจะเอาเงินส่วนนี้ไปใช้หนี้ให้ที่บ้าน เราก็โอเคนะที่จะต้องผ่อนรถกับบ้านด้วยตัวเองและนำเงินบางส่วนคืนให้สามี แต่เรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พอน้องของสามีทราบว่าเขาจะดาวน์รถ น้องของสามีเป็นที่ปรึกษาฝ่ายขายของรถยี่ห้อที่เราจะซื้อก็มาเสนอโปรโมชั่นโน่นนี่นั่นให้ดู แต่เราไม่สะดวกที่จะไปซื้อรถไกลๆจากที่ที่เราพำนักอยู่ อีกอย่างในส่วนของรถแม่ของเราเป็นคนค้ำประกันให้ แม่ไม่สะดวกในการเดินทางไกลเพราะนางแก่แล้ว แค่นี้เราก็รู้สึกเกรงใจแม่มากแต่กลับต้องมาทะเลาะกับสามีและครอบครัวของสามีเพราะเราไม่ได้ซื้อรถที่น้องของเขา เพลีย... บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยใจมาก น้องของสามีเกลียดเราเพราะเราไม่ซื้อรถที่เขา เขาพูดประมาณว่า...เงินมีก็เก็บไว้ส่งลูกเรียนบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ฟุ้งเฟ้อหาความสุขใส่ตัว คือ...เรารู้เราก็ไม่สบายใจที่โดนต่อว่าแบบ "น่ะเกาะพี่กูกินจนพี่กูไม่มีเงินจะส่งให้ลูกเรียน ไม่มีเงินให้พ่อแม่ใช้แล้ว" แต่น้องไม่เคยทราบเลยว่าแต่ละวันเรากินอยู่แบบไหน เราทำงานหนักแค่ไหน เรามีปัญหาอะไร จนสุดท้าย...น้องเขาถึงขั้นว่าตัดพี่ตัดน้องเพราะเรื่องไม่ซื้อรถกับน้อง สามีก็มาต่อว่าเราว่าเป็นสาเหตุทำให้เขากับน้องต้องแตกคอกัน ถ้าเรายอมตามใจซื้อตั้งแต่แรกเขาคงไม่ผิดใจกันแบบนี้ แต่เคยมีใครเคยคิดถึงเราไหมว่าถ้าซื้อไปแล้ว เราจะผ่อนรถไหวไหม? เพราะตัวที่น้องแนะนำนั้นมันตัวรองท๊อป ราคาไม่ใช่ถูกๆ ขนาดเราซื้อยังต้องซื้อตัวล่างสุดเลยเพราะเรารู้กำลังของตัวเองว่าเราส่งเงินแค่นี้มันพอไหวสำหรับเราไง แล้วไหนจะแม่ที่แก่ชราภาพของเราที่ต้องมาร่วมหัวจมท้ายกับหนี้สินก้อนโตนี่อีก เออนะ...ไม่นับญาติก็ไม่นับ กลับบ้านไปแม่ก็ยังรักเราอยู่อ่ะนะ

    ไม่เท่านั้นนะ ! ขอเม้าท์มอยเรื่องแม่สามีหน่อยเหอะ แม่สามีมาเยี่ยมบ้านทีไร บ่นๆๆทู๊กที เรื่องหนึ่งก็คือให้เราไปขอโทษญาติของสามี เราไม่ได้มีเวลาว่างจะไปไง ไหนๆเขาก็ไม่นับเราเป็นคนในครอบครัวแล้วไง แล้วยังต้องไปอีกเหรอ? อีกเรื่องคือเรื่องบ้านรก คือเราก้บสามีทำงานเกือบทุกวัน เหนื่อยค่ะ แค่ทำงานก็เหนื่อยมากแล้ว พอกลับบ้านมาสามีก็ถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้เรี่ยราดบนโซฟา สูบบุหรี่ในบ้าน จิบกาแฟในห้องน้ำ อึแล้วไม่กดชักโครก กินขนมจุบจิบทิ้งเรี่ยราดมดขึ้นบ้าน ฯลฯ คือประมาณว่าชีวิตนี้พ่อเจ้าประคุณจะไม่ทำอะไรเลย ให้เราเป็นางแจ๋ว คือเราทำงานตากแดดเยี่ยงกรรมกรมาทั้งวันแล้วนะ งานในบ้านช่วยๆกันทำได้ไหมล่ะ? ไม่ทำก็ไม่เป็นไรแต่ขอแค่ไม่ทำรกเพิ่มก็พอ นี่พ่อคุณทำบ้ารก เราไม่มีเวลาเก็บกวาด แค่ฝุ่นนิดๆแม่ฮีก็รีบด่าเราเลยจ้าว่าเป็นผู้หญิงสกปรก ขี้เกียจ ไม่รักษาความสะอาด คือ...ถ้าเให้เราตามเก็บตลอดเวลาที่ฮีทำรกเราก็ไม่ไหวนะ แค่เข้าบ้านมาถอดเสื้อผ้าใส่ลงบนตระกร้า กินขนมเสร็จแล้วทิ้งลงในถังขยะ ทิ้งก้นบุรี่ให้เป็นที่ เก็บแก้วกาแฟหลังจากกินในห้องน้ำมาใส่อ่างน้ำในครัว แค่นี้คนธรรมดาใครๆเขาก็ทำได้ แทนที่จะโทษลูกชายแต่กลับกลายเป็นเราโดนด่าเปิงซะงั้น มันอึดอัดมากนะ เราเครียดจนหัวจะระเบิดแล้ว จะอะไรกับเรากันนักหนาเนี่ย !!!!

   ตั้งแต่อยู่กันมาจนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบสี่ปี เชื่อไหม? เราไม่เคยเป็นคนดีในสายตาของครอบครัวสามีเลย เราเป็นของเราแบบนี้ เราอาจจะผิดที่ถูกปลูกฝังความนิสัยเสียในบางเรื่องแต่มันกลายเป็นจุดดำในสายตาของคนที่บ้านเขา ตั้งแต่อยู่กับสามีมา เรายอมเป็นหนี้คนเดียวเพื่อซื้อบ้าน เรายอมเป็นหนี้เพื่อซื้อรถยนต์โดยมีแม่ของเรามีส่วนร่วมในหนี้สินนี้ด้วย ตั้งแต่อยู่กันมาเราไม่เคยมีทะเบียนสมรส ไม่เคยมีงานแต่งงานที่ถูกต้องตามประเพณี ไม่เคยมีความสบาย ทำงานหนักตากแดดเยี่ยงชายเพื่อหาเงินมาสร้างครอบครัว ไม่เคยมีทองหยองใส่อวดใครเขา แม้แต่โทรศัพท์มือถือก็เก่าๆราคาสามพันใช้ แทบจะไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่ทำงาน ไม่มีเครื่องสำอางแก้สิวฝ้าคุณภาพดีอย่างใครเขา แต่เชื่อไหม? เราไม่เคยคิดที่จะมีคนใหม่ เราไม่เคยคิดแม้จะนอกใจ เราควรต้องทำยังไงในเมื่อเราเป็นแบบนี้

บางทีเราก็คิดนะ ควร "รัก" หรือ "เลิก" ขอโทษนะถ้าพิมพ์ยาวไป นาทีนี้ต้องการคนที่เข้าใจและกำลังใจจริงๆ ท้อแท้มากกับเรื่องครอบครัว

เราควรทำอย่างไร เลิกหรือไปต่อดี อมยิ้ม08

ขอบคุณมากค่ะที่ให้หญิงอินดี้คนนี้ได้มีที่ระบายความในใจ เพี้ยนเพลีย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่