ร่วมแชร์เรื่องราวดี๊ดีของติ่งเกาหลีที่ฉันไม่เคยรู้

ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะว่ายืมล็อกอินพี่ชายมาค่ะ^^ เข้าเรื่องเลยนะคะ คือมีพี่ข้างบ้านคนนึงเขาเป็นเด็กเรียนดีมากค่ะ แม่ชอบเอาเราไปเปรียบกับพี่เขาบ่อยๆ ㅠㅠ เราก็อิจฉานิดนึงนะพี่เขาทั้งสวยทั้งเก่ง และเมื่อวันที่ 29 มีนาที่ผ่านมา เป็นวันประกาศผลโอเน็ตของนักเรียน ม3 ปรากฏว่า OMG!! คะแนนเราได้น้อยมากค่ะ คณิตกับอังกฤษนี่ตกฮวบฮาบเลยค่ะ แล้วก็อีกตามเคยแม่เราก็เอาเราไปเปรียบกับพี่คนนั้นอีก (-_-) จนในที่สุดแม่เราก็เลยขอให้พี่คนนั้นติวให้เราช่วงปิดเทอม!! ขอสมมุติว่าพี่เขาชื่อส้มนะคะ 2-3 วันแรกก็ติวๆกันไปตามปกติค่ะ พอวันถัดมาบ้านเรามีหลานๆมาหาบ้านก็เลยเสียงดังเราก็เลยเปลี่ยนไปติวกันที่บ้านพี่ส้มค่ะ พี่ส้มชวนให้ไปติวที่ห้องของพี่เค้าเพราะพี่เค้ามีชีทเก่าๆเก็บไว้ให้อ่าน ตอนแรกที่เห็นห้องนอนพี่ส้มครั้งแรกเรานี่อึ้งมากค่ะ!!  ผนังห้องฝั่งซ้ายมือเต็มไปด้วยรูปศิลปินเกาหลี!!! เหล่าบรรดาโอปป้าทั้งหลายแหล่เต็มผนังห้องพี่ส้มเลยค่ะ ส่วนผนังอีกด้านนี่เต็มไปด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษค่ะ มันจะเป็นกระดาษแบบโพทอิทติดๆไว้ เราเลยถามพี่ส้มว่าเป็นติ่งเกาหลีหรอ พี่เขาก็บอกว่าใช่เป็นโซแอลและก็ติ่งอีกหลายๆวง เราก็ถามอีกว่าเป็นติ่งเกาหลีแล้วทำไมเรียนเก่งขนาดนี้ พี่ส้มบอกว่า 'การเป็นติ่งสำหรับพี่มันคือแรงบันดาลใจอีกหนึ่งอย่างในการเรียนเลยนะ นอกจากที่พี่คิดว่าพี่จะต้องตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่แล้วพี่ยังต้องตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้เก่งๆแบบคนพวกนี้อีก? อย่างพี่ชอบเซฮุนมาก เซฮุนเขาเก่งเลขพี่ก็เลยตั้งใจเรียนเลข พี่ชอบฟังเพลงเกาหลี เพลงเกาหลีมักจะมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษด้วย พี่ก็มักจะจดชื่อเพลงทุกเพลงที่ฟังแล้วเอาไปแปลเป็นไทยคู่กันแปะไว้ที่ผนังตลอด คำพวกนี้มันเป็นศัพท์ง่ายๆใช้ได้จริง ทำให้พี่เก่งภาษาอังกฤษขึ้นเยอะ เนื้อเพลงบางท่อนที่เป็นภาษาอังกฤษที่พี่ชอบมากๆพี่ก็จะเอามาแปลแล้วแปะๆไว้ ทำให้พี่ได้รู้ศัพท์และความหมายเยอะ แถมจำจากสิ่งที่ชอบแบบนี้มันจำได้ง่ายมาก แถมยังทำให้พี่เก็บเงินเก่งด้วยนะๆ ปีๆนึงพี่เก็บได้เป็นหมื่น หักค่าบัตรคอนออกประมาณ 6000 เงินที่เหลือก็พอจ่ายค่าเทอมเองตลอด พ่อแม่พี่แทบไม่เคยต้องมาจ่ายค่าเทอมให้พี่เลย (เราเรียนโรงเรียนของรัฐค่ะค่าเทอมประมาณ 1200-1900) ' เรานี่ถึงบางอ้อเลยค่ะทำไมแม่เราถึงเทิดทูนพี่ส้มหนักหนา555 สรุปวันนั้นนี่ไม่ได้ติวเลยค่ะ เรานั่งฟังเรื่องของพี่เขาหมดเลย เรื่องนี้ทำให้เราได้มองอะไรๆกว้างขึ้นจริงๆค่ะ ทุกอย่างมักมี2ด้านเสมอจริงๆ คือด้านของเรา ที่เคยมองว่าติ่งเกาหลีคือพวกที่ติ่งไปวันๆ กับด้านของเขา ที่เป็นคนขยันเรียนแบ่งเวลาถูกมีแรงบันดาลใจและทำให้สิ่งที่ตัวเองชอบเกิดประโยชน์แก่ตัวเองมากที่สุดตั้งแต่การเรียนยันการเงิน ใครมีเรื่องราวดีๆของติ่งเกาหลีที่ไม่เคยรู้มาก่อนก็มาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^^