ควรคบกันจนแต่งงานแก่เฒ่า หรือ เลิกดีค่ะ

จขกท. คบกับแฟนคนนี้มาประมาน 5 ปี รู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย
วางแผนเก็บเงินสร้างตัวกัน ซื้อบ้านเพื่อเป็นเรือนหอของเราสองคน
แต่ที่บ้านกดดันจขกท.ตลอดและบอกว่าให้คิดดีๆ

ขออนุญาตเกริ่นทำค.รู้จักเราสองคนก่อนนะคะ

เราสองคน เจอกันสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยอินเตอร์ชื่อดังแห่งนึง
เดิมทีแฟนจขกท.(ขอใช้ว่าM) M เขาเป็นคนที่imageจากคนภายนอกคือ
เจ้าชู้ เสือผู้หญิง ไม่จริงใจ ผู้หญิงติดเยอะ แต่มีค.เป็นผู้ใหญ่สูงมาก เวลาเพื่อนในกลุ่มมีปัญหาอะไร
มักจะให้ M เป็นคนตัดสิน/ช่วยแก้ปัญหาอยู่เสมอ
แต่พอMคบกับจขกท.จริงๆ เขาไม่มีpromotionเลย ตอนจีบกันทำตัวแย่ๆให้เราเห็นแย่มากกว่าตอนคบกันเสียอีก(แต่ตอนคบก็ไม่ได้แย่นะค่ะ)
Mให้เหตุผลตอนหลังคบกันว่า ตอนจีบคือเขาจะเป็นตัวของเขาจริงๆและทำแย่ที่สุดเท่าที่เขาน่าจะทำตอนคบกันได้ให้เราเห็น
ถ้าเรารับได้ ก็คบ ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่คบ แต่พอคบกันจริงๆ M เป็นแฟนที่ดีมากกกกที่สุดตั้งแต่เราเกิดมา
แล้วรู้จัก/เจอ ดีกว่าแฟนเพื่อน/คนรู้จักที่ดูภายนอกว่าดีเสียอีก
Mทำหน้าที่แฟนไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

จขกท. เป็นโรคเครียดต้องทานยาทุกคืนก่อนนอนตั้งแต่gr.12จนถึงปัจจุบัน
เลยทำให้อะไรมากระทบนิดก็คิดมากและร้องไห้เพราะปัญหารอบข้างบ่อยมากถึงมากที่สุด
งี่เง่าที่1 ขี้งอนที่1 ขี้หึงที่1 ขี้วีนที่1 แต่Mก็ทนและเข้าใจมาตลอด
แถมจขกท.เล่าทุกเรื่องที่แย่ๆ/ข้อเสียที่เคยทำมาทั้งหมดตั้งแต่เด็กจนโตที่ยังพอจำได้
แถมเคยนอกใจกลับไปคบแฟนเก่าอยู่1เดือนแถมมีอะไรกัน แต่Mก็ให้อภัยจขกท.เสมอและบอกจขกท.ว่า
จขกท.ยังใสสะอาด ยังบริสุทธิ์ & เป็นเจ้านางฟ้าไม่มีปีกของMเสมอ
ช่วงที่คบกัน3ปีแรก(อีก1ปีหลังจนจบ โดนที่บ้านจับได้ว่านอนด้วยกันเลยต้องขับรถไปกลับมหาลัยแทน)ตอนเรียนก็นอนหอเดียวกัน(แอบพ่อแม่ จริงๆตัองนอนหอใน)  Mก็ออกค่าใช้จ่ายให้เราทั้งหมด ค่าหอ ค่าน้ำไฟ ค่าเรียนพิเศษ ค่าหาหมอ ค่าช้อป ค่าตั๋วเครื่องบิน
มือถือหายก็ซื้อใหม่ให้(iphone ทั้งๆที่ตัวMเองไม่ติดหรู ใช้อะไรก็ได้ ตอนนั้นยังใช้bbเน่าๆอยู่เลย)
โน้ตบุคพังก็ซื้อใหม่ให้ ทั้งๆที่คอมตัวเองก็เก่าแต่Mบอกยังพอใช้ได้ แต่จขกท.สำคัญกว่าต้องใช้ทำงาน
จขกท.เลิกเรียนบ่าย3 แต่Mเลิกตั้งแต่10.30แล้ว ก็นั่งรอหน้าห้องจนเลิกเรียน
จขกท.ร้องไห้มีปัญหากัเพื่อนในกลุ่มเลยขออาจารย์แยกกลุ่มมาทำงานเดี่ยวคนเดียวทั้งๆที่อีก4วันต้องส่งทั้งproject
แต่Mแทบไม่ได้นอน ทำงานให้จขกท.ทั้งคืนและบอกให้จขกท.นอนพักไปเพราะร้องไห้คิดมากจนตัวร้อน และสุดท้ายงานก็ออกมาดีด้วย
และอื่นๆอีกมากมายที่Mดีกับจขกท.มากๆ

แต่สุดท้ายMอ่อนภาษามากๆจนเรียนที่นี้ไม่ไหว(เพราะที่นี้inter จะเป็นengล้วน) Mเรียนดีหัวดีแต่ได้แค่TH พอให้แปลเป็นengจะไม่ได้เลย
แต่Mยังดื้อดันทุรังฝืนเรียนที่นี้จนกระทั่งจขกท.เรียนจบ แล้วMถึงบอกที่บ้านและย้ายมานอนบ้านและไปเริ่มเรียนใหม่ป.ตรีปี1 ที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งนึงแถวบ้าน
ซึ่งจขกท.ได้งานมีงานบริษัทหลักทรัพย์แห่งนึงติดต่อจขกท.มาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ติดต่อมาช่วงเทอมสุดท้าย พอเรียนจบก็เริ่มงานทันทีเลย
แต่Mเพิ่งจะมาเริ่มต้นเรียนปี1ใหม่

จขกท. กลัวที่บ้านของจขกท.เองรับไม่ได้ เลยโกหกว่าMเรียนจบช้ากว่าจขกท.1เทอม และ ทำงานอยู่สถาบันการเงินชื่อดังและเข้ายากมากกกกแห่งนึง (ซึ่งจริงๆแล้วเป็นคุณแม่ของMที่ทำงานที่นี้) ปัจจุบันจขกท. อายุ 24 ปี / M อายุ 25 ปี
ตอนนี้ จขกท. ทำงานได้เกือบ1ีปี เงินเดือน ประมาณ 2x,xxx บาท มีรถเป็นของตัวเอง
แต่ M ตั้งแต่กลับมานอนบ้านและเรียนใหม่ปี1 โดนลดเงินเดือน เหลิอ 3,000 บาท ถ้าไม่พอก็จะขอคุณพ่อเพิ่มเติมแทน ไม่มีรถของตัวเอง
จะขอทำงานเสริมเพื่อหารายได้ตัวเองก็ทำไม่ได้ที่บ้านห้าม อยากให้focusเรื่องเรียนให้จบก่อนเดียวไม่รอดอีก
แรกเริ่ม จขกท.ก็วางแพลนกันแต่งงานตอนMเรียนจบ ก็อีกประมาณ 3 ปี ระหว่างนี้ก็ถือว่าทยอยเก็บเงินไปแทน
ระหว่างนี้ก็โกหกที่บ้านของจขกท.ไปเรื่อยๆ ถึงวันแต่งค่อยคิดแก้ปัญหากันอีกที

ช่วงคบกันตอนจขกท.ยังเรียนไม่จบ 4 ปีแรกที่คบกัน M ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดทุกอย่าง
แต่ตั้งแต่จขกท.เรียนจบจนปัจจุบัน จขกท.ต้องออกค่าข้าว ค่าเที่ยวให้Mด้วยเกือบทุกครั้ง
เพราะMมีเงินไม่พอใช้ แต่Mไม่เคยเรียกร้องจากเราใดๆ มีแต่เราเสนอให้ เขาบอกกินง่ายๆก็ได้ถูกๆ ทำกับข้าวกินกันที่บ้านเขาก็ได้ประหยัดดี
แต่บางทีจขกท.ก็เบื่อ อยากทานของดีๆแบบปกติเมื่อก่อนบ้าง แต่จขกท.ก็พยายามปรับ
ทุกวันนี้ ทุกวันเสาร์ จขกท.จะขับรถไปหาMที่บ้าน แล้วนอนเล่นคุยเล่นกันที่บ้านMชั้นล่าง ดูทีวี
ออกกำลังกายอะไรเรื่อยเปื่อย เรียบง่าย สงบ วันเสาร์อาทิตย์ ที่99%จะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านM
ก็เพราะว่าเป็นวันครอบครัวM เพราะวันธรรมดา คุณแม่Mจะทำงานบริษัทกลับมาก็หัวค่ำ
พี่สาวก็ไปทำงานในเมือง (บ้านM อยู่นนทบุรี) เลยนอนหอแถวสุขุมวิท วันเสาร์อาทิตย์
เลยเป็นวันที่ครอบครัวMจะพร้อมหน้ากัน บ้านนี้เขาจะอบอุ่นมาก มักทำกิจกรรมด้วยกันเสมอ
ตั้งแต่Mมานอนบ้าน จขกท.ก็แทบจะเป็นส่วนนึงของครอบครัวเขาไปแล้ว คุณแม่คุณพ่อMจะชอบจขกท.หน่อย
เพราะเรียนดี และ มีหน้าที่การงานโอเค(บ้านนี้ชอบคนเก่ง)

แต่บ้าน จขกท. ไม่ชอบMเท่าไหร่ โดยเฉพาะพ่อแม่จขกท. ตั้งแต่ทราบเรื่องว่านอนหอเดียวกัน
แต่Mก็มาส่งจขกท.บ่อยๆเวลากลับค่ำ ก็มีได้สวัสดีพ่อแม่จขกท.บ้างแต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากมาย

ขอสรุปสั้นๆเกี่ยวกับที่บ้านจขกท.คือ พ่อแม่จขกท.จะชอบกดดัน เลี้ยงแบบไม่โต ไม่ปล่อย ที่จขกท.ทำนู้นนี่นั่นได้ก็แอบทั้งนั้น
และจขกท.จะพูดคุยกับแม่ได้ไม่นานก็จะทะเลาะกันทุกที เลยพยายามไม่พูดคุยกันนานๆ จขกท.เลยฝังใจตั้งแต่เด็กว่าไม่ชอบอยู่บ้าน
ถ้าจขกท.ไม่มีแฟน ก็จะหาเรื่องไปตปท.แล้วจริงๆ ถ้าไม่ได้แต่งงานจริงๆ อายุ30ปี จะซื้อคอนโดอยู่คนเดียวไม่สนแล้วว่าเขาจะให้ไม่ให้

บ้านจขกท.ไม่ได้รวยอะไรมากมาย แต่imageจากคนภายนอกมองจะค่อนข้างร่ำรวยมากหน่อย
เพราะรถทุกคันที่บ้าน furniture เสื้อผ้าจะแบรนด์ดีๆหมด และอื่นๆที่คนนอกมองจะแลดูดี แต่จริงๆบ้านจขกท.แค่ซื้อความสุขให้ตัวเอง
ไม่มีที่ดินของตัวเอง ไม่มีหุ้นในport มีแต่เงินกับทองและเพชร แค่นั้น

บ้านM ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากเช่นกัน แต่มีปัญญาส่งเสียลูกทุกคนเรียนสูงๆ เรียนinterได้
รวยที่ดิน เป็นตระกูลเก่าแก่ของจังหวัดนนทบุรี มีหุ้นในportเป็นแสนๆเกือบล้านหลายport(จขกท.check จากระบบทึ่ทำงาน)
แต่การตกแต่งบ้าน furniture เสื้อผ้า จะไม่หรูหราไม่มียี่ห้อ จะเรียบง่าย สบายๆ ไม่ได้ยากจน แต่ก็ไม่ลำบาก มีกินมีใช้แบบพอเพียง



* ปัญหาคือ จขกท.เป็นโรคเครียดแม้จะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ตัองทานยาอยู่ทุกคินและต้องโดนที่บ้านจับผิดและกดดันเรื่องMอยู่เสมอ
พี่ชายจขกท.แต่งงานตั้งแต่อายุ25ปี สร้างธุรกิจตัวเอง ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ภรรยา ภรรยาแค่เลี้ยงลูกเฉยๆ
น้องสาวจขกท.กำลังจะแต่งงานสิงหานี้ อายุ23ปี บ้านแฟนน้องให้ทุนฟรีๆ10ล้านมาสร้างธุรกิจของตัวเอง

แล้วทีนี้ล่าสุดไม่นานนี้ จขกท.ไปปรึษาคุณพ่อเรื่องเรียนต่อป.โท ว่าสายงานที่ทำป.โทก็สำคัญแต่ไม่มากเท่าไหร่
แค่ได้ภาษาก็ถือว่าเป็นต่อพอควรแล้ว แต่ลึกๆจขกท.ก็อยากต่อโทนะเพราะได้connection แต่ถ้าจขกท.ต่อโท
เงินเก็บแต่ละเดือนจะลดลงเยอะมากกกกกหรือแทบไม่เหลือ ที่ตั้งใจจะเก็บไปช่วยกันซื้อบ้านตอนจะแต่งงาน
จขกท.เลยคิดหนักมาก เลยมาปรึกษาคุณพ่อ พอคุณพ่อได้ยินว่าจะช่วยกันเก็บเงินซื้อบ้านปุ้ป
คุณพ่อหัวเราะกรึ่มๆอารมณ์เสียหน่อยๆว่า จขกท.จะไปเลี้ยงMหรอไงถึงseriuoslyเรื่องเงินเก็บมากขนาดนี้
คือคนรอบข้างและคนที่บ้านมีแต่ตัวอย่างที่ แต่งงานกัน ฝ่ายหญิงไม่ต้องออกอะไรเลยแม้แต่บาทเดียว อยู่สบายๆ
จขกท.ก็บอกว่า M ไม่อยากกวนเงินที่บ้าน อยากใช้เงินตัวเองทุกบาทในการแต่งงานและใช้ชีวิตในอนาคต
จขกท.ก็ไม่อยากกวนที่บ้านเรื่องต่อโทด้วย และ ที่บ้านก็ไม่ออกให้แล้วด้วย เพราะอยากให้จขกท.โตและเก่ง
แบบหาเงินเรียนเองได้

จขกท. ต้องโดนที่บ้านกดดันบ่อยมากจนเครียด
จขกท. ถ้าอยากกินดีๆ อยากไปเที่ยวดีๆ ก็ต้องออกเงินให้Mด้วยจนกว่าMจะเรียนจบ (แม้ว่าMไม่เต็มใจรับและด่ากลับด้วย จขกท.ต้องมัดมือชก)
ถ้าMมี เขาก็ให้ ต่อให้มีเงิน1,000 100 Mก็ให้จขกท.ได้95% Mยอมอดมื้อกินมื้อหรือกินแค่มาม่าเพื่อจขกท.ได้ แต่บังเอิญช่วงต่อจากนี้จนกว่าจะจบMเขาไม่ค่อยมีหรือมีน้อยมากกกอะ ดูแลตัวเองยังไม่ไหวเลย ถ้าเขามีเขาก็ให้ได้เสมอ ไม่งกกับจขกท.
จขกท. ถ้าทนกดดันจนถึงวันจะแต่งงาน วันที่ผู้ใหญ่คุยกัน ค.จริงเรื่องเพิ่งเรียนจบของMก็ถูกเปิดเผย แถมจบมหาวิทยาลัยเปิดอีก(พ่อแม่จขกท.หัวโบราณยึดติดสถาบัน)
จขกท. ถ้าเลิกกับMจริงๆ ก็กลัวจะหาคนใหม่ไม่ได้เพราะอายุก็24แล้ว ที่ทำงานใกล้ชิดก็มีแต่ผู้หญิง หรือ หาได้ก็กลัวไม่เจอคนรักดีๆแบบMอีก เพราะจขกท.ก็อ้วนขึ้นมากเกือบ20kg.ตั้งแต่คบกันมา แต่Mไม่เคยบ่นมีแต่ชมจริงๆ แค่อย่าเป็นโรคก็พอ จริงอยู่ปัจจุบันจขกท.หุ่นก็ไม่ถึงกับช้าง แต่ก็อวบอิ่มขึ้นเยอะมากกกก

ประเด็นคือ ถ้าตัดเรื่องผูกผันและค.รักที่มีต่อM ก็ กลัวเลิกกับM แล้วหาคนใหม่ที่ทำหน้าที่แฟนได้ไม่ดีเท่าM เพราะMดีมากกกรับตัวตนทุกอย่างที่เป็นเราจริงๆ

** ขอแก้ไขเพิ่มเติมคือส่วนข้างล่างต่อไปนี้ค่ะ:
จขกท.รักM รักมาก เพราะMไม่ได้เป็นแค่แฟน แต่เขาเป็นทั้งแฟน ทั้งพ่อ ทั้งพี่ชาย ทั้งกิ้ก และ ทั้งเพื่อนสนิทในเวลาเดียวกัน เขาเหมือนเป็นส่วนนึงในชีวิตเราไปแล้ว วันนึงถ้าหากไม่มีเขา จขกท.เองยังไม่รู้เลยค่ะว่าจะเป็นยังไง .... แต่ที่มาตั้งกระทู้ถามเรื่องจะเลิกไม่เลิก คือ ถ้าพ่อแม่จขกท.จับได้เมื่อไหร่ คือต้องสั่งให้เลิก100000% หรือให้แต่งแต่ต้องตัดขาดจากการเป็นพ่อลูกกันแน่นอนนน100000% จขกท.รู้จักคนที่บ้านดีค่ะ ขนาดพ่อของพ่อจขกท.เอง พ่อจขกท.ยังตัดได้เลยค่ะ เหตุผลก็ไม่เล่านะคะเพราะเรื่องของผู้ใหญ่เขาค่ะ คือนอกจากการถูกกดดันจนเครียดแล้วอาจต้องโดนตัดขาดจากพ่อแม่ค่ะ มีครั้งนึงพ่อจขกท.เคยพูดว่า ถ้าทำ งานศพกูก็ห้ามมาหยีบค่ะ >< .... แล้วที่พูดเปรียบเทียบกับพี่น้อง จขกท.ไม่ได้คิดเองค่ะ พ่อจขกท.พูดและบ่นกับจขกท.ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเจอกะนเป็นเหตุผลประกอบของพ่อค่ะ จนจขกท.จำได้ขึ้นใจค่ะ


ชาวpantipมีค.เห็นว่าอย่างไรบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
คุณมีแฟนดีแล้วนะคะ หาไม่ง่ายเลยผู้ชาย (นอกจากพ่อ) ที่คอยช่วยเหลือเราและรับในตัวตนของเราได้ ถ้ารักเค้าจริงก็รักษาเค้าไว้เถอะค่ะ ช่วงที่เค้าเรียนก็อาจลำบากบ้าง แต่พอเรียนจบแล้วชีวิตต้องดีขึ้นแน่นอนเพราะคุณสองคนดูขยันขันแข็งทั้งคู่
ส่วนครอบครัวคุณ... บางครั้งพ่อแม่ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปนะคะ คุณต้องมีชีวิตที่คุณเลือกเอง ไม่ใช่พ่อแม่เลือก แค่คุณแระพฤติเป็นเด็กดี เรียบจบมีการงานทำ แบ่งเบาภาระที่บ้านบ้าง ก็ถือว่าเป็นลูกที่ดีแล้ว ส่วนชีวิตของคุณ ทำตามใจและความต้องการเถอะค่ะ ชีวิตสั้นนัก มีเวลาอยู่กับคนที่รักและดีกับเรานานเท่าไหร่ไม่รู้ .. โชคดีนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่