เราใช้กระทู้คำถามนะคะ เพราะว่ากระทู้สนทนาใช้บัตรผ่านตอบไม่ได้
เราไม่ได้สร้างกระทู้เพื่อแก้ต่าง หรือสร้างกระแสจากกระทู้ที่กำลังพูดถึงความไม่สวยหรูในต่างแดน เราเห็นด้วยทุกอย่างกับคุณ 1408748 และ 1642517
คือพออ่านสองกระทู้นี้ก็คิดถึงสิ่งต่างๆที่เราประสบมา จากการใช้ชีวิตในอเมริกากว่าสิบปี
ความไม่สะดวกสบาย เราหมายถึงการนัดหมออันยาวนาน จะซื้ออะไรซักอย่างก็ต้องขับรถไป ไม่มีบริการ 24/7แบบเมืองไทย ทุกอย่างต้องทำเองหมด
ค่าใช้จ่ายที่แพง เป็นต้นว่า ค่าหมอ ค่ายา ค่าประกันสุขภาพ ค่าประกันรถ การออกไปทานข้าวนอกบ้าน
ด้วยตัวเราเป็นคนทำงาน กะเก็บเงินเพื่อเกษียนโดยเร็วและการศึกษาของลูก ทำให้เราเป็นคนประหยัดมากๆ หลายๆอย่างเราต้องงดไป เราก็อยู่ได้
อันนี้เป็นมุมมองของเรานะ
1) เรากินยาน้อยลง รักษาสุขภาพตัวเองมากขึ้น
เพราะยาส่วนใหญ่ต้องมาใบสั่งแพทย์ บวกกับความยุ่งยากในการนัดหมอ และต้องจ่ายค่า Co-pay $10-$20 และค่ายาที่แพงกว่าเมืองไทย
แถมถ้าปล่อยให้สุขภาพย่ำแย่ จะทำให้เสียเงินมากมาย ทั้งๆที่จ่ายค่าประกันสุขภาพอยู่แล้ว
บางทีหมอจ่ายยาอ่อนมาก หรือไม่จ่ายยาเลย บางทีกว่าจะได้เจอหมอเป็นเดือนๆ ซึ่งเราก็หายป่วยแล้ว
ทำให้เราไปหาหมอน้อยลง และรักษาสุขภาพตัวเองมากขึ้น ถึงแม้มีคลีนิคแบบไม่ต้องนัดแต่ก็ต้องจ่ายค่าหาหมอ และรักษาไม่ได้ทุกโรค
ตอนอยู่เมืองไทย เราซื้อยาแก้อักเสบมาทานเองบ่อยๆ พอเราเจ็บคอมีเสมหะ เราก็ไปซื้อยามากินเลย อยู่เมกาช่วงหน้าหนาวเราเป็นบ่อยมาก ไปหาหมอครั้งแรกให้ยาแก้แพ้มา เพื่ออะไร? คือยาหมอให้มา ทานแล้วไม่หาย เราก็เลิกไปค่ะ หันมาพักผ่อนให้เพียงพอ ทานน้ำเยอะ โรคมันก็หายไปเอง
นอกจากเป็นหนักๆจริงๆ ถึงไปหาหมอ แค่ปีละครั้งที่เราทานยาแก้อักเสบ
แต่ก่อนทานยาแก้โรคกระเพาะเป็นประจำ เดี๋ยวนี้ไม่ทานแล้ว
ลูกเราไปหาหมอ ก็ไม่ค่อยให้ยาอะไรมาทาน สุดท้ายลูกก็ดีขึ้นเอง ถึงแม้ตอนนี้ยังทุกข์ใจเรื่องอาการไอของลูก แต่เค้าดีขึ้นเรื่อยๆ (หงุดหงิดกับการรักษาที่ช้าสำหรับเด็กมากๆ แต่ก็ผ่านมาได้)
ยาคุมก็ต้องรอหมอสั่ง หลายๆกระทู้จะพบว่าสาวไทยทานยาคุมฉุกเฉินเป็นว่าเล่น เห็นแล้วน่าตกใจ
ทำให้เรามองย้อนไปว่า คนไทยทานยาเองและไปโรงพยาบาลบ่อยเกินไป แทนที่จะพยายามรักษาสุขภาพเอง
2)ทานอาหารสะอาดมากขึ้น เพราะต้องทำเอง
เราเป็นคนไม่ชอบทำอาหารมากๆ เพราะทำไม่อร่อย เป็นคนทานอาหารนอกบ้านตลอดตอนอยู่เมืองไทย
พออยู่เมกา ไปทานร้านอาหารทุกครั้งก็แพงเกิน ทำให้เราต้องทำเอง ทำเองเราก็ไม่ใส่ผงชูรสอยู่แล้ว ไม่ใส่เค็มจัด มันเกิน หวานไป บางทีก็ทานอะไรพื้นๆ แบบปลาย่างผักต้ม ผงซูรสก็ไม่ได้ใช้มานาน
นึกถึงตอนอยู่เมืองไทย กินก๋วยเตี๋ยวที ทั้งถั่วแห้ง พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล อยู่เมกา ไม่ใส่เครื่องปรุงมากมาย เราก็อยู่ได้
3)ทานอาหารมื้อดึกๆน้อยลง
เพราะทานข้างนอกแพงแถมไม่ค่อยมีขาย อเมริกายังมีร้านอาหารขายดึกๆแต่ต้องขับรถออกไปซื้อ บางทีก็มีแต่ร้านฟาสฟูดที่เราไม่อยากกิน เคยไปฝึกงานเยอรมัน หนาวก็หนาว ร้านก็ไม่มีปิดหมด เลยงดมื้อดึกไปเอง
เราหมายถึงร้านโต้รุ่งที่มีอยู่ทุกที่ทุกทางในเมืองไทย แค่เดินออกไปหน้าปากซอยก็มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้มพร้องสารพัดกับข้าว ข้าวเหนียวหมูย่าง ปลาหมึกปิ้งกับน้ำจิ๊มแซ่บๆ(คือนึกถึงแล้วก็หิว)
เดี๋ยวมาต่อนะ
ข้อดีของความไม่สะดวกสบายและค่าใช้จ่ายที่แพง ในต่างแดน
เราไม่ได้สร้างกระทู้เพื่อแก้ต่าง หรือสร้างกระแสจากกระทู้ที่กำลังพูดถึงความไม่สวยหรูในต่างแดน เราเห็นด้วยทุกอย่างกับคุณ 1408748 และ 1642517
คือพออ่านสองกระทู้นี้ก็คิดถึงสิ่งต่างๆที่เราประสบมา จากการใช้ชีวิตในอเมริกากว่าสิบปี
ความไม่สะดวกสบาย เราหมายถึงการนัดหมออันยาวนาน จะซื้ออะไรซักอย่างก็ต้องขับรถไป ไม่มีบริการ 24/7แบบเมืองไทย ทุกอย่างต้องทำเองหมด
ค่าใช้จ่ายที่แพง เป็นต้นว่า ค่าหมอ ค่ายา ค่าประกันสุขภาพ ค่าประกันรถ การออกไปทานข้าวนอกบ้าน
ด้วยตัวเราเป็นคนทำงาน กะเก็บเงินเพื่อเกษียนโดยเร็วและการศึกษาของลูก ทำให้เราเป็นคนประหยัดมากๆ หลายๆอย่างเราต้องงดไป เราก็อยู่ได้
อันนี้เป็นมุมมองของเรานะ
1) เรากินยาน้อยลง รักษาสุขภาพตัวเองมากขึ้น
เพราะยาส่วนใหญ่ต้องมาใบสั่งแพทย์ บวกกับความยุ่งยากในการนัดหมอ และต้องจ่ายค่า Co-pay $10-$20 และค่ายาที่แพงกว่าเมืองไทย
แถมถ้าปล่อยให้สุขภาพย่ำแย่ จะทำให้เสียเงินมากมาย ทั้งๆที่จ่ายค่าประกันสุขภาพอยู่แล้ว
บางทีหมอจ่ายยาอ่อนมาก หรือไม่จ่ายยาเลย บางทีกว่าจะได้เจอหมอเป็นเดือนๆ ซึ่งเราก็หายป่วยแล้ว
ทำให้เราไปหาหมอน้อยลง และรักษาสุขภาพตัวเองมากขึ้น ถึงแม้มีคลีนิคแบบไม่ต้องนัดแต่ก็ต้องจ่ายค่าหาหมอ และรักษาไม่ได้ทุกโรค
ตอนอยู่เมืองไทย เราซื้อยาแก้อักเสบมาทานเองบ่อยๆ พอเราเจ็บคอมีเสมหะ เราก็ไปซื้อยามากินเลย อยู่เมกาช่วงหน้าหนาวเราเป็นบ่อยมาก ไปหาหมอครั้งแรกให้ยาแก้แพ้มา เพื่ออะไร? คือยาหมอให้มา ทานแล้วไม่หาย เราก็เลิกไปค่ะ หันมาพักผ่อนให้เพียงพอ ทานน้ำเยอะ โรคมันก็หายไปเอง
นอกจากเป็นหนักๆจริงๆ ถึงไปหาหมอ แค่ปีละครั้งที่เราทานยาแก้อักเสบ
แต่ก่อนทานยาแก้โรคกระเพาะเป็นประจำ เดี๋ยวนี้ไม่ทานแล้ว
ลูกเราไปหาหมอ ก็ไม่ค่อยให้ยาอะไรมาทาน สุดท้ายลูกก็ดีขึ้นเอง ถึงแม้ตอนนี้ยังทุกข์ใจเรื่องอาการไอของลูก แต่เค้าดีขึ้นเรื่อยๆ (หงุดหงิดกับการรักษาที่ช้าสำหรับเด็กมากๆ แต่ก็ผ่านมาได้)
ยาคุมก็ต้องรอหมอสั่ง หลายๆกระทู้จะพบว่าสาวไทยทานยาคุมฉุกเฉินเป็นว่าเล่น เห็นแล้วน่าตกใจ
ทำให้เรามองย้อนไปว่า คนไทยทานยาเองและไปโรงพยาบาลบ่อยเกินไป แทนที่จะพยายามรักษาสุขภาพเอง
2)ทานอาหารสะอาดมากขึ้น เพราะต้องทำเอง
เราเป็นคนไม่ชอบทำอาหารมากๆ เพราะทำไม่อร่อย เป็นคนทานอาหารนอกบ้านตลอดตอนอยู่เมืองไทย
พออยู่เมกา ไปทานร้านอาหารทุกครั้งก็แพงเกิน ทำให้เราต้องทำเอง ทำเองเราก็ไม่ใส่ผงชูรสอยู่แล้ว ไม่ใส่เค็มจัด มันเกิน หวานไป บางทีก็ทานอะไรพื้นๆ แบบปลาย่างผักต้ม ผงซูรสก็ไม่ได้ใช้มานาน
นึกถึงตอนอยู่เมืองไทย กินก๋วยเตี๋ยวที ทั้งถั่วแห้ง พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล อยู่เมกา ไม่ใส่เครื่องปรุงมากมาย เราก็อยู่ได้
3)ทานอาหารมื้อดึกๆน้อยลง
เพราะทานข้างนอกแพงแถมไม่ค่อยมีขาย อเมริกายังมีร้านอาหารขายดึกๆแต่ต้องขับรถออกไปซื้อ บางทีก็มีแต่ร้านฟาสฟูดที่เราไม่อยากกิน เคยไปฝึกงานเยอรมัน หนาวก็หนาว ร้านก็ไม่มีปิดหมด เลยงดมื้อดึกไปเอง
เราหมายถึงร้านโต้รุ่งที่มีอยู่ทุกที่ทุกทางในเมืองไทย แค่เดินออกไปหน้าปากซอยก็มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้มพร้องสารพัดกับข้าว ข้าวเหนียวหมูย่าง ปลาหมึกปิ้งกับน้ำจิ๊มแซ่บๆ(คือนึกถึงแล้วก็หิว)
เดี๋ยวมาต่อนะ