สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้เรามีข้อสงสัยหรือจะเรียกว่าความอึดอัดใจบางอย่างของชีวิตการคบเพื่อนของเราค่ะ
สมัยก่อน สมัยเรียน เราเคยเป็นคนที่เคยมีเพื่อนเยอะ เพื่อนชวนไปไหนเราพร้อมจะไปด้วยทุกที่ นัดเลี้ยงกันที่ไหนก็ไปกัน แต่หลังจากบ้านเราประสบปัญหาล้มละลาย บ้านเรา เราเองมีหนี้สินที่เกิดจากการทำธุรกิจ ทำให้สถานะทางการเงินเราไม่ดี จะใช้จ่ายต้องประหยัดและรู้จักคิดมากขึ้น และเราก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น ทำให้เวลาเพื่อนๆเรานัดกันไปกิน หรือพบปะสังสรรค์กัน เราจึงบ่ายเบี่ยงที่จะไปร่วมด้วย (เช่น เพื่อนในห้องสมัยมัธยมที่บางคนไม่รู้เรื่องการเงินของเรา แต่บางคนก็รู้) หรือแม้แต่งานแต่งงาน งานบวช เพื่อนคลอดลูก หรืออะไรก็ตามที่ต้องมีการใช้จ่ายเงินเพิ่ม เราก็เลี่ยงที่จะไม่ไป หลายคนคงคิดว่าไม่ต้องให้เงินในซอง หรือซื้อของเยอะก็ได้ แต่ไม่ได้มีแค่งานเดียวนี่คะ เดือนนึง สองสามเดือนทีนึงมีตั้งหลายงาน อีกอย่างถ้าให้เราไปมือเปล่า เราก็ทำใจลำบากพอควรค่ะ
ดังนั้นเราเลยกลายเป็นคนเก็บตัว ทำแต่งาน อยู่กับครอบครัว และคุยกับเพื่อนสนิทที่อยู่คนละจังหวัดกับเรา ว่างๆก็ไปไหนมาไหนคนเดียว ออกกำลังกายคนเดียว นานๆทีก็จะนัดเจอกับคนที่เราเคยคบเป็นแฟน ซึ่งมีปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน เราจึงขอถอยความสัมพันธ์ไป (เค้าไม่มีงานทำ ช่วยกิจการที่บ้านแต่ไม่ได้รับเงินประจำจากที่บ้าน ได้เงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น) แต่เรายังเป็นเพื่อนสนิทกับเค้าได้
ดูแล้วชีวิตก็น่าเศร้าเหมือนกันนะคะ บางทีเราก็รู้สึกคุยกับเพื่อนคนที่มีเงินมากๆไม่รู้เรื่อง เช่น เค้ามาปรึกษาจะซื้อของขวัญให้แฟนในราคาแพงมากๆ หรือชวนเราไปกินข้าวร้านแพงๆ เมื่อเป็นอย่างนั้นเราก็ได้แค่นานๆคุยที และเราก็เอาตัวเองออกมาเหมือนเดิม ไม่ใช่อิจฉานะคะ แต่ไม่รู้จะคุยหรือเจอกันยังไงดี เหมือนเราคุยกันคนละเรื่อง บางครั้งเพื่อนก็ชวนไปทำบุญบริจาคนู่นนี่ แต่เราเองไปไม่ได้เพราะกำลังทรัพย์ไม่พอ เราถือว่าการทำบุญควรทำตามกำลังของตน เราจึงทำบุญด้วยการสวดมนต์ ให้ความรู้ ช่วยเหลือคน บริจาคเลือด เลี้ยงดูพ่อแม่ แทน
ดังนั้นเลยอยากถามและแชร์ประสบการณ์จากคนที่ประสบปัญหาเหมือนเราค่ะ เพราะบางครั้งเราคิดว่าเราคงแปลกเกินไปหรือเปล่าที่ทำตัวไม่คบใคร หรือเอาตัวเองออกจากกลุ่มเพื่อน เพราะบางทีเราคิดว่าวันนึงถ้าเรากลับมาพอมีเงินเหมือนเดิม หมดหนี้สิน เพื่อนๆคงเข้ามาหาเราเอง หรือไม่เราคงเข้าไปหาเค้าเองมั้งคะ
ขอขอบคุณทุกคำตอบนะคะ
จากคนที่เคยมีเพื่อนเยอะ กลายมาเป็นคนที่ไม่อยากคบใครเพราะสถานะทางการเงินของตัวเองไม่ดี มีใครเป็นเหมือนเราบ้างไหมคะ
สมัยก่อน สมัยเรียน เราเคยเป็นคนที่เคยมีเพื่อนเยอะ เพื่อนชวนไปไหนเราพร้อมจะไปด้วยทุกที่ นัดเลี้ยงกันที่ไหนก็ไปกัน แต่หลังจากบ้านเราประสบปัญหาล้มละลาย บ้านเรา เราเองมีหนี้สินที่เกิดจากการทำธุรกิจ ทำให้สถานะทางการเงินเราไม่ดี จะใช้จ่ายต้องประหยัดและรู้จักคิดมากขึ้น และเราก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น ทำให้เวลาเพื่อนๆเรานัดกันไปกิน หรือพบปะสังสรรค์กัน เราจึงบ่ายเบี่ยงที่จะไปร่วมด้วย (เช่น เพื่อนในห้องสมัยมัธยมที่บางคนไม่รู้เรื่องการเงินของเรา แต่บางคนก็รู้) หรือแม้แต่งานแต่งงาน งานบวช เพื่อนคลอดลูก หรืออะไรก็ตามที่ต้องมีการใช้จ่ายเงินเพิ่ม เราก็เลี่ยงที่จะไม่ไป หลายคนคงคิดว่าไม่ต้องให้เงินในซอง หรือซื้อของเยอะก็ได้ แต่ไม่ได้มีแค่งานเดียวนี่คะ เดือนนึง สองสามเดือนทีนึงมีตั้งหลายงาน อีกอย่างถ้าให้เราไปมือเปล่า เราก็ทำใจลำบากพอควรค่ะ
ดังนั้นเราเลยกลายเป็นคนเก็บตัว ทำแต่งาน อยู่กับครอบครัว และคุยกับเพื่อนสนิทที่อยู่คนละจังหวัดกับเรา ว่างๆก็ไปไหนมาไหนคนเดียว ออกกำลังกายคนเดียว นานๆทีก็จะนัดเจอกับคนที่เราเคยคบเป็นแฟน ซึ่งมีปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน เราจึงขอถอยความสัมพันธ์ไป (เค้าไม่มีงานทำ ช่วยกิจการที่บ้านแต่ไม่ได้รับเงินประจำจากที่บ้าน ได้เงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น) แต่เรายังเป็นเพื่อนสนิทกับเค้าได้
ดูแล้วชีวิตก็น่าเศร้าเหมือนกันนะคะ บางทีเราก็รู้สึกคุยกับเพื่อนคนที่มีเงินมากๆไม่รู้เรื่อง เช่น เค้ามาปรึกษาจะซื้อของขวัญให้แฟนในราคาแพงมากๆ หรือชวนเราไปกินข้าวร้านแพงๆ เมื่อเป็นอย่างนั้นเราก็ได้แค่นานๆคุยที และเราก็เอาตัวเองออกมาเหมือนเดิม ไม่ใช่อิจฉานะคะ แต่ไม่รู้จะคุยหรือเจอกันยังไงดี เหมือนเราคุยกันคนละเรื่อง บางครั้งเพื่อนก็ชวนไปทำบุญบริจาคนู่นนี่ แต่เราเองไปไม่ได้เพราะกำลังทรัพย์ไม่พอ เราถือว่าการทำบุญควรทำตามกำลังของตน เราจึงทำบุญด้วยการสวดมนต์ ให้ความรู้ ช่วยเหลือคน บริจาคเลือด เลี้ยงดูพ่อแม่ แทน
ดังนั้นเลยอยากถามและแชร์ประสบการณ์จากคนที่ประสบปัญหาเหมือนเราค่ะ เพราะบางครั้งเราคิดว่าเราคงแปลกเกินไปหรือเปล่าที่ทำตัวไม่คบใคร หรือเอาตัวเองออกจากกลุ่มเพื่อน เพราะบางทีเราคิดว่าวันนึงถ้าเรากลับมาพอมีเงินเหมือนเดิม หมดหนี้สิน เพื่อนๆคงเข้ามาหาเราเอง หรือไม่เราคงเข้าไปหาเค้าเองมั้งคะ
ขอขอบคุณทุกคำตอบนะคะ