ที นะครับ จะมาเล่าเรื่องการขอวีซ่าเชิงเก้นจากสถานฑูตเนเธอร์แลนด์ฮะ กำลังจะไปเนเธอร์แลนด์กับเบลเยียมต้นเดือนหน้าครับ
ขอเล่าในเชิงประสบการณ์นะฮะ ไม่ลงรายละเอียดเอกสารการยื่นว่าต้องมีอะไรบ้าง อันนั้นอยากรู้ละเอียดเข้าเว็บนี้ฮะ
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/ (แต่ก็จะมีบางประเด็นที่ดึงขึ้นมาพูดถึงนะฮะ)
คือพอคิดและวางแผนได้ว่าจะไปเนเธอร์แลนด์เนี่ย การทำวีซ่าก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องคำนึง
ผมไม่เคยไปยุโรปมาก่อนเลย เคยไปแต่ญี่ปุ่น (สุดเลิฟ)
ทีนี้พอหาข้อมูลการยื่นขอวีซ่าเนี่ย ก็ได้พบข้อมูล (จากกระทู้พันทิปเนี่ยแหละ) ที่สร้างความสะพรึงในใจเล็ก ๆ เอาไว้
นั่นคือ พฤติกรรมที่แสดงออกซึ่งความดิบเถื่อนของเจ้าหน้าที่ (บรื๋อออออ)
เราก็ อะหืออ มันขนาดนั้นเลยเหรอวะ
เออ ๆ ไม่เป็นไร เราก็เตรียมเอกสารของเราไปให้ดี เวลาเค้าถามอะไรจะได้ตอบได้รวดเร็วทันใจ (เค้าจะได้ไม่ดุ ฮ่า ๆ)
พอได้ข้อมูลว่าต้องยื่นอะไรบ้างก็ต่อด้วยนัดวันผ่านเว็บ ซึ่งผมก็เลือกเป็นวันที่ 6 เมษายน 2559 ก็คือวันนี้นี่แหละ (บอกทำไม)
หลังจากที่ลงบีทีเอสสถานีนานา ก็เดินไปซอยสุขุมวิท 13 เลี้ยวเข้าตึก Trendy
เข้าไปปุ๊ป แอบเมา ไหนฟระสถานฑูตเนเธอร์แลนด์ ข้าเห็นแต่ยูเค ออสเตรีย บลา ๆ
เลยต้องแอบถามพี่ยาม ได้ความมาว่าต้องขึ้นลิฟต์ที่อยู่โซนตรงข้ามกับทางเข้า ตัวที่ 10 (จริง ๆ มี 3 ตัว อยู่ติดกัน)
เข้าไปก็จิ้มเบอร์ 28 ลิฟต์นี่ก็ช่างสโลว์ไลฟ์ขัดกับจังหวะหัวใจที่เต้นแบบตื่น ๆ อยู่ไม่น้อย
ถึงชั้น 28 ก็เจอพี่ security สองสามคน พร้อมเครื่องตรวจโลหะ เราต้องปิดโทรศัพท์ก่อนเข้านะฮะ
พี่ ๆ เค้าก็พูดจาดีนะฮะ ถึงจะหน้าตาเข้มงวดก็เถอะ (เรียกท่านแม่ผมว่า ม๊า ด้วย ฮ่า ๆ)
อ่ะผ่านไปหนึ่งด่าน ของเนเธอร์แลนด์ต้องขึ้นลิฟต์จิ๋วไปอีกหนึ่งสเตป ลิฟต์มีสองชั้น หนึ่งกับสอง (ทำไมมินิมอลขนาดเนร้)
ไปต่อครับ เราก็ไปชั้นสองของลิฟต์นั้น ประตูลิฟต์เปิดมาก็เจอพี่รักษาความปลอดภัยอีกท่าน คอยเช็คเลขคิว
เช็คเสร็จ พอมีชื่อเราในใบนัด เค้าก็แตะบัตร เปิดประตูให้เราเข้าไปในห้องรอยื่นเอกสาร
เห้ยยย ตื่นเต้นมาก ทั้งด้วยการยื่นขอวีซ่าครั้งแรกด้วย ทั้งกลัวโดนดุด้วย (แงงง อย่าดุเค้าาา)
ประตูเปิดปุ๊บ เราก็เดินเข้าไป ทำตัวลีบ ๆ เงียบ ๆ ไม่ดื้อไม่ซน นั่งจุ้มปุ๊กลงที่เก้าอี้ที่มุมห้อง (ไกลสุดเลย ฮ่า ๆ)
ในห้องนั้นจะมี 4 เคาน์เตอร์ 2 ห้องสแกนลายนิ้วมือ เก้าอี้ประมาณ 40-50 ที่นั่ง กับบอร์ดแจ้งคิว
มีสาว ๆ 4 ท่านประจำอยู่หลังเคาน์เตอร์ทั้ง 4 อืมมมมม จากที่เห็นหน้าตาก็ไม่น่าดุนะ (เริ่มผ่อนคลาย)
ขั้นตอนก็ประมาณว่าพอถึงคิวแล้ว ก็เอาเอกสารที่เตรียมมายื่นให้เค้าไปทั้งหมด
เค้าก็จะยื่นซองจดหมายมาให้กรอกชื่อและที่อยู่ (เพื่อส่งพาสปอร์ตกลับมาให้) พร้อมกับเอกสารให้กรอกข้อมูลอีกเล็กน้อยพร้อมเซ็นชื่อ
พอยื่นเอกสารเรียบร้อย เค้าก็จะให้เราไปนั่งรออีกพักนึง แล้วเค้าก็จะเรียกอีกรอบเพื่อไปจ่ายเงิน โดยเค้าจะยื่นซองเอกสารกลับมา (เป็นเอกสารของเรานั่นแหละ) พร้อมใบเสร็จที่เย็บติดกับสำเนาพาสปอร์ต (มีเขียนเบอร์ EMS อยู่บนนั้น) พอเราได้รับซองนั้นมา เราก็ต้องไปนั่งรอเพื่อรอเรียกเข้าสแกนลายนิ้วมืออีกครั้ง (ก่อนหน้านี้ไม่ต้องยื่นรูปให้เค้า รูปจะถูกใช้ในขั้นตอนนี้เพียงหนึ่งรูปเท่านั้น) พอสแกนเสร็จก็เป็นอันเสร็จพิธี
ระหว่างรอเรียกคิว เราก็ได้ยินบทสนทนาของคนยื่นเอกสารคิวก่อน ๆ บ้าง
เห้ยยยยย เค้าก็ออกจะพูดจาดีนี่หว่า มีไหว้ มีรอยยิ้มเบา ๆ พูดจาน่ารัก สอบถามแบบไม่ขึ้นเสียงอะไร ไม่เห็นเหมือนที่อ่านมาเลย
หุหุ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรล่ะ จะเปลี่ยนชุดพนักงาน จะโดน complain เยอะ หรืออะไรก็แล้วแต่
แต่ในใจตอนนั้นคือ เราอยากจะมาบอกต่อกับเพื่อน ๆ รุ่นต่อไป (ที่จะเข้ายื่นเอกสารขอวีซ่า) ไว้เลยว่า
ที่นี่พนักงานเค้าบริการดีนะเว้ยเห้ย ไม่ได้ดุแบบเมื่อก่อนแล้ว เย้
อ่ะ ต่อ ๆ แต่เรื่องน่าสะพรึงต่อมาคือ "สามพันหกร้อยห้าสิบหกบาทค่ะ" ห๊ะ ไหนในเว็บบอก 60 ยูโร (60*40 = 2400 บาท)
แล้วไอสามพันกว่านี่คือไร กระผมก็คิดไปไกล อ๋ออ ได้ยินว่าเค้าไปเทรนนิ่ง อาจจะเป็นราคาของวีซ่าอีกประเภทล่ะกระมัง
ตอนนี้ในใจไม่พะวงเรื่องความดิบเถื่อนของเจ้าหน้าที่ล่ะ มาพะวงเรื่องค่าธรรมเนียมแทน
พอถึงคิวเราปุ๊บ อัยยะ จะได้เจอความดิบเถื่อนนั้นหรือไม่ ก่อนหน้านี้คือภาพลวงตาหรือป่าว เอาว่ะ ลุย
ก้าวขาไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ เจอรอยยิ้มไปก่อนหนึ่งที ฮึบบ มาว่ะ ไม่ใช่ภาพลวงตาแล้วล่ะ ฮ่า ๆๆๆๆ
ก็ยื่นเอกสารให้เค้าไป ดำเนินการไปตามขั้นตอน ในใจก็ยังพะวงเรื่องค่าธรรมเนียม พอกรอกนู่นนี่เพิ่มเติมเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะถาม เอ่อ ค่าธรรมเนียมนี่เท่าไหร่เหรอครับ "สามพันหกร้อยห้าสิบหกบาทค่ะ" เอิ่ม ชัดเลยทีนี้ ชัดเลย ระหว่างรอคิวก่อนเข้าสแกนนิ้วเราก็วิ่งลงไปกดตังค์มาครับ
แล้วทุกอย่างก็ผ่านได้ด้วยดี เฮ้ !
-----
สรุปแล้วก็คือ ค่าใช้จ่ายการขอวีซ่า สามพันกว่าจริง ๆ ฮะ 60 ยูโรนี่แค่ค่าธรรมเนียมวีซ่า
แต่มีค่าบริการ ค่าส่ง EMS อีก (ไม่พูดถึงอัตราแลกเปลี่ยน) สิริรวมเข้าไปเกือบ 3700
*** เพราะฉะนั้น ขอเตือนคนที่ได้ผ่านมาอ่านนะฮะ เตรียมเงินเผื่อไปนะครับ 60 ยูโร ไม่ใช่ยอดสุดท้ายครับ เตรียมไป 4000 เลยฮะ ***
ปล. จริง ๆ เค้าระบุไว้แล้วแหละ
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/tourist.html ในหัวข้อ ค่าธรรมเนียมวีซ่า
แต่ผมไม่เห็นเอง //กราบ
และพนักงานเค้าบริการดีนะฮะ ไม่ได้ดุแบบเมื่อก่อนแล้ว
[CR] [CR] รีวิวการเข้ายื่นขอวีซ่าเชงเก้นของสถานฑูตประเทศเนเธอร์แลนด์
ขอเล่าในเชิงประสบการณ์นะฮะ ไม่ลงรายละเอียดเอกสารการยื่นว่าต้องมีอะไรบ้าง อันนั้นอยากรู้ละเอียดเข้าเว็บนี้ฮะ http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/ (แต่ก็จะมีบางประเด็นที่ดึงขึ้นมาพูดถึงนะฮะ)
คือพอคิดและวางแผนได้ว่าจะไปเนเธอร์แลนด์เนี่ย การทำวีซ่าก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องคำนึง
ผมไม่เคยไปยุโรปมาก่อนเลย เคยไปแต่ญี่ปุ่น (สุดเลิฟ)
ทีนี้พอหาข้อมูลการยื่นขอวีซ่าเนี่ย ก็ได้พบข้อมูล (จากกระทู้พันทิปเนี่ยแหละ) ที่สร้างความสะพรึงในใจเล็ก ๆ เอาไว้
นั่นคือ พฤติกรรมที่แสดงออกซึ่งความดิบเถื่อนของเจ้าหน้าที่ (บรื๋อออออ)
เราก็ อะหืออ มันขนาดนั้นเลยเหรอวะ
เออ ๆ ไม่เป็นไร เราก็เตรียมเอกสารของเราไปให้ดี เวลาเค้าถามอะไรจะได้ตอบได้รวดเร็วทันใจ (เค้าจะได้ไม่ดุ ฮ่า ๆ)
พอได้ข้อมูลว่าต้องยื่นอะไรบ้างก็ต่อด้วยนัดวันผ่านเว็บ ซึ่งผมก็เลือกเป็นวันที่ 6 เมษายน 2559 ก็คือวันนี้นี่แหละ (บอกทำไม)
หลังจากที่ลงบีทีเอสสถานีนานา ก็เดินไปซอยสุขุมวิท 13 เลี้ยวเข้าตึก Trendy
เข้าไปปุ๊ป แอบเมา ไหนฟระสถานฑูตเนเธอร์แลนด์ ข้าเห็นแต่ยูเค ออสเตรีย บลา ๆ
เลยต้องแอบถามพี่ยาม ได้ความมาว่าต้องขึ้นลิฟต์ที่อยู่โซนตรงข้ามกับทางเข้า ตัวที่ 10 (จริง ๆ มี 3 ตัว อยู่ติดกัน)
เข้าไปก็จิ้มเบอร์ 28 ลิฟต์นี่ก็ช่างสโลว์ไลฟ์ขัดกับจังหวะหัวใจที่เต้นแบบตื่น ๆ อยู่ไม่น้อย
ถึงชั้น 28 ก็เจอพี่ security สองสามคน พร้อมเครื่องตรวจโลหะ เราต้องปิดโทรศัพท์ก่อนเข้านะฮะ
พี่ ๆ เค้าก็พูดจาดีนะฮะ ถึงจะหน้าตาเข้มงวดก็เถอะ (เรียกท่านแม่ผมว่า ม๊า ด้วย ฮ่า ๆ)
อ่ะผ่านไปหนึ่งด่าน ของเนเธอร์แลนด์ต้องขึ้นลิฟต์จิ๋วไปอีกหนึ่งสเตป ลิฟต์มีสองชั้น หนึ่งกับสอง (ทำไมมินิมอลขนาดเนร้)
ไปต่อครับ เราก็ไปชั้นสองของลิฟต์นั้น ประตูลิฟต์เปิดมาก็เจอพี่รักษาความปลอดภัยอีกท่าน คอยเช็คเลขคิว
เช็คเสร็จ พอมีชื่อเราในใบนัด เค้าก็แตะบัตร เปิดประตูให้เราเข้าไปในห้องรอยื่นเอกสาร
เห้ยยย ตื่นเต้นมาก ทั้งด้วยการยื่นขอวีซ่าครั้งแรกด้วย ทั้งกลัวโดนดุด้วย (แงงง อย่าดุเค้าาา)
ประตูเปิดปุ๊บ เราก็เดินเข้าไป ทำตัวลีบ ๆ เงียบ ๆ ไม่ดื้อไม่ซน นั่งจุ้มปุ๊กลงที่เก้าอี้ที่มุมห้อง (ไกลสุดเลย ฮ่า ๆ)
ในห้องนั้นจะมี 4 เคาน์เตอร์ 2 ห้องสแกนลายนิ้วมือ เก้าอี้ประมาณ 40-50 ที่นั่ง กับบอร์ดแจ้งคิว
มีสาว ๆ 4 ท่านประจำอยู่หลังเคาน์เตอร์ทั้ง 4 อืมมมมม จากที่เห็นหน้าตาก็ไม่น่าดุนะ (เริ่มผ่อนคลาย)
ขั้นตอนก็ประมาณว่าพอถึงคิวแล้ว ก็เอาเอกสารที่เตรียมมายื่นให้เค้าไปทั้งหมด
เค้าก็จะยื่นซองจดหมายมาให้กรอกชื่อและที่อยู่ (เพื่อส่งพาสปอร์ตกลับมาให้) พร้อมกับเอกสารให้กรอกข้อมูลอีกเล็กน้อยพร้อมเซ็นชื่อ
พอยื่นเอกสารเรียบร้อย เค้าก็จะให้เราไปนั่งรออีกพักนึง แล้วเค้าก็จะเรียกอีกรอบเพื่อไปจ่ายเงิน โดยเค้าจะยื่นซองเอกสารกลับมา (เป็นเอกสารของเรานั่นแหละ) พร้อมใบเสร็จที่เย็บติดกับสำเนาพาสปอร์ต (มีเขียนเบอร์ EMS อยู่บนนั้น) พอเราได้รับซองนั้นมา เราก็ต้องไปนั่งรอเพื่อรอเรียกเข้าสแกนลายนิ้วมืออีกครั้ง (ก่อนหน้านี้ไม่ต้องยื่นรูปให้เค้า รูปจะถูกใช้ในขั้นตอนนี้เพียงหนึ่งรูปเท่านั้น) พอสแกนเสร็จก็เป็นอันเสร็จพิธี
ระหว่างรอเรียกคิว เราก็ได้ยินบทสนทนาของคนยื่นเอกสารคิวก่อน ๆ บ้าง
เห้ยยยยย เค้าก็ออกจะพูดจาดีนี่หว่า มีไหว้ มีรอยยิ้มเบา ๆ พูดจาน่ารัก สอบถามแบบไม่ขึ้นเสียงอะไร ไม่เห็นเหมือนที่อ่านมาเลย
หุหุ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรล่ะ จะเปลี่ยนชุดพนักงาน จะโดน complain เยอะ หรืออะไรก็แล้วแต่
แต่ในใจตอนนั้นคือ เราอยากจะมาบอกต่อกับเพื่อน ๆ รุ่นต่อไป (ที่จะเข้ายื่นเอกสารขอวีซ่า) ไว้เลยว่า
ที่นี่พนักงานเค้าบริการดีนะเว้ยเห้ย ไม่ได้ดุแบบเมื่อก่อนแล้ว เย้
อ่ะ ต่อ ๆ แต่เรื่องน่าสะพรึงต่อมาคือ "สามพันหกร้อยห้าสิบหกบาทค่ะ" ห๊ะ ไหนในเว็บบอก 60 ยูโร (60*40 = 2400 บาท)
แล้วไอสามพันกว่านี่คือไร กระผมก็คิดไปไกล อ๋ออ ได้ยินว่าเค้าไปเทรนนิ่ง อาจจะเป็นราคาของวีซ่าอีกประเภทล่ะกระมัง
ตอนนี้ในใจไม่พะวงเรื่องความดิบเถื่อนของเจ้าหน้าที่ล่ะ มาพะวงเรื่องค่าธรรมเนียมแทน
พอถึงคิวเราปุ๊บ อัยยะ จะได้เจอความดิบเถื่อนนั้นหรือไม่ ก่อนหน้านี้คือภาพลวงตาหรือป่าว เอาว่ะ ลุย
ก้าวขาไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ เจอรอยยิ้มไปก่อนหนึ่งที ฮึบบ มาว่ะ ไม่ใช่ภาพลวงตาแล้วล่ะ ฮ่า ๆๆๆๆ
ก็ยื่นเอกสารให้เค้าไป ดำเนินการไปตามขั้นตอน ในใจก็ยังพะวงเรื่องค่าธรรมเนียม พอกรอกนู่นนี่เพิ่มเติมเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะถาม เอ่อ ค่าธรรมเนียมนี่เท่าไหร่เหรอครับ "สามพันหกร้อยห้าสิบหกบาทค่ะ" เอิ่ม ชัดเลยทีนี้ ชัดเลย ระหว่างรอคิวก่อนเข้าสแกนนิ้วเราก็วิ่งลงไปกดตังค์มาครับ
แล้วทุกอย่างก็ผ่านได้ด้วยดี เฮ้ !
-----
สรุปแล้วก็คือ ค่าใช้จ่ายการขอวีซ่า สามพันกว่าจริง ๆ ฮะ 60 ยูโรนี่แค่ค่าธรรมเนียมวีซ่า
แต่มีค่าบริการ ค่าส่ง EMS อีก (ไม่พูดถึงอัตราแลกเปลี่ยน) สิริรวมเข้าไปเกือบ 3700
*** เพราะฉะนั้น ขอเตือนคนที่ได้ผ่านมาอ่านนะฮะ เตรียมเงินเผื่อไปนะครับ 60 ยูโร ไม่ใช่ยอดสุดท้ายครับ เตรียมไป 4000 เลยฮะ ***
ปล. จริง ๆ เค้าระบุไว้แล้วแหละ http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/tourist.html ในหัวข้อ ค่าธรรมเนียมวีซ่า
แต่ผมไม่เห็นเอง //กราบ
และพนักงานเค้าบริการดีนะฮะ ไม่ได้ดุแบบเมื่อก่อนแล้ว