รบกวนปรึกษาเรื่องคดีความหน่อยครับ ทางนั้นจะฟ้องผมได้มั้ยครับ
สืบเนื่องจากญาติ ได้ทำสัญญาเช่าอาคาร ที่หนึ่ง ราคาเช่าเดือนละ ประมาณ 1,000,000 บาท โดยได้เปิดร้านตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 58 ส่วนผมเป็นญาติ ก็เลยได้รับความไว้ใจให้ดูแลร้านทุกอย่าง แต่สัญญาเช่า เป็นชื่อของญาติ
ต่อมาเดือนธันวาคม ปี58 ธุรกิจประสบปัญหาขาดทุน ขายไม่ดี ทางญาติก็จะทำการปิดกิจการ แต่เผอิญ ได้มีหุ้นส่วนมาขอร่วมทำธุรกิจ โดยขอหุ้น 80 % โดยญาติได้ตีมูลค่าของที่ได้ลงทุนไปแล้ว เป็นเงิน 10,000,000 บาททางหุ้นส่วนใหม่ก็ต้องจ่าย 8,000,000 บาท แต่หุ้นส่วนใหม่ มีเงินไม่พอ จึงได้ตกลงกันว่าจะทำการผ่อนเงินที่จะลงหุ้น 8,000,000 โดยงวดแรก จาก 1,000,000 ที่เหลือตีเช็คอีก 7 ใบ และทางญาติได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ตัวผม กระทำการแทนในการขายหุ้น มีสิทธิ์แทนทุกอย่างภายในร้าน เพราะญาติผมอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้มากรุงเทพ และ ผมมีหนังสือมอบอำนาจอยู่กับตัวครับ โดยมีพยานรู้เห็นทั้งสองฝั่ง ทางหุ้นส่วนใหม่ก็รับทราบนะครับว่าใครคือเจ้าของตัวจริง และหุ้นส่วนใหม่ได้บอกว่าให้ทางญาติของผมต้องเซ็นทำหนังสือมอบอำนาจมาให้ผมทำแทน ไม่เช่นนั้นจะไม่ร่วมหุ้นอะครับ โดยเริ่มทำธุรกิจร่วมกันตั้งแต่เดือน มกราคม ปี 59 และผมได้ทำงานที่เดิม ตำแหน่งเดิม เมื่อครั้งที่ทำงานกับญาติ โดยเสมือนตัวเองถือหุ้นร้าน 20% อะครับ แต่เงินค่าลงทุน 1,000,000 บาทแรก และเงินที่ได้จากการขายสินค้าที่รูดบัตรเครดิต เป็นเครื่องรูดบัตรที่เข้าบัญชีของญาติ โดยผมไม่มีส่วนที่ได้เงินซักบาท ได้รับแต่เงินเดือนอย่างเดียวครับ
ผ่านไปเพียงแค่ 1 เดือน เดือนกุมภาพันธ์ ปี 59 เจ้าของตึก ที่ทางญาติผมเช่านั้น ได้มาแจ้งกับทางหุ้นส่วนใหม่ ว่าทางญาติของผมได้ค้างค่าเช่า มา 6 เดือนแล้ว ก่อนที่จะมาร่วมหุ้นกันนะครับ เรื่องค้างค่าเช่า ตัวผมเองไม่เคยทราบมาก่อนว่าญาติได้ค้างค่าเช่า เพราะตลอดทั้งปี 58 ร้านก็เปิดได้ปกติ เจ้าของตึกก็ไม่เคยมาทวงค่าเช่าที่ร้าน เลยครับ ผมเลยไม่ทราบจริงๆว่าทางญาติผมได้ค้างค่าเช่าหลายเดือนแล้ว จดหมายทาวงค่าเช่าผมก็ไม่เคยเห็น ร้านก็เปิดไปตามปกติอะ
แต่ทำให้ทางหุ้นส่วนใหม่ ตกใจประกอบกับ ธุรกิจ ขาดทุน ไม่มีเงินสดเหลือ ทำให้หุ้นส่วนใหม่ ไม่คิดจะประกอบธุรกิจต่อ ได้ขนของทั้งหมดออกจากร้านไปโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
จนผ่านไป 15 วัน วันนี้มีจดหมายจากสำนักทนายความ มาว่าให้ผมและญาติของผมซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริง ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด 3,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ผมเลยมีความวิตกกังวลว่า ทางหุ้นส่วนใหม่มีสิทธิ์ฟัองเรียกค่าเสียหายกับผมหรือไม่ เพราะสัญญาซื้อขายหุ้นร่วมหุ้น เป็นชื่อผมคนเดียวเลยครับ หากผมโดนฟ้อง ผมควรทำยังงัยดีครับ
อ้อในจดหมายที่ส่งมา แจ้งมาว่า ผมและญาติปกปิดสัญญา แจ้งเท็จต่อหุ้นส่วน ทำให้ต้องยกเลิกสัญญาร่วมหุ้นครับ
ขอบคุณทุกท่านมากๆนะครับ ตอนนี้เครียดมากเลยครับ
ขอรบกวนเรื่องการทำนิติกรรมแทนญาติ โดนฟ้องมั้ยครับ เครียดมาก
สืบเนื่องจากญาติ ได้ทำสัญญาเช่าอาคาร ที่หนึ่ง ราคาเช่าเดือนละ ประมาณ 1,000,000 บาท โดยได้เปิดร้านตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 58 ส่วนผมเป็นญาติ ก็เลยได้รับความไว้ใจให้ดูแลร้านทุกอย่าง แต่สัญญาเช่า เป็นชื่อของญาติ
ต่อมาเดือนธันวาคม ปี58 ธุรกิจประสบปัญหาขาดทุน ขายไม่ดี ทางญาติก็จะทำการปิดกิจการ แต่เผอิญ ได้มีหุ้นส่วนมาขอร่วมทำธุรกิจ โดยขอหุ้น 80 % โดยญาติได้ตีมูลค่าของที่ได้ลงทุนไปแล้ว เป็นเงิน 10,000,000 บาททางหุ้นส่วนใหม่ก็ต้องจ่าย 8,000,000 บาท แต่หุ้นส่วนใหม่ มีเงินไม่พอ จึงได้ตกลงกันว่าจะทำการผ่อนเงินที่จะลงหุ้น 8,000,000 โดยงวดแรก จาก 1,000,000 ที่เหลือตีเช็คอีก 7 ใบ และทางญาติได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ตัวผม กระทำการแทนในการขายหุ้น มีสิทธิ์แทนทุกอย่างภายในร้าน เพราะญาติผมอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้มากรุงเทพ และ ผมมีหนังสือมอบอำนาจอยู่กับตัวครับ โดยมีพยานรู้เห็นทั้งสองฝั่ง ทางหุ้นส่วนใหม่ก็รับทราบนะครับว่าใครคือเจ้าของตัวจริง และหุ้นส่วนใหม่ได้บอกว่าให้ทางญาติของผมต้องเซ็นทำหนังสือมอบอำนาจมาให้ผมทำแทน ไม่เช่นนั้นจะไม่ร่วมหุ้นอะครับ โดยเริ่มทำธุรกิจร่วมกันตั้งแต่เดือน มกราคม ปี 59 และผมได้ทำงานที่เดิม ตำแหน่งเดิม เมื่อครั้งที่ทำงานกับญาติ โดยเสมือนตัวเองถือหุ้นร้าน 20% อะครับ แต่เงินค่าลงทุน 1,000,000 บาทแรก และเงินที่ได้จากการขายสินค้าที่รูดบัตรเครดิต เป็นเครื่องรูดบัตรที่เข้าบัญชีของญาติ โดยผมไม่มีส่วนที่ได้เงินซักบาท ได้รับแต่เงินเดือนอย่างเดียวครับ
ผ่านไปเพียงแค่ 1 เดือน เดือนกุมภาพันธ์ ปี 59 เจ้าของตึก ที่ทางญาติผมเช่านั้น ได้มาแจ้งกับทางหุ้นส่วนใหม่ ว่าทางญาติของผมได้ค้างค่าเช่า มา 6 เดือนแล้ว ก่อนที่จะมาร่วมหุ้นกันนะครับ เรื่องค้างค่าเช่า ตัวผมเองไม่เคยทราบมาก่อนว่าญาติได้ค้างค่าเช่า เพราะตลอดทั้งปี 58 ร้านก็เปิดได้ปกติ เจ้าของตึกก็ไม่เคยมาทวงค่าเช่าที่ร้าน เลยครับ ผมเลยไม่ทราบจริงๆว่าทางญาติผมได้ค้างค่าเช่าหลายเดือนแล้ว จดหมายทาวงค่าเช่าผมก็ไม่เคยเห็น ร้านก็เปิดไปตามปกติอะ
แต่ทำให้ทางหุ้นส่วนใหม่ ตกใจประกอบกับ ธุรกิจ ขาดทุน ไม่มีเงินสดเหลือ ทำให้หุ้นส่วนใหม่ ไม่คิดจะประกอบธุรกิจต่อ ได้ขนของทั้งหมดออกจากร้านไปโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
จนผ่านไป 15 วัน วันนี้มีจดหมายจากสำนักทนายความ มาว่าให้ผมและญาติของผมซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริง ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด 3,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ผมเลยมีความวิตกกังวลว่า ทางหุ้นส่วนใหม่มีสิทธิ์ฟัองเรียกค่าเสียหายกับผมหรือไม่ เพราะสัญญาซื้อขายหุ้นร่วมหุ้น เป็นชื่อผมคนเดียวเลยครับ หากผมโดนฟ้อง ผมควรทำยังงัยดีครับ
อ้อในจดหมายที่ส่งมา แจ้งมาว่า ผมและญาติปกปิดสัญญา แจ้งเท็จต่อหุ้นส่วน ทำให้ต้องยกเลิกสัญญาร่วมหุ้นครับ
ขอบคุณทุกท่านมากๆนะครับ ตอนนี้เครียดมากเลยครับ