*
*
*
สวัสดีค่ะทุกคน
ปล. เนื้อหาด้านล่างเขียนไว้นานแล้ว พึ่งมีโอกาสได้ลง (เดินทางเมื่อ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ุ 2559)
วันนี้พึ่งกลับมากจากทริปงงๆ จะเรียกว่าทริปก็อายปาก เอาเป็นว่า
บังเอิญว่าความเหงาพาเราไปตกหลุมรักเมืองสามหมอก จังหวัดในขุนเขาอย่างแม่ฮ่องสอน จนรู้สึกว่าฉันอยากเล่าว่ะแก
เรื่องมันมีอยู่ว่า...มันเป็นช่วงที่เรากำลังจะเรียนจบ และเกิดความรู้สึกว่า
ฉันไม่รู้จะไปที่ไหน ฉันไม่รู้จะทำอะไร ทุกอย่างมันดูแย่ และโดดเดียวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกขนาดนี้มาก่อน
เราเก็บของลงกระเป๋าทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเราจะไปไหน นอนที่ไหน จุดหมายมันลางเลือนไปหมด
เราพาตัวเองมานั่งโง่ๆอยู่ที่อาเขตจังหวัดเชียงใหม่ น่าน...คือจังหวัดแรกที่นึกถึง แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะรถเที่ยวเดียวได้จากไปตั้งแต่เช้า
เราเลยคิดว่าจะกลับไปเชียงราย เราเดินไปกดบัตรคิว ... 98 คิว กระแทกเข้ามาที่หน้าจนต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
เราแบกกระเป๋าพาตัวเองไปหาที่นั่งบนพื้นเพื่อนั่งรออะไรบางอย่างที่ไม่ชัดเจน มีเสียงทักทายดังขึ้นมา
เราสังเกตเห็นเธอนานแล้ว ระหว่างที่เราเดินเล่นนั่งเล่นอยู่ กว่าจะตัดสินใจไปกดบัตรคิวล่ะนะ แวบแรกเราคิดว่าเธอเป็นคนไทย
แต่เธอทักทายเราด้วยภาษาอังกฤษ ก่อนจะแนะนำว่าตัวเองเป็นคนเวียดนาม สาวเวียดนามที่หน้าตาเหมือนคนไทยมาก เราจำได้ว่าแซวไปแบบนั้น
เธอยิ้มหัวเราะและบอกว่าหลายคนก็ทักแบบนี้ เธอเล่าว่าเธอมาเที่ยวเชียงใหม่และพึ่งลงมาจากปายกำลังจะไปเชียงใหม่และต่อไปที่ลาว
เราตาเป็นประกายมองสาวเวียดนามคนนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนเจออะไรบางอย่าง เรานั่งฟังอย่างตั้งใจ ที่หูก็ได้ยินแว่วเสียงเรียกคิว
และมันก็ผ่านเราไป ตอนนั้นลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองกำลังจะไปที่ไหน ระหว่างที่ลังเลเราก็รีบลุกขึ้นมาและบอกกับสาวเวียดนามว่าเราต้องไปซื้อตั๋ว
เราเข้าไปกดบัตรคิวใหม่ นั่งรอด้วยหัวใจกระวนกระวาย เอาไงดี ไปไหนดี ไปเชียงรายเหรอ เราจะกลับไปในที่ที่เราพึ่งจากมาเหรอ
จนกระทั่งเราถูกผลักให้ไปยืนอยู่บนปลายเหวของการตัดสินใจ เพราะถึงคิวเราพอดี ฝรั่งสองคนข้างหน้าซื้อตั๋วเสร็จพอดีและเราก็ก้าวขาออกมา เราวิ่งกลับไปที่กระเป๋าที่กองทิ้งไว้ข้างสาวเวียดนาม เราตื่นเต้นมากกับการตัดสินใจ ละล่ำละลักบอกเธอว่าเราจะไปปาย เธอดูงงๆเพราะคงฟังเราพูดไม่รู้เรื่อง
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็โบกมือลาเธอ ไปปาย...อำเภอที่เราเคยตัดสินใจไปแบบเดียวกันเมื่อสองปีที่แล้ว
.
.
ไม่มีรูปสวยๆ ให้ชมกันหรอกนะ เอาเป็นว่านี่คือปายเมื่อสองปีที่แล้ว ที่เราแบกกระเป๋าออกจากหอพักในจ.เชียงราย
เพื่อตามหาอะไรสักอย่าง และทุกวันนี้ก็ยังตามหาอยู่
เมื่อความเหงา...พาเราไปตกหลุมรักเมืองสามหมอกหน้าร้อน (ALONE TRIP)
*
*
สวัสดีค่ะทุกคน
ปล. เนื้อหาด้านล่างเขียนไว้นานแล้ว พึ่งมีโอกาสได้ลง (เดินทางเมื่อ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ุ 2559)
วันนี้พึ่งกลับมากจากทริปงงๆ จะเรียกว่าทริปก็อายปาก เอาเป็นว่า
บังเอิญว่าความเหงาพาเราไปตกหลุมรักเมืองสามหมอก จังหวัดในขุนเขาอย่างแม่ฮ่องสอน จนรู้สึกว่าฉันอยากเล่าว่ะแก
เรื่องมันมีอยู่ว่า...มันเป็นช่วงที่เรากำลังจะเรียนจบ และเกิดความรู้สึกว่า
ฉันไม่รู้จะไปที่ไหน ฉันไม่รู้จะทำอะไร ทุกอย่างมันดูแย่ และโดดเดียวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกขนาดนี้มาก่อน
เราเก็บของลงกระเป๋าทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเราจะไปไหน นอนที่ไหน จุดหมายมันลางเลือนไปหมด
เราพาตัวเองมานั่งโง่ๆอยู่ที่อาเขตจังหวัดเชียงใหม่ น่าน...คือจังหวัดแรกที่นึกถึง แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะรถเที่ยวเดียวได้จากไปตั้งแต่เช้า
เราเลยคิดว่าจะกลับไปเชียงราย เราเดินไปกดบัตรคิว ... 98 คิว กระแทกเข้ามาที่หน้าจนต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
เราแบกกระเป๋าพาตัวเองไปหาที่นั่งบนพื้นเพื่อนั่งรออะไรบางอย่างที่ไม่ชัดเจน มีเสียงทักทายดังขึ้นมา
เราสังเกตเห็นเธอนานแล้ว ระหว่างที่เราเดินเล่นนั่งเล่นอยู่ กว่าจะตัดสินใจไปกดบัตรคิวล่ะนะ แวบแรกเราคิดว่าเธอเป็นคนไทย
แต่เธอทักทายเราด้วยภาษาอังกฤษ ก่อนจะแนะนำว่าตัวเองเป็นคนเวียดนาม สาวเวียดนามที่หน้าตาเหมือนคนไทยมาก เราจำได้ว่าแซวไปแบบนั้น
เธอยิ้มหัวเราะและบอกว่าหลายคนก็ทักแบบนี้ เธอเล่าว่าเธอมาเที่ยวเชียงใหม่และพึ่งลงมาจากปายกำลังจะไปเชียงใหม่และต่อไปที่ลาว
เราตาเป็นประกายมองสาวเวียดนามคนนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนเจออะไรบางอย่าง เรานั่งฟังอย่างตั้งใจ ที่หูก็ได้ยินแว่วเสียงเรียกคิว
และมันก็ผ่านเราไป ตอนนั้นลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองกำลังจะไปที่ไหน ระหว่างที่ลังเลเราก็รีบลุกขึ้นมาและบอกกับสาวเวียดนามว่าเราต้องไปซื้อตั๋ว
เราเข้าไปกดบัตรคิวใหม่ นั่งรอด้วยหัวใจกระวนกระวาย เอาไงดี ไปไหนดี ไปเชียงรายเหรอ เราจะกลับไปในที่ที่เราพึ่งจากมาเหรอ
จนกระทั่งเราถูกผลักให้ไปยืนอยู่บนปลายเหวของการตัดสินใจ เพราะถึงคิวเราพอดี ฝรั่งสองคนข้างหน้าซื้อตั๋วเสร็จพอดีและเราก็ก้าวขาออกมา เราวิ่งกลับไปที่กระเป๋าที่กองทิ้งไว้ข้างสาวเวียดนาม เราตื่นเต้นมากกับการตัดสินใจ ละล่ำละลักบอกเธอว่าเราจะไปปาย เธอดูงงๆเพราะคงฟังเราพูดไม่รู้เรื่อง
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็โบกมือลาเธอ ไปปาย...อำเภอที่เราเคยตัดสินใจไปแบบเดียวกันเมื่อสองปีที่แล้ว
.
.
ไม่มีรูปสวยๆ ให้ชมกันหรอกนะ เอาเป็นว่านี่คือปายเมื่อสองปีที่แล้ว ที่เราแบกกระเป๋าออกจากหอพักในจ.เชียงราย
เพื่อตามหาอะไรสักอย่าง และทุกวันนี้ก็ยังตามหาอยู่