คือผมเป็นผู้บริจาคโลหิตของสภากาชาดมาเป็นเวลาหลายปี บริจาคมานับ20กว่าครั้ง จนกระทั่งปี2556 ทางโรงพยาบาลจุฬาฯได้ส่งจดหมายมาบอกถึงความผิดปกติของเลือดผม คือ ตรวจพบว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี แล้วให้ผมไปตรวจซ้ำ ผมจึงเดินทางเข้า กทม เพื่อตรวจซ้ำสรุปผมมีค่าปริมาณเชื้อนับล้าน ค่าตับมีการอักเสบสูง หมอจึงให้ผมรักษาโดยการฉีดยาตัวใหม่ เข็มละประมาณ3000 เป็นเวลา2ปี แต่ผมปติเสธเนื่องจากไม่มีเงินครับ

จากนั้นจึงส่งตัวผมให้รักษากับโรงพยาบาลต้นสังกัดเพื่อใช้สิทธิบัตรทอง เเละรักษาตามปกติคือ ทานยาและเข้าตรวจเลือดที่ห้องLabทุกๆ3เดือน จนค่าความอักเสบของตับผมเป็นปกติ แต่เชื้อไวรัสในร่างกายยังคงมีเช่นเดิม ผมหาหมอและทานยาติดต่อกันเป็นเวลาประมาณปีกว่า แล้วผมก็ห่างเหินจากการรักษาไป เพราะเวลาทำงานไม่ค่อยสะดวกครับ

เป็นเวลานับปีที่ผมไม่ได้หาหมอ แล้วยังรู้สึกผิดเพราะคุณหมอดีกับผมมาก. รักษาเต็มกำลัง จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมกลับไปหาหมออีกครั้ง หลังจากตรวจเลือดหมอได้แจ้งว่า ไม่พบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแล้ว คุณหมองงมากเพราะไม่คิดว่าจะหายได้ จึงให้ผมตรวจซ้ำ ผลเลือดก็เหมือนเดิมครับ คือเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้หายไปแล้ว เเละเป็นจังหว่ะที่ผมได้งานใหม่ที่ต้องตรวจหาโรคนี้ (โรงพยาบาลอีกแห่ง) คือลุ้นมากๆเพราะผมอยากได้งานที่นี่มากครับ ผลปรากฏว่าไม่มีเชื้อครับ

ผลตรวจทั้งสามครั้งคือ

HBsAg  Negative
HBsAg  0.0

ตัวเลข 0.0 หมายความว่าอย่างไรครับ แสดงว่าผมหายขาดจากโรคนี้แล้วใช่มั้ยครับ หรือยังเสี่ยงมีเชื้ออยู่