[CR] [INSPIRIT] [INFINITE] รีวิวการไปเกาหลีครั้งแรก "ตามรอย INFINITE" 3 วัน 4 คืนในงบ 28,000 บาท

[นี่คือการรีวิวครั้งแรกนะคะ (ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ)]
    และนี่คือกระทู้สำหรับ INSPIRIT ที่อยากไปเที่ยวเกาหลีแบบงบน้อยพอประมาณ เพราะฉะนั้นสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลี ที่จะรีวิวนั้นจะไม่ใช่การตามหนุ่มๆ INFINITE แต่จะเป็นการ “ตามรอย INFINITE” นะคะ รวมไปถึงสถานที่ดังๆที่อยากไป ซึ่งในการเที่ยวครั้งนี้จะมีงบประมาณไม่เกิน 30,000 บาท แต่ใช้จริงใช้ไปเพียง 27,420 บาทเท่านั้นค่ะ

    ขอชี้แจงรายละเอียดการใช้จ่ายเป็นภาพรวมให้เห็นก่อนนะคะ
1.ค่าตั๋วเครื่องบินซื้อตอนโปรโมชั่น ราคารวมค่าโหลดกระเป๋า ไป-กลับ    รวม 10,890 บาท
2.ที่พักเป็นแบบเกสเฮ้าส์ นอน 4 คน 3 คืน เฉลี่ยคนละประมาณ 510 บาทต่อคืน รวมราคาประมาณ 1,530 บาท
3.เงินสดที่เอาไปเที่ยว รวมประมาณ 15,000 บาท แลกเป็นเงินวอนได้ 5 แสนวอนค่ะ
    โดยแบ่งเงิน 500,000 W เป็นค่าใช้จ่ายก่อนการใช้ตามหมวดดังนี้
    -เงินซื้อบัตร T-money  54,000 W (ค่าซื้อบัตรตอนซื้อที่ 7-11 ในสนามบินราคา 4,000 Wค่ะ เติมเงินในบัตร 50,000 W)
    -เงินค่าเข้าสถานที่เที่ยวต่างๆ   40,000 W
    -เงินค่าอาหาร  150,000 W
    -เงินค่า Shopping  256,000 W

รวมสถานที่ในเกาหลีที่ไปมา
    วันที่ 1    - ตึกอุลลิม และ NIT Coffee (NIT KITCHEN และ NIT SHOP กำลังปรับปรุงอยู่ค่ะ)
                 - ร้านอาหารในเมียงดง
                 - นัมซานทาวเวอร์
    วันที่ 2    - วัดโชเกซา
                 -ตลาดอินซาดง
                 -ร้านไก่ BBQ ของบ้านซองยอล
                 -SM TOWN @ COEX MALL
                 -แม่น้ำฮัน
                 -ร้านเนื้อย่าง mok & sam ของบ้านอูฮยอน
     วันที่ 3 - พระราชวังคยองบกกุง (เคียงบก)
                 -ถนนเซจองโน
                 -คลองชองเกชอน
                 -ร้านปลาหมึกบ้านดงอู
                 -ร้านกาแฟ EDIYA COFFEE ร้านพี่ชายดงอู (ร้านของเซบิน)
                 -ตลาดเมียงดง

            ความอยากที่ทำให้เริ่มโปรเจคทริปตามรอยอินฟินิทนี้เกิดขึ้นนั่นก็คือตอนที่คอนเสิร์ต INFINITE 2nd WORLD TOUR IN BANGKOK จบลง ความคิดถึงก็มาแทนที่ อยากไปหาหนุ่มๆที่เกาหลีจัง  เลยเกิดความบ้าหาโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินทันทีทุกสายการบิน รวมถึงอ่านกระทู้รีวิวไปเกาหลีแบบงบน้อยที่มีอยู่เต็มไปหมด จากนั้นก็ตามหาเพื่อนร่วมทริปที่เป็นอินสปิริทด้วยกัน (เพื่อมีไว้หลงเป็นเพื่อนที่เกาหลี 555) และแล้วก็ได้มาอีก 3 คน รวมเป็น 4 คนที่จะไปทริปตามรอยอินฟินิทด้วยกัน จากนั้นพวกเราก็ช่วยกันตามหาโปรโมชั่นทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พัก และแล้ว Air Asia ก็จัดโปรมาให้พวกเรา โดยมีระยะเวลาการไปช่วง ม.ค. – มี.ค.59 (ถ้าจำช่วงไม่ผิดนะ) โดยวันที่ลงตัวสำหรับพวกเราคือวันที่ 25-28 มี.ค.59 นั่นเอง พวกเราเลยจัดการซื้อตั๋วโปรโมชั่นนั้นทันที ซึ่งก็ได้มาในราคาที่รวมค่าโหลดกระเป๋า 20 กก. (1,700 บาท) ไป-กลับ รวม 10,890 บาทไทย

           หลังจากนั้นเราก็ได้ที่พักจาก AGODA เป็นแบบเกสเฮาส์พักห้อง Family 4 คน ที่ GOM GUESTHOUSE MYEONGDONG ซึ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและอยู่ใกล้แหล่งช้อปที่เมียงดงอีกด้วย โดยราคารวม 4 คน พัก 3 คืน เป็นเงินทั้งหมด 6,130.98 บาทไทย โดยสามารถจองไว้ก่อนแล้วจ่ายทีหลังได้ เราเลยรีบจองไปก่อนเพราะมันถูกมากและที่พักก็พอใช้ได้ แต่ยังไม่จ่ายเงินนะคะเผื่อมีที่อื่นที่ดีและถูกกว่า ซึ่งก็ไม่มีที่อื่นดีถูกกว่าแล้วค่ะ (การจองต้องค่อยๆ ดูเป็นช่วงนะคะ ราคานี้ถ้าไปเซิทดูอาจไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นต้องค่อยๆหาไปเรื่อยๆค่ะ)

           เมื่อถึงวันที่ใกล้จะไปก็สำรวจอากาศและแฟชั่นไปด้วยค่ะ ว่าตอนนี้ที่นั่นใส่เสื้อผ้ากันยังไง ไม่ใช่เอะอะเอาขนมิ้งไปเพราะเห็นเป็นเกาหลี ซึ่งอุณภูมิต่ำสุดที่ไปเจอคือ -2 องศา สูงสุดคือ 12 องศา ที่นั่นตอนนี้ฮิตโค้ทคลุมยาวเรียบๆ ธรรมดา หรือเสื้อคลุมธรรมดาสีเรียบๆ  ผ้าพันคอ  รองเท้าบูธหรือผ้าใบแค่นี้ค่ะ เอาเข้าจิงพอแต่งแบบเค้าแล้วก็หนาวมากอยู่นะ 555 อาจเป็นเพราะไม่ชินอากาศ ผ้าพันคอช่วยได้มากทีเดียว เสื้อคลุมควรเลือกที่มีกระเป๋าเอาไว้ซุกมือนะคะ ส่วนข้างในควรใส่ลองจอนหรือเสื้อผ้าสัก 3 ชั้นก็เดินชิวไปสบายๆแล้วค่ะ ที่สำคัญเราเตรียม Agenda ในแต่ละวันไว้ด้วย ซึ่งข้อมูลสถานที่รวมถึงวิธีการไปบล็อก Seoul Café ของมิน ช่วยไว้ได้เยอะเลยทีเดียวในการทำ Agenda (ในบล็อกจะมีลิ้งค์รถไฟฟ้าของเกาหลีไว้ด้วยค่ะ) ถ้าใครไม่อยากทำ AGENDA บล็อก Seoul Café มีหนังสือขายก็สามารถซื้อมาใข้ในการเดินทางได้เหมือนกันค่ะ และอย่าลืมโหลดแอป SUBWAY KOREA ไว้ด้วยนะคะ มันจะมีบทบาทสำคัญมากในการไปเที่ยวในเกาหลี และคนเกาหลีเวลาชนเค้าจะไม่ขอโทษนะคะ แรกๆเราก็งงๆค่ะ พอสองวันก็เริ่มชิน ชนเสร็จก็เดินไปเลยค่ะไม่มีหันมาขอโทษกันเหมือนคนไทย (แต่มีคนนึงค่ะใน SM TOWER เค้าถอยมาชนแล้วหันมาขอโทษ ทั้งทริปเจอคนนี้คนเดียวค่ะที่ขอโทษ) เวลาขึ้นลงบันไดเลื่อนบ้านเค้าถ้าไม่เดินขึ้นให้ยืนชิดฝั่งขวาไว้เป็นแถวเดียวค่ะไม่งั้นโดนเขม่น คนที่นี่เป็นอะไรที่อารมณ์ร้อนง่ายมาก ไปสี่วันสามคืนนี่เจอคนทะเลาะกันประมาณ 4-5 คู่ได้ค่ะ คนแก่ที่เกาหลีใจดีมากค่ะชอบชวนคุยถึงจะคุยไม่รู้เรื่องก็เถอะ 555 ส่วนวัยรุ่นก็ตามฮอร์โมนค่ะ เหวี่ยงง่าย ไปถึงนี่โดนเจ้าหน้าที่สถานีเหวี่ยงก่อนเลย แค่จะถามทางดันไล่เราขึ้นรถไฟไปเลย แบบเสียงดังมาก คือคนแบบนี้ก็มีแต่มีไม่เยอะนะคะ เพราะงั้นก็ไม่ต้องเฟลไปค่ะ นึกถึงหน้าอินฟินิทเข้าไว้    
              พวกเราบินตอนตีสองครึ่งเวลาไทยถึงอินชอนประมาณ 9.30 น.(ต่อไปนี้จะเป็นเวลาเกาหลีนะคะ) เราก็ทำตาม Agenda ที่วางไว้เลยค่ะ  หาอะไรกินรองท้องที่ 7-11 ก่อนรวมทั้งซื้อบัตร T-Money เพื่อเอาไว้นั่งรถสาธารณะไว้ด้วย (บัตร T-Money สามารถใช้จ่ายรถสาธารณะในเกาหลีได้หมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถบัส หรือแทกซี่ และสามารถแลกเงินคืนได้เมื่อเงินเหลือในบัตร แต่จะไม่ได้คืน 500 W เหมือนเป็นค่าซื้อบัตรเราค่ะ บัตรเราก็ไม่ต้องคืนเค้านะคะ เก็บไว้ใช้ต่อได้เพราะไม่มีวันหมดอายุ ) กว่าจะเจอทางเข้าสถานีก็ปาไป 11 โมงมัวแต่หลงในสนามบิน 555 นั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Airport Rail road เลือกนั่งแบบธรรมดาไม่เอาด่วนไปต่อสถานีที่ Seoul Station เพื่อไปลงสถานีหน้าเกสเฮาส์ค่ะ ซึ่งเลยสถานีเมียงดงไปแค่ป้ายเดียว    (วิธีการนั่งรถไฟฟ้าในบล็อกมีบอกหมดเลยค่ะ)
         แล้วเราก็เดินเข้าเกสเฮาส์ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้ามากนัก ถึงเกสเฮาส์ประมาณบ่ายโมง เกสเฮาส์โอเคเลยทีเดียวค่ะน่ารัก แต่ติดตรงห้องอาบน้ำที่มีแค่ห้องเดียวนี่แหละค่ะ ลำบากต่อคิวตอนอาบน้ำหน่อย แต่เค้าจะมีห้องน้ำในห้องเอาไว้ถ่ายให้ต่างหากนะคะ แต่มันเล็กชนิดที่เข้าไปนั่งและยืนได้เท่านั้น นอกนั้นถือว่าโอเคค่ะ มีอาหารเช้าให้เป็นขนมปัง แยม นม และน้ำผลไม้ค่ะ ที่เกสเฮาส์นี้ไม่มีแก้วให้นะคะต้องเตรียมไปเอง แต่มีตู้น้ำกรองที่เป็นทั้งน้ำเย็นและน้ำร้อนไว้ให้ค่ะ ก็ถือว่าสมกับราคาที่จ่ายไปค่ะ

         พอเช็คอินฝากกระเป๋าไว้เรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปตึกอุลลิมก่อนเลยทันที แน่นอนว่ารถไฟฟ้าค่ะ หน้าสถานีรถไฟฟ้าจะมีร้านอุด้งอยู่ อาจุมม่าใจดีมากค่ะ สอนพวกเรากินด้วยว่าทำยังไงบ้าง ไม้ละ 600 W (ประมาณ 20 บาท) ไม้เดียวก็ถือว่าอยู่ท้องแล้วค่ะ
แถมร้านอาจุมม่าแกก็ยังมีแซนวิสขายด้วยค่ะ (แต่แซนวิสเค้าโรยน้ำตาลนะคะ ถ้าใครไม่ชอบก็ต้องบอกเค้าก่อนว่าไม่ใส่ค่ะ)
  
             ทางไปตึกเดินไกลนิดหน่อยค่ะแต่ไม่ถึงกับเหนื่อย เพราะอากาศเย็นด้วยเลยเดินได้เรื่อยๆค่ะ (ทางไปตึกอุลลิมดูได้ในบล็อกเลยค่ะ) พอเข้าซอยมาก็จะเจอ NIT KITCHEN ก่อนเลยค่ะ พอเดินไปหน่อยก็จะเจอ NIT COFFEE กับตึกอุลลิมแล้วค่ะ ไปถึงก็แน่นอนค่ะ ถ่ายรูปก่อนเลย 555 แล้วก็เข้าไปสั่งกาแฟข้างในค่ะ ค่ากาแฟเฉลี่ยแก้วละประมาณ 4,000 W (ประมาณ 120 บาท) ระหว่างที่กำลังจ่ายเงินค่ากาแฟ อยู่ๆเพื่อนๆก็กรี๊ดเบาๆเราเลยหันไป เจออุลลิมบอยกำลังเดินออกจากตึกแต่ไม่เห็นแดยอลนะคะ คือหล่อมากเดินมาเป็นกลุ่มแต่จำชื่อไม่ได้สักคน จำแดยอลได้คนเดียว 555 ชอตนี้ถ่ายรูปไม่ทันค่ะเพราะมือกำลังหยิบเงินอยู่  มัวแต่มองจนพนักงานตบเค้าเตอร์เรียกให้จ่ายเงิน พอจ่ายเงินเสร็จเค้าจะให้เครื่องเล็กๆมาเครื่องนึง พวกเรางงอยู่พักนึงเลยว่ามันคืออะไร พอเครื่องดื่มที่สั่งเสร็จครบแล้วเครื่องนี้มันจะสั่นเพื่อให้เราไปรับเครื่องดื่มเองค่ะ (แอบโง่อยู่ตั้งนานแน่ะ 555)  แน่นอนว่าพวกเราหาทำเลนั่งที่เห็นหน้าตึกอุลลิมชัดๆค่ะ แต่ก็ไม่มีใครออกมาอีกเลย นั่งอยู่ในร้านได้ประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเราก็ออกมาถ่ายรูปเล่นข้างนอกค่ะ คือถ่ายให้เห็นตัวเองและตึกจะได้เอาไว้เตือนตัวเองว่าฉันมาถึงแล้วจริงๆนะ ไม่ได้ฝัน (เว่อวังมาก) ถ่ายรูปไปพักเดียวสักพักมีคนออกมาจากตึกค่ะ เยอิน lovelyz นั่นเอง เสียงแฟนคลับเกาหลีตะโกน อันยองฮาเซโย เยอินเลยโบกมือให้ค่ะ เราถ่ายมาได้ทันพอดี แต่ไกลไปหน่อย เสร็จแล้วเราก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปเมียงดงหาข้าวกินก่อนขึ้นไปนัมซานค่ะ   
            ช่วงที่เราถึงเมียงดงนี่คือหิวมากแต่ก็แวะช้อป 555 เพราะที่สถานีเมียงดงจะมีร้านค้าเยอะมากแต่พวกเราเข้าแต่ร้านขายของไอดอลค่ะ พอเห็นว่ามี INFINITE ก็พุ่งเข้าไปแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ ก็เลยได้บัตร T-Money ลายอูฮยอน (10,000 W) อัลบั้ม Reality (8,500 W) แล้วก็โน่นนี่นั่นี่เป็นอินฟินิท รวมทั้งหมดหมดไป 30,000W พอช้อปเสร็จความหิวที่หิวมากเมื่อกี้ก็กลับมาหา เลยไม่เลือกร้านอาหารแล้วค่ะเจอร้านไหนกินร้านนั้น พวกเราเลยไปเจอร้านนึงที่มีพนักงาน Greeting อยู่กลางทาง เห็นราคาแล้วก็พอมีราคากลางๆค่ะ เลยโอเคกัน พอเข้าไปเป็นร้านเนื้อย่างค่ะ เราก็เลยลองสั่งำเนื้อที่เกาหลีดู ปกติเราเป็นคนไม่กินเนื้อค่ะ เรื่องความเชื่อส่วนตัวแอบรู้สึกผิดเหมือนกัน แต่ไหนๆก็มาแล้ว และเป็นเพราะเห็นพวกหนุ่มๆ ชอบกรี๊ดกร๊าดทุกครั้งที่ได้กินเนื้อ ก็เลยสั่งรวมเนื้อมา 1 ชุด แล้วก็หมูสามชั้น 2 ชุด เราชี้ที่ราคาชุดละ 12,000 W นะคะ พนักงานบริการดีค่ะและหน้าหม้อด้วยค่ะ (อันนี้ไม่รู้จะมีใครเจอเหมือนเรามั้ยนะ) มาคอยบริการดีมากแล้วพีคสุดคือถามว่าเรามีแฟนหรือยัง เราบอกไปว่ามีแล้วค่ะ แล้วเหมือนเค้าไม่เชื่อ เค้าเลยบอกงั้นขอดูรูปแฟนเราหน่อย เราเลยเปิดรูปอูฮยอนตอนใส่ชุดธรรมดาให้ดูค่ะ แล้วเค้าก็เชื่อ คือขำมากตอนนั้น จากนั้นเค้าก็ให้พนักงานคนอื่นมาบริการเราต่อเลยค่ะ ทีนี้ตอนคิดเงินค่ะ ยอดเงินรวม 210,000 W เฉลี่ยจ่ายคนละ 52,500 W (ประมาณ 1,575 บาท) เพราะเค้าคิดหมูที่ราคาชุดละ 12,000 W เป็น 39,000 ค่ะ เหมือนจงใจจด ออร์เดอร์ผิดตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นขอเตือนว่าอย่าไปกินร้านพวกนี้นะคะ เพราะจริงๆแล้วในเมียงดงมีร้านอาหารอีกเยอะเลยค่ะที่ไม่แพง แต่ตอนนั้นพวกเราหิวแบบไร้สติไปหน่อย เลยคิดว่าแลกกับเนื้อที่อร่อยละกัน เพราะจริงๆแล้วร้านนี้เนื้ออร่อยมากค่ะ ไม่มีกลิ่นคาว นุ่ม หวานอร่อยจริงๆ ถือว่าแลกกันไปค่ะ