เริ่มเลย นะคะ อย่า"ได้พิลี้พิไล"
เริ่มจากความ "ยาก" (ยากไปเที่ยว)
เลยมุ่งหน้าไปนี่เลยคะ "ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 38"
เดินไปเดินมา อยู่ประมาณ 3 รอบ เก็บโบรชัวร์ มาได้ 1 ถุง
สุดท้ายมาโดน บริษัททัวร์ "ตะรุเตาสปีดโบ้ท เฟอร์รี่ทีม" เป่าหูเข้าให้
เรียบร้อยเลยคะ จัดไป แพ็คเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน วันที่ 10-12 เม.ย. 59
พักที่"หลีเป๊ะ เพอร์เวอร์บีช"
ราคา คนละ 7250 สองคน รวม 14500 บาท
(บอกอย่างไม่อาย นอกจาก เราเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว เรายังเป็นมนุษย์เงินผ่อนด้วยนะคะ
จัดไป 0% 4 เดือน



)
เรามาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า

เราจะเดินทาง จาก กทม.ไป หาดใหญ่ ด้วยรถไฟไทยคะ
วันที่ 1
ตั๋วรถไฟ พร้อม
เงินพร้อม
หลังจากไปเตรียมความพร้อม
อุปกรณ์พร้อม
เราไม่ได้มีแค่อุปกรณ์ แต่เรายังมีข้าวห่อน้อยอีกด้วย
ทุกอย่างพร้อม ไม่รอช้า เราเดินทางมารอขึ้นรถไฟ
โชคดี วันนี้มีตั๋วรถไฟชั้นนอนเสริม เราเลยทำการเปลี่ยนตั๋วที่เราจองไว้จาก นั่งพัดลมชั้น 2 มาเป็น นอนแอร์ ค่อยดีหน่อยไม่ร้อน รถออกประมาณ 16:40 น.
หลังจากรถไฟออกได้ไม่นาน ถุงข้าวน้อยก็เริ่มเปิดออก "ฟินเว้อ"
เวลาผ่านไปไม่นาน รถไฟเข้าสู่ เมืองเพชรสิ่งที่รอคอยก็มาถึง "เตี๋ยวแห้ง" กล่องละ 10 บาท บอกเลย "ร่อยเหาะคร๊า"ใครไม่กินถือว่าพลาด


คืนแรกผ่านไป พักผ่อนย่อนใจ กับรถไฟไทย
สวัสดี วันที่ 2
ตื่นเช้ามา ล้างปาก กันด้วยข้าวเหนียวไก่ทอด "เจ็บจี๊ด ราคาแรงมาก"
ตามด้วย "ลูกหัวครกหลาน้ำผึ้ง" หุหุ ไม่ต้องงง มันคือ มะม่วงหิมพานต์
หลังจากอิ่มแล้ว นั่งหลับๆตื่นๆซักพักก็ถึง หาดใหญ่ พะเจ้า ทั้งนั่งทั้งนอน กว่าจะถึง 11:00 น. รวมๆการเดินทาง จาก กทม.-หาดใหญ่ ใช้เวลา ประมาณ 19 ชั่วโมง
หลังลงจากรถไฟ เราก็เดินไปเรื่อยๆเพื่อหาที่พัก ระหว่างทางที่เดินคุณจะรู้สึกเหมือนคนที่นี่เป็นมิตรสนิทสนมกับคุณมาก เพราะไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหนก้อมีคนคอยตะโกน ถามคุณตลอดเวลาว่า "ไปไหนคับ" 5555 แล้วตามด้วย #ตุ๊ก ตุ๊ก ม้าย #หลีเป๊ะม้ายคับ อืมมมก็แล้วแต่ ที่แน่ๆคืนนี้เราต้องนอนหาดใหญ่ 1 คืน เพราะ บริษัททัวร์ จะมารับเรา
ไปหลีเป๊ะ พรุ้งนี้ตอนเช้า วันนี้ก้อถือโอกาศ ทัวร์เมืองหาดใหญ่รอละกัน
หลังจากเดินมาเรื่อย จากสถานีรถไฟ เราก็แวะถามราคาที่พักมาเรื่อย จนมาเจอ โรงแรมเมโทร โรงแรมเก่าๆ เราเคยมาพักเมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว เห็นแล้วคิดถึงเพื่อนๆสมัยก่อน ก็เลยตกลงพักที่นี่ ค่าเช่า 550 บาท สภาพห้องตามราคา เข้าห้องพักอาบน้ำอาบท่า (ฝากถึงคนที่นั่งรถไฟมาแล้วจะมาหาที่พัก บอกเลยไม่ต้องขึ้นรถให้เสียตัง ให้เดินตรงมาตามถนนหลังสถานีรถไฟ ที่พักราคาถูก ราคาแพงเยอะแยะ เลือกเอาตามใจชอบ) เสร็จแล้วเราเดินมั่วๆ ไปจนถึง ตลาดกิมหยง ก็นั่งตุ๊กๆไปเซ็นทรัล คนละ 30 บาท เข้าไปกินข้าวกันจนอิ่ม
หลังจากกินข้าวอิ่ม สิ่งที่เรียกว่า
#นรก ก็เกิดขึ้น จะไปจ่ายตัง เปิดกระเป๋าออกมา พะเจ้า
"กระเป๋าตังไม่มี" สะตั้น ไปประมาณ 1 นาที" ทำไงดี ตั้งสติทบทวนอยู่พักหนึ่ง กระเป๋าตังฉันอยู่ไหน

ณ ตอนนั้นมึนตึบ จะเอาตังที่ไหนจ่าย กลัวอาย กลัวมีปัญหา แต่บนความโชคร้ายยังมีความโชคดี ค้นกระเป๋าเจอขวนน้อย ที่หัวหน้าให้เป็นของที่ระลึกก่อนออกเดินทาง ติดตัวมาด้วย ของที่อยู่ในขวดน้อย ช่วยชีวิตจริงๆ
เสร็จก็ออกมาขึ้น 2 แถวที่หน้าห้าง กลับมาที่ตลาดกิมหยง ค่ารถ คนละ 10 บาท

ตอนไป30 ขากลับ 10 บาท อืมมมม
มาถึงกิหยงลงจากรถก็เดินๆไปเรื่อยๆที่ตลาดกิมหยง ในใจ ก้อ ยังคิดไม่ตก ว่า "กระเป๋าตังอยู่ไหน"

แวะซื้อผลไม้แพ็พพพพ
ซื้อผลไม้เสร็จ กลับมาที่พัก เปิดประตูเข้ามา เป็นอันโล่งอก กระเป๋าตังอยู่ที่ห้อง
สวัสดี วันที่ 3
วันนี้ตื่นเช้า อาบน้ำแต่ตัว ตั้งแต่เช้า รถจากบริษัทร์นัดไว้ 8:30 น. ระหว่างทางที่เดินไปรอรถ แวะเดิมพลังกันหน่อย
สรุปรถมาสาย เราออกจากหาดใหญ่ 9 โมงกว่า ขึ้นรถมาปุ๊ป ถึงกับอุทาน "
โอ้แม่สาวน้อย แม่สาวชาวจีน เอาทุเรียนขึ้นมาทำไม" ตลอดทางต้องอดทนกับกลิ่นทุเรียนมาเรื่อย บอกเลยกลิ่นนี่ถึงกับ
"ขมคอ" เรามาถึง ปากบาราตอน 11 โมง

มาถึงก็ได้กินข้าวมื้อแรกของทัวร์
กินข้าวเสร็จลงเรือ
เรือหยุดให้เราถ่ายรูป 2 จุด จุดละ 15 นาที ส่วนตัว เราว่าเวลามันน้อยไป หุหุ จุดแรกที่อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา
จุดที่สอง เกาะไข่ น้ำที่นี่ใสมากกกกกก สวยมากกกกกกก บอกเลย
ออกจากอุทยานตะรุเตา เรือก้อมาส่งเราขึ้นโป๊ะหน้าเกาะ
เพื่อต่อเรือหางยาวเข้าเกาะ นี่คือภาพระหว่างที่นั่งเรือหางยาวไปยังที่พัก
ได้เหยียบเกาะหลีเป๊ะตอนบ่าย 3 บอกเลยน้ำทะเลสวยมาก ไกด์บอกว่าช่วงนี้น้ำทะเลเป็นสีมรกต
และแล้วก้อมาถึงที่พัก เก็บข้าวของเสร็จออกไปถ่ายรูปแพ๊พหนึ่ง เดินไปเรื่อยๆ มั่วๆ เพื่อจะไป
ถนนคนเดิน สรุปหลง จากระยะทาง ประมาณ 1 กิโลเมตร เราเดินไปสะประมาณ 2 กิโล เดินไปเดินมาสรุปต้องถามทางจากชาวบ้าน 2 ครั้ง ถึงไปถึง จุดนี้ไม่ต่างไปจากพัทยาหรือว่าบางแสน ดูวุ้นวาย ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเหล้า ผู้คน มากมาย เบียดเสียด แล้วเราก้อเดินผ่านความวุ่นวาย มุ่งหน้าลงไปที่หาดพัทยา(บันดาหยา) เราเจอฝูงลูกปลาที่ริมหาดเพียบ
สุดท้ายอากาศร้อนมาก ร้อนโคตรๆๆ เราก็เลยกลับมาที่พักก่อน
ระหว่างทางเดินกลับเลย จัด หมูปิ้ง รองท้องสะหน่อย โอ้ ไม้ละ 20 นะคับ
ตกเย็นก็ไปดูพระอาทิตย์ตกทะเล คือมันสวยงามมมมม
พอพระอาทิตย์ตกทะเลเรียบร้อย พวกเราพร้อมไกด์ ก็เดินไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ที่ถนนคนเดิน อาหารอร่อย
กินข้าวเสร็จ เดินกลับที่พัก ระหว่างทางก็แวะร้านค้าโลตี ชาชัก ที่เค้ารำรือกันว่าเด็ด
จัดมา 1 ชุด บอกเลย

คำถามก็บังเกิดขึ้นในหัวคือ
#ตรงไหน เสียดายตัง 5555
ระหว่างทางเจอร้าน บุฟเฟ้ ซีฟูด 490 บอกเลยว่ามันช่างน่า
'โดน' สะเหลือเกิน กุ้งหอยปูปลาเพียบ ได้ถ่ายรูปมาแค่รูปเดียว โทรศัพท์แบ๊ตหมด
ลืมบอกที่นี่ ของแพงมาก ร้านสะดวกซื้อเลข7 ราคาแพงกว่า ราคาคูณ2

ผ่านไปอีกหนึ่ววัน ยังไม่ค่อยมีกิจกรรม เพราะเหนื่อยกับการเดินทาง วันนี้ต้องพักผ่อน พรุ้งนี้จะไปดำน้ำแต่เช้า คืนนี้พักผ่อนยาว
"หลีเป๊ะ" มันมีอะไร
เริ่มจากความ "ยาก" (ยากไปเที่ยว)
เลยมุ่งหน้าไปนี่เลยคะ "ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 38"
เดินไปเดินมา อยู่ประมาณ 3 รอบ เก็บโบรชัวร์ มาได้ 1 ถุง
สุดท้ายมาโดน บริษัททัวร์ "ตะรุเตาสปีดโบ้ท เฟอร์รี่ทีม" เป่าหูเข้าให้
เรียบร้อยเลยคะ จัดไป แพ็คเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน วันที่ 10-12 เม.ย. 59
พักที่"หลีเป๊ะ เพอร์เวอร์บีช"
ราคา คนละ 7250 สองคน รวม 14500 บาท
(บอกอย่างไม่อาย นอกจาก เราเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว เรายังเป็นมนุษย์เงินผ่อนด้วยนะคะ
จัดไป 0% 4 เดือน
เรามาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า
เราจะเดินทาง จาก กทม.ไป หาดใหญ่ ด้วยรถไฟไทยคะ
วันที่ 1
ตั๋วรถไฟ พร้อม
เงินพร้อม
หลังจากไปเตรียมความพร้อม
อุปกรณ์พร้อม
เราไม่ได้มีแค่อุปกรณ์ แต่เรายังมีข้าวห่อน้อยอีกด้วย
ทุกอย่างพร้อม ไม่รอช้า เราเดินทางมารอขึ้นรถไฟ
โชคดี วันนี้มีตั๋วรถไฟชั้นนอนเสริม เราเลยทำการเปลี่ยนตั๋วที่เราจองไว้จาก นั่งพัดลมชั้น 2 มาเป็น นอนแอร์ ค่อยดีหน่อยไม่ร้อน รถออกประมาณ 16:40 น.
หลังจากรถไฟออกได้ไม่นาน ถุงข้าวน้อยก็เริ่มเปิดออก "ฟินเว้อ"
เวลาผ่านไปไม่นาน รถไฟเข้าสู่ เมืองเพชรสิ่งที่รอคอยก็มาถึง "เตี๋ยวแห้ง" กล่องละ 10 บาท บอกเลย "ร่อยเหาะคร๊า"ใครไม่กินถือว่าพลาด
คืนแรกผ่านไป พักผ่อนย่อนใจ กับรถไฟไทย
สวัสดี วันที่ 2
ตื่นเช้ามา ล้างปาก กันด้วยข้าวเหนียวไก่ทอด "เจ็บจี๊ด ราคาแรงมาก"
ตามด้วย "ลูกหัวครกหลาน้ำผึ้ง" หุหุ ไม่ต้องงง มันคือ มะม่วงหิมพานต์
หลังจากอิ่มแล้ว นั่งหลับๆตื่นๆซักพักก็ถึง หาดใหญ่ พะเจ้า ทั้งนั่งทั้งนอน กว่าจะถึง 11:00 น. รวมๆการเดินทาง จาก กทม.-หาดใหญ่ ใช้เวลา ประมาณ 19 ชั่วโมง
หลังลงจากรถไฟ เราก็เดินไปเรื่อยๆเพื่อหาที่พัก ระหว่างทางที่เดินคุณจะรู้สึกเหมือนคนที่นี่เป็นมิตรสนิทสนมกับคุณมาก เพราะไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหนก้อมีคนคอยตะโกน ถามคุณตลอดเวลาว่า "ไปไหนคับ" 5555 แล้วตามด้วย #ตุ๊ก ตุ๊ก ม้าย #หลีเป๊ะม้ายคับ อืมมมก็แล้วแต่ ที่แน่ๆคืนนี้เราต้องนอนหาดใหญ่ 1 คืน เพราะ บริษัททัวร์ จะมารับเรา ไปหลีเป๊ะ พรุ้งนี้ตอนเช้า วันนี้ก้อถือโอกาศ ทัวร์เมืองหาดใหญ่รอละกัน
หลังจากเดินมาเรื่อย จากสถานีรถไฟ เราก็แวะถามราคาที่พักมาเรื่อย จนมาเจอ โรงแรมเมโทร โรงแรมเก่าๆ เราเคยมาพักเมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว เห็นแล้วคิดถึงเพื่อนๆสมัยก่อน ก็เลยตกลงพักที่นี่ ค่าเช่า 550 บาท สภาพห้องตามราคา เข้าห้องพักอาบน้ำอาบท่า (ฝากถึงคนที่นั่งรถไฟมาแล้วจะมาหาที่พัก บอกเลยไม่ต้องขึ้นรถให้เสียตัง ให้เดินตรงมาตามถนนหลังสถานีรถไฟ ที่พักราคาถูก ราคาแพงเยอะแยะ เลือกเอาตามใจชอบ) เสร็จแล้วเราเดินมั่วๆ ไปจนถึง ตลาดกิมหยง ก็นั่งตุ๊กๆไปเซ็นทรัล คนละ 30 บาท เข้าไปกินข้าวกันจนอิ่ม
หลังจากกินข้าวอิ่ม สิ่งที่เรียกว่า #นรก ก็เกิดขึ้น จะไปจ่ายตัง เปิดกระเป๋าออกมา พะเจ้า "กระเป๋าตังไม่มี" สะตั้น ไปประมาณ 1 นาที" ทำไงดี ตั้งสติทบทวนอยู่พักหนึ่ง กระเป๋าตังฉันอยู่ไหน
เสร็จก็ออกมาขึ้น 2 แถวที่หน้าห้าง กลับมาที่ตลาดกิมหยง ค่ารถ คนละ 10 บาท
มาถึงกิหยงลงจากรถก็เดินๆไปเรื่อยๆที่ตลาดกิมหยง ในใจ ก้อ ยังคิดไม่ตก ว่า "กระเป๋าตังอยู่ไหน"
ซื้อผลไม้เสร็จ กลับมาที่พัก เปิดประตูเข้ามา เป็นอันโล่งอก กระเป๋าตังอยู่ที่ห้อง
สวัสดี วันที่ 3
วันนี้ตื่นเช้า อาบน้ำแต่ตัว ตั้งแต่เช้า รถจากบริษัทร์นัดไว้ 8:30 น. ระหว่างทางที่เดินไปรอรถ แวะเดิมพลังกันหน่อย
สรุปรถมาสาย เราออกจากหาดใหญ่ 9 โมงกว่า ขึ้นรถมาปุ๊ป ถึงกับอุทาน "โอ้แม่สาวน้อย แม่สาวชาวจีน เอาทุเรียนขึ้นมาทำไม" ตลอดทางต้องอดทนกับกลิ่นทุเรียนมาเรื่อย บอกเลยกลิ่นนี่ถึงกับ "ขมคอ" เรามาถึง ปากบาราตอน 11 โมง
มาถึงก็ได้กินข้าวมื้อแรกของทัวร์
กินข้าวเสร็จลงเรือ
เรือหยุดให้เราถ่ายรูป 2 จุด จุดละ 15 นาที ส่วนตัว เราว่าเวลามันน้อยไป หุหุ จุดแรกที่อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา
จุดที่สอง เกาะไข่ น้ำที่นี่ใสมากกกกกก สวยมากกกกกกก บอกเลย
ออกจากอุทยานตะรุเตา เรือก้อมาส่งเราขึ้นโป๊ะหน้าเกาะ
เพื่อต่อเรือหางยาวเข้าเกาะ นี่คือภาพระหว่างที่นั่งเรือหางยาวไปยังที่พัก
ได้เหยียบเกาะหลีเป๊ะตอนบ่าย 3 บอกเลยน้ำทะเลสวยมาก ไกด์บอกว่าช่วงนี้น้ำทะเลเป็นสีมรกต
และแล้วก้อมาถึงที่พัก เก็บข้าวของเสร็จออกไปถ่ายรูปแพ๊พหนึ่ง เดินไปเรื่อยๆ มั่วๆ เพื่อจะไป ถนนคนเดิน สรุปหลง จากระยะทาง ประมาณ 1 กิโลเมตร เราเดินไปสะประมาณ 2 กิโล เดินไปเดินมาสรุปต้องถามทางจากชาวบ้าน 2 ครั้ง ถึงไปถึง จุดนี้ไม่ต่างไปจากพัทยาหรือว่าบางแสน ดูวุ้นวาย ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเหล้า ผู้คน มากมาย เบียดเสียด แล้วเราก้อเดินผ่านความวุ่นวาย มุ่งหน้าลงไปที่หาดพัทยา(บันดาหยา) เราเจอฝูงลูกปลาที่ริมหาดเพียบ
สุดท้ายอากาศร้อนมาก ร้อนโคตรๆๆ เราก็เลยกลับมาที่พักก่อน
ระหว่างทางเดินกลับเลย จัด หมูปิ้ง รองท้องสะหน่อย โอ้ ไม้ละ 20 นะคับ
ตกเย็นก็ไปดูพระอาทิตย์ตกทะเล คือมันสวยงามมมมม
พอพระอาทิตย์ตกทะเลเรียบร้อย พวกเราพร้อมไกด์ ก็เดินไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ที่ถนนคนเดิน อาหารอร่อย
กินข้าวเสร็จ เดินกลับที่พัก ระหว่างทางก็แวะร้านค้าโลตี ชาชัก ที่เค้ารำรือกันว่าเด็ด
จัดมา 1 ชุด บอกเลย
ระหว่างทางเจอร้าน บุฟเฟ้ ซีฟูด 490 บอกเลยว่ามันช่างน่า 'โดน' สะเหลือเกิน กุ้งหอยปูปลาเพียบ ได้ถ่ายรูปมาแค่รูปเดียว โทรศัพท์แบ๊ตหมด
ลืมบอกที่นี่ ของแพงมาก ร้านสะดวกซื้อเลข7 ราคาแพงกว่า ราคาคูณ2
ผ่านไปอีกหนึ่ววัน ยังไม่ค่อยมีกิจกรรม เพราะเหนื่อยกับการเดินทาง วันนี้ต้องพักผ่อน พรุ้งนี้จะไปดำน้ำแต่เช้า คืนนี้พักผ่อนยาว