[CR] เชียงคาน เมืองเล็กๆที่สวยงาม ความทรงจำที่มีกันและกัน แวะมาฝันหวานด้วยกันนะครับ

เจอกันอีกแล้ว หลังจากที่ห่างหายจากการเที่ยวของ The Gang มานานมากๆ ไม่รู้หนาวนี้จะไปเที่ยวที่ไหนดี คิดไว้2ที่ ไม่เชียงใหม่ ก็เชียงคานแล้วกัน โหวตกันไปมากับเพื่อนสามคน ตกลง เราไปฝันหวานที่เชียงคานครับ ไปกันสามวัน2คืนครับ เตรียมค่าใช้จ่ายคนละ 2500.- ที่พักที่ดูไว้ก็เป็นที่เชียงคานริเวอร์วิวครับ ห้องแอร์ว่างพอดี คืนละ 600 บาท แต่เค้าให้อยุ่ห้องละ2คน แต่ผมไป 3 คน เค้าเลยคิดเพิ่มเป็นคืนละ 800 ครับ ที่เลือกที่นี่เพราะ ลักษณะที่พักดี ดูเงียบสงบ เพื่อนบอกว่าเจ้าของเป็นคุณครูและใจดี และจะมีระเบียงนั่งชมวิวแม่น้ำโขงด้วย เลยทำให้อยากไปสัมผัสแล้วจริงๆครับ พอถึงเวลาไปจริงๆก็นัดกันที่หมดชิต ผมจองตั๋วไว้ตอน 3 ทุ่มครึ่ง ค่ารถประมาณ 348.- ครับ เพราะจองไปกลับจะลด 10% ของ บขส.ครับ ผมกับเพื่อนมาถึงกัน2คน ตอนสามทุ่มเลยของใสๆกันสักรูป ระหว่างรอเพื่อนผมอีกคน

เพื่อนผมอีกคนยังรถติดเส้นลาดพร้าวอยู่เลย ผมกับเพื่อนลุ้นมากๆ บอกให้เผื่อเวลาไว้เยอะๆ นางก็นั่นนี่นู้น ช้าเหมือนเดิม สุดท้ายก็บอกให้นางนั่งวินมาถึงตอน 21.25 น. ผมนี่โล่งใจ ก็เลยพากันเดินไปที่รถ เจอแล้วครับรถของพวกเรา

มากันสามคน ให้เพื่อนผมที่เป็นผู้หญิง นั่งด้วยกัน ผมนั่งคนเดียว ก็คิดอยู่ว่าจะมีคนนั่งข้างๆไหม รอสักพัก 20 นาที รถก็ยังไม่ออก เพื่อนผมนี่หงุดหงิด เพราะรีบมาก ถ้านั่งรถเมล์ก็สบายๆ ไม่ต้องเสียค่ามอไซต์อีก100บาท ผมเลยตอบไปว่า ใครจะไปรู้ละว่ารถช้า ถ้าตกรถขึ้นมา จะทำยังไง จากนั้นนางก็เงียบ สักพักรถก็ออกครับ ประมาณ 30 นาที ไปถึงท่ารถที่รังสิต ปรากฏว่าไม่มีคน ผมได้นั่งคนเดียวดีใจมากๆ อิอิ ผ่านไปสัง2-3 ชม. ก็มาถึงจุดพักรถสี่คิ้ว ก็พากันลงมาเข้าห้องน้ำแล้วหาอะไรทานกัน มีคูปองอาหารด้วย ขอใช้เลยละกัน อิอิ มีเวลาประมาณ 20 นาที อิอิ


จากนั้นก็ขึ้นรถ หลับยาวครับ ตื่นอีกทีก็คงถึงเชียงคาน น่าจะประมาณ 6 โมงเช้า แต่จริงๆแล้ว 6โมงเช้ายังไม่ถึงเชียงคานเลย พึ่งถึงตัวเมืองเลยครับ ขับไปสักพักก็ดูวิว บ้านเมืองไปเรื่อยๆ เราก็เห็นแสงแรกของวันแล้วครับ สวยมากๆเลยครับ


พอประมาณ 8 โมงก็ถึงแล้วครับเมื่องเชียงคาน ดีใจมากๆเลย รถเลท ขนาดรถวีไอพีที่ออกหลัง ยังมาถึงก่อนเลย พอถึงแล้วก็จะเจอตลาดสด และก็เดินไปที่พัก คิดว่าต้องเดินขึ้นไปทางทิศเหนือ แล้วคงจะเจอริมโขง ถนนชายโขง ซอยเชียงคาน19


เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอเซเว่นฯ โลตัส เป็นอะไรที่แปลกที่ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะการสร้างจะเป็นการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร  เห็นแล้วสวยมากมายครับ เดินไล่ซอยไปเรื่อยๆครับ ก็เจอป้ายซอยเชียงคาน19 เดินตรงเข้าไปประมาณ 300 ม. ก็จะเจอเลยครับ เชียงคานริเวอร์วิว ดีใจมากๆ เข้าไปก็เจอเจ้าของที่เป็นคุณครูเลยทำเรื่องจ่ายเงินที่จองไว้ แล้วเจ้าของบอกว่า ให้วางของไว้ ล้างหน้าแปรงฟัน พักผ่อนก่อน ค่อยเช็คอินเข้าพักตอนเที่ยง ตอนนี้กำลังเตรียมห้อง ทำความสะอาดให้อยู่ พวกพวกก็พากันยกมือไหว้ขอบคุณ แล้วพี่เค้าบอกว่าให้ไปปั่นจักรยานเล่นก็ได้ มีเตรียมไว้ให้ พวกผมก็พากันไปชิวล์บรรยากาศ อากาศดีมากๆ นี่ไงระเบียงริมโขงที่ชอบ บรรยากาศดูเงียบสงบดีจังเลย

ในขณะที่เพื่อนผมเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แต่งหน้า นานเกิน เลยขอไปก่อน เพราะอยากไปสัมผัสบรรยากาศ รอไม่ไหวแล้ว อิอิ งั้นไปเลยครับ


ปั่นไปสักพักก็เจอลานวัฒนธรรม แล้วมีทางไปปั่นไปทางริมโขง และจุดชมวิว ขอใสๆสักนิดครับ อิอิ


จากนั้นเพื่อนผมก็ปั่นตามมา เลยขอใสๆเป้นแก้งค์ปั่นจักรยานเล่นเลยครับ

หลังจากนั้นก็ปั่นหาอะไรอร่อยๆทาน เค้าบอกว่ามาถึงเชียงคาน ต้องทานไข่กระทะ ผมและเพื่อนก็พากันปั่นหาจนเจอและพากันจัดไป ข้าวเช้า อิอิ ได้ข้าวจี่ และของอร่อยๆ ทานไปเรื่อยๆระหว่างทางที่ปั่นครับ อิอิ


พอ10โมงกว่าๆ ก็พากันเข้าที่พัก นั่งเล่น คุยกัน จนถึง11.00 น. พี่แม่บ้านก็แจ้งว่า ห้องพักเสร็จแล้ว เข้าพักได้เลยครับ พวกผมดีใจมากๆ จะได้พากันอาบน้ำนอนสักที ผมนี่เพลียมากๆ พอผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็ใส่ชุดนอน ปะแป้ง เปิดแอร์นอนเลยครับ เพื่อนผมก็มาขอตังค์กองกลางไปเซเว่นฯ อยากทานขนม เลยเลยให้ไป แล้วผมก็หลับคนเดียว หลับสบายมากๆ สักพักเพื่อนผมก็มา แต่ผมก็รู้ว่านานมากๆ ได้ขนมขมเคี้ยว มาม่า น้ำดื่ม และได้พุดทรานมสดมาด้วย เพื่อนผมล้างพร้อม ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับสภาพหัวฟูๆ เพื่อนป้อนในขณะที่ผมยังไม่ลืมตา กัดไป1คำแล้ว ตื่นเบย อยากจะบอกว่าอร่อยมากๆ จากนั้นแป๊ปเดียวครับ หมดเลย1 กก. แล้วก็เลยพากันไปทานมาม่า ระเบียงหลังที่พัก ชิลด์ครับ




หลังจากที่อิ่มแปล้แล้ว ก็พากันปั่นจักรยานเล่น ดูบรรยากาศในตัวเมืองว่ามีอะไรบ้างครับ อากาศก็เริ่มจะเย็นลงเรื่อยๆครับ ดีใจมากมายครับ อากาศก็บริสูทธิ์ สูดอย่างเต็มปอดครับ ปั่นไปทางลานวัฒนธรรม สุดทางก็จะเจอร้านการแฟ ร้านนมนั่งทางชิลด์ๆ เป็นของสวัสดิการทหาร คนก็ไม่ค่อยเยอะ แต่บรรยากาศน่านั่งมากๆ แต่ขอถ่ายรูปก่อนครับ ถนนคนเดินก็เริ่มครึกครื้นแล้วครับ ไปกันเล้ย





พอเสร็จจากการเซลฟี่ก็เลยถามพี่ๆที่ร้านว่า พี่ครับปิดหรือยังครับ อ้อ..ยังครับ ปิดประมาณ2ทุ่ม งั้นเดี๋ยวมาใหม่นะครับ ขอปั่นจักรยานเล่นก่อนครับ จากนั้นก็พากันปั่นดูบรรยากาศ ดูวิวพระอาทิตย์ตกดิน เป็นอะไรที่สวย และก็มีความสุขมากๆครับ มองจากจุดชมวิวตรงลานวัฒนธรรมครับ



จากนั้น..ลองปั่นไปตรงทางเล็กๆริมโขงบ้าง ก็เห็นคนเดินเล่น ถ่ายรูปเยอะแยะ บางคนก็ปั่นจักรยานเหมือนพวกผมเลยครับ บรรยากาศกำลังใช้ได้เลย สลัวๆ แต่ท้องฟ้าเป็นสีส้ม เป็นภาพที่น่าประทับใจมากมายครับ



หลังจากที่ปั่นจักรยานเสร็จ ก็ปั่นมาร้านนมเหมือน พอพนักงานร้านเห็นก็ยิ้ม นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว นึกว่าพูดเล่น จากนั้นก็พาดันเข้าไปในร้านแล้วออเดอร์เลยครับ แต่อากาศเริ่มเย็น แล้วดื่มไรเย็นๆ มันก็ยิ่งหนาวอะจิ นั่งจับจองพื้นที่ๆว่าง มองไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็เริ่มครึกครื้นขึ้นมาแล้ว กลางวันเงียบสงบมากๆ กลางคืนเสียงเพลงดังมากๆ มีแต่เพลงไทยทั้งนั้น แน่นอกเอย หญิงลีเอย ผมนั่งมองหน้ากับเพื่อนก็พากันหัวเราะครับ ขำดีฝั่งลาวเปิดเพลงฝั่งไทย เพลงไทยโกอินเตอร์ซะด้วย




หุหุ นั่งไปนั่งมา ก็เริ่มหนาวแล้วครับ เพื่อนผมอยากทานอะไรร้อนๆ เลยไปถามพี่พนักงานว่าพอจะมีร้านจิ้มจุ่มหรือร้านหมูกระทะหรือป่าว พี่เค้าบอกว่ามีครับ ขับรถกลับไปเจอ3แยกตรงลานวัฒนธรรมที่มีวัด แล้วเลี้ยวซ้ายไปเลยนิดเดียว ก็จะเจอร้านอยู่ขวามือครับ จากนั้นพวกผมก็พากันปั่นไป ก็เจอเลยครับ เป็นร้านชั้นลอย บรรยากาศดี คนไม่เยอะ เจ้าของแลดูอัธยาศัยดีครับ เลยสั่งมาเลยครับ1ชุด และเพิ่มอาหารทะเล แต่อาหารทะเลไม่สดนะครับ จะเป็นอาหารแช่แข็ง แต่เป็นของ CP นะครับ เริ่มหิวแบ้วว จัดไปเลยครับ


หลังจากที่พากันทานเสร็จ ก็อิ่มมาก อากาศก็เริ่มเย็น ว่าจะลองปั่นจักรยานไปเล่นแถวๆถนนคนเดิน หาอะไรร้อนๆทาน โอวันตินร้อน นมร้อนๆ ขนาดว่าอิ่มแล้วนะ ยังจะหาไรทานอีก แต่ของก็เริ่มเก็บแล้ว เพราะดึกแล้ว จากนั้นก็กลับที่พัก นอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า จะไปภูทอกกันครับ นอนแล้วนะครับ ฝันดีครับ
เช้าวันต่อมา วันที่2 ก็ตื่นตอนตีห้าพากันเตรียมตัว แล้วก็มาเหมารถสกายแลปตรง3แยกศูนย์วัฒนธรรมครับ ไปกลับ3คน 300 ครับ โอเคครับ พอรถออกเท่านั้นแหละหนาวมากๆจนสั่นแง๊กๆ นั่งรถประมาณ 20 นาที ไปถึงก็ให้คุณลุงรอครับ ก็นั่งรถกระบะขึ้นเขาอีกคนละ20บาทครับ เขามีรถให้ต้องไปซื้อตั๋วครับ หนาวมากๆเลยครับ พอไปถึงคนก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จับจองพื้นที่กัน แต่ทะเลหมอกก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้มาแล้ว อิอิ พระอาทิตย์ก็เริ่มขึ้นแล้วครับ






พอประมาณ 7 โมงก็ได้เวลาลงแล้ว ก็ถ่ายรูปเล่นๆกันเรื่อยๆครับ อยากได้รูปสามคนบ้าง เลยให้คุณลุงใจดี ถ่ายรูปให้ครับผม ขอบคุณคุณลุงนะครับ น่ารักจังเลยครับ


จากนั้นก็นั่งรถกลับลงมาข้างล่าง พี่เค้าซิ่งมากๆเลย ลุ้นๆระทึกขณะนั่ง หนาวๆครับ


พอมาถึงก็เจอคุณลุงรออยู่ เลยถามคุณลุงว่าแก่งคุดคู้ไปอีกไกลไหม คุณลุงว่าไม่ไกล บอกคุณลุงว่าอยากไป คุณลุงเลยคิดเพิ่มอีก100บาท เลยตกลง ให้คุณลุงพาไปครับ อิอิ